หลังจากที่นักวิจัยจากสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้นำเสนอผลสำรวจทัศนคติของคนไทยต่อการเล่นการพนัน และได้
มีหลายฝ่ายออกมาเสนอ แนวความคิดเรื่อง "การเปิดบ่อนอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือบ่อนเสรี" เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับการเล่น
การพนันของคนไทย อาทิเช่น เป็นการป้องกันเงินรั่วไหล ออกนอกประเทศกรณีที่นักพนันขนเงินไปเล่นในต่างประเทศ หารายได้เข้ารัฐ และ
ทำให้การควบคุมดูแลบ่อนการพนันเป็นไปอย่างมีระบบระเบียบ ป้องกันปัญหาอิทธิพล นอกกฎหมายนั้น ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้าง
ขวาง สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ จึงได้ดำเนินโครงการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ทั่วกรุงเทพมหานครต่อประเด็น
ดังกล่าวขึ้น ระหว่างวันที่ 19 - 20 ธันวาคม 2544 โดยพบว่า
การประสบปัญหาเด็กหรือเยาวชนที่อยู่ใกล้ชิดเล่นการพนัน ผลระบุว่า ประสบปัญหา ร้อยละ 58.4 ไม่ประสบปัญหา ร้อยละ 41.6
ตารางแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ "ข้อดี" ของการเปิดบ่อนเสรี (ระบุได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ ข้อดีของการเปิดบ่อนเสรี ร้อยละ
1เงินไม่รั่วไหล / เงินหมุนเวียนอยู่ในประเทศ 27.1
2นำรายได้เข้าประเทศ / ต่างชาตินำเงินมาเล่นพนัน 10.7
3รัฐมีรายได้ / จัดเก็บภาษีได้มากขึ้น 10.5
4ช่วยจัดระบบระเบียบการเล่นพนัน / ทำให้ถูกต้อง / ดูแลง่าย 10.2
5แก้ปัญหาอิทธิพล / การทุจริต-คอรัปชั่น / จนท.รัฐหาผลประโยชน์ 4.6
6อื่น ๆ เช่น ส่งเสริมการท่องเที่ยว ช่วยสร้างงาน ฯลฯ 10.6
หมายเหตุ มีกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 47.4 ที่ระบุว่า "ไม่มีผลดี"
ตารางแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ "ข้อเสีย" ของการเปิดบ่อนเสรี (ระบุได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ ข้อเสียของการเปิดบ่อนเสรี ร้อยละ
1มอมเมา / ทำให้คนติดการพนันมากขึ้น 32.5
2เป็นแหล่งซ่องสุมอาชญากร / สิ่งผิดกฎหมาย 21.4
3ทำให้ประชาชนมีปัญหาครอบครัว-หนี้สินมากขึ้น 12.9
4ส่งเสริมให้เยาวชนมัวเมากับอบายมุข 10.4
5ทำให้ประชาชนขาดความรับผิดชอบ / ไม่สนใจทำงาน 6.5
6อื่น ๆ เช่น สร้างปัญหาสังคม / บรรทัดฐานทางสังคมเสื่อมเร็วขึ้น / ประเทศไม่มั่นคง / ภาพลักษณ์ของประเทศแย่ลงไปอีก ฯลฯ 12.6
หมายเหตุ มีกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 23.4 . ที่ระบุว่า "ไม่มีผลเสีย"
ทั้งนี้ ตัวอย่าง ร้อยละ 30.4 ระบุว่า มีผลดีมากกว่าผลเสีย และ ร้อยละ 52.7 เห็นว่ามีผลเสียมากกว่าผลดี โดยร้อยละ 38.5
เห็นด้วยกับการเปิดบ่อนเสรี ในขณะที่ ร้อยละ 48.8 ไม่เห็นด้วย และถ้ารัฐบาลสนับสนุนให้มีการเปิดบ่อนเสรี ร้อยละ 42.9 เห็นว่าจะ
