ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัย “เอแบคเรียลไทม์โพลล์” ที่เป็นการ สำรวจจากครัวเรือนที่สุ่มตัวอย่างได้ทั่วประเทศตามหลักสถิติแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิหลายชั้น และได้ติดตั้งโทรศัพท์ให้กับครัวเรือนที่เป็นตัวอย่างเพื่อทำ การสัมภาษณ์ได้อย่างรวดเร็วฉับไว จากนั้นประมวลผลด้วยระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบเรียลไทม์ โดยครั้งนี้ได้ทำการสำรวจ เรื่อง การรับรู้ข่าว สาร และความทรงจำของประชาชนต่อ ผลงานรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และรัฐบาล พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ กรณีศึกษาประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป ใน 18 จังหวัดของประเทศ ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทุมธานี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ศรีสะเกษ ยโสธร ขอนแก่น อุดรธานี มหาสารคาม เชียงใหม่ ลำพูน พะเยา พิษณุโลก ราชบุรี สมุทรสาคร สงขลา และ ยะลา จำนวนทั้งสิ้น 1,484 ครัวเรือน ดำเนินการสำรวจในวันที่ 1 สิงหาคม 2552
เมื่อให้ประชาชนเปรียบเทียบสถานการณ์ของประเทศด้านต่างๆ กับช่วงเวลาต้นปีที่ผ่านมา พบข้อมูลที่น่าเป็นห่วงคือ ประชาชนส่วนใหญ่หรือ ร้อยละ 73.4 เห็นว่าบรรยากาศทางการเมืองขณะนี้แย่เหมือนเดิมถึงแย่ลง ในขณะที่ร้อยละ 26.6 มองว่าดีเหมือนเดิมถึงดีขึ้น เมื่อถามถึงสถานการณ์ ด้านเศรษฐกิจ พบว่า ร้อยละ 39.4 มองว่าดีเหมือนเดิมถึงดีขึ้น แต่ร้อยละ 60.6 มองว่าแย่เหมือนเดิมถึงแย่ลง เมื่อถามถึงความรักความสามัคคีของ คนในชาติ พบว่า ร้อยละ 28.4 มองว่าดีเหมือนเดิมถึงดีขึ้น แต่ร้อยละ 71.6 มองว่าแย่เหมือนเดิมถึงแย่ลง เมื่อถามถึงปัญหาทุจริตคอรัปชั่น พบว่า ร้อยละ 20.4 มองว่าดีเหมือนเดิมถึงดีขึ้น แต่ร้อยละ 79.6 มองว่าแย่เหมือนเดิมถึงแย่ลง และเมื่อถามถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของ ประชาชน พบว่า ร้อยละ 32.5 มองว่าดีเหมือนเดิมถึงดีขึ้น แต่ร้อยละ 67.5 มองว่าแย่เหมือนเดิมถึงแย่ลง
ที่น่าดีใจคือ ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 67.6 มองว่ามีการส่งเสริมขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ประเพณีไทยดีเหมือนเดิมถึงดีขึ้น ใน ขณะที่ร้อยละ 32.4 มองว่าแย่เหมือนเดิมถึงแย่ลง
ดร.นพดล กล่าวว่า สำหรับข้อมูลสำคัญต่อรัฐบาลชุดปัจจุบันคือ ความทรงจำในทางบวกของสาธารณชนต่อสิ่งที่เคยได้ยินได้เห็นในข่าวต่อ รัฐบาล พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ กับ รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ คือ ส่วนใหญ่ร้อยละ 69.6 จำได้ว่าในช่วงรัฐบาลทักษิณ คนที่มาคลอดลูกอย่างปลอดภัย จ่ายแค่ 30 บาท แต่มีเพียงร้อยละ 7.4 เท่านั้นที่ทราบข่าวว่า ในช่วงรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ มีหญิงตั้งครรภ์ป่วยเป็นไข้หวัด 2009 มารักษาแล้วหาย โดยไม่เสียค่าใช้ จ่าย เพราะหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
ในขณะที่ ร้อยละ 96.9 จำได้ว่ารัฐบาลทักษิณ ปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง แต่ร้อยละ 55.6 รับรู้ว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ปราบปราม ยาเสพติดอย่างจริงจัง
ดร.นพดล กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม ความทรงจำในทางลบที่ค้นพบ จะเห็นว่า รัฐบาลทักษิณก็จะมีประชาชนจำข่าวสารในทางลบได้ มากกว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์อยู่เล็กน้อย คือ ร้อยละ 64.1 จำได้ถึงความขัดแย้งในรัฐบาลทักษิณ และร้อยละ 57.0 จำได้ถึงความขัดแย้งในรัฐบาลนาย อภิสิทธิ์ และที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 78.8 จำได้ถึงปัญหาทุจริตคอรัปชั่นในรัฐบาลทักษิณ ในขณะที่ร้อยละ 65.8 ก็ได้ข่าวปัญหาทุจริต คอรัปชั่นในรัฐบาลนายอภิสิทธิ์เช่นกัน
