เอแบคโพลล์: ทัศนคติอันตรายในช่วงรัฐบาลชุดปัจจุบันว่าด้วย การยอมรับรัฐบาลทุจริตคอรัปชั่นแต่ทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดี ตนเองได้ประโยชน์ด้วย

ข่าวผลสำรวจ Monday February 7, 2011 07:54 —เอแบคโพลล์

ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง ทัศนคติอันตรายในช่วง รัฐบาลชุดปัจจุบันว่าด้วย การยอมรับรัฐบาลทุจริตคอรัปชั่นแต่ทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดี ตนเองได้ประโยชน์ด้วย กรณีศึกษาตัวอย่าง ประชาชนผู้ที่พักอาศัยอยู่ใน 28 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ลพบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ จันทบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี อำนาจ เจริญ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี นครพนม สกลนคร อุดรธานี น่าน เชียงราย เชียงใหม่ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สตูล ปัตตานี และสงขลา จำนวนทั้งสิ้น 3,971 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการในช่วง 4 มกราคม — 5 กุมภาพันธ์ 2554 ผลการสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่ติดตามข่าวสารบ้านเมืองเป็นประจำทุกสัปดาห์

เมื่อสอบถามถึง การยอมรับรัฐบาลทุจริตคอรัปชั่นแต่ทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง ประชาชนกินดีอยู่ดี ตนเองได้ประโยชน์ด้วย เปรียบเทียบ กับการสำรวจช่วงตุลาคม ปี 2551 ก่อนรัฐบาลอภิสิทธิ์ กับเดือนมกราคม ปี 2554 ในรัฐบาลชุดปัจจุบัน พบว่า แนวโน้มของประชาชนที่ยอมรับรัฐบาล ทุจริตคอรัปชั่นแต่ทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดี ตนเองได้ประโยชน์ยังคงสูงอยู่จากร้อยละ 63.2 ในปี 2551 มาอยู่ที่ร้อยละ 64.0 ในการสำรวจครั้งล่าสุด

เมื่อจำแนกตามเพศ พบว่า ทั้งผู้ชายไทยและผู้หญิงไทยส่วนใหญ่ยังคงยอมรับรัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น แต่ขอให้ตนเองได้ประโยชน์ด้วย คือ ร้อยละ 63.8 ของผู้ชาย และร้อยละ 64.1 ของผู้หญิงที่ยังคงยอมรับรัฐบาลที่ทุจริตคอรัปชั่นแต่ขอให้ตนเองได้ประโยชน์

ที่น่าเป็นห่วงคือ แม้แต่กลุ่มเด็กและเยาวชนที่เป็นคนรุ่นใหม่ประมาณครึ่งหนึ่งหรือร้อยละ 50.2 และผู้ใหญ่ในทุกช่วงอายุส่วนใหญ่หรือเกิน กว่าร้อยละ 60 ขึ้นไปที่ยอมรับรัฐบาลที่ทุจริตคอรัปชั่น แต่ขอให้ตนเองได้ประโยชน์ด้วย

แต่ที่น่าพิจารณาคือ ยิ่งประชาชนมีระดับการศึกษาสูงขึ้นแนวโน้มของคนที่ยอมรับรัฐบาลทุจริตคอรัปชั่นลดน้อยต่ำลง คือ ร้อยละ 64.3 ของ คนที่มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 62.0 ของคนที่มีการศึกษาปริญญาตรี และร้อยละ 50.0 ของคนที่มีการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี ยอมรับรัฐบาล ที่ทุจริตคอรัปชั่นแต่ขอให้รัฐบาลนั้นๆ ทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดีและตนเองผู้ตอบแบบสอบถามได้ประโยชน์ด้วย

