ที่มาของโครงการฯ
ในช่วงมหกรรมฟุตบอลโลก 2006 ปัญหาที่น่าห่วงใยประการหนึ่งของสังคม คือการเล่นพนันทายผลฟุตบอล ทั้งนี้ผลการสำรวจเบื้องต้นของ
สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ที่ได้นำเสนอไปในวันที่ 24 พฤษภาคม 2549 ซึ่งเป็นการสำรวจในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบข้อมูลที่น่าสนใจว่า
นอกจากความสนใจติดตามชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันในนัดต่างๆ แล้ว ประชาชนจำนวนถึงประมาณ 8 แสนกว่าคนมีความตั้งใจจะเล่นพนันทายผล
ฟุตบอล ขณะที่วงเงินหมุนเวียนคาดว่าจะมีสูงถึงประมาณ 2 พันกว่าล้านบาท
เพื่อให้ภาพของปัญหาดังกล่าวมีความชัดเจนยิ่งขึ้น สำนักวิจัยฯ ได้ขยายพื้นที่การสำรวจครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงการวิเคราะห์เจาะลึก
ข้อมูลที่น่าสนใจอีกครั้ง โดยจัดส่งอาจารย์ เจ้าหน้าที่ และพนักงานเก็บรวบรวมข้อมูลจากพื้นที่ต่างๆ ตามหลักการวิจัยทางสังคมศาสตร์ต่อไป
วัตถุประสงค์ของโครงการ
1. เพื่อสำรวจถึงความสนใจติดตามชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006
2. เพื่อประมาณการจำนวนผู้ที่คาดว่าจะเล่นพนันทายผลฟุตบอล รวมถึงวงเงินหมุนเวียนในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006
3. เพื่อวิเคราะห์เจาะลึกข้อมูลในประเด็นสำคัญๆ เช่น คุณลักษณะด้านประชากร พื้นที่ ช่องทาง ฯลฯ
4. เพื่อสำรวจถึงประเด็นสำคัญอื่นๆ
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. ทำให้ทราบถึงความสนใจของประชาชนต่อการติดตามการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006
2. เพื่อศึกษาถึงสถานการณ์ของการเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006
3. เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาตัดสินใจของบุคคล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการใดๆ ใน
การป้องกันและแก้ไขปัญหาการเล่นพนันทายผลฟุตบอล
4. เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการศึกษาของผู้ที่สนใจต่อไป
ระเบียบวิธีการทำโพลล์
โครงการสำรวจภาคสนามของสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญในครั้งนี้เรื่อง “โค้งสุดท้ายฟุตบอลโลก 2006 เจาะลึกปัญหา
การเล่นพนันทายผลฟุตบอล: กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชน 21 จังหวัดทั่วประเทศ” ประกอบด้วย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ชลบุรี ระยอง
นครนายก กาญจนบุรี สมุทรสาคร อุบลราชธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พังงา ชุมพร สงขลา พัทลุง ปทุมธานี
สมุทรปราการ นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 22 พฤษภาคม — 3 มิถุนายน 2549
ประเภทของการสำรวจวิจัยครั้งนี้คือ การวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research)
กลุ่มประชากรเป้าหมาย คือ กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 13 — 60 ปี
เทคนิควิธีการสุ่มตัวอย่าง ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิ (stratified cluster sampling) และใช้วิธีการสุ่มที่คำนึง
ถึงสัดส่วนที่แท้จริงของประชากร (Probability Proportionate to Size Sampling) จากนั้นเข้าถึงตัวอย่างที่ระดับครัวเรือนตามคุณลักษณะ
