ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยโพลล์เลือกตั้ง เรื่อง โค้งแรกเลือกตั้งผู้ ว่า ฯ กทม. ใครนำใครตาม กรณีศึกษาประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวนตัวอย่างทั้งสิ้น 2,207 ตัวอย่าง มีระยะเวลาการ ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 3 — 8 ธันวาคม 2551 พบว่า ประชาชนที่ถูกศึกษาส่วนใหญ่หรือ ร้อยละ 81.3 ยังไม่ทราบวันเลือกตั้งผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร ในขณะที่ร้อยละ 18.7 ระบุว่าทราบแล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อถามถึงผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ตั้งใจจะเลือกเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนต่อไป พบว่า อันดับแรก หรือร้อยละ 37.0 ตั้งใจจะเลือก ม.ล.ณัฎฐกรณ์ เทวกุล อย่างไรก็ตาม อันดับที่สอง ได้ค่าร้อยละไม่แตกต่างกันในทางสถิติคือร้อยละ 36.4 ตั้งใจจะเลือก ม.ร. ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร และอันดับที่สาม หรือ ร้อยละ 17.3 ตั้งใจจะเลือก นายยุรนันท์ ภมรมนตรี ในขณะที่ ร้อยละ 9.3 ตั้งใจจะเลือกคน อื่นๆ เช่น นายแก้วสรร อติโพธิ นายสุเมธ ตันธนาศิริกุล นางลีน่า จังจรรจา เป็นต้น
ที่น่าสนใจคือ เมื่อจำแนกกลุ่มคนที่ถูกศึกษาออกตามเพศ พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้หญิงมีสัดส่วนของคนที่ตั้งใจจะเลือก ม.ล.ณัฏฐกรณ์ เท วกุล มากกว่ากลุ่มตัวอย่างที่เป็นชาย อยู่เล็กน้อย คือร้อยละ 38.3 ต่อ ร้อยละ 35.5 ในทางตรงกันข้าม กลุ่มตัวอย่างที่เป็นชาย มีสัดส่วนของคนที่ ตั้งใจจะเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร มากกว่า กลุ่มตัวอย่างที่เป็นหญิง อยู่เล็กน้อย คือ ร้อยละ 37.3 ต่อ ร้อยละ 35.6 ตามลำดับ ในขณะที่กลุ่ม ตัวอย่างที่ตั้งใจจะเลือก นายยุรนันท์ ภมรมนตรี มีสัดส่วนไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มตัวอย่างที่เป็นชายกับกลุ่มตัวอย่างที่เป็นหญิง คือ ร้อยละ 17.0 ต่อ ร้อยละ 17.5
ดร.นพดล กล่าวต่อว่า เมื่อจำแนกตามกลุ่มช่วงอายุ พบประเด็นที่น่าพิจารณาคือ ม.ล.ณัฎฐกรณ์ ได้รับการสนับสนุนแรงจากกลุ่มช่วงอายุ สามกลุ่ม คือ กลุ่มตัวอย่างที่อายุต่ำกว่า 20 ปี กลุ่มตัวอย่างที่อายุระหว่าง 20 — 29 ปี และกลุ่มตัวอย่างอายุ 40 — 49 ปี คือ ร้อยละ 33.8 ต่อ ร้อยละ 39.4 และร้อยละ 39.4 ตามลำดับ ในขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ได้รับการสนับสนุนแรงจาก กลุ่มช่วงอายุสองกลุ่ม คือ กลุ่มคนอายุ 30 — 39 ปี และกลุ่มคนอายุ 50 ปีขึ้นไป คือ ร้อยละ 40.8 และร้อยละ 39.5 ตามลำดับ
และเมื่อจำแนกตามระดับการศึกษา พบความแตกต่างกัน คือ ม.ล.ณัฎฐกรณ์ ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มตัวอย่างที่มีการศึกษาต่ำกว่า ปริญญาตรี และปริญญาตรี ในสัดส่วนที่เท่ากัน คือ ร้อยละ 37.4 ในขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ได้รับการสนับสนุนมากที่สุดจากกลุ่มตัวอย่างที่มีการศึกษาสูง กว่าปริญญาตรี คือร้อยละ 61.7 และปริญญาตรีร้อยละ 42.0 แต่ได้รับการสนับสนุนจากตัวอย่างที่มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีอยู่ร้อยละ 32.8 ตาม ลำดับ
