กรุงเทพฯ--19 ธ.ค.--คลาสสิก โกลด์ ฟิวเจอร์ส
Price Movement
ราคาทองคำในตลาด COMEX ปิดเพิ่มขึ้น 20.7 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 1,597.90 USDต่อออนซ์ ในช่วงเช้าวันนี้ปรับตัวสูงขึ้นมาเคลื่อนไหวบริเวณ 1,598 USDต่อออนซ์ ราคามีแนวโน้ม rebound ขึ้นสู่แนวต้านบริเวณ 1,620 ซึ่งเป็นเส้น MA 200 วัน แต่อาจมีแรงขายทำกำไร
Key Points in Gold Market
- ราคาทองคำในตลาด COMEX มีความเคลื่อนไหวระหว่าง 1,572.1 — 1,603.5 USDต่อออนซ์ ราคาทองคำ rebound ขึ้นได้ จากการที่ค่าเงิน USD อ่อนค่าลง และแรงซื้อเมื่อราคาปรับตัวลดลงแรง 4 วันติดต่อกันกว่า 8% การปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ยังไม่สามารถยืนเหนือ 1,600 ได้ เนื่องจากภาพทางเทคนิคที่ราคาหลุดเส้น MA 200 วัน ลงมาทำให้ในระยะกลางเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลง แต่การปิดสูงใกล้จุดสูงสุดของวันทำให้แนวโน้มในสัปดาห์นี้ แกว่งตัวเป็น side way โดยมีแนวต้านบริเวณเส้น MA 200 วันบริเวณ 1,620 ในช่วงต้นสัปดาห์ และถ้าหากผ่านไปได้ในปลายสัปดาห์อาจไปถึงระดับ 1,640 — 1,650 การขึ้นชนแนวต้านในแต่ละระดับจะมีแรงขายทำกำไร ทำให้นักลงทุนสามารถซื้อ ขาย Trading ได้ในกรอบ 1,565 — 1,620 .ในช่วงต้นสัปดาห์ ส่วนในปลายสัปดาห์ ถ้าไม่หลุดเส้น MA 50 สัปดาห์บริเวณ 1,573 มีแนวโน้มสร้างฐานบริเวณเหนือ 1,600 เพื่อไปสู่แนวต้าน 1,620 / 1,640 โดยมีเป้าหมายของสัปดาห์ที่บริเวณ 1,640 ส่วนการหลุดแนวรับบริเวณ1,565/ 1,573 อาจลงไปที่ระดับ 1,540/1,530/1,485
- สัญญาณทางเทคนิคในราย 4 ช.ม. และราย 60 นาที ยังเป็นลบ นักลงทุนอาจเปิด Short บริเวณ 1,600/1,610 เพื่อทำกำไรบริเวณ 1,585 หรือถ้าจะเปิด Long รออ่อนตัวบริเวณ 1,585 โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,620 โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,580/1,573
- ปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ค่าเงิน USD ถ้ายืนบริเวณ 1.30 USDต่อยูโรได้และมีแนวโน้มอ่อนค่าลงราคาทองคำน่าจะยืนเหนือ 1,600 / 1,620 ได้ในปลายสัปดาห์ ในทางกลับกันค่าเงิน USD ที่แข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 1.29 USDต่อยูโร จะเป็นปัจจัยลบ ที่กดดันราคาทองคำ และแสดงว่านักลงทุนยังคงขายสินทรัพย์เสี่ยงรวมถึงทองคำ เพื่อถือเงินสด ส่วนปัจจัยบวก คือ การเข้าซื้อของนักลงทุนระยะยาว ที่มองเห็นว่า ระดับราคาบริเวณนี้อยู่ในเกณฑ์ที่เป็น fair price แต่อาจถูกถ่วงด้วยความต้องการซื้อของนักลงทุนที่เก็งกำไรผิดทางมีผลขาดทุนและออกจากตลาด และเห็นว่าการลงทุนในทองคำมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้น
- ภาพการฟทางเทคนิคในระยะกลางดูจาก กราฟในรายสัปดาห์ ราคาหลุดเส้นค่าเฉลี่ย 34 สัปดาห์ แสดงทิศทางการเปลี่ยนแนวโน้มเป็นขาลงในระยะกลาง โดยมีแนวรับในระยะกลางบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 50 สัปดาห์ที่บริเวณ 1,573 และกรอบล่างของเส้น trend line บริเวณ 1,530 แต่ถ้าหากเกิดวิกฤตหนี้ยุโรปรุนแรงและลุกลามไปสู่สถาบันการเงินชั้นนำต่างๆ สภาพคล่องตึงตัวมาก อาจลงไปทดสอบแนวรับบริเวณเส้นค่าเฉลี่ย 75 สัปดาห์บริเวณ 1,485 นักลงทุนระยะกลาง เน้นการเปิด Short เมื่อราคา rebound ขึ้นสู่แนวต้านในแต่ละรอบ ส่วนนักลงทุนระยะสั้น Trading ในกรอบ 1,565 — 1,620
- รายงานตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันจันทร์ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนธ.ค. วันอังคาร ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนพ.ย.วันพุธยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย.ตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ วันพฤหัสบดี ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ที่แท้จริงประจำไตรมาส 3/2011 จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ดัชนีการผลิตทั่วประเทศเดือนพ.ย.ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงปลายเดือนธ.ค.ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจสหรัฐเดือนพ.ย. วันศุกร์ รายได้ส่วนบุคคลเดือนพ.ย. ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย.ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย.
- ราคาโลหะเงินปิดบวก 0.397 USDต่อออนซ์ ปิดที่ 29.67 USDต่อออนซ์ โดยมีความเคลื่อนไหวระหว่าง 29.12 — 29.93 USDต่อออนซ์ ishares silver trust ถือโลหะเงินจำนวนเท่าดิม 9,743.41ตัน วันนี้คาดว่ามีแนวต้านบริเวณ 30.3/ 30.9 USDต่อออนซ์ และแนวรับบริเวณ 28.4 / 27.7 USDต่อออนซ์ แนะนำ Trading ในกรอบ 27.7 — 30.9 USDต่อออนซ์
- SPDR ถือทองคำเท่าดิมจำนวน 1,279.98 ตัน
Technical Analysis:
++ ราคาทองคำมีแนวต้านที่ 1,600/1,620/1,640 และแนวรับที่ 1,573/1,565/1,550 สัญญาณทางเทคนิคในราย 4 ช.ม. และราย 60 นาที ยังเป็นลบนักลงทุนอาจเปิด Short บริเวณ 1,600/1,610 เพื่อทำกำไรบริเวณ 1,585 หรือถ้าจะเปิด Long รออ่อนตัวบริเวณ 1,585 โดยมีเป้าหมายทำกำไรบริเวณ 1,620 โดยมีจุด Stop Loss บริเวณ 1,580/1,573
++ ราคาโลหะเงินมีแนวแนวต้านบริเวณ 30.3/ 30.9 USDต่อออนซ์ และแนวรับบริเวณ 28.4 / 27.7 USDต่อออนซ์ แนะนำ Trading ในกรอบ 27.7 — 30.9 USDต่อออนซ์