(REPEAT) ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก: ดาวโจนส์ปิดลบ 76.22 จุด จากปัจจัยความไม่แน่นอนในสหรัฐ, แรงฉุดของหุ้นไนกี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 21, 2017 06:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดในแดนลบเมื่อวันศุกร์ (18 ส.ค.) ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่เบาบาง โดยตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนภายในทำเนียบขาวของสหรัฐ ภายหลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ประกาศยุบสภาที่ปรึกษา 2 คณะ นอกจากนี้ดัชนีดาวโจนส์ยังถูกฉุดรั้งจากแรงเทขายในหุ้นไนกี้ อิงค์ หลังฟุต ล็อกเกอร์ บริษัทค้าปลีกเสื้อผ้าและอุปกรณ์กีฬาชั้นนำเปิดเผยผลกำไรและยอดขายที่ต่ำกว่าระดับคาดการณ์ของตลาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,674.51 จุด ลดลง 76.22 จุด หรือ -0.35% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 6,216.53 จุด ลดลง 5.39 จุด หรือ -0.09% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,425.55 จุด ลดลง 4.46 จุด หรือ -0.18%

ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงจากแรงฉุดของหุ้นบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่อย่างไนกี้ อิงค์ ซึ่งร่วงลง 4.4% นอกจากนี้ ยังมีแรงกดดันจากหุ้นซิสโก ซิสเต็ม และโฮม ดีโปท์ ซึ่งร่วงลง 2.2% และ 1.5% ตามลำดับเมื่อคืนนี้

หุ้นไนกี้ร่วงลงจากรายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 2 ที่น่าผิดหวังของฟุต ล็อกเกอร์ โดยบริษัทมีกำไรสุทธิที่ระดับ 51 ล้านดอลลาร์ หรือ 39 เซนต์/หุ้นในไตรมาสดังกล่าว ลดลงจากระดับ 127 ล้านดอลลาร์ หรือ 94 เซนต์/หุ้น ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ขณะที่ยอดขายในไตรมาส 2 หดตัวลง 4.4% สู่ระดับ 1.701 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.801 พันล้านดอลลาร์

หุ้นอันเดอร์ อาร์เมอร์ แบรนด์อุปกรณ์กีฬาชั้นนำ และเป็นคู่แข่งของไนกี้ ร่วงลง 3.9% จากรายงานของฟุต ล็อกเกอร์เช่นกัน

นอกจากนี้ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังถูกกดดันจากกระแสความวิตกเกี่ยวกับความไม่แน่นอนภายในคณะผู้บริหารของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ภายหลังจากทรัมป์ได้ประกาศยุบสภาที่ปรึกษา 2 คณะ ซึ่งประกอบด้วยคณะที่ปรึกษาการอุตสาหกรรมและสภายุทธศาสตร์และนโยบาย สืบเนื่องจากผู้นำภาคธุรกิจหลายคนได้ทยอยลาออกจากการเป็นสมาชิกเพื่อประท้วงท่าทีของทรัมป์ที่มีต่อเหตุการณ์ความรุนแรงในเมืองชาร์ลอตส์วิลล์ รัฐเวอร์จิเนีย

นักลงทุนกำลังจับตาความเคลื่อนไหวภายในทำเนียบขาวอย่างใกล้ชิด หลังทำเนียบขาวแถลงยืนยันเมื่อวานนี้ว่า นายสตีฟ แบนนอน นักวางกลยุทธ์ประจำทำเนียบขาว ได้ลาออกจากตำแหน่ง โดยนายแบนนอนถือเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการจัดทำนโยบายทั้งในและต่างประเทศสำหรับฝ่ายบริหารของปธน.ทรัมป์ แต่ในช่วงที่ผ่านมามีรายงานว่า นายแบนนอนมีจุดยืนที่ขัดแย้งกับนายแกรี โคห์น ที่ปรึกษาเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว และพลโท เฮอร์เบิร์ต เรย์มอนด์ แมคมาสเตอร์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐ ส่งผลให้เกิดความแตกแยกขึ้นภายในคณะที่ปรึกษาของปธน.ทรัมป์

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกว่า คณะบริหารของทรัมป์จะสามารถผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นนโยบายที่เขาใช้หาเสียงช่วงเลือกตั้ง ได้เป็นผลสำเร็จหรือไม่

นอกจากสถานการณ์ความไม่แน่นอนในสหรัฐแล้ว ตลาดยังมีความวิตกเกี่ยวกับเหตุการณ์โจมตีเมืองบาร์เซโลนาและแคมบริลส์ในแคว้นกาตาลุญญาของสเปนเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 คน และบาดเจ็บกว่า 100 คน

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อวานนี้ มหาวิทยาลัยมิชิแกนเปิดเผยผลสำรวจว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐพุ่งขึ้นสู่ระดับ 97.6 ในช่วงครึ่งแรกของเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 94.0 หลังจากอยู่ที่ระดับ 93.1 ในเดือนก.ค.

นักลงทุนจับตาการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟด ซึ่งจะจัดขึ้นที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 24-26 ส.ค.นี้ โดยหัวข้อการประชุมในปีนี้คือ "Fostering a Dynamic Global Economy"


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