ดร.นพดล กล่าวต่อว่า เมื่อมาพิจารณาที่กลุ่มอาชีพ พบความแตกต่างกันอีกเช่นกัน คือ ม.ล.ณัฎฐกรณ์ ได้รับการสนับสนุนแรงจากกลุ่มข้า ราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ คือ ร้อยละ 42.7 และกลุ่มแม่บ้านรวมทั้งผู้เกษียณอายุ คือร้อยละ 38.8 และกลุ่มรับจ้างใช้แรงงานทั่วไป ร้อยละ 38.6 ในขณะที่ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ได้รับการสนับสนุนแรงจาก กลุ่มพนักงานบริษัทเอกชน ร้อยละ 41.2 กลุ่มผู้ค้าขายส่วนตัว ร้อยละ 40.1 และกลุ่มนัก เรียนนักศึกษา ร้อยละ 37.4 ตามลำดับ
เมื่อจำแนกตามระดับรายได้ พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่มีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 5,000 บาท ร้อยละ 39.1 ตั้งใจจะเลือก ม.ล.ณัฎฐกรณ์ และกลุ่มผู้มีรายได้ระหว่าง 10,001 — 15,000 บาทต่อเดือน ร้อยละ 45.2 ตั้งใจจะเลือก ม.ล.ณัฎฐกรณ์ อย่างไรก็ตาม ในกลุ่มตัวอย่างที่มีรายได้ สูงกว่า 20,000 บาทขึ้นไป กลับพบว่าสูสีกัน คือ ร้อยละ 40.1 จะเลือก ม.ล.ณัฎฐกรณ์ แต่ ร้อยละ 43.1 ตั้งใจจะเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธ์
และเมื่อจำแนกตามจุดยืนทางการเมือง พบว่า กลุ่มตัวอย่างที่สนับสนุนรัฐบาล ร้อยละ 50.2 ตั้งใจจะเลือก ม.ล.ณัฎฐกรณ์ เทวกุล ใน
ขณะที่ร้อยละ 26.4 ระบุตั้งใจจะเลือก นายยุรนันท์ ภมรมนตรี และร้อยละ 16.1 ระบุตั้งใจจะเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร สำหรับ ในกลุ่มผู้ที่ไม่สนับสนุนรัฐบาลนั้น ร้อยละ 77.1 ระบุตั้งใจจะเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ในขณะที่ร้อยละ 12.8 ระบุตั้งใจจะเลือก 12.8 ตั้งใจจะเลือก ม.ล.ณัฎฐกรณ์ และร้อยละ 4.4 ระบุ ตั้งจะเลือก นายยุรนันท์ อย่างไรก็ตาม สำหรับกลุ่มพลังเงียบนั้น ร้อยละ 36.6 ระบุ ตั้งใจจะเลือก ม.ล.ณัฎ ฐกรณ์ ร้อยละ 36.7 ระบุตั้งใจจะเลือก ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ และร้อยละ 16.0 ระบุตั้งใจจะเลือก นายยุรนันท์ ตามลำดับ
แต่ที่ต้องพิจารณาคือ กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 35.1 ระบุอาจเปลี่ยนใจได้อีก ร้อยละ 30.7 ระบุไม่เปลี่ยนใจแล้ว และ ร้อยละ 34.2 ไม่ ระบุว่าจะเปลี่ยนใจอีกหรือไม่
ส่วนคุณสมบัติของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ตัวอย่างระบุเป็นเหตุผลในการเลือก ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 62.3 ระบุซื่อ สัตย์สุจริต รองลงมาคือร้อยละ 58.0 ระบุมีวิสัยทัศน์กว้างไกล รู้จักป้องกันปัญหา ร้อยละ 55.3 ระบุกล้าคิดกล้าทำ ร้อยละ 51.4 ระบุรวดเร็วฉับไว แก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน ร้อยละ 47.3 ระบุเข้าถึงใกล้ชิดประชาชน ร้อยละ 46.7 ระบุมีผลงานเห็นได้ชัดเจน เป็นต้น ส่วนเรื่องการสังกัด พรรคการเมืองมีประชาชนที่ตอบแบบสอบถามเพียงร้อยละ 10.4 ที่มองว่าเป็นเหตุผลสำคัญหลักในการตัดสินใจเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งครั้งนี้
