สมาคมเกษตรกรรมรายใหญ่ที่สุดของอิตาลี หรือ Coldiretti เปิดเผยว่าบรรดาเกษตรกรในอิตาลีได้รับผลกระทบหนักจากภาวะแล้งโดยความเสียหายที่เกิดกับผลผลิตทางการเกษตรนั้นคิดเป็นมูลค่าถึง 1 พันล้านยูโร (1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
รายงานของ Coldiretti ซึ่งตั้งอยู่ในกรุงโรมนั้นเผยว่าผลผลิตถั่วเหลืองที่เสียหายอยู่ที่ประมาณ 50% ของผลผลิตรวม ในขณะที่ความเสียหายสำหรับผลผลิตข้าวโพดและมะเขือเทศคิดเป็น 30% และ 20% ตามลำดับ
ในส่วนของการผลิตไวน์ของอิตาลี ก็คาดว่ายอดการผลิตจะลดลงต่ำกว่าระดับเฉลี่ยในรอบ 5 ปีอยู่ 10% เนื่องจากอากาศที่ร้อนจัด Coldiretti ได้ตั้งข้อสังเกตว่าภาวะแล้งในปี 2555 นี้ถือว่าเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา
Coldiretti ได้กล่าวเตือนว่าความเสียหายของผลผลิตเกษตรในสหรัฐซึ่งได้ก่อให้เกิดความกังวลไปทั่วโลกเกี่ยวกับวิกฤตอาหารที่อาจจะเกิดขึ้นนั้น ก็อาจส่งผลกระทบต่ออิตาลีด้วยเช่นกัน เพราะอิตาลี “พึ่งพาวัตถุดิบที่นำเข้าจากต่างประเทศเป็นหลัก"
พื้นที่ที่ประสบภัยแล้งหนักคือตอนเหนือของอิตาลี โดยบางพื้นที่ในแคว้นเพียดมองต์ซึ่งเป็นแหล่งเกษตรกรรมที่อุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งของประเทศมีการจัดสรรน้ำเพื่อการชลประทาน หน่วยดับเพลิง และการรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชน
อุณหภูมิที่พุ่งสูงยังได้ส่งผลกระทบต่อสัตว์เลี้ยงในฟาร์มทั่วประเทศ โดยโคนมผลิตน้ำนมได้ลดลง 20 % จากยอดการผลิตโดยเฉลี่ย ขณะที่สุกรบริโภคอาหารน้อยลง 40% จากอัตราปกติในแต่ละวัน
นายเซอร์จิโอ มารินี่ ประธาน Coldiretti ได้กล่าวว่า “เรากำลังประสบปัญหาจากภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลง" โดยได้เรียกร้องต่อรัฐบาลอิตาลีให้ดำเนินการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนทั้งด้านการเงินและมาตรการเชิงโครงสร้างต่างๆเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับภาวะฉุกเฉินดังกล่าว โดยเฉพาะการเก็บสำรองน้ำ
ภาวะแห้งแล้งยังได้ทวีความรุนแรงขึ้นเนื่องจากเกิดไฟป่าหลายร้อยแห่งซึ่งมีสาเหตุจากสภาพอากาศที่แห้งและภาวะฝนแล้ง โดยทำให้พื้นที่ป่าหลายพันเฮกเตอร์ได้รับความเสียหายในเขตแล้งจัดหลายแห่งของอิตาลี
จากข้อมูลของเจ้าหน้าที่ป่าไม้มีรายงานว่าเกิดไฟป่าเกือบ 150 แห่งทั่วประเทศในวันจันทร์เพียงวันเดียว ถึงแม้ว่ารัฐได้ส่งเครื่องบินและเฮลิคอปเตอร์จำนวนมากจากหน่วยป้องกันไฟป่าของกองทัพอากาศเพื่อรับมือกับเหตุฉุกเฉินดังกล่าว สำนักข่าวซินหัวรายงาน