ผลการสำรวจชี้ให้เห็นว่า ตัวอย่างส่วนมากหรือร้อยละ 61.0 มีภาระหนี้สินที่ต้องผ่อนชำระเมื่อเทียบกับรายได้ในแต่ละเดือน โดยตัวอย่างร้อยละ 30.6 ระบุต้องผ่อนชำระร้อยละ 26 — 50 ของรายได้ต่อเดือน ร้อยละ 26.4 ระบุต้องผ่อนชำระหนี้สินไม่เกินร้อยละ 25 ของรายได้ต่อเดือน และร้อยละ 4.0 ระบุต้องผ่อนชำระมากกว่าร้อยละ 50 ของรายได้ต่อเดือน ในขณะที่ร้อยละ 39.0 ระบุไม่มีหนี้สินที่ต้องชำระ/ผ่อนชำระ
นอกจากนี้ตัวอย่างกว่าร้อยละ 60 ระบุการมีหนี้สิน ซึ่งเป็นหนี้ในระบบมากที่สุด รองลงมา คือ หนี้นอกระบบ และหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบ ตามลำดับ ทั้งนี้เมื่อพิจารณาจำแนกตามรายได้ส่วนตัวต่อเดือน พบว่า เมื่อกลุ่มตัวอย่างมีรายได้เพิ่มขึ้น ก็จะมีหนี้สินเพิ่มขึ้นตาม โดยกลุ่มที่มีรายได้มากกว่า 50,000 บาทต่อเดือน มีหนี้สินสูงถึงร้อยละ 80 ขณะที่กลุ่มที่มีรายได้ น้อยกว่า 10,000 บาทต่อเดือน มีหนี้สินร้อยละ 50 แต่มีข้อน่าสังเกตว่าเกือบครึ่งหนึ่งที่เป็นหนี้สินนอกระบบ
กลุ่มตัวอย่างที่เป็นหนี้ในระบบ ระบุว่า ส่วนใหญ่กู้ยืมเงินจากธนาคารพาณิชย์ รองลงมาคือ ธนาคารของรัฐ หนี้กับบัตรเครดิต สินเชื่อเงินด่วน/เงินสด ตามลำดับ สำหรับรูปแบบการกู้นอกระบบของกลุ่มตัวอย่าง พบว่า เกินครึ่งหรือร้อยละ 57.6 กู้ยืมจากนายทุน รองลงมา คือ พ่อแม่ ญาติพี่น้อง และเพื่อน โดยมีอัตราดอกเบี้ยสูงสุดร้อยละ 20 บาท/เดือน
เมื่อสอบถามถึงประเภทหนี้สินที่ต้องผ่อนชำระ พบว่า ผู้มีรายได้น้อยกว่า 30,000 บาทส่วนมากมีภาระหนี้สินที่ต้องผ่อนชำระ คือ เรื่องค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ อาหาร เป็นต้น และการกู้ยืม/หนี้สิน ในการประกอบอาชีพ ประกอบธุรกิจ และสิ่งที่ค้นพบคือ ผู้มีรายได้ 10,000 —30,000 หรือร้อยละ 1 ใน 5 ของตัวอย่างระบุมีหนี้สินต้องผ่อนรถยนต์คันแรก ตามนโยบายของรัฐ ขณะที่ผู้ที่มีรายได้ 30,001 บาทขึ้นไประบุมีหนี้สินต้องผ่อนรถยนต์และบ้านที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการ
จากผลสำรวจ พบว่า ตัวอย่างบางส่วนเคยถูกข่มขู่ตามทวงหนี้จากนายทุนนอกระบบ อย่างไรก็ตามการรับรู้ของกลุ่มตัวอย่างที่มีต่อกฎหมายควบคุมธุรกิจทวงหนี้ พบว่า ตัวอย่างไม่ถึงครึ่งหรือร้อยละ 42.2 รับทราบตัวกฎหมายดังกล่าว และสิ่งที่ตัวอย่างอยากให้รัฐบาลชุดปัจจุบันเข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้สินนอกระบบ โดยเฉพาะเรื่องดอกเบี้ยที่ไม่ควรเกินกฎหมายกำหนด รองลงมา คือ จัดตั้งสถาบันการเงินเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย และเพิ่มบทลงโทษในตัวกฎหมาย ควบคุมเจ้าหนี้ ตามลำดับ
