ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (21 ก.ย.) ขานรับที่ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ที่ประกาศให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเป็นเป้าหมายใหม่ด้านนโยบาย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและหนุนอัตราเงินเฟ้อ
ดัชนี Stoxx Europe 600 เพิ่มขึ้น 0.4% ปิดที่ 342.46 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,409.55 จุด เพิ่มขึ้น 20.95 จุด หรือ +0.48% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,436.49 จุด เพิ่มขึ้น 42.63 จุด หรือ +0.41% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,834.77 จุด เพิ่มขึ้น 3.98 จุด หรือ +0.06%
ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้นหลังจาก BOJ ตัดสินใจดำเนินนโยบายใหม่ ด้วยการกำหนดให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีเป็นเป้าหมายใหม่ด้านนโยบาย แทนการซื้อสินทรัพย์ขนานใหญ่ที่ดำเนินการตลอด 3 ปีที่ผ่านมา เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและผลักดันเงินเฟ้อสู่ระดับ 2%
นอกจากนี้ ที่ประชุม BOJ ยังมีมติคงอัตราดอกเบี้ยติดลบ 0.1% พร้อมส่งสัญญาณยืดหยุ่นในการใช้นโยบายการเงิน และยังระบุด้วยว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นไม่ได้อยู่ในภาวะเงินฝืดอีกต่อไป
หุ้นกลุ่มประกันดีดตัวขึ้น โดยหุ้น AXA SA พุ่งขึ้น 2.7% และหุ้นอัลไลอันซ์ ปรับขึ้น 1.2%
หุ้นไบเออร์พุ่งขึ้นกว่า 1% เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับข่าวไบเออร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตยาและเคมีภัณฑ์ด้านการเกษตรของเยอรมนี ประกาศเข้าซื้อกิจการบริษัทมอนซานโต ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเมล็ดพันธุ์พืชของสหรัฐ ในข้อตกลงมูลค่า 6.6 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงหนี้สินของบริษัท
นักลงทุนจับตาดูการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ทั้งนี้ ผลการประชุมเฟดจะมีการเปิดเผยภายหลังจากที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดทำการแล้ว นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เฟดจะคงดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.25-0.50% ในการประชุมนี้ แม้ว่าเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายได้ออกมาแสดงความเห็นสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ตาม ขณะที่ CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 85% ที่เฟดจะไม่ปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้