ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ดิ่งลง 1.1% ปิดที่ 265.43 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 6932.58 จุด ลบ 82.25 จุด ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3399.04 จุด ลบ 54.67 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5672.01 จุด ลบ 86.40 จุด
-- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) หลังจากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนีภาคการผลิตหดตัวลงอย่างเหนือความคาดหมายในเดือนส.ค. ซึ่งข้อมูลดังกล่าวทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ดัชนีดาวโจนส์สามารถไต่ขึ้นจากการร่วงลงกว่า 100 จุดในระหว่างวัน เนื่องจากนักลงทุนคาดหวังว่าธนาคารกลางยุโรป (อียู) จะใช้มาตรการช่วยเหลือประเทศยูโรโซนที่ประสบปัญหาด้านการเงิน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ลดลง 54.90 จุด หรือ 0.42% ปิดที่ 13,035.94 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 1.64 จุด หรือ 0.12% ปิดที่ 1,404.94 จุด และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 8.09 จุด หรือ 0.26% ปิดที่ 3,075.06 จุด
-- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ รวมถึงดัชนีภาคการผลิตและตัวเลขการใช้จ่ายด้านการก่อสร้าง ทำให้นักลงทุนวิตกกังวลว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐอาจฉุดอุปสงค์พลังงานภายในประเทศหดตัวลงด้วย
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค.ร่วงลง 1.17 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 95.30 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 94.97-97.37 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค.ที่ตลาดลอนดอน ร่วงลง 1.60 ดอลลาร์ หรือ 1.4 % ปิดที่ 114.18 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 113.93-116.65 ดอลลาร์
-- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) เพราะได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือประเทศที่ประสบปัญหาด้านการเงินในยูโรโซน ซึ่งการคาดการณ์ดังกล่าวช่วยหนุนสัญญาทองคำดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 8.4 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 1,696 ดอลลาร์/ออนซ์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 1,687.60-1,701.60 ดอลลาร์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 32.411 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 97.80 เซนต์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค.ปิดที่ 1,567.50 ดอลลาร์/ออนซ์ พุ่งขึ้น 30.20 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ปิดที่ 641.45 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 12.05 ดอลลาร์
-- สกุลเงินยูโรอ่อนแรงลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นลบว่า มาตรการรับมือกับวิกฤตหนี้ยูโรโซนของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) อาจจะไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน ขณะที่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าถือครองดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง
ค่าเงินยูโรร่วงลง 0.23% แตะที่ 1.2564 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.2593 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนแรงลง 0.08% แตะที่ 1.5872 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5885 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น 0.24% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 78.420 เยน จากระดับ 78.230 เยน และดีดตัวขึ้น 0.27% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 0.9560 ฟรังค์ จากระดับ 0.9534 ฟรังค์
ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.21% แตะที่ 1.0222 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.0243 ดอลลาร์สหรัฐ และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.45% แตะที่ระดับ 0.7935 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7971 ดอลลาร์สหรัฐ
-- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนไม่มั่นใจว่าธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) จะประกาศมาตรการเข้าซื้อพันธบัตรในการประชุมวันพรุ่งนี้หรือไม่
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ร่วงลง 86.40 จุด หรือ 1.5% ปิดที่ 5,672.01 จุด หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 5,658.34-5,758.41 จุด