กรุงเทพฯ--25 ต.ค.--กสทช.
ร.ศ. ประเสริฐ ศีลพิพัฒน์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) กล่าวว่า ตามที่สำนักงาน กสทช. ได้จัดการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ IMT ย่าน 2.1 GHz เพื่อนำเอาคลื่นความถี่มาให้บริการประชาชน เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา นั้น
วันที่ 18 ตุลาคม 2555 ที่ประชุมคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม ครั้งที่ 38/2555 มีมติเห็นชอบผลการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล (International Mobile Telecommunications — IMT) ย่าน 2.1 GHz ตามผลดังนี้ บริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด เสนอราคาเป็นเงิน 14,625 ล้านบาท ได้เลือกย่านความถี่ชุดที่ 7-9 (1950 MHz -1965 MHz และ 2140 MHz — 2155 MHz) บริษัท เรียล ฟิวเจอร์ จำกัด เสนอราคาเป็นเงิน 13,500 ล้านบาท เลือกย่านความถี่ชุดที่ 4-6 (1935 MHz — 1950 MHz และ 2125 MHz — 2140 MHz) บริษัท ดีแทค เนทเวอร์ค จำกัด เสนอราคาเป็นเงิน 13,500 ล้านบาท เลือกย่านความถี่ชุดที่ 1-3 (1920 MHz — 1935 MHz และ 2110 MHz — 2125 MHz) และให้สำนักงานดำเนินการตามที่กำหนดในประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล (International Mobile Telecommunications — IMT) ย่าน 2.1 GHz พ.ศ. 2555 ต่อไป
ร.ศ. ประเสริฐ กล่าวต่อว่า การประชุมในวันนี้เป็นการประชุมวาระเดียวเพื่อพิจารณาผลการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ฯ ย่าน 2.1 GHz ส่วนการดำเนินการต่อไปเป็นเรื่องของสำนักงาน กสทช. ที่จะดำเนินการให้ใบอนุญาต ทั้งนี้ กทค. จะออกใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ IMT ย่าน 2.1 GHz และใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ให้แก่แต่ละบริษัท ภายหลังจากที่บริษัทได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการดำเนินการก่อนได้รับใบอนุญาต ตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล (International Mobile Telecommunications — IMT) ย่าน 2.1 GHz พ.ศ. 2555 ครบถ้วน ภายใน 90 นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งผลการประมูล
สำหรับเงื่อนไขการดำเนินการก่อนได้รับใบอนุญาต แต่ละบริษัทต้องดำเนินการชำระเงินค่าประมูลคลื่นความถี่ IMT ย่าน 2.1 GHz งวดที่ 1 เป็นจำนวน 50% ของราคาสูงสุดที่ได้เสนอในการประมูล พร้อมส่งหนังสือค้ำประกันจากสถาบันการเงินประเภทธุรกิจธนาคารพาณิชย์ตามพระราชบัญญัติธุรกิจสถาบันการเงิน พ.ศ. 2551 เพื่อค้ำประกันการชำระเงินค่าประมูลคลื่นความถี่ IMT ย่าน 2.1 GHz งวดที่ 2 และงวดที่ 3 ทั้งนี้เงินค่าประมูลที่ต้องชำระยังไม่รวมภาษี และค่าธรรมเนียมต่างๆ และดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด และต้องนำส่งเอกสารหลักฐานและข้อมูลที่จำเป็นต้องใช้ในการอนุญาตสำหรับผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบที่ 3 ตามข้อ 4 ของภาคผนวก ก ของประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล (International Mobile Telecommunications — IMT) ย่าน 2.1 GHz พ.ศ. 2555 แก่สำนักงานฯ ให้ครบถ้วนถูกต้องตามรายละเอียดที่ได้รับแจ้งจากสำนักงาน กรณีปรากฏว่าเอกสารหลักฐานและข้อมูลเหล่านั้นไม่ถูกต้องหรือไม่เพียงพอ
ร.ศ. ประเสริฐ กล่าวอีกว่า ผู้เสนอราคาในการประมูลแต่ละรายน่าจะได้รับใบอนุญาตภายใน 7 วัน หลังจากที่ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขการดำเนินการก่อนได้รับใบอนุญาต ตามประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล (International Mobile Telecommunications — IMT) ย่าน 2.1 GHz พ.ศ. 2555 เรียบร้อย ในส่วนของเงินรายได้จากการประมูลจะนำเงินที่ได้หักค่าใช้จ่ายในการดำเนินการแล้วส่งกระทรวงการคลังให้เร็วที่สุด
สำหรับรายละเอียดเรื่อง การชำระเงินค่าประมูลคลื่นความถี่ IMT ย่าน 2.1 GHz นั้น แต่ละบริษัท จะต้องชำระเงินตามราคาที่เสนอราคาสูงสุดของแต่ละราย โดยแบ่งจ่ายเป็น 3 งวด คือ งวดที่ 1 ชำระเงินเป็นจำนวน 50% ของราคาที่เสนอราคาสูงสุด พร้อมหนังสือค้ำประกันจากธนาคาร เพื่อค้ำประกันการชำระเงินค่าประมูลในส่วนที่เหลือ ภายใน 90 วันนับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งผลการประมูล งวดที่ 2 ชำระเงินเป็นจำนวน 25% ของราคาที่เสนอราคาสูงสุด พร้อมหนังสือค้ำประกันจากธนาคาร เพื่อค้ำประกันการชำระเงินค่าประมูลงวดที่ 3 ภายใน 15 วัน เมื่อครบกำหนดระยะเวลา 2 ปี นับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาต และงวดที่ 3 ชำระเงินเป็นจำนวน 25% ของราคาที่เสนอราคาสูงสุด ภายใน 15 วัน เมื่อครบกำหนดระยะเวลา 3 ปี นับแต่วันที่ได้รับใบอนุญาต ทั้งนี้เงินที่แต่ละรายต้องชำระ ยังไม่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ และดอกเบี้ย ตามที่กฎหมายกำหนด
ร.ศ. ประเสริฐ กล่าวว่า จากนี้ไปจะมองไปที่การกำกับดูแลผู้ประกอบกิจการโทรคมนาคมแบบ ที่ 3 ที่จะให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz ที่ได้รับใบอนุญาตไป โดยจะดูตั้งแต่ว่ามีการแข่งขันในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเกิดขึ้นหรือไม่ อัตราค่าบริการสมเหตุสมผลหรือไม่ ต้นทุนเป็นอย่างไร คุณภาพของการให้บริการเป็นอย่างไร “ โดยส่วนตัวคิดว่าค่าบริการต้องถูกกว่าปัจจุบัน”
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ :
กลุ่มงานสื่อสารองค์กร สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.)
โทรศัพท์ : 0-2271-0151 ต่อ 315 - 317 โทรสาร : 0-2290-5241