โบรกฯหนุน"ซื้อ"BCP คาดงบ Q1/54 เติบโตโดดเด่นจากค่าการกลั่น-กำไรสต็อกฯ

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday April 25, 2011 10:46 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์เห็นพ้อง "ซื้อ" บมจ.บางจากปิโตรเลียม(BCP)คาดผลประกอบการไตรมาส 1/54 บริษัทยังมีกำไรเติบโตโดดเด่นดีจากผลของค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น และราคาน้ำมันตลาดโลกที่ปรับสูงขึ้น ส่งผลให้บริษัทมีกำไรจากสต็อกน้ำมัน แม้เป็นช่วงที่บริษัทปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นน้ำมัน 38 วันก็ตาม ขณะที่แนวโน้มไตรมาส 2/54 ยังทำกำไรได้ดีต่อเนื่อง

นอกจากนี้บริษัทจะยังมีรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่จะเริ่มการผลิตในเดือน ต.ค. ซึ่งจะทำให้บริษัทรับรู้รายได้บางส่วนในปีนี้ และจะมีรายได้เต็มที่ตั้งแต่ปี 55

          โบรกเกอร์            คำแนะนำ            ราคาเป้าหมาย(บาท)
          บล.โกลเบล็ก            ซื้อ                    24.30
          บล.กรุงศรีอยุธยา         ซื้อ                    22.00
          บล.เอเซีย พลัส          ซื้อ                    22.27
          บล.ยูไนเต็ด             ซื้อ                    22.00
          บล.ฟิลลิป               ซื้อเก็งกำไร             21.60
          บล.ทรีนิตี้               ซื้อ                    21.20
          บล.ฟินันเซีย ไซรัส        ซื้อ                    22.00

นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ในไตรมาส 1/54 คาดว่า BCP จะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น ประมาณ 1,458 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 34% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 86% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น และคาดว่าจะมีกำไรจากสต๊อกน้ำมันจำนวนมากหลังจากราคาน้ำมันดิบดูไบปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งหากบริษัทไม่มีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่น 38 วันอาจจะทำให้มีกำไรมากกว่านี้

ส่วนแนวโน้ม 2Q54 คาดผลประกอบการจะยังทรงตัวในระดับสูง โดยมีปัจจัยหนุนจากกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นหลังจากโรงกลั่นที่หยุดซ่อมบำรุงกลับมาทำการผลิตตามปกติ ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่คาดว่าจะเริ่มผลิตกระแสไฟฟ้าในเดือน ต.ค.ส่งผลให้บริษัทมีรายได้จากส่วนนี้บ้างเล็กน้อย และจะมีรายได้เต็มที่ในปี 55 อย่างไรก็ตาม คาดว่าบริษัทจะมีกำไรสุทธิปี 54 ที่ 3,842 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% จากปีก่อน

“ในไตรมาส 1 บริษัทมีกำไรค่อนข้างดี ส่วนหนึ่งมาจากกำไรจาก stock gain จากราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้น แต่ในไตรมาส 2 คงจะไม่มีแล้ว...เราคาดว่าน้ำมันดิบดูไบทั้งปีอยู่ที่ 95 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งหากต่ำกว่าคาด อาจมีผลให้บริษัทมี stock loss ได้"นักวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก กล่าว

อย่างไรก็ตาม มาตรการของรัฐบาลในการตรึงราคาน้ำมันดีเซล ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อรายได้ของบริษัท และเชื่อว่าผลประกอบการที่ต่ำสุดของบริษัทได้ผ่านไปแล้วเมื่อปี 53 และตอนนี้บริษัทเริ่มกลับมามีรายได้ในการดำเนินธุรกิจตามปกติแล้ว

บทวิเคราะห์ บล.กรุงศรีอยุธยา คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 1/54 เติบโตกว่า 18% จากไตรมาสก่อน และเติบโต 64% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากอานิสงส์ค่าการกลั่นพื้นฐานที่สูงขึ้นตามค่าการกลั่นในภูมิภาคผนวกด้วยกำไรจากสต๊อกน้ำมันที่สูงกว่า 8 ดอลลาร์/บาร์เรล และยังเป็นช่วงที่บริษัทมีรายได้พิเศษจากการปรับปรุงราคาที่ดินจำนวน 250 ล้านบาท และรับรู้รายได้จากปันผลของบริษัท BBF จำนวน 84 ล้านบาท

และคาดว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 2/54 จะยังคงแข็งแกร่งจากระดับการกลั่นในปัจจุบันที่เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 110,000 บาร์เรล/วัน อีกทั้งค่าการกลั่นพื้นฐานคาดว่าจะทรงตัวเนื่องจากยังอยู่ในช่วงฤดูกาลปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นในภูมิภาค แม้ไตรมาสนี้บริษัทไม่มีกำไรจากสต็อกน้ำมันแล้วก็ตาม ส่วนทั้งปี 54 คาดกำไรสุทธิ 4,136 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% จากปี 53 และกำไรสุทธิเพิ่มเป็น 4,651 ล้านบาทในปี 55

ทั้งนี้ แนะซื้อ BCP ที่ราคา 22 บาท สะท้อนการปรับสมมตฐานราคาน้ำมันดิบที่คาดว่าอยู่ที่ 100 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยมีจุดเด่นจากราคาหุ้นที่ยังถูก ผลตอบแทนจากเงินปันผลโดดเด่นในอัตรา 7.2% มีศักยภาพการเติบโตจากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