EJF ชื่มชมไทยแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย IUU ต่อเนื่อง หวังไทยมีบทบาทนำในภูมิภาคอาเซียน

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday March 22, 2018 12:51 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ได้ให้การต้อนรับ นาย Steve Trent ผู้อำนวยการบริหาร Environmental Justice Foundation : EJF จากสหภาพยุโรป (อียู) และคณะ เพื่อหารือและรับทราบความคืบหน้าการขับเคลื่อนแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ไร้การรายงาน และไร้การควบคุม (IUU)

พล.อ.ประวิตร ได้แจ้งความคืบหน้าการดำเนินงานที่สำคัญด้านต่างๆ เช่น การจัดการกองเรือไทย ซึ่งปัจจุบันได้จดทะเบียนควบคุมเรือประมงทุกลำเกือบสมบูรณ์แล้ว การเพิ่มประสิทธิภาพระบบติดตามควบคุมและเฝ้าระวังการกระทำผิดในน่านน้ำด้วยการเพิ่มบุคลากรและนำอากาศยานไร้คนขับเฝ้าตรวจ นอกจากนั้นได้เพิ่มความเข้มบังคับใช้กฎหมายและเร่งความคืบหน้าตัดสินคดีที่เกี่ยวข้อง โดยจัดตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อพิจารณาคดีภายใต้ศาลอาญา

พร้อมทั้งดำเนินการตามข้อเสนอแนะล่าสุดของ EJF ในส่วนที่เกี่ยวข้องแล้ว เช่น การพัฒนากรอบกฎหมาย ซึ่งอยู่ระหว่างร่างกฏหมาย เพื่อรองรับการให้สัตยาบันอนุสัญญา ILO และได้ปรับแก้ พ.ร.ก.การบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว การจดทะเบียนแรงงานต่างด้าว โดยประกาศให้แรงงานต่างด้าวเข้ามาจดทะเบียนให้เสร็จสิ้นภายใน 31 มี.ค.61 รวมถึงเร่งรัดกระบวนการพิสูจน์สัญชาติให้แล้วเสร็จภายใน 30 มิ.ย.61 นอกจากนั้นได้พัฒนาระบบจ่ายค่าแรงประมงผ่านบัญชีธนาคาร โดยบังคับให้นายจ้างต้องจ่ายเงินเดือนแรงงานผ่านบัญชีธนาคารผ่านสัญญาจ้างแล้ว เพื่อให้แรงงานได้รับความเป็นธรรม

ทั้งนี้รัฐบาลไทยจะได้ขับเคลื่อนติดตามการดำเนินงานเรื่องดังกล่าวให้มีความต่อเนื่อง เพื่อรักษาทรัพยาการทางทะเลร่วมกันและพัฒนาการทำประมงของไทยให้ถูกต้องและยั่งยืน พร้อมย้ำว่า ประเทศไทยมีความพร้อมที่จะผลักดันบทบาทนำการแก้ปัญหา IUU ในกรอบอาเซียน โดยเสนอให้ EJF เข้ามามีส่วนร่วมด้วย และขอความร่วมมือ EJF ในสนับสนุนไทยอย่างเต็มที่ เพื่อให้ไทยสามารถปลดใบเหลืองได้โดยเร็ว และสามารถยกระดับความร่วมมือกับ EJF ในการทำงานร่วมกันสู่ภูมิภาคต่อไป

ขณะที่ นาย Steve และคณะ EJF ได้กล่าวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความสำคัญและเห็นถึงความตั้งใจในการแก้ปัญหา IUU และกล่าวชื่นชม พล.อ.ประวิตร ที่ริเริ่มและช่วยผลักดันขับเคลื่อนแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจังและต่อเนื่องมาตลอด โดยเห็นถึงความพยายามและพัฒนาการของการแก้ปัญหาการทำประมงของไทยที่ผ่านมาอย่างมากแม้จะมีปัญหาบ้าง แต่ในระยะยาวจะเป็นประโยชน์เพราะจะมีทรัพยากรทางทะเลใช้ร่วมกันอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งกล่าวย้ำว่า ความพยายามอย่างหนักของไทย จะเป็นตัวอย่างที่นานาชาติสามารถนำไปเป็นแนวทางแก้ปัญหา IUU และอยากเห็นไทยมีบทบาทนำในภูมิภาคอาเซียนและทำงานร่วมกับ EU ในการแก้ปัญหา IUU ต่อไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