สำนักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยศูนย์การเฝ้าระวังและเตือนภัยทางสังคม ได้ร่วมกับ ศูนย์เครือข่ายวิชาการเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน (ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ดำเนินงานวิจัยเชิงสำรวจความคิดเห็นของเด็กและเยาวชนต่อการติดตามรับชมรายการฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป “ยูโร 2012” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์การติดตามการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ของเด็กและเยาวชน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการเฝ้าระวังปัญหาทางสังคม ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสามารถนำไปใช้ในการกำหนดมาตรการป้องกันผลกระทบที่จะมีต่อเด็กและเยาวชนในการติดตามรับชมรายการฟุตบอลต่างๆ ในระยะต่อๆ ไป
การสำรวจครั้งนี้ มีกลุ่มตัวอย่าง คือ เด็กและเยาวชนที่มีอายุ 12-25 ปี ที่พักอาศัยในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จำนวน 1,309 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 1 - 27 มิถุนายน 2555 ที่ผ่านมา สรุปสาระสำคัญที่ได้ดังต่อไปนี้
ตัวอย่างส่วนมากหรือร้อยละ 69.3 ติดตามข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 และร้อยละ 30.7 ไม่ได้ติดตาม และบุคคลใกล้ชิดของตัวอย่างที่ติดตามรับชมการแข่งขันฟุตบอลในครั้งนี้ กว่าครึ่งหรือร้อยละ 59.6 เป็นเพื่อน/คนรู้จัก รองลงมาร้อยละ 40.2 เป็นคนในครอบครัว ร้อยละ 28.0 เป็นญาติพี่น้อง และร้อยละ 14.6 เป็นคู่รัก/แฟน ตามลำดับ
ตัวอย่างส่วนใหญ่หรือร้อยละ 80.4 เป็นห่วงหรือวิตกกังวลต่อบุคคลใกล้ชิดในการติดตามรับชมการแข่งขันฟุตบอล ในเรื่องการนอนดึก/อดนอน รองลงมาหรือร้อยละ 36.1 เรื่องเสียงาน/เสียการเรียน ร้อยละ 32.8 เรื่องการเล่นพนันทายผลฟุตบอล ร้อยละ 17.6 ปัญหาหนี้สินจากการพนัน ตามลำดับ นอกจากนี้ เป็นเรื่อง การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด เป็นต้น
ประเด็นที่น่าพิจารณา คือ ตัวอย่างกว่า 1 ใน 3 หรือร้อยละ 36.5 เคยพบเห็นหรือรับรู้ว่ามีคนในครอบครัว หรือเพื่อน/คนรู้จักใกล้ชิดเล่นพนันทายผลฟุตบอล โดยบุคคลที่พบมากที่สุด คือ เพื่อน/คนรู้จัก คิดเป็นร้อยละ 75.1 รองลงมาเป็นญาติพี่น้องคิดเป็นร้อยละ 21.7 คนในครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 12.6 และคู่รัก/แฟน คิดเป็นร้อยละ 11.5 ตามลำดับ
