ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อมวลชนหลายแขนงว่า เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ซึ่งเป็นผู้จัดอันดับมหาวิทยาลัยไทย กล่าวโจมตีสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ว่ามีคุณภาพถดถอย และตั้งคำถามชี้นำสร้างปัญหาสังคม
สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ ขอชี้แจงว่า การสำรวจความรู้สึกของนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากการที่ สกอ. ไปจัดอันดับมหาวิทยาลัยไทยนั้น เอแบคโพลล์สำรวจความรู้สึกของนักศึกษาด้วยเจตนาและการกระทำที่บริสุทธิ์ใจ เคร่งครัดต่อจรรยาบรรณและระเบียบวิธีวิจัย
เอแบคโพลล์ไม่มีการตั้งคำถามชี้นำผู้ตอบใดๆ ทั้งสิ้น แตกต่างไปจาก สกอ. ที่ทำการจัดอันดับมหาวิทยาลัยอันนำมาซึ่งการตัดสิน ชี้ขาดกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั้งๆ ที่ตัวชี้วัดและกระบวนการวัดตัดสินยังคงมีการวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ข้อยุติ สกอ. จึงน่าจะทบทวนตัวเองก่อนว่า สิ่งที่ทำลงไปร้ายแรงกว่าการตั้งคำถามในโพลล์หรือไม่
- สำหรับเรื่องคุณภาพของโพลล์ที่ เลขาธิการ สกอ. กล่าวว่า คุณภาพเอแบคโพลล์ถดถอยนั้น ขอแย้งว่าคุณภาพเอแบคโพลล์ไม่แตกต่างไปจากอดีตแต่กลับสูงขึ้นมากกว่าหลายเท่า เพราะ 1) คณะผู้บริหารและบุคลากรของสำนักวิจัยทุกคนยังเป็นคนเดิมทั้งหมดตั้งแต่ก่อตั้งมาจนถึงปัจจุบันนานกว่า 10 ปี บุคลากรของสำนักวิจัยฯ สำเร็จการศึกษาทั้งภายในและต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับระเบียบวิธีวิจัยโดยตรง 2) จำนวนผู้มาใช้บริการประจำยาวนานร่วม 10 ปี ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม และจำนวนผู้มาใช้บริการรายใหม่ๆ เกิดขึ้น ทุกวัน สามารถตรวจสอบได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ 3) เอแบคโพลล์มีเครือข่ายงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศที่เป็นนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยต่างๆ จำนวนมาก และพนักงานเก็บรวบรวมข้อมูลก็เปิดกว้างทุกสถาบันเข้ามาทำงานหาเบี้ยเลี้ยงเป็นทุนการศึกษาได้ไม่ใช่เฉพาะนักศึกษาเอแบคเท่านั้น 4) การทำวิจัยทุกโครงการจึงต้องอยู่ภายใต้การยึดจรรยาบรรณและระเบียบวิธีวิจัยอย่างเคร่งครัด ไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัวของใครแอบแฝงทั้งสิ้น สังคมสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลาน่าเสียดายที่ ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานวิชาการกลับไปใช้ความรู้สึกตัดสินวิพากษ์วิจารณ์แทนการใช้ตัวชี้วัดเชิงประจักษ์ จึงยิ่งทำให้น่าเป็นห่วงว่า ตัวชี้วัดเพื่อจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ผ่านมา มีการแทรกความรู้สึกหรืออคติใดๆ ลงไปบ้างหรือไม่
- การที่เลขาธิการ สกอ. กล่าวทำนองที่ว่า เอแบคโพลล์ไปถามเด็กนักศึกษาถึงความเชื่อมั่นต่อมาตรฐานการจัดอันดับ เด็กๆ จะไปรู้เรื่องอะไร เด็กก็เลยตอบว่าไม่เชื่อมั่น
ขอแสดงความเห็นว่า มีสองประเด็นที่ควรพิจารณาคือ 1) ท่านเลขาธิการ สกอ. คงเชื่อผลสำรวจเช่นกันจึงให้สัมภาษณ์มาเช่นนั้น เพราะถ้าท่านไม่เชื่อ ท่านคงตอบว่าเด็กส่วนใหญ่ต้องเชื่อมั่นในมาตรฐานการจัดอันดับ และ 2) การที่ท่านกล่าวทำนองละเลยการรับรู้ของเด็กนักศึกษา เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับความคิดเห็นแบบนี้ในกลุ่มผู้ใหญ่หลายคนของสังคมไทย เพราะการจะทำอะไรใหม่ๆ หรือการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับคนไทย ควรที่จะเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนที่อาจได้รับผลกระทบมีส่วนรับรู้รับทราบอย่างชัดเจนก่อน
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งที่ดีแต่ควรให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนได้ส่วนเสียรับรู้รับทราบและดึงมาสนับสนุนจึงทำให้เกิดความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงมากกว่าอย่างไรก็ตาม ถ้าผมอายุมากเป็นไม้ใกล้ฝั่ง ผมจะไปอย่างสงบ จะไม่สร้างความขัดแย้งทิ้งไว้ในสังคมไทย ในวัย 40 ปีของผมนี้จะเดินหน้าทำวิจัยค้นหาความจริงมาให้สังคมไทยช่วยกันวิพากษ์วิจารณ์ต่อไปจนตลอดชีพเพราะทำอย่างอื่นไม่เป็น
ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โทร. 02-7191550
สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โทร.0-2719-1549-50
www.abacpoll.au.edu หรือ www.abacpoll.com
--เอแบคโพลล์--
-พห-
สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ ขอชี้แจงว่า การสำรวจความรู้สึกของนักศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากการที่ สกอ. ไปจัดอันดับมหาวิทยาลัยไทยนั้น เอแบคโพลล์สำรวจความรู้สึกของนักศึกษาด้วยเจตนาและการกระทำที่บริสุทธิ์ใจ เคร่งครัดต่อจรรยาบรรณและระเบียบวิธีวิจัย
เอแบคโพลล์ไม่มีการตั้งคำถามชี้นำผู้ตอบใดๆ ทั้งสิ้น แตกต่างไปจาก สกอ. ที่ทำการจัดอันดับมหาวิทยาลัยอันนำมาซึ่งการตัดสิน ชี้ขาดกับมหาวิทยาลัยต่างๆ ทั้งๆ ที่ตัวชี้วัดและกระบวนการวัดตัดสินยังคงมีการวิพากษ์วิจารณ์ไม่ได้ข้อยุติ สกอ. จึงน่าจะทบทวนตัวเองก่อนว่า สิ่งที่ทำลงไปร้ายแรงกว่าการตั้งคำถามในโพลล์หรือไม่
- สำหรับเรื่องคุณภาพของโพลล์ที่ เลขาธิการ สกอ. กล่าวว่า คุณภาพเอแบคโพลล์ถดถอยนั้น ขอแย้งว่าคุณภาพเอแบคโพลล์ไม่แตกต่างไปจากอดีตแต่กลับสูงขึ้นมากกว่าหลายเท่า เพราะ 1) คณะผู้บริหารและบุคลากรของสำนักวิจัยทุกคนยังเป็นคนเดิมทั้งหมดตั้งแต่ก่อตั้งมาจนถึงปัจจุบันนานกว่า 10 ปี บุคลากรของสำนักวิจัยฯ สำเร็จการศึกษาทั้งภายในและต่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับระเบียบวิธีวิจัยโดยตรง 2) จำนวนผู้มาใช้บริการประจำยาวนานร่วม 10 ปี ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม และจำนวนผู้มาใช้บริการรายใหม่ๆ เกิดขึ้น ทุกวัน สามารถตรวจสอบได้อย่างเป็นวิทยาศาสตร์ 3) เอแบคโพลล์มีเครือข่ายงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศที่เป็นนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยต่างๆ จำนวนมาก และพนักงานเก็บรวบรวมข้อมูลก็เปิดกว้างทุกสถาบันเข้ามาทำงานหาเบี้ยเลี้ยงเป็นทุนการศึกษาได้ไม่ใช่เฉพาะนักศึกษาเอแบคเท่านั้น 4) การทำวิจัยทุกโครงการจึงต้องอยู่ภายใต้การยึดจรรยาบรรณและระเบียบวิธีวิจัยอย่างเคร่งครัด ไม่มีผลประโยชน์ส่วนตัวของใครแอบแฝงทั้งสิ้น สังคมสามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลาน่าเสียดายที่ ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยงานวิชาการกลับไปใช้ความรู้สึกตัดสินวิพากษ์วิจารณ์แทนการใช้ตัวชี้วัดเชิงประจักษ์ จึงยิ่งทำให้น่าเป็นห่วงว่า ตัวชี้วัดเพื่อจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ผ่านมา มีการแทรกความรู้สึกหรืออคติใดๆ ลงไปบ้างหรือไม่
- การที่เลขาธิการ สกอ. กล่าวทำนองที่ว่า เอแบคโพลล์ไปถามเด็กนักศึกษาถึงความเชื่อมั่นต่อมาตรฐานการจัดอันดับ เด็กๆ จะไปรู้เรื่องอะไร เด็กก็เลยตอบว่าไม่เชื่อมั่น
ขอแสดงความเห็นว่า มีสองประเด็นที่ควรพิจารณาคือ 1) ท่านเลขาธิการ สกอ. คงเชื่อผลสำรวจเช่นกันจึงให้สัมภาษณ์มาเช่นนั้น เพราะถ้าท่านไม่เชื่อ ท่านคงตอบว่าเด็กส่วนใหญ่ต้องเชื่อมั่นในมาตรฐานการจัดอันดับ และ 2) การที่ท่านกล่าวทำนองละเลยการรับรู้ของเด็กนักศึกษา เป็นสิ่งที่น่าเป็นห่วงสำหรับความคิดเห็นแบบนี้ในกลุ่มผู้ใหญ่หลายคนของสังคมไทย เพราะการจะทำอะไรใหม่ๆ หรือการเปลี่ยนแปลงใดๆ กับคนไทย ควรที่จะเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนที่อาจได้รับผลกระทบมีส่วนรับรู้รับทราบอย่างชัดเจนก่อน
การจัดอันดับมหาวิทยาลัยเป็นสิ่งที่ดีแต่ควรให้ทุกฝ่ายที่มีส่วนได้ส่วนเสียรับรู้รับทราบและดึงมาสนับสนุนจึงทำให้เกิดความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงมากกว่าอย่างไรก็ตาม ถ้าผมอายุมากเป็นไม้ใกล้ฝั่ง ผมจะไปอย่างสงบ จะไม่สร้างความขัดแย้งทิ้งไว้ในสังคมไทย ในวัย 40 ปีของผมนี้จะเดินหน้าทำวิจัยค้นหาความจริงมาให้สังคมไทยช่วยกันวิพากษ์วิจารณ์ต่อไปจนตลอดชีพเพราะทำอย่างอื่นไม่เป็น
ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โทร. 02-7191550
สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โทร.0-2719-1549-50
www.abacpoll.au.edu หรือ www.abacpoll.com
--เอแบคโพลล์--
-พห-