และที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่งคือ ทัศนคติอันตรายนี้ได้กระจายไปสู่ประชาชนในทุกสาขาอาชีพแล้ว แม้แต่นักเรียนนักศึกษาเกินกว่าครึ่งหรือร้อย ละ 54.5 ที่ยอมรับรัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น แม้แต่ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจส่วนใหญ่หรือร้อยละ 63.1 พนักงานบริษัทเอกชน ร้อยละ 62.0 พ่อค้า นักธุรกิจร้อยละ 65.3 เกษตรกรรับจ้างแรงงานทั่วไปร้อยละ 66.8 และแม่บ้าน เกษียณอายุร้อยละ 58.4 ที่ยอมรับได้ถ้ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่นแต่ทำ ให้ประเทศชาติรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดี ตนเองผู้ตอบแบบสอบถามได้ประโยชน์ด้วย

แต่ที่น่าพิจารณาคือ ประชาชนคนภาคกลางมีสัดส่วนมากที่สุด คือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 72.1 และคนกรุงเทพมหานครมีสัดส่วนรองลงมา เป็นอันดับสองหรือร้อยละ 67.3 ตามด้วยคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ร้อยละ 64.7 และคนภาคเหนือร้อยละ 61.8 ที่ยอมรับได้ถ้ารัฐบาลทุจริต คอรัปชั่น อย่างไรก็ตาม ประชาชนคนภาคใต้มีน้อยสุด แต่ก็ยังถือว่ามีจำนวนที่มากหรือร้อยละ 48.0 ที่จะยอมรับรัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น

นอกจากนี้ ผลสำรวจยังพบว่า กลุ่มคนที่ยอมขายเสียงของตนเองถ้ามีการเลือกตั้งเกิดขึ้นส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.8 ยอมรับรัฐบาลทุจริต คอรัปชั่นได้แต่ขอให้ตนเองได้ประโยชน์ ในขณะที่กลุ่มคนที่ไม่ยอมขายเสียงของตนเวลาเลือกตั้งมีสัดส่วนน้อยกว่าที่จะยอมรับรัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น แต่ก็ ยังคงเกินกว่าครึ่งคือร้อยละ 51.8 ในการสำรวจครั้งนี้

ผอ.เอแบคโพลล์ กล่าวว่า ผลสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า ทัศนคติอันตรายเช่นนี้ย่อมจะทำให้ประเทศไทยและประชาชนไม่สามารถหลุดพ้นไป จากการเป็นประเทศกำลังพัฒนาได้ ทางออกสามประการ คือ

ประการแรก เว็บไซต์ทำเนียบรัฐบาลน่าจะเป็นศูนย์รวมข้อมูลการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินของประเทศ เพื่อให้ประชาชนช่วยกันตรวจ สอบได้ อย่างน้อยเริ่มได้จากกลุ่มประชาชน คนสังคมออนไลน์หรือสื่อยุคใหม่ร่วมตรวจสอบ เพราะในเวลานี้หากพิมพ์คำว่า “ทำเนียบรัฐบาล” ค้นใน บริการสืบค้นทางอินเทอร์เน็ต เช่น Google กลับพบลิงค์อันดับแรกๆ ไม่ใช่ลิงค์อย่างเป็นทางการของรัฐบาลไทยและไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อ หลักธรรมาภิบาลมากเท่าใดนัก ดังนั้น รัฐบาลจึงน่าจะใช้เวลานี้ประกาศให้ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นเป็นวาระแห่งชาติ หาทางให้กลไกหน่วยงานของรัฐ เช่น สำนักงาน ปปท. สำนักงาน ปปง. และ สำนักงาน ปปช. ร่วมกันทำงานในเชิงรุกลดทอนทัศนคติอันตรายในหมู่ประชาชนลงไปให้ได้

ประการที่สอง คือ หน่วยงานของรัฐทั้งในส่วนกลางและท้องถิ่น ต้องมีฐานข้อมูลการใช้จ่ายงบประมาณอย่างเปิดเผย และเปิดโอกาสให้มี ช่องทางการมีส่วนร่วมตรวจสอบร้องเรียนถึงผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานต่างๆ ได้อย่างแท้จริง เช่น อีเมล์ หรือเว็บบอร์ด

