บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ผู้ผลิตยานยนต์อันดับ 1 ของโลก เปิดเผยว่า ยอดการผลิตรถโตโยต้าทั่วโลกลดลง 6.5% ในเดือนธันวาคมเมื่อเทียบรายปี แตะที่ 594,882 คัน ซึ่งหดตัวเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกันแล้ว
ยอดผลิตรถโตโยต้าทั่วโลกลดลงเนื่องจากยอดผลิตในญี่ปุ่นร่วงลงแบบเลขสองหลัก ขณะที่ยอดขายรถในญี่ปุ่นก็ร่วงลง 33% หลังจากที่มาตรการให้เงินเชื่อเหลือผู้ซื้อรถเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลญี่ปุ่นหมดอายุลง
อย่างไรก็ดี โตโยต้ามียอดส่งออกเพิ่มขึ้น 6.2% โดยได้รับอุปสงค์ที่แข็งแกร่งจากลาตินอเมริกา ยุโรป และเอเชีย ส่วนยอดผลิตรถนอกญี่ปุ่นขยับขึ้น 1% แตะที่ 351,053 คัน ซึ่งนับเป็นสถิติสูงสุดสำหรับเดือนธันวาคม
สำหรับตลอดปี 2553 ยอดผลิตรถโตโยต้าทั่วโลกเพิ่มขึ้นเกือบ 20% แตะที่ 7.623 ล้านคัน
ส่วนทางด้านคู่แข่งรายสำคัญอย่างบริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ และ นิสสัน มอเตอร์ มียอดผลิตรถเพิ่มขึ้นเนื่องจากอุปสงค์จากต่างประเทศเพิ่มขึ้น
ยอดผลิตรถนิสสันทั่วโลกเพิ่มขึ้น 20% แตะที่ 351,334 คัน ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดสำหรับเดือนธันวาคม โดยยอดผลิตรถในจีนเพิ่มขึ้น 21% เมื่อเทียบรายปี แต่ยอดผลิตรถในสหรัฐขยับลง 0.1% ส่วนยอดส่งออกรถนิสสันขยายตัว 34% แตะที่ 76,490 คัน ขณะที่ยอดขายในประเทศญี่ปุ่นร่วงลง 20%
สำหรับตลอดปี 2553 นิสสันผลิตรถเพิ่มขึ้น 37% แตะที่ 4.053 ล้านคัน สูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับปีก่อนๆ
ด้านยอดผลิตรถฮอนด้าทั่วโลกขยับขึ้น 0.3% เมื่อเทียบรายปี แตะที่ 287,740 คันในเดือนธันวาคม ซึ่งขยายตัวเป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกัน ส่วนยอดส่งออกพุ่งขึ้นกว่าสองเท่าแตะที่ 27,381 คัน ขณะที่ยอดขายในญี่ปุ่นร่วงลง 35%
สำหรับตลอดปี 2553 ฮอนด้าผลิตรถมากขึ้น 21% แตะที่ 3.643 ล้านคัน ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 2 ปี โดยยอดผลิตรายปีในเอเชียและจีนพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ขณะที่ยอดผลิตรถมาสด้าทั่วโลกเพิ่มขึ้นกว่า 16% แตะที่ 115,810 คันในเดือนธันวาคม ขณะที่ยอดผลิตตลอดปี 2553 พุ่งขึ้น 33% แตะที่ 1.308 ล้านคัน
ยอดผลิตรถมิตซูบิชิทั่วโลกลดลง 2.1% แตะที่ 94,201 คันในเดือนธันวาคม ส่วนตลอดทั้งปี 2553 ยอดผลิตรถพุ่งขึ้น 48% แตะที่ 1.172 ล้านคัน ซึ่งดีดตัวขึ้นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2550