กลุ่มตัวอย่างเกินกว่าครึ่งหรือร้อยละ 58.1 รับทราบข่าวการโยกย้ายข้าราชการที่ออกมาเปิดโปงการทุจริตคอรัปชั่นของรัฐบาลอย่างไม่เป็นธรรม ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา
ที่น่ากังวลคือกลุ่มตัวอย่างส่วนมากหรือร้อยละ 79.8 คิดว่าการโยกย้ายของข้าราชการในปัจจุบันนี้ไม่มีความเป็นธรรม และไม่อยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง เหมาะสม ในขณะที่ร้อยละ 20.2 คิดว่าเป็นธรรม
ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 97.9 คิดว่าข้าราชการที่ดีที่กล้าออกมาเปิดโปงการทุจริตคอรัปชั่นแล้วถูกผู้ที่มีอำนาจโยกย้ายกลั่นแกล้ง ยังมีอยู่ในสังคมไทย มีเพียงร้อยละ 2.1 ที่คิดว่าไม่มีเหลืออยู่เลย
ที่น่าเป็นห่วงคือส่วนใหญหรือร้อยละ 77.2 คิดว่าเหตุการณ์ที่ข้าราชการที่ดีที่กล้าออกมาเปิดโปงการทุจริตคอรัปชั่นแล้วถูกผู้ที่มีอำนาจโยกย้ายกลั่นแกล้งนั้น เป็นปลูกฝังให้คนไม่กล้าพูดความจริง ยิ่งไปกว่านั้นร้อยละ 80.7 ยังระบุอีกว่าจะทำให้ข้าราชการที่ดีเสียขวัญกำลังใจที่เห็นหัวหน้าของตนเองถูกโยกย้ายกระทันหันเพราะการที่กล้าออกมาเปิดโปงการทุจริตคอรัปชั่น
ที่น่าสนใจคือกลุ่มตัวอย่างเกือบร้อยละร้อยหรือร้อยละ 93.9 เห็นด้วยว่าควรมีกลไกในการคุ้มครองเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนที่ออกมาให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีการทุจริตคอรัปชั่น
ประเด็นที่น่าพิจารณาคือส่วนมากหรือร้อยละ 93.5 คิดว่าควรเปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นหรือมีการประเมินการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อประกอบการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย และร้อยละ 94.0 คิดว่าควรเปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นหรือมีการประเมินการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ
นางสาว ปุณฑรีก์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้อำนวยการ กล่าวว่า รัฐบาลต้องหามาตรการคุ้มครองเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนที่ออกมาเปิดโปงขบวนการทุจริตคอรัปชั่น แทนการตั้งกรรมการสอบสวนเอาผิด ข่มขู่คุกคามผู้ออกมาเปิดโปง และการโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม อย่างไรก็ตามหากข้อมูลที่ถูกนำมาเปิดโปรงไม่เป็นเรื่องจริงก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม แต่ถ้าหากเป็นเรื่องจริง คนดีก็ต้องได้รับการคุ้มครองและส่งเสริม รวมทั้งให้ตำแหน่งและอำนาจที่สามารถช่วยแก้ปัญหาการทุจริต คอรัปชั่นได้อย่างจริงจังและต่อเนื่องมากกว่าการถูกโยกย้าย ลดทอนตำแหน่งหรืออำนาจ ไม่ให้มีปากมีเสียงออกมาพูดความจริง ยิ่งไปกว่านั้นการโยกย้ายหรือการจัดสรรงบประมาณในแต่ละพื้นที่ก็ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีสิทธิ์ร่วมประเมินผลงานและความจำเป็นในการใช่งบประมาณในแต่ละท้องที่ด้วย
นอกจากนี้รัฐบาลเองต้องมีความชัดเจนและจุดยืนในการทำงาน มีการเปิดเผยรายละเอียดของทุกเม็ดเงินตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทางที่ถูกนำมาใช้บนพื้นฐานของความเป็นจริง ลดการโฆษณาชวนเชื่อถ้าหากรัฐบาลและฝ่ายการเมืองเองยังไม่สามารถปฏิบัติได้ เพราะยิ่งออกมาปกป้องตัวเองและพวกพ้อง ยิ่งเป็นการลดทอนความเชื่อมั่นและความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อรัฐบาลและฝ่ายการเมือง อย่างไรก็ตามถ้าหากนักการเมืองและเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติหน้าที่ด้วยความดี ซื่อสัตย์สุจริต คำนึงถึงผลประโยชน์ประเทศชาติเป็นที่ตั้งอยู่แล้วก็ขอส่งเสริมและให้กำลังใจในการทำความดีต่อไป
จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 47.4 เป็นชาย ร้อยละ 52.6 เป็นหญิง ตัวอย่างร้อยละ 4.9 อายุน้อยกว่า 20 ปี ร้อยละ 20.8 อายุระหว่าง 20—29 ปี ร้อยละ 20.3 อายุระหว่าง 30—39 ปี ร้อยละ 19.2 อายุระหว่าง 40—49 ปี และ ร้อยละ 34.8 อายุ 50 ปีขึ้นไป ตัวอย่างร้อยละ 73.2 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 22.8 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ในขณะที่ร้อยละ 4.0 สำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี ตัวอย่างร้อยละ 33.4 ระบุอาชีพเกษตรกร/รับจ้างทั่วไป ร้อยละ 31.5 ระบุอาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 8.7 ระบุเป็นพนักงานเอกชน ร้อยละ 8.6 ระบุข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 7.4 ระบุเป็นนักเรียนนักศึกษา ร้อยละ 7.1 เป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณอายุ ร้อยละ 3.3 ว่างงาน/ไม่ได้ประกอบอาชีพ
ลำดับที่ รับทราบข่าวการโยกย้ายข้าราชการที่ออกมาเปิดโปงการทุจริตคอรัปชั่นของรัฐบาล ค่าร้อยละ 1 ทราบ 58.1 2 ไม่ทราบ 41.9 รวมทั้งสิ้น 100.0 ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ความคิดเห็นต่อการโยกย้ายของข้าราชการในปัจจุบันว่าไม่มีความเป็นธรรม และไม่อยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง เหมาะสม ลำดับที่ ความคิดเห็นต่อการโยกย้ายของข้าราชการในปัจจุบันว่าไม่มีความเป็นธรรม ค่าร้อยละ 1 คิดว่าเป็นธรรม 20.2 2 คิดว่าไม่เป็นธรรม 79.8 รวมทั้งสิ้น 100.0 ตารางที่ 3 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ความคิดเห็นว่ายังมีข้าราชการที่ดีอีกมากที่กล้าออกมาเปิดโปงการทุจริตคอรัปชั่นแล้วถูกผู้ที่มีอำนาจโยกย้ายกลั่นแกล้ง ลำดับที่ ความคิดเห็นว่ายังมีข้าราชการที่ดีอีกมากที่กล้าออกมาเปิดโปงการทุจริตคอรัปชั่นแล้วถูก ผู้ที่มีอำนาจโยกย้ายกลั่นแกล้ง ค่าร้อยละ 1 คิดว่ายังมีอยู่ 97.9 2 คิดว่าไม่มีเหลืออยู่เลย 2.1 รวมทั้งสิ้น 100.0 ตารางที่ 4 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่ข้าราชการที่ดีที่กล้าออกมาเปิดโปงการทุจริตคอรัปชั่นแล้วถูกผู้ที่มีอำนาจโยกย้ายกลั่นแกล้งนั้น เป็นการส่งเสริมให้คนไม่กล้าพูดความจริง ลำดับที่ ความคิดเห็นต่อเหตุการณ์ที่ข้าราชการที่ดีที่กล้าออกมาเปิดโปงการทุจริตคอรัปชั่น ค่าร้อยละ 1 คิดว่าใช่ 77.2 2 ไม่คิดว่าใช่ 22.8 รวมทั้งสิ้น 100.0 ตารางที่ 5 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ความคิดเห็นต่อข้าราชการที่ดีจะเสียขวัญกำลังใจที่เห็นหัวหน้าของตนเองถูกโยกย้ายกระทันหัน เพราะการที่กล้าออกมาเปิดโปงการทุจริตคอรับชั่น ลำดับที่ ความคิดเห็นต่อข้าราชการที่ดีจะเสียขวัญกำลังใจที่เห็นหัวหน้าของตนเองถูกโยกย้ายกระทันหัน ค่าร้อยละ 1 คิดว่าเสียขวัญกำลังใจ 80.7 2 คิดว่าไม่ 19.3 รวมทั้งสิ้น 100.0 ตารางที่ 6 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ความคิดเห็นต่อการสร้างกลไกในการคุ้มครองเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนที่ออกมาให้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีการทุจริตคอรัปชั่น ลำดับที่ ความคิดเห็นต่อการสร้างกลไกในการคุ้มครองเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน ค่าร้อยละ 1 เห็นด้วย 93.9 2 ไม่เห็นด้วย 6.1 รวมทั้งสิ้น 100.0 ตารางที่ 7 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นหรือมีการประเมินการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อประกอบการพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย ลำดับที่ การเปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นหรือมีการประเมินการปฏิบัติหน้าที่ ของเจ้าหน้าที่รัฐ ค่าร้อยละ 1 คิดว่าควรเปิดโอกาส 93.5 2 คิดว่าไม่ควร 6.5 รวมทั้งสิ้น 100.0 ตารางที่ 8 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ควรเปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นหรือมีการประเมินการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐเพื่อประกอบการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ ลำดับที่ การเปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นหรือมีการประเมินการ ปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่รัฐ ค่าร้อยละ 1 คิดว่าควร 94.0 2 คิดว่าไม่ควร 6.0 รวมทั้งสิ้น 100.0
--เอแบคโพลล์--