จากการที่คณะกรรมการทุนรักษาระดับอัตราแลกเปลี่ยน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติว่านายเริงชัย มะระกานนท์ อดีตผู้ว่าการธปท.มีความผิดในการนำทุนสำรองเงินตราต่างประเทศไปปกป้องค่าเงินบาท จนทำให้เกิดวิกฤตเศรษฐกิจเมื่อปี 2540 นั้น ความผิดของอดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร้อยละ 34.7 เชื่อว่ากระทำผิดจริง ร้อยละ 25.1 ไม่เชื่อ และอีกร้อยละ 40.2 ไม่มีความเห็น
ความเห็นว่าอดีตผู้ว่าการธปท. ควรถูกลงโทษหรือไม่ ถ้าหากได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหาจริง ร้อยละ 62.3 กล่าวว่า ควร , ร้อยละ 15.6 กล่าวว่าไม่สมควร อีกร้อยละ 22.1 ไม่มีความเห็น โดยเฉพาะ คนที่เห็นว่า " ควรถูกลงโทษ" ระบุเหตุผลดังนี้
1) ถ้าเป็นความผิดจริงก็ควรถูกลงโทษ
2) เพราะทำให้ประเทศชาติเสียหายอย่างร้ายแรง
3) เป็นการกระทำที่ประมาท/ขาดความรับผิดชอบ
4) เชื่อว่ามีการร่วมมือกับผู้อื่นกระทำผิด
5) เป็นการทำหน้าที่อย่างไม่ถูกต้อง
6) อื่น ๆ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ฯลฯ
เฉพาะคนที่เห็นว่า "ไม่ควรถูกลงโทษ" ระบุเหตุผลดังนี้
1) มีผู้อื่นร่วมกระทำผิดด้วย
2) .เป็นการไม่ยุติธรรมที่จะให้ลงโทษเพียงคนเดียว
3) เพราะเป็นการทำตามหน้าที่
4) เชื่อว่ามีคนสั่ง/บงการอยู่ข้างหลัง
5) เป็นการกระทำด้วยความประมาท/ไม่ได้ตั้งใจ
6) ความเสียหายเกิดจากเหตุปัจจัยหลายอย่างไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวคนลำพัง
7) อื่น ๆ เช่น เชื่อว่าได้พยายามดีที่สุดแล้ว เชื่อว่ามีเจตนาดี มีเหตุผลในการกระทำ ฯลฯ
ทางด้านการระบุความรับผิดชอบของกลุ่มบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้องในการปกป้องค่าเงินบาทช่วงปี 2540 ร้อยละ 84.7 กล่าวว่า ผู้ว่าการธปท. คนอื่นในสมัยที่เกิดปัญหา ควรรับผิดชอบ อีกร้อยละ 5.4 กล่าวว่าไม่ต้องรับผิดชอบ และอีกร้อยละ 9.9 ไม่ออกความคิดเห็น ด้านความผิดของรมว.คลังในสมัยนั้น ร้อยละ 88.7 เห็นว่ามีความผิด ร้อยละ 3.4 ไม่เห็นว่ามีความผิด อีกร้อยละ 7.9 ไม่ออกความคิดเห็น ด้าน นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ร้อยละ 86.1 เห็นว่ามีความผิด ร้อยละ 4.7 เห็นว่าไม่ผิด และอีกร้อยละ 9.2 ไม่ออกความคิดเห็น
ด้านความเชื่อว่าในช่วงปี 2540 (ที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ) มีนักการเมืองแสวงหาผลประโยชน์จากการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเชื่อว่ามีนักการเมืองแสวงหาผลประโยชน์จากการปกป้องค่าเงินบาท ร้อยละ 93.4 ไม่เชื่อว่ามี ร้อยละ 1.4 และไม่มีความเห็น ร้อยละ 5.2
ความมั่นใจว่ารัฐบาลชุดนี้จะสามารถเอาผิดกับบุคคลต่างๆที่กระทำความเสียหายแก่เศรษฐกิจประเทศในช่วงที่ผ่านมาได้ร้อยละ 14.6 มั่นใจว่าสามารถจัดการได้ ร้อยละ 79.2 ไม่มั่นใจ อีกร้อยละ 6.2 ไม่มีความเห็น
ความมั่นใจว่ารัฐบาลชุดนี้จะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้ ร้อยละ 25 มั่นใจ ร้อยละ 63.8 ไม่มั่นใจ อีก 11.2 ไม่มีความเห็น
ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ
1 ตั้งใจทำงาน/เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ได้ตามที่เคยสัญญาไว้กับประชาชน
2 กำจัดการทุจริต/คอรัปชั่น
3 ดำเนินนโยบายตามแนวทางที่ได้วางไว้ต้อไป
4 ทำงานอย่างโปร่งใส/ตรวจสอบได้
5 ลดการนำเข้า/เพิ่มการส่งออก
6 บริหารงานอย่างไม่เห็นแก้พวกพ้อง