ประการสุดท้าย ความต้องการที่อยากให้รัฐบาลชุดปัจจุบัน ดำเนินการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ โดยตัวอย่าง ร้อยละ 63.7 ระบุอยากให้นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้อย่างจริงจัง รองลงมา อยากให้มีการปรับสมดุลราคาสินค้าให้มีความสอดคล้องกับรายได้ค่าแรงขั้นต่ำ จัดสวัสดิการให้กับประชาชนอย่างครอบคลุม เช่น การรักษาพยาบาล รณรงค์ปลูกฝังจิตสำนึกรักแผ่นดินอย่างจริงจัง “ใช้สินค้าไทยบริโภคสินค้าไทย” และส่งเสริมสนับสนุนการทำอาชีพเสริม เช่น การฝึกฝีมือแรงงานตามลำดับ
จากการศึกษาครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นว่า กลุ่มตัวอย่างมีภาระหนี้สิน สำหรับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย เผชิญปัญหาหนี้สินนอกระบบ รวมไปถึงภาระการจ่ายอัตราดอกเบี้ยที่สูง ดังนั้นรัฐบาลควรเข้ามาแก้ไขนอกจากตัวกฎหมายในการควบคุม ยังรวมไปถึงการให้ข้อมูลข่าวสารแก่ประชาชนให้ทั่วถึง นอกจากนี้ผู้มีรายได้ตั้งแต่ 10,000 บาทขึ้นไป ซึ่งส่วนใหญ่มีการกู้เงินมาซื้อรถยนต์ ซื้อบ้าน ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากการผลักดันนโยบายของรัฐบาลเอง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการขาดสภาพคล่องที่จะนำไปสู่ภาวะหนี้เสียของประชาชนได้ รัฐบาลควรปลูกจิตสำนึกให้กับประชาชนในการนำหลักแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้กับทุกภาคส่วน ซึ่งจากผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างเกือบ 2 ใน 3 ได้ให้ความเห็นว่ารัฐบาลควรมีการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้อย่างจริงจัง
จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 42.1 เป็นชาย ร้อยละ 57.9 เป็นหญิง และเมื่อจำแนกตามช่วงอายุของตัวอย่าง พบว่า ร้อยละ 17.9 อายุระหว่าง 25-30 ปี ร้อยละ 31.9 อายุระหว่าง 31-40 ปี ร้อยละ 25.1 อายุระหว่าง 41-50 ปี และร้อยละ 25.1 อายุระหว่าง 51-60 ปี สำหรับด้านการศึกษาของตัวอย่างนั้นพบว่า ร้อยละ 69.3 ระบุสำเร็จการศึกษาต่ำกว่าระดับปริญญาตรี ร้อยละ 30.7 ระบุสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป นอกจากนี้ ตัวอย่างร้อยละ 44.2 ระบุอาชีพค้าขายอิสระ/ธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 23.2 ระบุเป็นลูกจ้าง/พนักงานบริษัท ร้อยละ 16.5 ระบุรับจ้างทั่วไป ร้อยละ 8.3 ระบุเป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณ ร้อยละ 7.2 ระบุ เป็นข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ และร้อยละ 0.2 ระบุเป็นเกษตรกร และเมื่อพิจารณาถึงรายได้ส่วนตัวต่อเดือนพบว่าร้อยละ 23.4 ระบุรายได้ต่ำกว่า 10,000 บาท ร้อยละ 68.9 ระบุ รายได้ 10,000-30,000 บาท ร้อยละ 6.9 ระบุรายได้ 30,001-50,000 และร้อยละ 0.8 ระบุรายได้ มากกว่า 50,000 บาทขึ้นไป
(โปรดพิจารณารายละเอียดจากตารางต่อไปนี้)
