กรุงเทพฯ--1 มี.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ทิศทางราคาทองคำ
ราคาทองคำเปิดตลาดวานนี้ที่ระดับ 1412 เหรียญ ค่าเงินบาท 30.64 บาท/ดอลลาร์ กับ 30.67 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 20350 บาท กับ 20450 บาท GFJ11 เปิดที่ 20570 บาท และ GFM11 เปิดที่ 20650 บาท และ GF10J11 เปิดที่ 20570 บาท และ GF10M11 เปิดที่ 20680 บาท SPDR ถือครอง 1210.96 ตัน (ขายออก 0.61 ตัน) น้ำมันปิดลบ 91 เซนต์ ปิดที่ระดับ 96.97 ดอลลาร์/บาร์เรล ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 95.89 จุด มาปิดตลาดที่ระดับ 12226.34 จุด ราคาทองคำเคลื่อนตัวในช่วงแคบระหว่าง 1410-1415 เหรียญ และในช่วงบ่ายสมาคมปรับลดลง 50 บาท มาปิดที่ 20300 — 20400 บาท ราคาทองคำใน London และ New York เคลื่อนไหวในกรอบ 1407.9-1417 เหรียญ ไปทำต่ำสุดที่ 1407 และกลับมาปิด 1409.90 เหรียญ จะเห็นได้ว่าค่าเงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่า เทียบกับสกุลเงินโดยทั่วไป ยูโรเมื่อวานอยู่ที่ 1.3735 ดอลลาร์/ยูโร และกลับขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1.3805 ดอลลาร์/ยูโร ในเช้าวันนี้ สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อวานนี้ออกมาคละกัน โดยมีรายรับส่วนบุคคลสูงขึ้น แต่การใช้จ่ายน้อยลง นอกนั้นการซื้อขายบ้านมือสองก็ลดลง เหลือ -2.8% โดยที่ตลาดยังให้ความสนใจในความตึงเครียดตะวันออกกลางที่จะทำให้น้ำมันปรับตัวสูงขึ้น
ปริมาณการซื้อขาย Gold Future 50 บาท อยู่ที่ 3059 คู่สัญญา และ 10 บาท อยู่ที่ 3896 คู่สัญญา OI แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 5 % และ 10 บาท เพิ่มขึ้น 3 %
วิเคราะห์ทางเทคนิค
ราคาทองคำเริ่มเข้าสู่ภาวการณ์ทรงตัวจากแรงเทขายทำกำไรโดยตลอด ภาพรวมๆราคาทองคำน่าจะเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideway อยู่ในกรอบ 1407-1415 เหรียญ แนวรับอยู่ที่ระดับ 1400 เหรียญ แนวต้าน 1417 เหรียญ
ราคาทองคำแท่งของไทย ปิดตลาดที่ระดับ 20300 บาท และ 20400 บาท Spot ปิดตลาดที่ระดับ 1411 เหรียญ
ราคาทองคำแท่งของไทย จะมีแนวรับสำคัญอยู่ที่ระดับ 20150 บาท และมีแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 20300 บาท
Gold Futures J11 จะมีแนวรับที่ระดับ 20500 บาท และแนวต้านที่ระดับ 20650บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนระยะรายวัน (Daily Trade)
เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวของตลาดเช่นเดิม ราคาคงแกว่งตัวน้อยอยู่ในกรอบ 1407-1415 เหรียญ
นักลงทุนรายสัปดาห์ (Weekly Trade)
ยังเป็นการรอความชัดเจนของทิศทาง
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
ยังเป็นการรอความชัดเจนของทิศทาง หลังจากเทขายทำกำไร อาจจะถือครองพอร์ตประมาณ 5-10 %