ตัวอย่างส่วนใหญ่หรือร้อยละ 84.6 ไม่เคยเล่นพนันทายผลฟุตบอล แต่มีจำนวนร้อยละ 9.6 ระบุว่าเคยเล่นแต่ปัจจุบันเลิกเล่นแล้ว และร้อยละ 5.8 ระบุว่าเคยเล่นและปัจจุบันยังเล่นอยู่ ซึ่งผู้ที่เคยเล่นให้เหตุผล กล่าวคือ อันดับที่หนึ่งหรือร้อยละ 59.9 ระบุทำให้การเชียร์ฟุตบอลสนุกตื่นเต้น อันดับที่สองหรือร้อยละ 30.7 เล่นตามเพื่อน อันดับที่สามหรือร้อยละ 23.8 อยากลอง อันดับที่สี่หรือร้อยละ 17.3 ระบุมั่นใจว่ามีโอกาส “ได้เงิน” มากกว่า “เสียเงิน” และอันดับที่ห้าหรือร้อยละ 14.9 ระบุชอบการเล่นพนัน และเหตุผลอื่นๆ คือ เพื่อหาเงินล้างหนี้ มีแหล่งพนัน/โต๊ะบอลในชุมชนที่พักอาศัย มีคนในครอบครัวหรือคนรู้จักใกล้ชิด รับแทงพนันบอล และเล่นตามคนในครอบครัว ตามลำดับ
ตัวอย่างส่วนมากหรือร้อยละ 61.0 ระบุได้เงินจากการเล่นพนันทายผลฟุตบอลครั้งล่าสุด โดยเฉลี่ย 3,208.26 บาท ในขณะที่ตัวอย่างร้อยละ 39.0 ระบุเสียเงินจากการเล่นพนันทายผลฟุตบอลโดยเฉลี่ย 3,191.11 บาท และมีตัวอย่างร้อยละ 7.4 เป็นหนี้สินจากการเล่นพนันทายผลฟุตบอล
สำหรับบุคคลที่เคยเล่นทายพนันบอล พบว่า ตัวอย่างกว่าครึ่งหรือร้อยละ 56.2 เล่นกับเพื่อน รองลงมาหรือร้อยละ 36.3 เล่นกับโต๊ะบอล ร้อยละ 12.9 เล่นกับญาติ/พี่น้อง และร้อยละ 8.5 เล่นผ่านทางอินเทอร์เน็ต มีกลุ่มตัวอย่างกว่า 1 ใน 4 หรือร้อยละ 25.4 เคยชักชวนญาติพี่น้อง/เพื่อน/คนรู้จักให้เล่นทายพนันบอล
ที่น่าเป็นห่วง คือ ถึงแม้ว่าส่วนใหญ่ระบุว่าจะไม่เล่นพนันบอล (ร้อยละ 87.2 ) แต่มีจำนวนตัวอย่างถึงร้อยละ 4.5 ที่ตั้งใจจะเล่นพนันบอล และร้อยละ 8.3 ยังไม่แน่ใจ โดยผู้ที่ตั้งใจจะเล่นพนันบอลมีช่องทางต่างๆ กล่าวคือ ตัวอย่างเกือบครึ่งหรือร้อยละ 47.5 ตั้งใจจะแทงที่โต๊ะบอล ร้อยละ 33.9 ตั้งใจจะเล่นกับเพื่อนร่วมสถาบัน/เพื่อนร่วมงาน ร้อยละ 13.6 ตั้งใจจะเล่นกับญาติ/พี่น้อง นอกจากนี้ ตั้งใจจะเล่นกับคนรู้จักในละแวกบ้าน/ชุมชน เล่นผ่านทางอินเทอร์เน็ต/ออนไลน์ เล่นกับโต๊ะบอลผ่านทางโทรศัพท์ เล่นกับโต๊ะบอลผ่านเด็กเดินโพย และตั้งใจจะเล่นกับผู้ที่มาชมการถ่ายทอดฟุตบอลตามสถานบันเทิงที่มีการถ่ายทอดสด ทั้งนี้ มีถึง ร้อยละ 6.8 ที่ตั้งใจจะรับเป็นเจ้ามือ/รับแทงเอง
สำหรับวงเงินที่ตั้งใจเตรียมไว้เล่นทายพนันฟุตบอล เฉลี่ยประมาณ 5,086 บาท ส่วนแหล่งที่มาของเงิน พบว่าตัวอย่างกว่าครึ่งหรือร้อยละ 65.5 ได้จากการทำงานหาเงินเอง ร้อยละ 22.4 จากเงินออม และ ร้อยละ 12.1 จากพ่อ แม่ ผู้ปกครอง/คนในครอบครัว
การเล่นทายพนันฟุตบอลในกรณีเงินที่เตรียมไว้เล่นหมดแต่ยังมีการแข่งขันอยู่ พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ตั้งใจว่าจะเล่นพนันบอลจำนวนร้อยละ 13.6 จะกู้ยืมเงินมาเล่นเพิ่ม และร้อยละ 20.3 จะหาเงินจากแหล่งอื่นมาเพิ่ม อาทิ จากเงินออม หางานทำเสริม ทำงานผิดกฎหมาย และตัวอย่างส่วนใหญ่หรือร้อยละ 66.1 ระบุจะเลิกเล่น ตามลำดับ
ที่น่าเป็นห่วง คือ เมื่อทำการจำแนกความตั้งใจที่จะเล่นทายพนันบอลตามเพศ พบว่ามีตัวอย่างเพศหญิงเกือบร้อยละ 7 ที่ระบุตั้งใจที่จะเล่นพนันบอล และเมื่อทำการจำแนกตามลักษณะที่พักอาศัยในปัจจุบัน พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่ตั้งใจจะเล่นทายพนันบอลจะพักอาศัยอยู่ในบ้านเดี่ยว คิดเป็นร้อยละ 35.6 แมนชั่น /อพาร์ตเมนต์/หอพักของเอกชน คิดเป็นร้อยละ 33.9 คอนโดมิเนียม คิดเป็น ร้อยละ 13.6 ตามลำดับ