ลำดับที่ ภาระหนี้สินที่ต้องผ่อนชำระเทียบกับรายได้ในแต่ละเดือน ร้อยละ 1 ต้องผ่อนชำระหนี้สินไม่เกินร้อยละ 25 ของรายได้/เดือน 26.4 2 ร้อยละ 26-50 ของรายได้/เดือน 30.6 3 มากกว่าร้อยละ 50 ของรายได้ต่อเดือน 4.0 4 ไม่มีหนี้สินที่ต้องชำระ/ผ่อนชำระ 39.0 รวมทั้งสิ้น 100.0 ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุหนี้สินที่ต้องผ่อนชำระในปัจจุบัน จำแนกตามรายได้ส่วนตัว ลำดับที่ หนี้สินที่ต้องผ่อนชำระ รายได้ส่วนตัวต่อเดือน
ต่ำกว่า
10,000 10,000-30,000 30,001-50,000 50,001 ขึ้นไป ภาพรวม 1 หนี้สินในระบบ 12.0 38.3 46.4 60.0 32.8 2 หนี้สินนอกระบบ 23.8 12.0 7.3 - 14.4 3 หนี้สินในระบบและนอกระบบ 10.3 14.3 19.5 20.0 13.8 4 ไม่มีหนี้สิน 53.9 35.4 26.8 20.0 39.0 รวมทั้งสิ้น 100.0 100.0 100.0 100.0 100.0 ตารางที่ 3 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุแหล่งเงินกู้ในระบบ
(ค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุมีหนี้สินในระบบ และตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ แหล่งเงินกู้ในระบบ ร้อยละ 1 ธนาคารพาณิชย์ 43.6 2 ธนาคารของรัฐ 40.9 3 บัตรเครดิต 33.2 4 สินเชื่อเงินด่วน/เงินสด 13.5 5 สหกรณ์/สวัสดิการของหน่วยงาน 6.5 6 กองทุนหมู่บ้าน 4.0 7 โรงรับจำนำ 3.4 ตารางที่ 4 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุแหล่งเงินกู้นอกระบบ
(ค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุแหล่งเงินกู้นอกระบบและตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ แหล่งเงินกู้นอกระบบ ร้อยละ 1 กู้ยืมจากนายทุน 57.6 2 พ่อแม่ ญาติพี่น้อง 37.3 3 เพื่อน 27.5
หมายเหตุ อัตราดอกเบี้ยเงินกู้นอกระบบโดยเฉลี่ย ร้อยละ 15 บาท/เดือน อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด ร้อยละ 10 บาท/เดือน อัตราดอกเบี้ยสูงสุดร้อยละ 20 บาท/เดือน
ลำดับที่ ประเภทหนี้สินที่ต้องผ่อนชำระ รายได้ส่วนตัวต่อเดือน
ต่ำกว่า 10,000 10,000-30,000 30,001-50,000 50,001 ขึ้นไป ภาพรวม
1 ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ อาหาร เป็นต้น 51.6 23.7 21.7 37.5 28.6 2 การกู้ยืม/หนี้สิน ในการประกอบ อาชีพ ประกอบธุรกิจ 23.8 29.1 25.0 50.0 28.0 3 รถยนต์ที่ไม่ได้เข้าโครงการรถคันแรก 7.4 18.0 48.3 62.5 19.2 4 เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เช่น โทรทัศน์ ตู้เย็น แอร์ 9.0 20.3 13.3 25.0 17.8 5 รถยนต์คันแรก ตามนโยบายของรัฐ 4.1 20.5 18.3 12.5 17.4 6 บ้าน ที่อยู่อาศัยที่ไม่ได้ เข้าโครงการบ้านหลังแรก 4.1 14.0 40.0 50.0 14.8 7 การกู้ยืมเพื่อการศึกษา/ค่าเล่าเรียน 18.0 4.0 3.3 - 13.7 8 จักรยานยนต์ 14.8 11.3 6.7 12.5 11.5 9 โทรศัพท์มือถือ 4.1 13.2 10.0 25.0 11.5 10 ค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เช่น เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เป็นต้น 8.2 8.4 6.7 12.5 8.3 11 อื่นๆ โน้ตบุ๊ค