เสียความนิยม และ ร้อยละ 34.4 เห็นว่า ไม่เสียความนิยม
--เอแบคโพลล์--
มีหลายฝ่ายออกมาเสนอ แนวความคิดเรื่อง "การเปิดบ่อนอย่างถูกต้องตามกฎหมายหรือบ่อนเสรี" เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ เกี่ยวกับการเล่น
การพนันของคนไทย อาทิเช่น เป็นการป้องกันเงินรั่วไหล ออกนอกประเทศกรณีที่นักพนันขนเงินไปเล่นในต่างประเทศ หารายได้เข้ารัฐ และ
ทำให้การควบคุมดูแลบ่อนการพนันเป็นไปอย่างมีระบบระเบียบ ป้องกันปัญหาอิทธิพล นอกกฎหมายนั้น ได้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้าง
ขวาง สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ จึงได้ดำเนินโครงการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ทั่วกรุงเทพมหานครต่อประเด็น
ดังกล่าวขึ้น ระหว่างวันที่ 19 - 20 ธันวาคม 2544 โดยพบว่า
การประสบปัญหาเด็กหรือเยาวชนที่อยู่ใกล้ชิดเล่นการพนัน ผลระบุว่า ประสบปัญหา ร้อยละ 58.4 ไม่ประสบปัญหา ร้อยละ 41.6
ตารางแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ "ข้อดี" ของการเปิดบ่อนเสรี (ระบุได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ ข้อดีของการเปิดบ่อนเสรี ร้อยละ
1เงินไม่รั่วไหล / เงินหมุนเวียนอยู่ในประเทศ 27.1
2นำรายได้เข้าประเทศ / ต่างชาตินำเงินมาเล่นพนัน 10.7
3รัฐมีรายได้ / จัดเก็บภาษีได้มากขึ้น 10.5
4ช่วยจัดระบบระเบียบการเล่นพนัน / ทำให้ถูกต้อง / ดูแลง่าย 10.2
5แก้ปัญหาอิทธิพล / การทุจริต-คอรัปชั่น / จนท.รัฐหาผลประโยชน์ 4.6
6อื่น ๆ เช่น ส่งเสริมการท่องเที่ยว ช่วยสร้างงาน ฯลฯ 10.6
หมายเหตุ มีกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 47.4 ที่ระบุว่า "ไม่มีผลดี"
ตารางแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ "ข้อเสีย" ของการเปิดบ่อนเสรี (ระบุได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ ข้อเสียของการเปิดบ่อนเสรี ร้อยละ
1มอมเมา / ทำให้คนติดการพนันมากขึ้น 32.5
2เป็นแหล่งซ่องสุมอาชญากร / สิ่งผิดกฎหมาย 21.4
3ทำให้ประชาชนมีปัญหาครอบครัว-หนี้สินมากขึ้น 12.9
4ส่งเสริมให้เยาวชนมัวเมากับอบายมุข 10.4
5ทำให้ประชาชนขาดความรับผิดชอบ / ไม่สนใจทำงาน 6.5
6อื่น ๆ เช่น สร้างปัญหาสังคม / บรรทัดฐานทางสังคมเสื่อมเร็วขึ้น / ประเทศไม่มั่นคง / ภาพลักษณ์ของประเทศแย่ลงไปอีก ฯลฯ 12.6
หมายเหตุ มีกลุ่มตัวอย่างร้อยละ 23.4 . ที่ระบุว่า "ไม่มีผลเสีย"
ทั้งนี้ ตัวอย่าง ร้อยละ 30.4 ระบุว่า มีผลดีมากกว่าผลเสีย และ ร้อยละ 52.7 เห็นว่ามีผลเสียมากกว่าผลดี โดยร้อยละ 38.5
เห็นด้วยกับการเปิดบ่อนเสรี ในขณะที่ ร้อยละ 48.8 ไม่เห็นด้วย และถ้ารัฐบาลสนับสนุนให้มีการเปิดบ่อนเสรี ร้อยละ 42.9 เห็นว่าจะ
เสียความนิยม และ ร้อยละ 34.4 เห็นว่า ไม่เสียความนิยม
--เอแบคโพลล์--