ดร.นพดล เปิดเผยด้วยว่า ปัญหาเร่งด่วนของคนกรุงเทพฯ ที่ตัวอย่างอยากให้แก้ไข อันดับแรกหรือร้อยละ 60.3 ระบุเป็นปัญหาจราจร รองลงมาคือ ร้อยละ 48.2 ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง ร้อยละ 21.2 ระบุปัญหาความไม่สะอาด สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ ร้อยละ 13.5 ระบุปัญหา สังคม ที่อยู่อาศัยแออัด และร้อยละ 8.7 ระบุปัญหาความไม่ปลอดภัย ปัญหาอาชญากรรม แต่เมื่อถามถึงปัญหาเร่งด่วนของครอบครัวและตัวผู้ตอบแบบสอบ ถาม กลับพบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 89.0 ระบุเป็นปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการเงิน ปัญหาปากท้อง รองลงมาคือร้อยละ 14.5 เท่านั้นที่ระบุปัญหา จราจร และร้อยละ 7.8 ระบุปัญหาชุมชน ที่อยู่อาศัยแออัด เป็นต้น
รายละเอียดงานวิจัย
1. เพื่อสำรวจการรับทราบของประชาชนต่อการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนใหม่
2. เพื่อสำรวจความนิยมของประชาชนต่อผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
3. เพื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจศึกษาในเรื่องนี้อย่างลึกซึ้งต่อไป
โครงการสำรวจภาคสนามของสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ในครั้งนี้เรื่อง โค้งแรกเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ใครนำใคร ตาม กรณีศึกษาประชาชนที่มีสิทธิเลือกตั้งในเขตกรุงเทพมหานคร จำนวนตัวอย่างทั้งสิ้น 2,207 ตัวอย่าง มีระยะเวลาการดำเนินโครงการระหว่างวัน ที่ 3 — 8 ธันวาคม 2551 เทคนิควิธีการสุ่มตัวอย่าง ได้แก่ การสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น และกำหนดลักษณะของตัวอย่างให้สอดคล้อง กับประชากรเป้าหมายจากการทำสำมะโน ช่วงความเชื่อมั่นอยู่ในระดับร้อยละ 95 ขณะที่ขอบเขตความคลาดเคลื่อนจากการกำหนดขนาดตัวอย่างอยู่ที่ +/- ร้อยละ 5 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถาม วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ การสัมภาษณ์ หลังจากนั้นคณะผู้วิจัยได้ตรวจ สอบความถูกต้องสมบูรณ์ของแบบสอบถามทุกชุดก่อนนำเข้าวิเคราะห์ข้อมูลและงบประมาณเป็นของมหาวิทยาลัย โดยมีคณะผู้วิจัย จำนวนทั้งสิ้น 94 คน
จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของ
ตัวอย่าง ร้อยละ 53.4 เป็นเพศหญิง
ร้อยละ 46.6 เป็นเพศชาย
ร้อยละ 8.3 ระบุอายุต่ำกว่า 20 ปี
ร้อยละ 24.8 อายุระหว่าง 20 — 29 ปี
ร้อยละ 27.0 อายุระหว่าง 30 — 39 ปี
ร้อยละ 23.2 อายุระหว่าง 40 — 49 ปี
และร้อยละ 16.7 อายุ 50 ปีขึ้นไป
ตัวอย่าง ร้อยละ 67.5 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี
รองลงมาคือร้อยละ 30.0 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
และร้อยละ 2.5 สำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี
ตัวอย่าง ร้อยละ 6.1 อาชีพข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ
ร้อยละ 17.7 เป็นพนักงานเอกชน/ลูกจ้างเอกชน
ร้อยละ 38.8 มีธุรกิจส่วนตัว/อาชีพอิสระ/ค้าขาย
ร้อยละ 19.2 รับจ้างทั่วไป
ร้อยละ 7.9 เป็นพ่อบ้าน/เกษียณอายุ
ร้อยละ 2.3 ระบุว่างงาน/ไม่มีรายได้/ไม่ประกอบอาชีพ/ตกงาน
โปรดพิจารณาประเด็นสำคัญที่ค้นพบในตารางต่อไปนี้