นอกจากนี้กลุ่มตัวอย่างที่ตั้งใจว่าจะเล่นพนันบอลเกินกว่าครึ่งหรือร้อยละ 55.2 ระบุเห็นด้วยกับความคิดที่ว่า “การเล่นทายพนันบอลเป็นเรื่องปกติธรรมดาในสังคมไทย”
สำหรับข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเล่นทายผลพนันฟุตบอล พบว่า กลุ่มตัวอย่าง (ที่ตั้งใจว่าจะเล่น และยังไม่แน่ใจว่าจะเล่น) จำนวนครึ่งหนึ่งหรือร้อยละ 50.0 ระบุให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด/ตำรวจตรวจตรามากขึ้น ร้อยละ 35.7 ระบุให้ออกกฎหมายเข้มกว่าเดิม /เพิ่มบทลงโทษหนักกว่าเดิม /ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ร้อยละ 14.3 ระบุให้มีการรณรงค์ช่วยต่อต้านการพนันบอล และร้อยละ 7.1 ให้ช่วยสอดส่องดูแลคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงมากขึ้น ตามลำดับ
ในการนี้ หน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าว เป็นข้อมูลพื้นฐานประกอบในการกำหนดมาตรการในการร่วมกันป้องกันและแก้ไขปัญหาการเล่นทายผลพนันฟุตบอลในกลุ่มเด็กและเยาวชน ในระยะต่อๆ ไป
ตัวอย่าง ร้อยละ 50.1 เป็นชาย
และร้อยละ 49.9 เป็นหญิง
ตัวอย่าง ร้อยละ 30.9 มีอายุระหว่าง 12-15 ปี
ร้อยละ 23.9 มีอายุระหว่าง 16-18 ปี
ร้อยละ 22.9 มีอายุระหว่าง 19-21 ปี
และร้อยละ 22.3 ระบุอายุระหว่าง 22-25 ปี
ระดับการศึกษา ตัวอย่างร้อยละ 42.3 สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น/ต่ำกว่า
ร้อยละ 38.8 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช.
ร้อยละ 5.3 ระดับอนุปริญญา/ปวส.
ร้อยละ 12.6 ระดับปริญญาตรี
และร้อยละ 1.0 สำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี
ซึ่งในปัจจุบัน ตัวอย่างส่วนใหญ่หรือร้อยละ 83.7 กำลังศึกษาอยู่ (โดยร้อยละ 41.9 กำลังศึกษาอยู่ในระดับปริญญาตรี ร้อยละ 30.5 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น/ต่ำกว่า ร้อยละ 24.9 ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย/ปวช. ตามลำดับ)
ในขณะที่ตัวอย่าง ร้อยละ 14.0 เรียนจบและทำงานแล้ว
มีเพียงร้อยละ 2.3 เท่านั้นที่ระบุเรียนจบแล้ว แต่ยังไม่มีงานทำ
สำหรับแหล่งที่มาของรายได้หลัก พบว่า
ตัวอย่างส่วนใหญ่หรือ ร้อยละ 75.5 ได้มาจาก พ่อแม่ ผู้ปกครอง ญาติพี่น้อง
และร้อยละ 24.5 ทำงานหาเอง
ตัวอย่าง ร้อยละ 41.5 ระบุลักษณะที่พักอาศัยในปัจจุบันเป็นบ้านเดี่ยว
ร้อยละ 30.4 ระบุแมนชั่น/อพาร์ตเมนต์/ หอพักของเอกชน
ร้อยละ 10.1 ระบุทาวน์เฮ้าส์
ร้อยละ 6.5 ระบุคอนโดมิเนียม
ร้อยละ 5.8 ระบุหอพักของสถานศึกษา
ร้อยละ 4.6 ระบุอาคารพาณิชย์
และร้อยละ 1.1 ระบุอื่นๆ อาทิ บ้านเช่า
ตัวอย่าง ร้อยละ 63.8 ระบุพักอาศัยอยู่กับครอบครัว (บิดา/มารดา/พี่น้อง)
ร้อยละ 16.0 พักอยู่กับเพื่อน
