ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายวิชาการเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน หรือศูนย์วิจัยความสุขชุมชน(Academic Network for Community Happiness Observation and Research, ANCHOR) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเรื่อง ศึกษาแนวโน้ม ดัชนีความสุขมวลรวมของประชาชนภายในประเทศ หรือ Gross Domestic Happiness, GDH ประจำเดือนเมษายน 2552 กรณีศึกษาตัวอย่าง ประชาชนใน 17 จังหวัดของประเทศได้แก่ กรุงเทพมหานคร เชียงใหม่ สุโขทัย อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ กาญจนบุรี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ปทุมธานี เพชรบุรี ขอนแก่น ศรีสะเกษ สกลนคร หนองบัวลำภู พัทลุง ระนอง และสุราษฎร์ธานี จำนวนทั้งสิ้น 1,325 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่าง วันที่ 6 -16 พฤษภาคม 2552 พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่หรือกว่าร้อยละ 80 ติดตามข่าวสถานการณ์การเมืองเป็นประจำทุกสัปดาห์อย่างน้อยสัปดาห์ละ ครั้ง
ดร.นพดล กล่าวต่อว่า จากการประเมินผลค่าความสุขมวลรวมของประชาชนภายในประเทศ หรือ Gross Domestic Happiness, GDH ประจำเดือนเมษายนจนถึงช่วงต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พบว่า เมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน ค่าความสุขมวลรวมของสาธารณชนภายในประเทศ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก 5.78 ในเดือนกุมภาพันธ์ มาอยู่ที่ 6.18 คะแนน ในเดือนมีนาคม และสูงขึ้นมาอยู่ที่ 7.17 คะแนนในการวิจัยครั้งล่าสุด
ที่น่าพิจารณาคือ ปัจจัยสำคัญหลายปัจจัยที่มีผลต่อความสุขมวลรวมของประชาชนภายในประเทศมีค่าสูงอยู่ในระดับมากถึงมากที่สุด ได้แก่ ความสุขต่อความจงรักภักดีอยู่ที่ 9.32 คะแนนจากคะแนนเต็ม 10 คะแนน วัฒนธรรมประเพณีไทยอยู่ที่ 8.22 คะแนน บรรยากาศภายในครอบครัวอยู่ที่ 8.13 คะแนน สุขภาพกายอยู่ที่ 7.76 คะแนน สภาวะการนอนหลับได้สนิท อยู่ที่ 7.59 คะแนน และสุขภาพใจอยู่ที่ 7.56 คะแนน ตามลำดับ อย่างไรก็ ตาม กลุ่มปัจจัยที่ยังคงทำให้ประชาชนมีความสุขในระดับท้ายๆ ยังคงเป็นเรื่อง สถานการณ์การเมืองปัจจุบัน และสภาวะเศรษฐกิจของประเทศ คืออยู่ที่ 5.05 และ 5.25 คะแนน
อย่างไรก็ตาม ผลวิจัยพบว่า มีตัวชี้วัดหลายตัวที่คนไทยมีความสุขเพิ่มสูงขึ้นได้แก่ ความสุขต่อความจงรักภักดีเพิ่มสูงขึ้นจาก 9.17 มาอยู่ที่ 9.32 วัฒนธรรมประเพณีไทยเพิ่มขึ้นจาก 8.12 มาอยู่ที่ 8.22 สภาวะการนอนหลับได้สนิทเพิ่มขึ้นจาก 7.24 มาอยู่ที่ 7.59 ระบบการศึกษาของ ประเทศเพิ่มขึ้นจาก 6.69 มาอยู่ที่ 7.15 บรรยากาศความสัมพันธ์ของคนในชุมชนเพิ่มขึ้นจาก 6.43 มาอยู่ที่ 7.12 ความเป็นธรรมทางสังคมที่ได้รับ เพิ่มขึ้นจาก 5.79 มาอยู่ที่ 6.15 และแม้แต่สภาวะเศรษฐกิจของประเทศ และสถานการณ์การเมืองปัจจุบัน ก็ยังพบว่าความสุขของประชาชนต่อปัจจัยทั้ง สองเพิ่มสูงขึ้นเล็กน้อยจาก 4.96 มาอยู่ที่ 5.25 และ 4.48 มาอยู่ที่ 5.05 คะแนนตามลำดับ
นอกจากนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ยังได้หันมาใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง โดยพบว่า ร้อยละ 62.2 ใช้ชีวิตค่อนข้างพอเพียง และร้อย ละ 23.7 ใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงอย่างเคร่งครัด ในขณะที่ร้อยละ 10.9 ใช้ชีวิตไม่ค่อยพอเพียงและร้อยละ 3.2 ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างพอเพียง เลย และที่น่าพิจารณาคือ ผลวิเคราะห์ด้วยสถิติวิจัยโดยใช้ค่า Odds Ratio พบว่า ประชาชนที่ใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของในหลวงมีโอกาสที่ พบกับความสุขมากกว่ากลุ่มคนที่ไม่ใช้ชีวิตแบบพอเพียงสูงเกินกว่า 10 เท่า คือ 11.945 เท่า อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ผอ.ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน กล่าวว่า งานวิจัยครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันให้เห็นได้อย่างชัดเจนอีกครั้งว่า ความสุขของประชาชนยังขึ้นอยู่กับ ปัจจัยสำคัญอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมาก ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ ความมั่งคั่งในข้าวของเงินทองหรือสภาวะเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว เพราะถึงแม้ตัวชี้วัดทาง เศรษฐกิจ เช่น ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ GDP จะติดลบ แต่ค่าความสุขมวลรวมของประชาชนภายในประเทศหรือ GDH กลับเป็นบวก และ สามารถพุ่งทะยานสูงขึ้นได้ในหลายตัวชี้วัด แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ ความสุขของคนไทยต่อบางปัจจัยสำคัญที่มีแนวโน้มลดลงเล็กน้อย ได้แก่ บรรยากาศภายใน ครอบครัว สุขภาพกาย สุขภาพใจ การเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ดี และสภาพแวดล้อมทางกายภาพของชุมชนที่พักอาศัย ซึ่งอาจมีสาเหตุจากความไม่ ปกติทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองที่ผ่านมาอาจส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนก่อให้เกิดสภาวะความเครียด ความสัมพันธ์ ของคนในครอบครัวและสุขภาพกายที่ต้องทำงานหนักและมีเวลาให้กับคนรอบข้างน้อยลง
จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า
ตัวอย่าง ร้อยละ 52.5 เป็นหญิง
ร้อยละ 47.5 เป็นชาย
ตัวอย่าง ร้อยละ 4.5 อายุต่ำกว่า 20 ปี
ร้อยละ 18.7 อายุ 20 — 29 ปี
ร้อยละ 22.6 อายุ 30 — 39 ปี
ร้อยละ 25.4 อายุ 40 — 49 ปี
และร้อยละ 28.8 อายุ 50 ปีขึ้นไป
โดยตัวอย่าง ร้อยละ 30.7 ระบุอาชีพเกษตรกร/รับจ้างทั่วไป
ร้อยละ 25.3 ระบุอาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว
ร้อยละ 17.6 ระบุอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน
ร้อยละ 10.1 ระบุข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ
ร้อยละ 5.4 เป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณอายุ
ร้อยละ 6.0 เป็นนักเรียน/นักศึกษา
ในขณะที่ ร้อยละ 3.9 ระบุว่างงาน/ไม่ประกอบอาชีพ
นอกจากนี้ ร้อยละ 71.4 มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี
ร้อยละ 26.0 มีการศึกษาระดับปริญญาตรี
และร้อยละ 2.6 สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีขึ้นไป
ตัวอย่าง ร้อยละ 34.6 ระบุมีรายได้ส่วนตัวไม่เกิน 5,000 บาทต่อเดือน
ร้อยละ 24.4 ระบุมีรายได้ 5,001 — 10,000 บาท
ร้อยละ 12.6 ระบุมีรายได้ 10,001 — 15,000 บาท
ร้อยละ 6.6 ระบุมีรายได้ 15,001 — 20,000 บาท
ร้อยละ 21.8 ระบุมากกว่า 20,000 บาท
โปรดพิจารณารายละเอียดในตารางต่อไปนี้
ลำดับที่ ความถี่ในการติดตามข่าวสถานการณ์การเมือง ค่าร้อยละ 1 ติดตามเป็นประจำทุกสัปดาห์อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง 85.9 2 ติดตามบ้าง ถึงไม่ได้ติดตามเลย 14.1 รวมทั้งสิ้น 100.0 ตารางที่ 2 แสดงแนวโน้มค่าคะแนนเฉลี่ยความสุขมวลรวมของประชาชนคนไทยภายในประเทศประจำเดือนเมษายน 2552 เปรียบเทียบกับช่วงเวลาต่างๆ ตั้งแต่เดือนเมษายน 2551 เมื่อคะแนนเต็ม 10
เม.ย.51 ก.ค.51 ส.ค.51 ก.ย.51 ต.ค.51 พ.ย.— ปลาย มกราคม กุมภาพันธ์ มีนาคม เม.ย.52
ธ.ค.51 ธ.ค.51 2552 2552 2552
ค่าคะแนนเฉลี่ยความสุขมวลรวม- 6.3 6.08 5.82 5.64 4.84 6.55 6.81 6.59 5.78 6.18 7.17 ของคนไทยภายในประเทศ (Gross Domestic Happiness) ตารางที่ 3 แสดงค่าดัชนีความสุขมวลรวมของประชาชนในช่วงเดือนเมษายน 2552 ในด้านต่างๆ จากคะแนนเต็ม 10 คะแนน ลำดับที่ กลุ่มปัจจัยต่างๆ GDH มีนาคม GDH เมษายน เพิ่มขึ้น (+)/ ลดลง (-) 1 การแสดงความจงรักภักดี 9.2 9.3 + 2 วัฒนธรรมประเพณีไทย 8.1 8.2 + 3 บรรยากาศภายในครอบครัว 8.7 8.1 - 4 สุขภาพทางกาย 8 7.8 - 5 สภาวะการนอนหลับได้สนิท 7.2 7.6 + 6 สุขภาพใจ 7.9 7.6 - 7 การเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ดี 6.5 6.3 - 8 สภาพแวดล้อมที่พักอาศัย 7.6 7.3 - 9 ระบบการศึกษาของประเทศ 6.7 7.2 + 10 บรรยากาศภายในชุมชนที่พักอาศัย 6.4 7.1 + 11 สภาวะเศรษฐกิจของตนเองและครอบครัว 5.8 6.4 + 12 ความเป็นธรรมทางสังคมที่ได้รับ 5.8 6.2 + 13 สภาวะเศรษฐกิจของประเทศ 5 5.3 + 14 สถานการณ์การเมืองปัจจุบัน 4.5 5.1 + ความสุขมวลรวม ของคนไทยประจำเดือนเมษายน 2552 6.18 7.17 + ตารางที่ 4 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของประชาชน ลำดับที่ การใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียงของประชาชน ค่าร้อยละ 1 ไม่พอเพียง 3.2 2 ไม่ค่อยพอเพียง 10.9 3 ค่อนข้างพอเพียง 62.2 4 พอเพียงอย่างเคร่งครัด 23.7 รวมทั้งสิ้น 100.0 ตารางที่ 5 แสดงค่าสถิติวิจัย Odds Ratio ของการใช้ชีวิตแบบพอเพียงที่มีต่อความสุขของประชาชน ลำดับที่ ความสุขของประชาชน Odds Ratio(95% C I ) ค่านัยสำคัญp-value 1 มีความสุข 11.945* 0.003 2 ไม่มีความสุข อ้างอิง --เอแบคโพลล์-- -พห-