เอยูโพล: ความเครียดของคนกรุงฯ ภายในสถานการณ์โควิด-19

ข่าวผลสำรวจ Wednesday July 1, 2020 11:08 —เอแบคโพลล์

สถาบันวิจัยและบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอยูโพล) เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่องความเครียดของคนกรุงฯ ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 จำนวนทั้งสิ้น 1,216 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 1–30 มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมา พบว่า

ตัวอย่างเกินครึ่งหรือร้อยละ 51.9 เป็นหญิง และร้อยละ 48.1 เป็นชาย เมื่อจำแนกออกเป็นช่วงอายุ พบว่า ร้อยละ 17.7 มีอายุต่ำกว่า 25 ปี ร้อยละ 21.8 มีอายุ 25-35 ปี ร้อยละ 33.5 มีอายุ 36-50 ปี และร้อยละ 27.0 มีอายุมากกว่า 50 ปี ด้านสถานภาพสมรส พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 50.2 สมรสแล้ว ร้อยละ 42.1 เป็นโสด และร้อยละ 7.7 เป็นหม้าย/หย่า/แยกกันอยู่ ส่วนการศึกษาที่สำเร็จมาชั้นสูงสุด พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 61.5 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ร้อยละ 32.2 ระดับปริญญาตรี และร้อยละ 6.3 ระดับสูงกว่าปริญญาตรี ส่วนรายได้ส่วนตัวเฉลี่ยต่อเดือน พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 22.3 มีรายได้ต่ำกว่า 10,000 บาท ร้อยละ 43.7 มีรายได้ 10,001-20,000 บาท ร้อยละ 22.1 มีรายได้ 20,001-30,000 บาท และร้อยละ 11.9 มีรายได้สูงกว่า 30,000 บาท สำหรับอาชีพ 3 อันดับแรก ได้แก่ ร้อยละ 27.1 อาชีพพนักงานบริษัทเอกชน รองลงมาคือร้อยละ 26.3 อาชีพค้าขาย และร้อยละ 11.3 อาชีพค้าขายและนักเรียนนักศึกษาในสัดส่วนที่เท่ากัน ? คนกรุงฯ กว่าร้อยละ 80 เครียดภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ...

ผลสำรวจดัชนีความเครียดประจำเดือนมิถุนายน 2563 ในภาพรวม พบว่า คนกรุงฯ ร้อยละ 83.1 มีความเครียดเกิดขึ้นภายใต้สถานการณ์โควิด-19 โดยความเครียดมาจากสาเหตุ

  • ร้อยละ 75.8 เครียดกับเรื่องรายได้และหน้าที่การงาน
  • ร้อยละ 69.4 กลัวว่าจะติดโรคโควิด-19
  • ร้อยละ 46.1 ความเครียดเรื่องสุขภาพ
  • นอกจากนี้ความเครียดที่เกิดขึ้นเกิดจากความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน การเรียนออนไลน์ การทำงานในรูปแบบใหม่ Work from home ตลอดจน

ปัญหาครอบครัวที่เกิดขึ้น

เกือบครึ่งรายได้ลดลงเพราะพิษเศรษฐกิจ ...

จากสถานการณ์โควิด-19 ในปัจจุบัน ส่งผลต่อชีวิตความเป็นอยู่ของคนกรุงฯ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องปากท้องของประชาชน โดยผลที่ได้รับจากสภาวะ เศรษฐกิจปัจจุบันคือ ทำให้รายได้ลดลง (ร้อยละ 45.2) ธุรกิจได้รับผลกระทบ (ร้อยละ 16.1) ไม่มีเงินใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน (ร้อยละ 11.6) เป็นหนี้มากขึ้น (ร้อยละ 10.2) และไม่มีงานทำ (ร้อยละ 7.7)

ทุกเพศวัยเครียดเรื่องเศรษฐกิจมากที่สุด ...