โครงการบ้านหลังแรก หนี้จากการพนัน 9.0 13.1 16.6 25.0 12.8 ตารางที่ 6 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุการเคยถูกข่มขู่ตามทวงหนี้จากนายทุนนอกระบบ ลำดับที่ การเคยถูกข่มขู่ตามหนี้จากนายทุนนอกระบบ ร้อยละ 1 เคย 18.4 2 ไม่เคย 81.6 รวมทั้งสิ้น 100.0 ตารางที่ 7 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุการรับทราบต่อการออกกฎหมายควบคุมธุรกิจทวงหนี้ ลำดับที่ การรับทราบต่อการออกกฎหมายควบคุมธุรกิจทวงหนี้ ร้อยละ 1 รับทราบ 42.2 2 ไม่รับทราบ 57.8 รวมทั้งสิ้น 100.0 ตารางที่ 8 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุสิ่งที่อยากให้รัฐบาล ชุดปัจจุบัน เข้ามาแก้ไขปัญหา เรื่องหนี้สินนอกระบบ (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) ลำดับที่ สิ่งที่อยากให้รัฐบาลเข้ามาแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้สินนอกระบบ ร้อยละ 1 ดอกเบี้ยไม่ควรเกินกฎหมายกำหนด 61.8 2 จัดตั้งสถาบันการเงินเพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย 51.1 3 เพิ่มบทลงโทษในตัวกฎหมาย ควบคุมเจ้าหนี้ 47.7 4 นำเจ้าหนี้มาลงทะเบียนให้ถูกต้อง 47.4 5 ขอความร่วมมือสถาบันการเงิน ปรับลดหลักเกณฑ์การกู้เงินให้ง่ายขึ้น 38.4 ตารางที่ 9 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความต้องการที่อยากให้รัฐบาลชุดปัจจุบัน ดำเนินการในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) ลำดับที่ ความต้องการที่อยากให้รัฐบาล ดำเนินการในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ร้อยละ 1 การส่งเสริมการนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้อย่างจริงจัง 63.7 2 ปรับสมดุลราคาสินค้าให้มีความสอดคล้องกับรายได้ค่าแรงขั้นต่ำ 54.0 3 จัดสวัสดิการให้กับประชาชนอย่างครอบคลุม เช่น การรักษาพยาบาล 46.1 4 รณรงค์ปลูกฝังจิตสำนึกรักแผ่นดินอย่างจริงจัง “ใช้สินค้าไทยบริโภคสินค้าไทย” 39.4 5 ส่งเสริมและสนับสนุนการทำอาชีพเสริม เช่น การฝึกฝีมือแรงงาน 38.2 5 จัดให้มีหน่วยงานให้ความรู้ด้านการออม 37.5 6 เพิ่มความโปร่งใสในการใช้งบประมาณ และเพิ่มบทลงโทษขั้นสูงสุดสำหรับการทุจริตของนักการเมือง หรือเจ้าหน้าที่รัฐฯ 36.3 7 เพิ่มช่องทางให้ทุนสนับสนุนช่วยเหลือด้านการศึกษาสำหรับเด็กที่เรียนดี 34.1 8 ลดการมีนโยบายประชานิยม เพื่อหวังผลทางการเมืองระยะสั้น 31.0 9 คัดสรรบุคลากร/นักวิชาการที่มีความรู้ความสามารถ และน่าเชื่อถือมาช่วยงานการบริหารประเทศ 29.7 10 สร้างองค์ความรู้ให้การสนับสนุนกลุ่มชาวบ้านสร้างสรรสินค้าท้องถิ่นให้มีมูลค่าทางตลาดมากขึ้น 29.3 11 ปรับระบบการศึกษาให้มีความสอดคล้องกลับกลุ่มประเทศอาเซียน 25.8 12 เร่งปรับภูมิทัศน์ และเร่งสร้างโครงสร้างพื้นฐานของการคมนาคมให้เหมาะสมกับเป็นเมืองท่องเที่ยว 25.7
--เอแบคโพลล์--