ผลกระทบจากกรณีรัฐบาลเปลี่ยนตัวผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ข่าวซึ่งเป็นที่ฮิตติดปาก, ,มีคนพูดคุยกันไปทั่วทุกวงการ และเป็นกระแสข่าวที่ทำให้คนไทยทุกหย่อมหญ้าต้องหันมาดูการทำงานของ รัฐบาลมากที่สุดในขณะนี้คงไม่พ้น ข่าว การเปลี่ยนตัว(ปลด) ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยนั่นเอง, จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างที่เป็นพนักงานแบงก์ชาติ - ผู้บริหารและพนักงานสถาบันการเงินการธนาคารและประชาชนผู้ซื้อขายหุ้น พบว่า มี พนักงานแบงก์ชาติ มากถึง ร้อยละ 36.4ที่ไม่เห็นด้วยที่มีการเปลี่ยนตัวผู้ว่าการฯ แต่ในทางกลับกัน ผู้บริหาร และ พนักงาน การเงิน / การธนาคารร้อยละ 47.9 ระบุว่า เห็นด้วยที่มีการเปลี่ยนแปลง
สำหรับประชาชนคนเล่นหุ้นนั้นมีมากถึง ร้อยละ 52.8 ครับที่ระบุเสริมเข้ามาในทิศทางเดียวกันว่า เห็นด้วยที่มีการเปลี่ยนหัวเรือใหญ่ ของแบงก์ชาติคนที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยนั้น, เขาคิดว่าอะไรกันบ้างหลายท่านอาจต้องการรู้ให้ลึกลงไป
เอแบคโพลล์ได้ประมวลผลไว้ให้ท่านผู้อ่านเสร็จสรรพแล้วครับ....คนที่เห็นด้วยที่มีการเปลี่ยนตัวผู้ว่าการฯนั้น ระบุว่าเพราะ จะทำให้เกิดเอกภาพในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจ, ผู้ว่าคนใหม่มีความประนีประนอม ทำให้น่าจะประสานงานกับรัฐบาลได้ดีกว่า เป็นต้น
ส่วนฝั่งที่ไม่เห็นด้วยที่มีการเปลี่ยนแปลงนั้นระบุว่า ท่านผู้ว่า การฯคนเดิมนั้นซื่อสัตย์สุจริต ตรงไปตรงมา, มีความรู้และประสบการณ์สูง และ ถือว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นการแทรกแซงธนาคารชาติ เป็นต้น
มาดูผลดีและผลเสียของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้กันครับ ในส่วนที่เป็นผลเสีย(ในระยะสั้น)นั้น ร้อยละ 46.7 ระบุว่า ทำให้ นักลงทุนต่างชาติขาดความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจของประเทศ, ร้อยละ31.2 บอกว่าจะทำให้เกิดการขาดความเชื่อมั่นในความเป็นอิสระของแบงก์ชาติ เป็นต้น แต่เมื่อ หันกลับมาฟังเสียงจากฝ่ายที่บอกว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นผลดี(ในระยะสั้น) จะพบว่า ร้อยละ 41.3 ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ทำให้เกิดความเป็นเอกภาพในการแก้ปัญหา เศรษฐกิจ และ มีผลดีต่อนโยบายอัตราดอกเบี้ยของรัฐบาล(ร้อยละ 17.3)
นอกจากนี้.... จุดที่เป็นหัวใจของการสำรวจในครั้งนี้ก็คือ ระดับความมั่นใจในนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ ของรัฐบาลทักษิณนั้น ผู้ตอบแบบสอบถามจากทุกกลุ่มระบุว่า "ไม่ค่อยมั่นใจ" โดยที่มีสัดส่วน ดังนี้ พนักงานแบงก์ ร้อยละ 35.8,ผู้บริหารและพนักงาน การเงิน / การธนาคาร ร้อยละ 34.9 และ ประชาชนผู้ซื้อขายหุ้น ร้อยละ 36.3.....ท่านทักษิณครับ....สงสัย workshop ทางเศรษฐกิจของท่านจะไม่ค่อย work นะครับ
--เอแบคโพลล์--
สำหรับประชาชนคนเล่นหุ้นนั้นมีมากถึง ร้อยละ 52.8 ครับที่ระบุเสริมเข้ามาในทิศทางเดียวกันว่า เห็นด้วยที่มีการเปลี่ยนหัวเรือใหญ่ ของแบงก์ชาติคนที่เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยนั้น, เขาคิดว่าอะไรกันบ้างหลายท่านอาจต้องการรู้ให้ลึกลงไป
เอแบคโพลล์ได้ประมวลผลไว้ให้ท่านผู้อ่านเสร็จสรรพแล้วครับ....คนที่เห็นด้วยที่มีการเปลี่ยนตัวผู้ว่าการฯนั้น ระบุว่าเพราะ จะทำให้เกิดเอกภาพในการแก้วิกฤตเศรษฐกิจ, ผู้ว่าคนใหม่มีความประนีประนอม ทำให้น่าจะประสานงานกับรัฐบาลได้ดีกว่า เป็นต้น
ส่วนฝั่งที่ไม่เห็นด้วยที่มีการเปลี่ยนแปลงนั้นระบุว่า ท่านผู้ว่า การฯคนเดิมนั้นซื่อสัตย์สุจริต ตรงไปตรงมา, มีความรู้และประสบการณ์สูง และ ถือว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นการแทรกแซงธนาคารชาติ เป็นต้น
มาดูผลดีและผลเสียของการเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้กันครับ ในส่วนที่เป็นผลเสีย(ในระยะสั้น)นั้น ร้อยละ 46.7 ระบุว่า ทำให้ นักลงทุนต่างชาติขาดความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจของประเทศ, ร้อยละ31.2 บอกว่าจะทำให้เกิดการขาดความเชื่อมั่นในความเป็นอิสระของแบงก์ชาติ เป็นต้น แต่เมื่อ หันกลับมาฟังเสียงจากฝ่ายที่บอกว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้เป็นผลดี(ในระยะสั้น) จะพบว่า ร้อยละ 41.3 ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า ทำให้เกิดความเป็นเอกภาพในการแก้ปัญหา เศรษฐกิจ และ มีผลดีต่อนโยบายอัตราดอกเบี้ยของรัฐบาล(ร้อยละ 17.3)
นอกจากนี้.... จุดที่เป็นหัวใจของการสำรวจในครั้งนี้ก็คือ ระดับความมั่นใจในนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ ของรัฐบาลทักษิณนั้น ผู้ตอบแบบสอบถามจากทุกกลุ่มระบุว่า "ไม่ค่อยมั่นใจ" โดยที่มีสัดส่วน ดังนี้ พนักงานแบงก์ ร้อยละ 35.8,ผู้บริหารและพนักงาน การเงิน / การธนาคาร ร้อยละ 34.9 และ ประชาชนผู้ซื้อขายหุ้น ร้อยละ 36.3.....ท่านทักษิณครับ....สงสัย workshop ทางเศรษฐกิจของท่านจะไม่ค่อย work นะครับ
--เอแบคโพลล์--