7 แก้ปัญหาการว่างงาน
8 อื่น ๆ เช่น รับฟังประชาชน ตรวจสอบการใช้เงิน กล้าคิดกล้าทำ ประหยัดค่าใช้จ่าย กระจายรายได้/โอกาสอย่างเท่าเทียม รัฐบาลมีการร่วมมืออย่างพร้อมเพรียง และปฏิรูประบบสถาบันการเงิน การธนาคาร เป็นต้น
--เอแบคโพลล์--
ความเห็นว่าอดีตผู้ว่าการธปท. ควรถูกลงโทษหรือไม่ ถ้าหากได้กระทำความผิดตามข้อกล่าวหาจริง ร้อยละ 62.3 กล่าวว่า ควร , ร้อยละ 15.6 กล่าวว่าไม่สมควร อีกร้อยละ 22.1 ไม่มีความเห็น โดยเฉพาะ คนที่เห็นว่า " ควรถูกลงโทษ" ระบุเหตุผลดังนี้
1) ถ้าเป็นความผิดจริงก็ควรถูกลงโทษ
2) เพราะทำให้ประเทศชาติเสียหายอย่างร้ายแรง
3) เป็นการกระทำที่ประมาท/ขาดความรับผิดชอบ
4) เชื่อว่ามีการร่วมมือกับผู้อื่นกระทำผิด
5) เป็นการทำหน้าที่อย่างไม่ถูกต้อง
6) อื่น ๆ เช่น ต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ฯลฯ
เฉพาะคนที่เห็นว่า "ไม่ควรถูกลงโทษ" ระบุเหตุผลดังนี้
1) มีผู้อื่นร่วมกระทำผิดด้วย
2) .เป็นการไม่ยุติธรรมที่จะให้ลงโทษเพียงคนเดียว
3) เพราะเป็นการทำตามหน้าที่
4) เชื่อว่ามีคนสั่ง/บงการอยู่ข้างหลัง
5) เป็นการกระทำด้วยความประมาท/ไม่ได้ตั้งใจ
6) ความเสียหายเกิดจากเหตุปัจจัยหลายอย่างไม่ได้ขึ้นอยู่กับตัวคนลำพัง
7) อื่น ๆ เช่น เชื่อว่าได้พยายามดีที่สุดแล้ว เชื่อว่ามีเจตนาดี มีเหตุผลในการกระทำ ฯลฯ
ทางด้านการระบุความรับผิดชอบของกลุ่มบุคคลต่างๆที่เกี่ยวข้องในการปกป้องค่าเงินบาทช่วงปี 2540 ร้อยละ 84.7 กล่าวว่า ผู้ว่าการธปท. คนอื่นในสมัยที่เกิดปัญหา ควรรับผิดชอบ อีกร้อยละ 5.4 กล่าวว่าไม่ต้องรับผิดชอบ และอีกร้อยละ 9.9 ไม่ออกความคิดเห็น ด้านความผิดของรมว.คลังในสมัยนั้น ร้อยละ 88.7 เห็นว่ามีความผิด ร้อยละ 3.4 ไม่เห็นว่ามีความผิด อีกร้อยละ 7.9 ไม่ออกความคิดเห็น ด้าน นายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ร้อยละ 86.1 เห็นว่ามีความผิด ร้อยละ 4.7 เห็นว่าไม่ผิด และอีกร้อยละ 9.2 ไม่ออกความคิดเห็น
ด้านความเชื่อว่าในช่วงปี 2540 (ที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ) มีนักการเมืองแสวงหาผลประโยชน์จากการกำหนดอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราเชื่อว่ามีนักการเมืองแสวงหาผลประโยชน์จากการปกป้องค่าเงินบาท ร้อยละ 93.4 ไม่เชื่อว่ามี ร้อยละ 1.4 และไม่มีความเห็น ร้อยละ 5.2
ความมั่นใจว่ารัฐบาลชุดนี้จะสามารถเอาผิดกับบุคคลต่างๆที่กระทำความเสียหายแก่เศรษฐกิจประเทศในช่วงที่ผ่านมาได้ร้อยละ 14.6 มั่นใจว่าสามารถจัดการได้ ร้อยละ 79.2 ไม่มั่นใจ อีกร้อยละ 6.2 ไม่มีความเห็น
ความมั่นใจว่ารัฐบาลชุดนี้จะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศได้ ร้อยละ 25 มั่นใจ ร้อยละ 63.8 ไม่มั่นใจ อีก 11.2 ไม่มีความเห็น
ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ
1 ตั้งใจทำงาน/เร่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจให้ได้ตามที่เคยสัญญาไว้กับประชาชน
2 กำจัดการทุจริต/คอรัปชั่น
3 ดำเนินนโยบายตามแนวทางที่ได้วางไว้ต้อไป
4 ทำงานอย่างโปร่งใส/ตรวจสอบได้
5 ลดการนำเข้า/เพิ่มการส่งออก
6 บริหารงานอย่างไม่เห็นแก้พวกพ้อง
7 แก้ปัญหาการว่างงาน
8 อื่น ๆ เช่น รับฟังประชาชน ตรวจสอบการใช้เงิน กล้าคิดกล้าทำ ประหยัดค่าใช้จ่าย กระจายรายได้/โอกาสอย่างเท่าเทียม รัฐบาลมีการร่วมมืออย่างพร้อมเพรียง และปฏิรูประบบสถาบันการเงิน การธนาคาร เป็นต้น
--เอแบคโพลล์--