ประการที่สาม คือ ต้องรณรงค์สร้างการรับรู้ ให้การศึกษา หนุนเสริมความตระหนัก และการมีส่วนร่วมในหมู่ประชาชน ให้แข็งแกร่งมาก ยิ่งขึ้นในการปฏิเสธและเล็งเห็นถึงอันตรายร้ายแรงของการทุจริตคอรัปชั่นทั้งในเชิงนโยบายและในกลุ่มบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดคณะรัฐมนตรี คณะที่ปรึกษา รัฐมนตรี และกลุ่มล็อบบี้กลุ่มต่อรองเพื่อผลประโยชน์เฉพาะกลุ่ม เป็นต้น

          จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า     ตัวอย่าง    ร้อยละ 47.0 เป็นชาย

ร้อยละ 53.0 เป็นหญิง

ตัวอย่าง ร้อยละ 5.1 อายุน้อยกว่า 20 ปี

ร้อยละ 24.4 อายุระหว่าง 20—29 ปี

ร้อยละ 26.6 อายุระหว่าง 30—39 ปี

ร้อยละ 24.3 อายุระหว่าง 40—49 ปี

และร้อยละ 19.6 อายุ 50 ปีขึ้นไป

ตัวอย่าง ร้อยละ 76.7 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี

ร้อยละ 14.9 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี

และร้อยละ 2.2 สำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี

ในขณะที่ ร้อยละ 6.2 ไม่ระบุระดับการศึกษา

ตัวอย่าง ร้อยละ 35.3 ระบุอาชีพเกษตรกร/รับจ้างทั่วไป

ร้อยละ 28.5 ระบุอาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว

ร้อยละ 13.1 ระบุเป็นพนักงานเอกชน

ร้อยละ 9.8 ระบุข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ

ร้อยละ 7.7 ระบุเป็นนักเรียนนักศึกษา

ร้อยละ 5.6 เป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณอายุ/ว่างงาน/

ไม่ได้ประกอบอาชีพ

โปรดพิจารณารายละเอียดดังตาราง

ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความถี่ในการติดตามข่าวสารผ่านสื่อมวลชนในช่วง 30 วันที่ผ่านมา
ลำดับที่          ความถี่ในการติดตามข่าวสาร ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา          ค่าร้อยละ
1          ทุกวัน/เกือบทุกวัน                                          50.7
2          3-4 วันต่อสัปดาห์                                          23.5
3          1-2 วันต่อสัปดาห์                                          13.1
4          ติดตามเป็นบางสัปดาห์                                        9.3
5          ไม่ได้ติดตามเลย                                            3.4
          รวมทั้งสิ้น                                                100.0

ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ยอมรับได้ถ้ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น แต่ทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง ประชาชนกินดีอยู่ดี ตนเอง
ได้ประโยชน์ด้วย เปรียบเทียบจากการสำรวจในช่วง 2551 -2554
ลำดับที่          ทัศนคติ                                        ตุลาคม 2551ค่าร้อยละ    มกราคม 2554ค่าร้อยละ
1          ยอมรับได้ ถ้ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น แต่ทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง-
           ประชาชนอยู่ดีกินดี ตนเองได้ประโยชน์ด้วย                         63.2                 64.0
2          ไม่คิดเช่นนั้น                                               36.8                 36.0
          รวมทั้งสิ้น                                                 100.0                100.0

ตารางที่ 3 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ยอมรับได้ถ้ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น แต่ทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง ประชาชนกินดีอยู่ดี
ตนเองได้ประโยชน์ด้วย จำแนกตามเพศ
ลำดับที่          ทัศนคติ                                          เพศชายค่าร้อยละ         เพศหญิงค่าร้อยละ
1          ยอมรับได้ ถ้ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น แต่ทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง-
           ประชาชนอยู่ดีกินดี ตนเองได้ประโยชน์ด้วย                        63.8                  64.1
2          ไม่คิดเช่นนั้น                                              36.2                  35.9
          รวมทั้งสิ้น                                                100.0                 100.0

ตารางที่ 4  แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ยอมรับได้ถ้ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น แต่ทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง ประชาชนกินดีอยู่ดี ตนเอง