นอกจากนี้ ข่าวสารเรื่องผลงานรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.1 รับรู้ว่ารัฐบาลประสบความ สำเร็จแก้ปัญหาเศรษฐกิจระดับชาติได้น้อยถึงไม่มีเลย ในขณะที่ร้อยละ 38.9 รับรู้ระดับมากถึงมากที่สุด และแม้แต่เรื่องรัฐบาลช่วยบรรเทาความเดือด ร้อนเรื่องค่าใช้จ่ายของประชาชน ก็พบว่า ก้ำกึ่งกันคือร้อยละ 50.8 รับรู้ระดับมากถึงมากที่สุด แต่ร้อยละ 49.2 รับรู้น้อยถึงไม่รับรู้เลย และส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 70.3 รับรู้น้อยถึงไม่รับรู้เลยว่ารัฐบาลช่วยทำให้รายได้ของผู้ตอบแบบสอบถามหรือคนในครอบครัวเพิ่มขึ้น แต่ในช่วงตลอด 30 วันที่ผ่านมา ประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 69.6 รับรู้แต่ข่าวทะเลาะขัดแย้งกันระหว่าง นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ และ พล.ต.อ.พัชรวาท ผบ.ตร.
ประเด็นที่น่าพิจารณาคือ ความคิดเห็นต่อการถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อย ละ 77.3 ระบุ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ควรถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษด้วยตนเอง และร้อยละ 22.7 ให้ประชาชนออกมาเคลื่อนไหว แต่ที่น่าเป็น ห่วงคือ ประชาชนเกินครึ่งเล็กน้อยหรือร้อยละ 51.7 เป็นทุกข์จากข่าวประชาชนออกมาเคลื่อนไหวถวายฎีกา แต่ร้อยละ 48.3 เป็นสุขในท่าม กลางกระแสข่าวดังกล่าว
ผอ.เอแบคโพลล์ ชี้ให้เห็นว่า ฝีมือการบริหารจัดการอารมณ์ความรู้สึกเพื่อสร้างฐานสนับสนุนจากสาธารณชนต่อรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชา ชีวะ แตกต่างไปจากรัฐบาลทักษิณอย่างมาก ในช่วงรัฐบาลทักษิณจะเห็นว่าประชาชนมีความทรงจำที่ดีหลายเรื่องที่เด่นดังพอๆ กัน แต่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์ กลับเสียโอกาสในเรื่องเดียวกัน เช่น ด้านสุขภาพประชาชนที่รัฐบาลทักษิณอาศัยโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าให้เป็นเรื่องเด่นดังขึ้นได้ โดยผู้หญิง คลอดลูกในโรงพยาบาลที่ทันสมัยแต่จ่ายเพียงสามสิบบาท ส่งผลให้อารมณ์ของคนไทยทั้งประเทศประทับใจในผลงาน แต่รัฐบาลนายอภิสิทธิ์กลับ ไม่ใช้ โอกาสทำให้ประชาชนทั้งประเทศเห็นว่า ประชาชนสามารถใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าเข้ารักษาไข้หวัด 2009 ในโรงพยาบาลที่ทันสมัย โดยไม่ ต้องจ่ายเงินเลย ตรงกันข้ามในขณะที่ประชาชนส่วนใหญ่กำลังลำบากเดือดร้อน กลับมีแต่ภาพของการทะเลาะขัดแย้งกัน ที่แย่ไปกว่านั้นคือ ประชาชนส่วน ใหญ่กำลังรับทราบข่าวทุจริตคอรัปชั่น ก็เป็นการตอกย้ำความเชื่อของประชาชนไปอีกว่า ทุกรัฐบาลก็โกงด้วยกันทั้งนั้น แต่บางรัฐบาลโกงแล้วชาวบ้านได้ ด้วย ก็เลยเป็นเรื่องที่ยอมรับได้
จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า
ตัวอย่าง ร้อยละ 55.7 เป็นหญิง
ร้อยละ 44.3 เป็นชาย
ตัวอย่าง ร้อยละ 5.3 อายุต่ำกว่า 20 ปี
ร้อยละ 20.1 อายุระหว่าง 20 — 29 ปี
ร้อยละ 22.8 อายุระหว่าง 30 — 39 ปี
ร้อยละ 26.3 อายุระหว่าง 40 — 49 ปี
และร้อยละ 25.5 อายุ 50 ปีขึ้นไป
ตัวอย่าง ร้อยละ 74.0 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี
รองลงมาคือร้อยละ 20.9 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
และร้อยละ 5.1 สำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี
ตัวอย่าง ร้อยละ 30.0 ระบุอาชีพเกษตรกร/รับจ้างทั่วไป
ร้อยละ 27.7 ระบุอาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว
ร้อยละ 15.2 ระบุอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน
ร้อยละ 10.8 ระบุข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ
ร้อยละ 8.7 เป็นนักเรียน/นักศึกษา
ร้อยละ 5.2 เป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณอายุ
ในขณะที่ร้อยละ 2.4 ระบุว่างงาน/ไม่ประกอบอาชีพ
ลำดับที่ สถานการณ์ด้านต่างๆ ของประเทศ ดีเหมือนเดิมดีขึ้น แย่เหมือนเดิมถึงแย่ลง
1 บรรยากาศทางการเมือง 26.6 73.4
2 สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ 39.4 60.6
3 ความรัก ความสามัคคี ความสมานฉันท์ของคนในชาติ 28.4 71.6
4 ปัญหาทุจริตคอรัปชั่น 20.4 79.6
5 ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน 32.5 67.5
6 การส่งเสริมขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ประเพณีไทย 67.6 32.4
ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุเหตุการณ์/ข่าวสารที่เคยจำได้/เคยได้ยิน
ลำดับที่ เปรียบเทียบความทรงจำของประชาชนต่อรัฐบาลสองรัฐบาล ค่าร้อยละ
----------------------------------------------------------------
1 ในช่วงรัฐบาล พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ คนที่มาคลอดลูกจ่ายแค่ 30 บาท 69.6
2 ในช่วงรัฐบาลนายกอภิสิทธิ์ มีหญิงตั้งครรภ์ป่วยเป็นไข้หวัด 2009 แล้วหาย 7.4
----------------------------------------------------------------
1 การปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจังในรัฐบาลของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ 96.9
2 การปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจังในรัฐบาลของ นายกอภิสิทธิ์ 55.6
----------------------------------------------------------------
1 ความขัดแย้งในช่วงรัฐบาล พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ 64.1
2 ความขัดแย้งในช่วงรัฐบาล นายกอภิสิทธิ์ 57.0
----------------------------------------------------------------
1 ในช่วง 6 เดือนแรกของรัฐบาล พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ มีปัญหาทุจริตคอรัปชั่น 78.8
2 ในช่วง 6 เดือนแรกของรัฐบาล นายกอภิสิทธิ์ มีปัญหาทุจริตคอรัปชั่น 65.8
----------------------------------------------------------------
ตารางที่ 3 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุการได้รับข่าวสารด้านต่างๆ ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา
ลำดับที่ ข่าวสารที่ได้รับในช่วง 30 วันที่ผ่านมา มากถึงมากที่สุด น้อย ถึงไม่มีเลย
1 รัฐบาลประสบความสำเร็จแก้ปัญหาเศรษฐกิจระดับชาติ 38.9 61.1
2 รัฐบาลช่วยบรรเทาความเดือดร้อนเรื่องค่าใช้จ่ายของประชาชน 50.8 49.2
3 รัฐบาลช่วยทำให้รายได้ของคุณ หรือคนในครอบครัวเพิ่มขึ้น 29.7 70.3
4 นายอภิสิทธิ์ นายสุเทพ พล.ต.อ.พัชรวาท ทะเลาะขัดแย้งกัน 69.6 30.4
ตารางที่ 4 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความคิดเห็นต่อ การถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษของ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร
ลำดับที่ ความคิดเห็น ค่าร้อยละ
1 พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ควรถวายฎีกาขอพระราชทานอภัยโทษด้วยตนเอง 77.3
2 ให้ประชาชนออกมาเคลื่อนไหว 22.7
รวมทั้งสิ้น 100.0
ตารางที่ 5 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความทุกข์-ความสุขจากข่าวที่มีกลุ่มประชาชนเคลื่อนไหวถวายฎีกา เพื่อช่วยเหลือ
พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร
ลำดับที่ ความทุกข์-ความสุขจากข่าวที่มีกลุ่มกลุ่มประชาชนเคลื่อนไหวถวายฎีกา เพื่อช่วยเหลือ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร ค่าร้อยละ
1 เป็นสุข 48.3
2 เป็นทุกข์ 51.7
รวมทั้งสิ้น 100.0
--เอแบคโพลล์--
-พห-