เมื่อพิจารณาความเครียดในแต่ละวัย พบว่า คนกรุงฯ ในช่วงวัยทำงานมีความเครียดเรื่องเศรษฐกิจ/การเงิน การงาน มากกว่าช่วงวัยอื่นๆ ส่วน GEN Z (ช่วงอายุ 15-18 ปี) เครียดว่าจะติดโรคโควิด-19 และเครียดเกี่ยวกับคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว คนรัก หรือเพื่อน มากกว่าเรื่องอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่ ด้านสุขภาพ GEN B (อายุมากกว่า 50 ปี) เครียดเรื่องสุขภาพมากกว่าช่วงวัยอื่นๆ ส่วนการใช้รูปแบบการดำเนินชีวิตที่ต่างจากเดิมหรือ New Normal ทุกช่วงวัยไม่ได้เครียด กับเรื่องดังกล่าวมากนัก เพราะทุกคนได้ยึดถือปฏิบัติตามแนวนโยบายของรัฐบาลมาระยะหนึ่งจนเกิดความเคยชินและถือว่าเป็นการใช้ชีวิตแบบปกติไปแล้ว

ดูแลสุขภาพตัวเองและยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียงเป็นทางออกภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน...

จากผลการสำรวจพบว่า การวางแผนชีวิตในอนาคตข้างหน้าภายใต้สถานการณ์โควิด-19 คนกรุงฯ ส่วนใหญ่จะใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น (ร้อยละ 53.7) ใช้จ่ายประหยัด ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง (ร้อยละ 50.2) นอกจากนี้จะวางแผนการใช้เงินอย่างมีระบบ (ร้อยละ 49.2) ไม่ประมาท ไม่ไปสถานที่มีความเสี่ยง (ร้อยละ 40.1) และติดตามข่าวสารสถานการณ์ต่างๆ (ร้อยละ 35.9) นอกจากนี้ยังต้องหารายได้เพิ่ม ลด/ปรับเปลี่ยนรูปแบบการลงทุน หรืออาจกู้ยืมเงินจากแหล่งต่างๆ ตลอดจนกลับไปทำงานที่ภูมิลำเนา เพื่อให้สามารถดำเนินชีวิตต่อได้ภายใต้สถานการณ์ปัจจุบัน

โปรดพิจารณารายละเอียดดังต่อไปนี้
ตารางที่ 1 ค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความเครียดภายใต้สถานการณ์โควิด-19
ลำดับที่      ความเครียด                                   ร้อยละ
  1        เครียดมาก-มากที่สุด                              31.1
  2        เครียดปานกลาง                                 28.1
  3        เครียดน้อย-น้อยที่สุด                              23.9
  4        ไม่เครียดเลย                                   16.9
           รวมทั้งสิ้น                                     100.0

ตารางที่ 2 ค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความเครียดในแต่ละด้าน จำแนกตาม Generation
ลำดับที่   ความเครียด                                                            Generation                                 ภาพรวม
                                                   Gen Z         Gen M         Gen Y         Gen X         Gen B
  1     เศรษฐกิจ การเงิน การงาน                       48.6          68.1          79.6          82.1          74.4          75.8
  2     กลัวว่าจะติดโรคโควิด-19                         81.5          72.6          60.8          70.1          71.9          69.4
  3     สุขภาพ                                       50.0          44.7          44.9          43.2          50.3          46.1
  4     คนรอบข้าง ครอบครัว เพื่อน คนรัก                  52.7          48.2          46.8          42.8          34.5          42.6
  5     รูปแบบการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนไป (New Normal)       32.3          28.2          43.1          36.3          39.0          37.3

ตารางที่ 3  ค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุการวางแผนชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)

ลำดับที่   การวางแผนชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19             ร้อยละ
  1     ใส่ใจดูแลสุขภาพมากขึ้น                           53.7
  2     ประหยัด ยึดหลักเศรษฐกิจพอเพียง                   50.2
  3     วางแผนการใช้เงินอย่างมีระบบ                     49.2
  4     ไม่ประมาท ไม่ไปสถานที่สุ่มเสี่ยง                    40.1
  5     ติดตามข่าวสารสถานการณ์ต่างๆ                     35.9
  6     หารายได้เพิ่ม                                  28.0
  7     ลด/ปรับเปลี่ยนรูปแบบการลงทุน                      5.5
  8     กู้ยืมเงินจากแหล่งต่างๆ                            5.0
  9     กลับไปทำงานที่ภูมิลำเนา/ต่างจังหวัด                  4.1

เอยูโพลมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ

โทร. 0-2723-2163-8

ที่มา: เอยูโพล


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