ร้อยละ 11.5 พักอยู่คนเดียว
ร้อยละ 5.1 พักอยู่กับญาติ
ร้อยละ 3.5 พักอยู่กับแฟน/คู่รัก
ร้อยละ 0.1 พักอยู่กับครู-อาจารย์ /ผู้ปกครองที่ไม่ใช่ญาติ
สำหรับข้อมูลที่เกี่ยวกับการติดตามข้อมูลข่าวสารการแข่งขันฟุตบอลฯ มีดังต่อไปนี้
ลำดับที่ การติดตามข้อมูลข่าวสาร ค่าร้อยละ
1 ติดตาม 69.3
2 ไม่ได้ติดตามเลย 30.7
รวมทั้งสิ้น 100.0
ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุถึงบุคคลใกล้ชิดที่ติดตามรับชมการแข่งขันฟุตบอลในครั้งนี้เป็นประจำ
ตั้งแต่เริ่มมีการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 เป็นต้นมา (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ บุคคลใกล้ชิดที่ติดตามรับชมการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012 ค่าร้อยละ
1 เพื่อน/คนรู้จัก 59.6
2 คนในครอบครัว 40.2
3 ญาติพี่น้อง 28.0
4 คู่รัก /แฟน 14.6
5 อื่นๆ อาทิ กลุ่มลูกค้าในร้านที่ทำงาน เป็นต้น 0.4
ตารางที่ 3 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุสิ่งต่างๆ ที่รู้สึกเป็นห่วงหรือวิตกกังวลต่อบุคคลใกล้ชิดที่ติดตามรับชมการแข่งขันฟุตบอลเป็นประจำ
(ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ สิ่งที่รู้สึกเป็นห่วงหรือวิตกกังวลต่อบุคคลใกล้ชิด ค่าร้อยละ
1 การนอนดึก / อดนอน 80.4
2 เสียงาน/เสียการเรียน 36.1
3 การเล่นพนันทายผลฟุตบอล 32.8
4 ปัญหาหนี้สินจากการพนัน 17.6
5 การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 12.3
6 การเกี่ยวข้องกับยาเสพติด 3.6
ตารางที่ 4 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุเคยพบเห็น/หรือรับรู้ว่าคนในครอบครัว หรือเพื่อน/คนรู้จักใกล้ชิดเล่นพนันทายผลฟุตบอล
ในการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2012
ลำดับที่ การพบเห็น/หรือรับรู้การเล่นพนันทายผลฟุตบอลของคนในครอบครัว หรือเพื่อน/คนรู้จักใกล้ชิด ค่าร้อยละ
1 ไม่เคยพบเห็น/ไม่เคยรับรู้ 63.5
2 เคยพบเห็น บุคคลที่เคยพบเห็น... (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) 36.5
1. เพื่อน/คนรู้จัก คิดเป็นร้อยละ 75.1
2. ญาติพี่น้อง คิดเป็นร้อยละ 21.7
3. คนในครอบครัว คิดเป็นร้อยละ 12.6
4. คู่รัก/แฟน คิดเป็นร้อยละ 11.5
รวมทั้งสิ้น 100.0
ตารางที่ 5 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุประสบการณ์เล่นพนันทายผลฟุตบอล
ลำดับที่ ประสบการณ์เล่นพนันทายผลฟุตบอล ค่าร้อยละ
1 เคยเล่นและปัจจุบันยังเล่นอยู่ 5.8
2 เคยเล่นแต่ปัจจุบันเลิกเล่นแล้ว 9.6
3 ไม่เคยเล่น 84.6
รวมทั้งสิ้น 100.0
ตารางที่ 6 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุถึงสิ่งต่างๆ ที่มีส่วนสนับสนุนให้เล่นทายพนันผลฟุตบอล
(เฉพาะกลุ่มตัวอย่างที่เคยเล่นพนันฟุตบอลและตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ สิ่งต่างๆ ที่มีส่วนสนับสนุนให้เล่นทายพนันผลฟุตบอล ค่าร้อยละ
