"ทาง กทค.ยืนยันการมีสิทธิและอำนาจที่ชัดเจนและประธาน กสทช.ไม่มีสิทธิ์บังคับได้ มีศาลปกครองและกทค.เท่านั้นที่จะสั่งระงับการประมูลครั้งนี้ได้ และหากเกิดปัญหาใดๆ กทค.ทั้ง 4 คนที่รับรองผลการประมูลจะเป็นผู้รับผิดชอบ ไม่เกี่ยวกับบอร์ดอื่นๆ"นายฐากูร กล่าว
เมื่อวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินได้ส่งหนังสือถึง พ.อ.เศรษฐพงค์ เพื่อขอให้จัดส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ทั้งหมด (Log file)ที่เกี่ยวข้องกับโปรแกรมการเคาะราคาประมูล 3จี เมื่อวันที่ 16 ต.ค.ที่ผ่านมาไปให้สำนักงานตรวจเงินแผ่นดินเพื่อใช้เป็นหลักฐานเพิ่มเติมในการตรวจสอบการประมูลครั้งนี้ ภายในวันที่ 7 พ.ย.55 โดยประเด็นนี้ เลขาธิการ กสทช.ระบุว่า จะรีบดำเนินการส่งให้เร็วที่สุด
นอกจากนี้ กสทช.ได้เตรียมทำหนังสือถึง รมว.คลัง เพื่อขอหารือถึงความชัดเจนในการนำส่งเงินรายได้จากค่าประมูล 3 จี งวดแรกจำนวน 50% จากบริษัทที่ชนะการประมูลทั้ง 3 ราย ในเครือของ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) และ กลุ่มบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) รวมกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท และได้รับดอกเบี้ยจากการฝากธนาคารเฉลี่ยวันละ 5 ล้านบาท ดังนั้น จึงอยากให้คลังรับเงินส่วนนี้ไป เพราะถือเป็นรายได้ของประเทศ