นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย(ตลท.)เปิดเผยภายหลังประชุมร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์สมาชิกในช่วงเย็นวันนี้เพื่อชี้แจงกรณีเหตุขัดข้องที่เกิดขึ้นในการซื้อขายช่วงต้นภาคบ่ายที่ทำให้ระบบการซื้อขายปิดลงชั่วคราวว่า เป็นข้อขัดข้องทางเทคนิค ซึ่งได้รับการแก้ไขแล้วและไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น เชื่อว่าเหตุการณ์ในลักษณะดังกล่าวคงไม่เกิดขึ้นอีกแล้ว
"ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น เพราะออร์เดอร์ต่างๆ อยู่ระหว่างรอคิว และวันนี้ได้มีการเรียกสมาคมโบรกฯ สมาคมนักวิเคราะห์หารือถึงสถานการณ์หุ้นร่วงและระบบการซื้อขายช่วงบ่าย โบรกฯก็บอกว่าไม่ได้มีปัญหาหรือเกิดความเสียหายอะไรช่วงหยุดเทรดชั่วคราว"นายจรัมพร กล่าว
ด้านนายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.กิมเอ็ง (ประเทศไทย) (KEST) กล่าวว่า ไม่ได้เกิดความเสียหายใดๆระหว่างหยุดเทรดชั่วขณะ และวันนี้มูลค่าการซื้อขายอยู่ในเกณฑ์ใช้ได้
นายจรัมพร กล่าวอีกว่า หากพิจารณาในช่วง 5 วันทำการที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยเทียบกับตลาดหุ้นอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์แล้ว ยังถือว่าตลาดหุ้นไทยลงน้อยสุดแค่ 11.1% ขณะที่ตลาดหุ้นอินโดนีเซียลงไป 11.6% ฟิลิปปินส์ 13.6% ส่วนประเด็นของผลกระทบการบังคับขายหลักทรัพย์(ฟอร์ซเซล)ก็ถือว่าน้อยมาก รวมถึงผลกระทบจากการทำชอร์ตเซลล์ก็ปริมาณน้อยมาก เพราะปกติมีปริมาณการซื้อขายไม่มากอยู่แล้ว
ขณะที่นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า หากสำรวจหุ้น 170 กว่าบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ พบว่าราคาต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานเกือบทุกตัว โดยเฉพาะหุ้นใน SET50 ราคาต่ำกว่าพื้นฐานราว 20-30%
อย่างไรก็ตาม สมาคมนักวิเคราะห์ฯ คงจะประเมินเป้าหมายดัชนีตลาดหลักทรัพย์อีกครั้ง เพราะเดิมมองว่าปัญหายูโรโซนไม่ได้หนักเท่านี้ แต่ปรากฎว่าปัญหาลุกลามไปมากกว่าที่คิดไว้ ซึ่งคงจะต้องให้เวลานักวิเคราะห์ในการประเมินมากกว่า 4-5 วันนี้ หลังจากนั้นคงจะเริ่มสำรวจความคิดเห็น เพราะช่วงนี้บางกลุ่มยังตกใจ บางกลุ่มรอข้อมูลเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาลที่ชัดกว่านี้ รวมทั้งทิศทางของปัญหายูโรโซน แต่โดยส่วนตัวคาดว่าคงจะปรับเป้าต่ำลงกว่าเดิม