1 ทำให้การเชียร์ฟุตบอลสนุก/ตื่นเต้นขึ้น 59.9
2 เล่นตามเพื่อน 30.7
3 อยากลอง 23.8
4 มั่นใจว่ามีโอกาส “ได้เงิน” มากกว่า “เสียเงิน” 17.3
5 ชอบการเล่นพนัน 14.9
6 เพื่อหาเงินล้างหนี้ 5.9
7 มีแหล่งพนัน/โต๊ะบอลในชุมชนที่พักอาศัย 3.5
8 มีคนในครอบครัวหรือคนรู้จักใกล้ชิด รับแทงพนันบอล 2.5
9 เล่นตามคนในครอบครัว 2.0
ตารางที่ 7 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุผลครั้งล่าสุดที่เล่นพนันทายผลฟุตบอล (เฉพาะกลุ่มตัวอย่างที่เคยเล่นพนันทายผลฟุตบอล)
ลำดับที่ ผลครั้งล่าสุดที่เล่นพนันทายผลฟุตบอล ค่าร้อยละ
1 ได้พนัน โดยเฉลี่ย 3,208.26 บาท 61.0
2 เสียพนัน โดยเฉลี่ย 3,191.11 บาท 39.0
รวมทั้งสิ้น 100.0
ตารางที่ 8 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุหนี้สินจากการเล่นพนันทายผลฟุตบอล (เฉพาะกลุ่มตัวอย่างที่เคยเล่นพนันทายผลฟุตบอล)
ลำดับที่ หนี้สินจากการเล่นพนันทายผลฟุตบอล ค่าร้อยละ
1 มีหนี้สิน 7.4
2 ไม่มีหนี้สิน 92.6
รวมทั้งสิ้น 100.0
ตารางที่ 9 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุบุคคลที่เคยเล่นทายพนันบอลด้วย
(เฉพาะกลุ่มตัวอย่างที่เคยเล่นพนันทายผลฟุตบอลและตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ บุคคลที่เคยเล่นทายพนันบอลด้วย ค่าร้อยละ
1 เพื่อน 56.2
2 โต๊ะบอล 36.3
3 ญาติ/พี่น้อง 12.9
4 เล่นผ่านทางอินเทอร์เน็ต 8.5
ตารางที่ 10 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุการชักชวนญาติพี่น้อง/เพื่อน/คนรู้จักให้เล่นทายพนันบอล
ลำดับที่ การชักชวนญาติพี่น้อง/เพื่อน/คนรู้จักให้เล่นทายพนันบอล ค่าร้อยละ
1 เคย 25.4
2 ไม่เคย 74.6
รวมทั้งสิ้น 100.0
ตารางที่ 11 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความตั้งใจที่จะเล่นทายพนันบอลในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012
ลำดับที่ ความตั้งใจที่จะเล่นทายพนันบอลในการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2012 ค่าร้อยละ
1 ตั้งใจว่าจะเล่น 4.5
2 ยังไม่แน่ใจ 8.3
3 ไม่เล่นอย่างแน่นอน 87.2
รวมทั้งสิ้น 100.0
ตารางที่ 12 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุช่องทางที่ตั้งใจจะใช้ในการเล่นพนันบอล
(เฉพาะกลุ่มตัวอย่างที่ตั้งใจว่าจะเล่น และตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ ช่องทางที่ตั้งใจจะใช้ในการเล่นพนันบอล ค่าร้อยละ
1 แทงที่โต๊ะบอล 47.5
2 เพื่อนร่วมสถาบัน /เพื่อนร่วมงาน 33.9
3 ญาติ/พี่น้อง 13.6
4 คนรู้จักในละแวกบ้าน / ชุมชน 11.9
5 อินเทอร์เน็ต/ออนไลน์ 11.9
6 โต๊ะบอลผ่านทางโทรศัพท์ 11.9
7 โต๊ะบอลผ่านเด็กเดินโพย 10.2
8 ผู้ที่มาชมการถ่ายทอดฟุตบอลตามสถานบันเทิงที่มีการถ่ายทอดสด 6.8
9 รับเป็นเจ้ามือ/รับแทงเอง 6.8
