การเลือกตั้งประธานาธิบดีรอบแรกของฝรั่งเศสได้เสร็จสิ้นลงแล้วเมื่อวานนี้ ซึ่งผลปรากฎว่า นายเอมมานูเอล มาครอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ และนางมารีน เลอเปน ผู้สมัครจากพรรค National Front (FN) เป็น 2 ผู้สมัครที่มีคะแนนสูงสุด ลอยลำเข้าสู่การเลือกตั้งรอบ 2 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 7 พ.ค.นี้
กระทรวงมหาดไทยฝรั่งเศสเปิดเผยว่า ผลการนับคะแนนเบื้องต้นบ่งชี้ว่า นายมาครองมีคะแนนนำเป็นอันดับ 1 ที่ 23.87% ขณะที่นางเลอเปนได้คะแนนเป็นอันดับ 2 ที่ 21.43%
ส่วนนายฟรองซัวส์ ฟิยง อดีตนายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ตามมาเป็นอันดับ 3 ที่ 19.94% ขณะที่นายฌอง ลุค เมลองชอง ผู้สนับสนุนแนวคิดฝ่ายซ้าย อยู่อันดับ 4 ที่ 19.60% และนายเบอโนต์ แฮมมอน อดีตรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการ ได้คะแนนมาเป็นอันดับ 5 ที่ 6.35%
ทั้งนี้ การเลือกตั้งของฝรั่งเศสแบ่งออกเป็น 2 รอบ โดยรอบแรกมีขึ้นในวันที่ 23 เม.ย. ซึ่งแต่ละพรรคจะทำการส่งตัวแทนพรรคลงแข่งขัน โดยผู้ที่มีคะแนนสูงสุด 2 อันดับจะเข้าสู่การเลือกตั้งรอบที่ 2 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 7 พ.ค. ซึ่งประชาชนจะต้องมาลงคะแนนเสียงกันอีกครั้ง ก่อนที่จะมีผู้ชนะเพียงคนเดียวที่จะขึ้นไปนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีฝรั่งเศส
สำหรับนายเอมมานูเอล มาครอง วัย 39 ปี เป็นอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจในรัฐบาลของนายฟรองซัวส์ ออลลองด์ โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ นายมาครองไม่ได้สังกัดอยู่กับพรรคเดิม คือพรรค Parti Socialiste (PS) หรือเป็นที่รู้จักกันดีในนาม “พรรคสังคมนิยม" แต่กลับมาลงศึกเลือกตั้งในฐานะผู้สมัครอิสระ
นางมาครอง เป็นผู้ก่อตั้งแคมเปญ "En Marche!" ซึ่งเป็นกลุ่มความเคลื่อนไหวทางการเมืองที่มีจุดยืนนิยมสายกลาง (Center wing) โดยหวังที่จะสร้างความสมานฉันท์ขึ้นในฝรั่งเศส หลังจากที่เขามองว่า สังคมฝรั่งเศสตกอยู่ภายใต้ภาวะที่มีการแบ่งแยกทางการเมืองมาอย่างยาวนาน อีกทั้งยังมีนโยบายที่จะสานต่อความร่วมมือในระดับนานาชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการคงสถานะของฝรั่งเศสให้เป็นสมาชิกสหภาพยุโรปต่อไป และเน้นขยายความร่วมมือกับเยอรมนีในการพิทักษ์สหภาพยุโรปให้มีความแข็งแกร่งยิ่งขึ้น
ส่วนทางด้านนางมารีน เลอเปน วัย 48 ปี เป็นผู้สมัครจากพรรค National Front (FN) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองชูนโยบายประชานิยมขวาจัด และกำลังเป็นที่นิยมในฝรั่งเศส เธอและพรรค FN มาพร้อมกับนโยบายที่ว่า “ฝรั่งเศสต้องมาก่อน" ตามรอยอังกฤษที่จะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) และสหรัฐที่เลือกจะปกป้องผลประโยชน์ของประเทศตนเอง
นางเลอเปนประกาศว่า เธอจะนำฝรั่งเศสถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป ผ่านการลงประชามติ หากเธอได้รับชัยชนะภายในระยะเวลา 6 เดือนภายหลังรับตำแหน่ง อีกทั้งยังแสดงจุดยืนต่อต้านระบบโลกาภิวัตน์ กลุ่มผู้อพยพ และกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงเช่นเดียวกับนายโดนัลด์ ทรัมป์
นอกจากนี้ นางเลอเปน ยังได้เสนอนโยบายที่น่าสนใจสำหรับชาวฝรั่งเศสอีกมากมาย อาทิ การขึ้นภาษีสินค้านำเข้า การปฏิรูปกฎระเบียบการจ้างแรงงาน ต่างชาติ และการเพิ่มสวัสดิการบำนาญ เป็นต้น
ทั้งนี้ โพลล์สำรวจบ่งชี้ว่า ในการเลือกตั้งรอบ 2 ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 7 พ.ค.นี้ นายมาครองจะชนะนางเลอเปนด้วยคะแนน 66% ต่อ 34%