ลำดับที่ การรับทราบวันเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ค่าร้อยละ 1 ทราบว่าเป็นวันอาทิตย์ที่ 11 มกราคม 2552 18.7 2 ไม่ทราบ 81.3 รวมทั้งสิ้น 100.0 ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ รายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งที่ตั้งใจจะเลือกเป็น ผู้ว่าฯ กทม. ลำดับที่ รายชื่อ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ค่าร้อยละ 1 ม.ล.ณัฎฐกรณ์ เทวกุล 37.0 2 ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร 36.4 3 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี 17.3 4 อื่นๆ อาทิ นายแก้วสรร อติโพธิ นายสุเมธ ตันธนาศิริกุล นางลีน่า จังจรรจา เป็นต้น 9.3 รวมทั้งสิ้น 100.0
หมายเหตุ ค่าความคลาดเคลื่อน +/- ร้อยละ 5
ลำดับที่ รายชื่อ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ชาย หญิง 1 ม.ล.ณัฎฐกรณ์ เทวกุล 35.5 38.3 2 ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร 37.3 35.6 3 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี 17.0 17.5 4 อื่นๆ อาทิ นายแก้วสรร อติโพธิ /นายสุเมธ ตันธนาศิริกุล /นางลีน่า จังจรรจา เป็นต้น 10.2 8.6 รวมทั้งสิ้น 100.0 100.0
หมายเหตุ ค่าความคลาดเคลื่อน +/- ร้อยละ 5
ลำดับที่ รายชื่อ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ต่ำกว่า 20 ปี 20 — 29 ปี 30 — 39 ปี 40 — 49 ปี 50 ปีขึ้นไป 1 ม.ล.ณัฎฐกรณ์ เทวกุล 33.8 39.4 35.7 39.4 34.0 2 ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร 26.1 31.5 40.8 37.5 39.5 3 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี 18.3 17.4 17.1 15.6 19.6 4 อื่นๆ อาทิ นายแก้วสรร อติโพธิ นายสุเมธ ตันธนาศิริกุล นางลีน่า จังจรรจา เป็นต้น 21.8 11.7 6.4 7.5 6.9 รวมทั้งสิ้น 100.0 100.0 100.0 100.0 100.0
หมายเหตุ ค่าความคลาดเคลื่อน +/- ร้อยละ 5
ลำดับที่ รายชื่อ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ต่ำกว่าปริญญาตรี ปริญญาตรี สูงกว่าปริญญาตรี 1 ม.ล.ณัฎฐกรณ์ เทวกุล 37.4 37.4 27.7 2 ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร 32.8 42.0 61.7 3 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี 18.9 14.0 8.5 4 อื่นๆ อาทิ นายแก้วสรร อติโพธิ นายสุเมธ ตันธนาศิริกุล นางลีน่า จังจรรจา เป็นต้น 10.9 6.6 2.1 รวมทั้งสิ้น 100.0 100.0 100.0
หมายเหตุ ค่าความคลาดเคลื่อน +/- ร้อยละ 5
ลำดับที่ รายชื่อ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ข้าราชการ พนักงาน ค้าขาย นักเรียน รับจ้าง แม่บ้าน รัฐวิสาหกิจ บริษัทเอกชน ส่วนตัว นักศึกษา ใช้แรงงาน เกษียณอายุ 1 ม.ล.ณัฎฐกรณ์ เทวกุล 42.7 36.6 36.8 30.9 38.6 38.8 2 ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร 37.9 41.2 40.1 37.4 28.3 27.6 3 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี 15.5 16.0 14.9 12.9 21.7 25.4 4 อื่นๆ อาทิ นายแก้วสรร อติโพธิ นายสุเมธ ตันธนาศิริกุล นางลีน่า จังจรรจา เป็นต้น 3.9 6.2 8.2 18.8 11.4 8.2 รวมทั้งสิ้น 100.0 100.0 100.0 100.0 100.0 100.0
หมายเหตุ ค่าความคลาดเคลื่อน +/- ร้อยละ 5
ลำดับที่ รายชื่อ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ต่ำกว่า 5,000 — 10,001 — 15,001 มากกว่า
5,000 บาท/เดือน 10,000 บ. 15,000 บ. —20,000 บ. 20,000 บ.