ตารางที่ 13 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุวงเงินที่ตั้งใจเตรียมไว้เล่นทายพนันฟุตบอล (เฉพาะกลุ่มตัวอย่างที่ตั้งใจว่าจะเล่น)
ลำดับที่ วงเงินที่ตั้งใจเตรียมไว้เล่นทายพนันฟุตบอล ค่าร้อยละ
1 ไม่เกิน 500 บาท 33.3
2 501-1,000 บาท 14.8
3 มากกว่า 1,000 บาท ( สูงสุด 50,000 บาท ) 51.9
รวมทั้งสิ้น 100.0
วงเงินเฉลี่ยที่ตั้งใจเตรียมไว้เล่นทายพนันฟุตบอล เท่ากับ 5,086 บาท
(เฉพาะกลุ่มตัวอย่างที่ตั้งใจว่าจะเล่น และตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ แหล่งที่มาของเงินที่จะนำมาเล่นทายพนันฟุตบอล ค่าร้อยละ 1 ทำงานหาเงินเอง 65.5 2 เงินออม 22.4 3 พ่อ แม่ ผู้ปกครอง/คนในครอบครัว 12.1 ตารางที่ 15 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุการตัดสินใจกรณีเงินที่เตรียมไว้เล่นหมดแต่ยังมีการแข่งขันอยู่
(เฉพาะกลุ่มตัวอย่างที่ตั้งใจว่าจะเล่น)
ลำดับที่ การตัดสินใจกรณีเงินที่เตรียมไว้เล่นหมดแต่ยังมีการแข่งขันอยู่ ค่าร้อยละ
1 เลิกเล่น 66.1
2 กู้ยืมเงินมาเล่นเพิ่ม 13.6
3 หาเงินจากแหล่งอื่นมาเพิ่ม อาทิ เงินออม หางานทำเสริม งานผิดกฎหมาย เป็นต้น 20.3
รวมทั้งสิ้น 100.0
ตารางที่ 16 แสดงค่าร้อยละของเพศของตัวอย่าง (เฉพาะกลุ่มตัวอย่างที่ตั้งใจจะเล่นทายพนันบอล)
ลำดับที่ เพศ ค่าร้อยละ
1 ชาย 93.2
2 หญิง 6.8
รวมทั้งสิ้น 100.0
ตารางที่ 17 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุที่พักอาศัยในปัจจุบัน (เฉพาะกลุ่มตัวอย่างที่ตั้งใจจะเล่นทายพนันบอล)
ลำดับที่ ลักษณะที่พักอาศัย ค่าร้อยละ
1 บ้านเดี่ยว 35.6
2 แมนชั่น / อพาร์ตเมนต์/หอพักของเอกชน 33.9
3 คอนโดมิเนียม 13.6
4 ทาวน์เฮ้าส์ 10.2
5 หอพักของสถานศึกษา 5.1
6 อาคารพาณิชย์ 1.6
รวมทั้งสิ้น 100.0
ตารางที่ 18 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุเกี่ยวกับความคิดเห็นที่ว่า การเล่นทายพนันบอลเป็นเรื่องปกติธรรมดาในสังคมไทย”(เฉพาะกลุ่มตัวอย่างที่ตั้งใจว่าจะเล่น)
ลำดับที่ ความคิดเห็น ค่าร้อยละ
1 เห็นด้วยอย่างยิ่ง 10.3
2 เห็นด้วย 20.7
3 ค่อนข้างเห็นด้วย 24.2
4 ไม่ค่อยเห็นด้วย 19.0
5 ไม่เห็นด้วย 17.2
6 ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง 8.6
รวมทั้งสิ้น 100.0
ตารางที่ 19 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเล่นทายผลพนันฟุตบอล (เฉพาะกลุ่มตัวอย่างที่ตั้งใจว่าจะเล่น และยังไม่แน่ใจว่าจะเล่น และตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ ข้อเสนอแนะ ค่าร้อยละ 1 ให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด/ตำรวจตรวจตรามากขึ้น 50.0 2 ออกกฎหมายเข้มกว่าเดิม/บทลงโทษหนักกว่าเดิม/ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด 35.7 3 รณรงค์ช่วยต่อต้านพนันบอล 14.3 4 สอดส่องดูแลคนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงมากขึ้น 7.1
--เอแบคโพลล์--