สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 1,700 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (6 พ.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และจากการที่นักลงทุนเทขายทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากมีรายงานว่า รัฐต่างๆในสหรัฐได้เริ่มกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. ร่วงลง 22.1 ดอลลาร์ หรือ 1.29% ปิดที่ 1688.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. ลดลง 9.5 เซนต์ หรือ 0.63% ปิดที่ 15.015 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. ร่วงลง 19.2 ดอลลาร์ หรือ 2.45% ปิดที่ 765.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 2.40 หรือ 0.1% ปิดที่ 1,758.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำดิ่งหลุดจากระดับ 1,700 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ เนื่องจากนักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากรัฐต่างๆในสหรัฐได้เริ่มกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้ง โดยรัฐนิวยอร์กจะดำเนินการเปิดเศรษฐกิจแบบค่อยเป็นค่อยไป หลังจากที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว
ขณะที่รัฐแคลิฟอร์เนียจะอนุญาตให้ธุรกิจค้าปลีกบางส่วนกลับมาเปิดบริการอีกครั้งในสัปดาห์นี้ ทางด้านรัฐวอชิงตันได้ประกาศแผน Safe Start ซึ่งจะเปิดทางให้รัฐวอชิงตันสามารถทยอยเปิดเศรษฐกิจได้อีกครั้ง
ส่วนรัฐอลาสกา, จอร์เจีย, เซาธ์ แคโรไลนา, เทนเนสซี และเท็กซัส ก็ได้เริ่มให้ร้านอาหารกลับมาเปิดให้บริการแก่ลูกค้า
นอกจากนี้ สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.32% สู่ระดับ 100.03 เมื่อคืนนี้
ทั้งนี้ ดอลลาร์ที่แข็งค่าจะทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้น และมีความน่าดึงดูดน้อยลงสำหรับนักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่น