กระทรวงพาณิชย์จีน (MOC) เปิดเผยว่า การลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ในจีนแผ่นดินใหญ่ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อปีที่ผ่านมา หลังอุตสาหกรรมภาคบริการมีการลงทุนคึกคัก
ยอดการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.1% เทียบรายปี สู่ระดับ 8.13 แสนล้านหยวน (ประมาณ 1.18 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2559 ชะลอตัวลงจากปี 2558 ที่ขยายตัว 6.4% ส่วนในเดือนธ.ค.เพียงเดือนเดียว ยอด FDI ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.7%
ยอดการลงทุนจากต่างประเทศในอุตสาหกรรมภาคบริการได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 8.3% เทียบรายปี แตะ 5.72 แสนล้านหยวน คิดเป็นสัดส่วน 70.3% ของยอด FDI ทั้งหมด
ยอด FDI ภาคบริการไฮเทคได้ทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่งถึง 86.1% จากปีก่อนหน้า แตะ 9.56 หมื่นล้านหยวน
กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ยอด FDI ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนั้นเป็นผลจากมาตรการต่างๆของรัฐบาล ไม่ว่าจะเป็นการผ่อนคลายข้อบังคับตามเขตการค้าเสรี (FTZ) และการลดขั้นตอนในการเข้ามาลงทุน
เมื่อปีที่ผ่านมา ยอด FDI ในเขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ กวางตุ้ง เทียนจิน และฝูเจี้ยน ได้ทะยานขึ้น 81.3% แตะ 8.8 หมื่นล้านหยวน
ยอด FDI จากสหรัฐอเมริกาได้ปรับตัวเพิ่มขึ้น 52.6% ส่วนยอด FDI จากสหภาพยุโรปปรับตัวเพิ่มขึ้น 41.3%
ยอด FDI จากญี่ปุ่นขยับขึ้น 1.7% ในปี 2559 หลังจากที่ลดลง 2 ปีติดต่อกัน
สำหรับยอดบริษัทต่างชาติจัดตั้งใหม่ที่มีเงินลงทุนเกิน 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐนั้นอยู่ที่กว่า 840 รายแล้ว ครอบคลุมอุตสาหกรรมเกิดใหม่หลายๆภาคส่วนเช่นเดียวกับอุตสาหกรรมไฮเทค
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการดึงดูดให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนมากขึ้น ทางการจีนจึงเริ่มพิจารณาปรับปรุงมาตรการเข้าถึงตลาด ซึ่งรวมถึงการปรับลดมาตรการกีดกันจากเดิม 93 รายการ เหลือ 62 รายการ สำนักข่าวซินหัวรายงาน