จากผลสำรวจเมื่อสอบถามความคิดเห็นของตัวอย่างกรณีการทุจริตคอรัปชั่นในโครงการรับจำนำข้าว นั้นพบว่า ตัวอย่างส่วนใหญ่หรือ ร้อยละ 81.2 คิดว่ามีการทุจริตคอรัปชั่นในโครงการรับจำนำข้าว ในขณะที่ร้อยละ 18.8 คิดว่าไม่มี นอกจากนี้เมื่อสอบถามต่อไปถึงความเหมาะสม ในการตัดสินใจของรัฐบาลกรณีที่มีการลดราคาจำนำข้าวจาก ตันละ 15,000 บาท เหลือตันละ 12,000 บาทนั้น พบว่า ประมาณ 2 ใน 3 หรือร้อยละ 65.1 เห็นว่าไม่เหมาะสม ในขณะที่ร้อยละ 34.9 เห็นว่าการลดราคาจำนำข้าวดังกล่าวมีความเหมาะสมแล้ว
อย่างไรก็ตามผลการสำรวจพบว่า ตัวอย่างส่วนมากหรือร้อยละ 63.5 ระบุ “รู้สึกผิดหวัง”ต่อรัฐบาลที่ไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนตามที่หาเสียงไว้ กรณีที่มีการปรับราคารับจำนำข้าวจาก ตันละ 15,000 บาท เหลือตันละ 12,000 บาท ในขณะที่ร้อยละ 36.5 ระบุไม่รู้สึกอะไรเลย
ประเด็นสำคัญที่น่าพิจารณาอย่างยิ่งคือ ตัวอย่างส่วนมากหรือร้อยละ 62.3 ระบุไม่พึงพอใจต่อการบริหารจัดการในโครงการรับจำนำข้าวโดยภาพรวม ในขณะที่ร้อยละ 37.7 ระบุพึงพอใจ และตัวอย่างมากกว่า 2 ใน 3 หรือร้อยละ 74.7 คิดว่าโครงการรับจำนำข้าวส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล โดยมีเพียงร้อยละ 25.3 ที่ระบุว่าไม่ส่งผลกระทบ
สำหรับความคิดเห็นต่อทางออกที่ดีที่สุดสำหรับนายกรัฐมนตรี ในการแก้ไขปัญหาในโครงการรับจำนำข้าวนั้น พบว่า ร้อยละ 33.1 ระบุว่าให้ทำงานต่อไปโดยที่ไม่ต้องทำอะไร ในขณะที่ร้อยละ 34.8 ระบุให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี รองลงมาคือ ร้อยละ 18.9 ระบุให้ลาออก และร้อยละ 13.2 ระบุให้มีการเลือกตั้งใหม่ ตามลำดับ
ผู้ช่วย ผอ.เอแบคโพลล์ กล่าวว่า รัฐบาลยังคงมีโอกาสปรับปรุงแก้ไข “ปัญหาเขาควาย” หรือที่เรียกว่า DILEMMAได้เพราะถ้าจะเดินหน้าต่อไปไม่ปรับปรุงแก้ไขก็ประสบปัญหาแรงเสียดทานจากคนกลุ่มหนึ่ง ถ้าจะไปลดราคาจำนำข้าวก็พบกับแรงต่อต้านของคนอีกกลุ่มหนึ่ง อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดเจนว่าประชาชนส่วนใหญ่ยังให้โอกาสรัฐบาลปรับปรุงโดยแบ่งออกเป็น กลุ่มที่ต้องการให้ปรับคณะรัฐมนตรี กลุ่มที่ให้ทำงานต่อไป กลุ่มที่ให้นายกรัฐมนตรีลาออก จะเห็นได้ว่ามีเพียงส่วนน้อยที่ต้องการให้มีการเลือกตั้งใหม่ ดังนั้น รัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยจึงยังมี “โอกาส” หรือ Opportunities ควรให้ผู้มีอำนาจและบารมีในพรรคที่มีความเชี่ยวชาญด้าน “โอกาส” ในเวลานี้เข้ามาร่วมตัดสินใจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดของรัฐบาล อย่าปล่อยให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปกว่านี้จนยากจะควบคุมได้
จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 47.4 เป็นชาย ร้อยละ 52.6 เป็นหญิง ตัวอย่างร้อยละ 4.9 อายุน้อยกว่า 20 ปี ร้อยละ 23.8 อายุระหว่าง 20—29 ปี ร้อยละ 22.3 อายุระหว่าง 30—39 ปี ร้อยละ 21.2 อายุระหว่าง 40—49 ปี และ ร้อยละ 27.8 อายุ 50 ปีขึ้นไป ตัวอย่าง ร้อยละ 73.2 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 22.8 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ในขณะที่ร้อยละ 4.0 สำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี ตัวอย่างร้อยละ 33.4 ระบุอาชีพเกษตรกร/รับจ้างทั่วไป ร้อยละ 31.5 ระบุอาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 8.7 ระบุเป็นพนักงานเอกชน ร้อยละ 8.6 ระบุข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 7.4 ระบุเป็นนักเรียนนักศึกษา ร้อยละ 7.1 เป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณอายุ ร้อยละ 3.3 ว่างงาน/ไม่ได้ประกอบอาชีพ
ลำดับที่ ความคิดเห็นต่อการทุจริตคอรัปชั่นในโครงการรับจำนำข้าว ค่าร้อยละ 1 คิดว่ามีการทุจริตคอรัปชั่นในโครงการรับจำนำข้าว 81.2 2 คิดว่าไม่มี 18.8 รวมทั้งสิ้น 100 ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ความคิดเห็นต่อความเหมาะสมในการตัดสินใจของรัฐบาลที่มีการลดราคาจำนำข้าวจากตันละ 15,000 บาท เหลือตันละ 12,000 บาท ลำดับที่ ความคิดเห็นต่อความเหมาะสมในการตัดสินใจของรัฐบาลที่มีการลดราคาจำนำข้าว ค่าร้อยละ 1 เหมาะสม 34.9 2 ไม่เหมาะสม 65.1 รวมทั้งสิ้น 100 ตารางที่ 3 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ความรู้สึกต่อรัฐบาลที่ไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนตามที่หาเสียงไว้ในกรณีโครงการรับจำนำข้าวที่ปรับราคาจำนำข้าวจากตันละ 15,000 บาท เป็นตันละ 12,000 บาท ลำดับที่ ความรู้สึกต่อรัฐบาลที่ไม่สามารถทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชนตามที่หาเสียงไว้ได้ ค่าร้อยละ 1 รู้สึกผิดหวัง 63.5 2 ไม่รู้สึกอะไรเลย 36.5 รวมทั้งสิ้น 100 ตารางที่ 4 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ความพึงพอใจต่อการบริหารจัดการโครงการรับจำนำข้าวในภาพรวม ลำดับที่ ความพึงพอใจต่อการบริหารจัดการโครงการรับจำนำข้าวในภาพรวม ค่าร้อยละ 1 พอใจ 37.7 2 ไม่พอใจ 62.3 รวมทั้งสิ้น 100 ตารางที่ 5 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความคิดเห็นกรณีผลกระทบของโครงการรับจำนำข้าวกับเสถียรภาพของรัฐบาล ลำดับที่ ความคิดเห็นกรณีผลกระทบของโครงการรับจำนำข้าวกับเสถียรภาพของรัฐบาล ค่าร้อยละ 1 คิดว่าส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของรัฐบาล 74.7 2 ไม่ส่งผล 25.3 รวมทั้งสิ้น 100 ตารางที่ 6 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความคิดเห็นต่อทางออกที่ดีที่สุดสำหรับนายกรัฐมนตรีต่อการแก้ปัญหาโครงการรับจำนำข้าว ลำดับที่ ความคิดเห็นต่อทางออกที่ดีที่สุดสำหรับนายกรัฐมนตรีต่อการแก้ปัญหาโครงการรับจำนำข้าว ค่าร้อยละ 1 ปรับคณะรัฐมนตรี 34.8 2 ลาออก 18.9 3 เลือกตั้งใหม่ 13.2 4 ทำงานต่อไปไม่ต้องทำอะไร 33.1 รวมทั้งสิ้น 100
--เอแบคโพลล์--