กระทรวงการคลังญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้า 8.134 แสนล้านเยน (7.29 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบเกือบ 7 ปี อันเนื่องมาจากการส่งออกไปยังจีนเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
รายงานระบุว่า ยอดส่งออกเดือนก.พ.ของญี่ปุ่นพุ่งขึ้น 11.3% สู่ระดับ 6.35 ล้านล้านเยน ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 โดยได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดส่งออกชิ้นส่วนรถยนต์ไปยังประเทศจีน และยอดส่งออกชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกไปยังฮ่องกง
ขณะที่ยอดนำเข้าเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.2% แตะที่ 5.53 ล้านล้านเยน เนื่องจากมูลค่าการนำเข้าน้ำมันดิบสูงขึ้น
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้ากับจีนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2555 โดยมียอดอยู่ที่ 111.77 พันล้านเยน ในขณะที่การส่งออกไปยังจีนขยายตัวขึ้น 28.2% แตะ 1.20 ล้านล้านเยน ส่วนการนำเข้าจากจีนลดลง 17.7% แตะ 1.08 ล้านล้านเยน
ญี่ปุ่นมียอดเกินดุลการค้ากับสหรัฐ 6.1127 แสนล้านเยน ซึ่งนับเป็นการเกินดุลครั้งแรกในรอบ 3 เดือน โดยการส่งออกไปสหรัฐขยับตัวขึ้น 0.4% แตะ 1.22 ล้านล้านเยน และการนำเข้าลดลง 0.7% แตะที่ 6.119 แสนล้านเยน
ส่วนการส่งออกไปยังสหภาพยุโรป (EU) ขยายตัวขึ้น 3.3% แตะ 7.0058 แสนล้านเยน ขณะที่การนำเข้าลดลง 7.5% แตะ 6.5945 แสนล้านเยน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน