ภาวะการซื้อขายที่ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ CBOT เมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (1 เม.ย.) ราคาสัญญาข้าวโพดทะยานแตะระดับสูงสุดในรอบ 9 เดือน หลังสต็อคข้าวโพดสหรัฐที่ลดลงอย่างมากทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าอุปทานอาจตึงตัว
สัญญาข้าวโพดส่งมอบในเดือนพ.ค. ทะยาน 42.75 เซนต์ หรือ 6.2% ปิดที่ 7.36 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ส่วนสัญญาข้าวสาลีส่งมอบเดือนพ.ค. อ่อนตัว 3.75 เซนต์ หรือ 0.5% แตะที่ 7.595 ดอลลาร์ต่อบุชเชล ส่วนสัญญาถั่วเหลืองส่งมอบในเดือนพ.ค.ลดลง 16.5 เซนต์ หรือ 1.2% แตะที่ 13.9375 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
ราคาสัญญาข้าวโพดพุ่งแรงในช่วงเปิดตลาดและทะยานขึ้นแตะเพดานที่ 45 เซนต์อย่างรวดเร็ว เนื่องจากตลาดยังคงปรับตัวรับสถานการณ์อุปทานธัญพืชของสหรัฐที่ตึงตัว โดยเพดานการทะยานขึ้นได้ขยายขึ้นเป็น 45 เซนต์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จากเดิมที่ 30 เซนต์
กระทรวงเกษตรรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า ยอดสต็อคข้าวโพดลดลง 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2550
เทรดเดอร์กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสกัดอุปสงค์โดยการเพิ่มราคา เนื่องจากการเลี้ยงปศุสัตว์มีศักยภาพในการทำกำไรอย่างมาก โดยราคาเนื้อวัวและสุกรพุ่งแตะสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ในขณะเดียวกัน โกลด์แมน แซคส์ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาข้าวโพดในช่วง 3 เดือน เป็น 8.60 ดอลลาร์ต่อบุชเชลในวันศุกร์ที่ผ่านมา นอกจากนี้ บริษัทยังคาดว่าราคาข้าวโพดในช่วง 6 เดือนจะอยู่ที่ 7.8 ดอลลาร์ต่อบุชเชล และราคาช่วง 1 ปีจะอยู่ที่ 7 ดอลลาร์ต่อบุชเชล
ก่อนหน้านี้ โกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า ราคาข้าวโพดในช่วง 6-7 ดอลลาร์ต่อบุชเชล เป็นช่วงราคาที่ไม่มีความต่อเนื่อง อันเป็นผลจากแนวโน้มอุปสงค์ที่ลดลง
แต่อย่างไรก็ตาม แรงเทขายทำกำไรและการแข็งค่าของเงินสกุลดอลลาร์ได้ถ่วงราคาข้าวโพดลง แต่การเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันดิบก็เป็นแรงหนุนต่อราคาข้าวโพด สำนักข่าวซินหัวรายงาน