สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 พ.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยเมื่อสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลงนั้น ทำให้ทองคำมีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 7.8 ดอลลาร์ หรือ 0.62% ปิดที่ระดับ 1,261.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 39.5 เซนต์ หรือ 2.35% ปิดที่ 17.191 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 10.1 ดอลลาร์ หรือ 1.07% ปิดที่ 950.3 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 1.60 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ 759.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ปรับตัวลง 0.18% แตะที่ระดับ 96.95 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์อ่อนค่าลงจากการที่นักลงทุนไม่ต้องการที่จะซื้อดอลลาร์ล็อตใหญ่ ท่ามกลางแรงกดดันต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หลังจากที่เขาเผชิญข้อกล่าวหาแทรกแซงการทำงานของสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลี หลังจากที่เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดจะเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ในรายงานการประชุมดังกล่าว เฟดอาจจะส่งสัญญาณเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
สำหรับความเคลื่อนไหวล่าของของเจ้าหน้าที่เฟดนั้น นายโรเบิร์ต แคปแลน ประธานเฟดสาขาดัลลัส กล่าวเมื่อวานนี้ว่า เฟดควรเดินหน้าปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย และเริ่มต้นลดวงเงินในงบดุลบัญชีของเฟดก่อนสิ้นปีนี้ เนื่องจากขณะนี้เฟดกำลังมีความคืบหน้าในการบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจทั้ง 2 ประการ ซึ่งได้แก่ เงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพ และการจ้างงานที่เต็มศักยภาพ