1 ม.ล.ณัฎฐกรณ์ เทวกุล 39.1 32.1 45.2 34.5 40.1 2 ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร 30.5 37.2 30.4 39.2 43.1 3 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี 18.1 18.1 18.4 20.5 11.2 4 อื่นๆ อาทิ นายแก้วสรร อติโพธิ นายสุเมธ ตันธนาศิริกุล นางลีน่า จังจรรจา เป็นต้น 12.3 12.6 6.0 5.8 5.6 รวมทั้งสิ้น 100.0 100.0 100.0 100.0 100.0
หมายเหตุ ค่าความคลาดเคลื่อน +/- ร้อยละ 5
ลำดับที่ รายชื่อ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง สนับสนุนรัฐบาล ไม่สนับสนุนรัฐบาล ขออยู่ตรงกลาง(พลังเงียบ) 1 ม.ล.ณัฎฐกรณ์ เทวกุล 50.2 12.8 36.6 2 ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร 16.1 77.1 36.7 3 นายยุรนันท์ ภมรมนตรี 26.4 4.4 16.0 4 อื่นๆ อาทิ นายแก้วสรร อติโพธิ นายสุเมธ ตันธนาศิริกุล นางลีน่า จังจรรจา เป็นต้น 7.3 5.7 10.7 รวมทั้งสิ้น 100.0 100.0 100.0
หมายเหตุ ค่าความคลาดเคลื่อน +/- ร้อยละ 5
ลำดับที่ ความคิดเห็นของตัวอย่าง ค่าร้อยละ 1 อาจเปลี่ยนใจได้อีก 35.1 2 ไม่เปลี่ยนใจแล้ว 30.7 3 ไม่ระบุว่าจะเปลี่ยนใจอีกหรือไม่ 34.2 รวมทั้งสิ้น 100.0 ตารางที่ 10 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุเหตุผลที่จะเลือกผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) ลำดับที่ เหตุผลที่จะเลือกผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ค่าร้อยละ 1 ซื่อสัตย์สุจริต 62.3 2 มีวิสัยทัศน์กว้างไกล รู้จักป้องกันปัญหา 58.0 3 กล้าคิดกล้าทำ 55.3 4 รวดเร็วฉับไวแก้ปัญหาเดือดร้อนของประชาชน 51.4 5 เข้าถึงใกล้ชิดประชาชน 47.3 6 มีผลงานเห็นได้ชัด 46.7 7 พัฒนาชุมชนให้น่าอยู่ 39.7 8 เป็นคนรุ่นใหม่ 35.5 9 ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย 34.2 10 มีการศึกษาดี 34.0 11 เรียบง่าย 17.3 12 สังกัดพรรคการเมือง 10.4 13 เป็นผู้มีบุญคุณกับตัวท่าน 5.1 14 มีฐานะร่ำรวย 3.6 15 มีค่าตอบแทนเป็นเงินมาให้ 3.0 ตารางที่ 11 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุปัญหาเร่งด่วนของคนกรุงเทพมหานครในขณะนี้ (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) ลำดับที่ ปัญหาเร่งด่วนของคนกรุงเทพมหานครในขณะนี้ ค่าร้อยละ 1 ปัญหาจราจร 60.3 2 ปัญหาเศรษฐกิจ/ปัญหาปากท้อง /ปัญหาว่างงาน 48.2 3 ความไม่สะอาด/สิ่งแวดล้อมเป็นพิษ 21.2 4 สังคม/ชุมชน /ที่อยู่อาศัยแออัด 13.5 5 ความไม่ปลอดภัย/อาชญากรรม 8.7 6 การแก้ปัญหาน้ำท่วม 8.5 7 ปัญหายาเสพติด 8.3 ตารางที่ 12 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุปัญหาเร่งด่วนของตนและคนในครอบครัว (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ) ลำดับที่ ปัญหาเร่งด่วนของตนและคนในครอบครัว ค่าร้อยละ 1 ปัญหาเศรษฐกิจ / ปัญหาปากท้อง /ปัญหาว่างงาน 89.0 2 ปัญหาจราจร 14.5 3 สังคมรอบบ้าน/ที่อยู่อาศัยแออัด ไม่น่าอยู่ 7.8 4 ความไม่ปลอดภัย/สุขภาพ/สวัสดิการของชีวิต 7.1 5 มลพิษ/น้ำท่วม 6.7 6 ระบบการศึกษาไม่มีคุณภาพ 5.0 7 ความไม่สามัคคี/การชุมนุมประท้วง 1.8 --เอแบคโพลล์-- -พห-