นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า เตรียมของบกลางประมาณ 3,000 ล้านบาทมาใช้สำหรับดำเนินการการจัดทำตลาดกลางตามนโยบายของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจระดับฐานราก
ขณะนี้ พาณิชย์จังหวัด และตัวแทนกองทุนหมู่บ้าน ได้เสนอพื้นที่ที่จะจัดทำตลาดกลาง 3 แห่งแล้ว ทั้งตลาดกลางสินค้าเฉพาะ ตลาดกลางสินค้าทั่วไป และตลาดกลางชุมชนประชารัฐ รวม 140 แห่งทั่วประเทศ โดยในสัปดาห์นี้จะจัดตั้งคณะทำงานเพื่อติดตามการดำเนินงาน และต้องจัดตั้งให้แล้วเสร็จภายใน 3-6 เดือน
นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในเร่งศึกษาความเหมาะสมในการพัฒนาตลาดสินค้าเฉพาะ ซึ่งต้องเชื่อมโยงกันระหว่างแหล่งท่องเที่ยวกับกลุ่มนักท่องเที่ยวเป้าหมาย โดยต้องจัดตั้งตลาดดังกล่าวในแหล่งท่องเที่ยว เช่น ตลาดทุเรียน ที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาเที่ยวไทยปีละกว่า 8 ล้านคน ที่ชอบรับประทานทุเรียน และไปเที่ยวเชียงใหม่จำนวนมาก หรือตลาดนัดอาหารซีฟู้ดส์ ในภาคใต้ เพื่อเจาะตลาดนักท่องเที่ยวชาวยุโรป หรือตามหัวเมืองรองที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากและชื่นชอบอาหารทะเล ส่วนแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ อาจมีตลาดผลไม้ชนิดอื่นๆ หรือ ผัก อาหาร เพื่อให้ตลาดเหล่านี้ เป็นแลนด์มาร์คสำคัญของแต่ละภาค ที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไท
"การจัดตั้งตลาดในลักษณะดังกล่าวนี้ นำแนวคิดจากตลาดอาหารทะเลของสิงคโปร์มาประยุกต์ และพัฒนาเป็นตลาดที่มีเอกลักษณ์ ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวได้โดยตรง จึงสามารถดึงนักท่องเที่ยวให้ไปทานอาหารทะเลที่สิงคโปร์ได้จำนวนมาก และไม่ต้องการให้มีแค่การจัดตั้งตลาดขึ้นมา แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ในที่สุดก็กลายเป็นตลาดร้างไป เปลืองงบประมาณเปล่าๆ แต่ตลาดนี้ ซึ่งยังไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ แต่ผมเรียกเองก่อนว่า เป็นตลาดบิวด์ (build) ที่ยืนยันว่า จะต้องเป็นรูปธรรม และแจ้งเกิดภายในปีนี้ให้ได้ ขณะนี้กำลังให้กรมการค้าภายในเร่งศึกษา โดยอาจจะเป็นตลาดที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่เลย หรือปรับปรุงจากตลาดเดิมที่มีอยู่แล้ว มาเป็นตลาดใหม่ตามแนวคิดนี้ได้" นายสนธิรัตน์ กล่าว