ได้ประโยชน์ด้วย จำแนกตามอายุ

ลำดับที่          ทัศนคติ                                 ต่ำกว่า 20 ปี    20-29ปี      30-39ปี     40-49 ปี    50ปีขึ้นไป
                                                       ค่าร้อยละ     ค่าร้อยละ     ค่าร้อยละ    ค่าร้อยละ    ค่าร้อยละ
1          ยอมรับได้ ถ้ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น แต่ทำให้ประเทศชาติ
           รุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดี ตนเองได้ประโยชน์ด้วย       50.2        61.5        64.8       66.5       66.5
2          ไม่คิดเช่นนั้น                                    49.8        38.5        35.2       33.5       33.5
          รวมทั้งสิ้น                                      100.0       100.0       100.0      100.0      100.0

ตารางที่ 5  แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ยอมรับได้ถ้ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น แต่ทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง ประชาชนกินดีอยู่ดี ตนเอง

ได้ประโยชน์ด้วย จำแนกตามการศึกษา

ลำดับที่          ทัศนคติ                                        ต่ำกว่า ป.ตรีค่าร้อยละ    ป.ตรีค่าร้อยละ   สูงกว่าป.ตรีค่าร้อยละ
1          ยอมรับได้ ถ้ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น แต่ทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง-
           ประชาชนอยู่ดีกินดี ตนเองได้ประโยชน์ด้วย                         64.3               62.0           50.0
2          ไม่คิดเช่นนั้น                                               35.7               38.0           50.0
          รวมทั้งสิ้น                                                 100.0              100.0          100.0

ตารางที่ 6 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ยอมรับได้ถ้ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น แต่ทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง ประชาชนกินดีอยู่ดี ตนเอง
ได้ประโยชน์ด้วย จำแนกตามอาชีพ
ลำดับที่          ทัศนคติ                      ข้าราชการรัฐวิสาหกิจ  พนักงานเอกชน  ค้าขายส่วนตัว  นักเรียนนักศึกษา  รับจ้างเกษตรกร  แม่บ้านเกษียณอายุ

1          ยอมรับได้ ถ้ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น แต่ทำให้-

ประเทศชาติรุ่งเรือง ประชาชนอยู่ดีกินดี-

           ตนเองได้ประโยชน์ด้วย                   63.1            62.0          65.3        54.5          66.8          58.4
2          ไม่คิดเช่นนั้น                           36.9            38.0          34.7        45.5          33.2          41.6
          รวมทั้งสิ้น                             100.0           100.0         100.0       100.0         100.0         100.0

ตารางที่ 7 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ยอมรับได้ถ้ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น แต่ทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง ประชาชนกินดีอยู่ดี
ตนเองได้ประโยชน์ด้วย จำแนกตามภูมิภาค
ลำดับที่          ทัศนคติ                                         เหนือ    กลาง   ตะวันออกเฉียงเหนือ   ใต้     กทม.
1          ยอมรับได้ ถ้ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น แต่ทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง-
           ประชาชนอยู่ดีกินดี ตนเองได้ประโยชน์ด้วย                   61.8    72.1         64.7       48.0   67.3
2          ไม่คิดเช่นนั้น                                         38.2    27.9         35.3       52.0   32.7
          รวมทั้งสิ้น                                           100.0   100.0        100.0      100.0  100.0

ตารางที่ 8 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ยอมรับได้ถ้ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น แต่ทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง ประชาชนกินดีอยู่ดี
ตนเองได้ประโยชน์ด้วย จำแนกตามความพร้อมในการขายเสียงในการเลือกตั้ง
ลำดับที่          ทัศนคติ                                        กลุ่มที่พร้อมขายเสียงค่าร้อยละ  กลุ่มที่ไม่ยอมขายเสียงค่าร้อยละ
1          ยอมรับได้ ถ้ารัฐบาลทุจริตคอรัปชั่น แต่ทำให้ประเทศชาติรุ่งเรือง-
           ประชาชนอยู่ดีกินดี ตนเองได้ประโยชน์ด้วย                           65.8                    51.8
2          ไม่คิดเช่นนั้น                                                 34.2                    48.2
          รวมทั้งสิ้น                                                   100.0                   100.0

--เอแบคโพลล์--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