และสัดส่วนที่กำหนด
ขนาดตัวอย่าง 4,685 ตัวอย่าง
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถาม
วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ การสัมภาษณ์
หลังจากนั้นคณะผู้วิจัยได้ตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของแบบสอบถามทุกชุดก่อนนำเข้าวิเคราะห์ข้อมูล และงบประมาณที่ใช้เป็นของมหาวิทยาลัย
ข้อมูลทั่วไปของตัวอย่าง
จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่างที่เป็นประชาชนทั่วไป พบว่า
ร้อยละ 50.1 ระบุเป็นหญิง
ขณะที่ร้อยละ 49.9 ระบุเป็นชาย
ซึ่งร้อยละ 24.4 อายุระหว่าง 20 — 29 ปี
ร้อยละ 24.2 อายุ 30 - 39 ปี
ร้อยละ 20.3 ระบุอายุ 40 - 49 ปี
ส่วนที่ระบุอายุระหว่าง 13 - 19 ปี และ 50 ปีขึ้นไปมีอยู่ร้อยละ 15.6 และ 15.4 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตามร้อยละ 0.1 ไม่ระบุอายุ ด้านระดับการศึกษา
ตัวอย่างร้อยละ 85.6 ระบุสำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี
ขณะที่ร้อยละ 12.1 ระบุสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
ร้อยละ 0.9 ระบุสำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี
และร้อยละ 1.4 ไม่ระบุระดับการศึกษา
นอกจากนี้ตัวอย่างร้อยละ 32.0 ระบุอาชีพค้าขาย / ธุรกิจส่วนตัว
รองลงมาร้อยละ 19.3 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป
ร้อยละ 17.9 ระบุเป็นนักเรียน / นักศึกษา
ร้อยละ 10.0 ระบุอาชีพพนักงาน / ลูกจ้างบริษัทเอกชน ส่วนที่ระบุอาชีพอื่น อาทิ รับราชการ /
รัฐวิสาหกิจ แม่บ้าน / พ่อบ้าน / เกษียณอายุ ว่างงาน ฯลฯ มีอยู่รวมกันร้อยละ 20.3
และที่ไม่ระบุอาชีพมีอยู่ร้อยละ 0.5
ด้านรายได้ส่วนบุคคลเฉลี่ยต่อเดือนส่วนใหญ่คือร้อยละ 75.2 ระบุไม่เกิน 10,000 บาท
ขณะที่ร้อยละ 11.1 ระบุระหว่าง 10,001 — 15,000 บาท
ร้อยละ 3.3 ระบุระหว่าง 15,001 -20,000 บาท
ส่วนที่ระบุรายได้เฉลี่ยต่อเดือนสูงกว่า 20,000 บาทมีอยู่รวมกัน 6.4 และไม่ระบุรายได้ร้อยละ 4.0
บทสรุปผลวิจัย
ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญได้เปิดเผย ผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง “โค้งสุดท้ายฟุตบอล
โลก 2006 เจาะลึกปัญหาการเล่นพนันทายผลฟุตบอล: กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชน 21 จังหวัดทั่วประเทศ” จำนวนทั้งสิ้น 4,685 ตัวอย่าง ดำเนิน
โครงการระหว่างวันที่ 22 พฤษภาคม — 3 มิถุนายน 2549 ซึ่งประเด็นสำคัญที่ค้นพบจากการสำรวจสรุปได้ดังนี้
ผลสำรวจสามารถประมาณการได้ว่ามีผู้สนใจติดตามชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2006 ทั่วประเทศสูงถึงประมาณ 20,590,400 คน
หรือร้อยละ 47.1 ของประชากรทั้งหมด เมื่อสอบถามต่อไปถึงพฤติกรรมการรับชม ร้อยละ 86.1 ตั้งใจจะชมที่บ้าน/ที่พักของตน รองลงมาร้อยละ
20.8 ตั้งใจจะติดตามชมที่บ้าน / ที่พักของเพื่อน และร้อยละ 14.7 ตั้งใจติดตามรับชมที่ร้านอาหาร / สวนอาหาร
ผลการสำรวจยังประมาณการได้ว่ามีประชาชนทั่วประเทศสูงถึง 3,688,273 คนที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006 โดยมีวงเงิน
หมุนเวียนในการเล่นอยู่ที่ 14,034,525,124 บาท (หนึ่งหมื่นสี่พันสามสิบสี่ล้านบาทห้าแสนสองหมื่นห้าพันหนึ่งร้อยยี่สิบสี่บาทถ้วน) ตัวเลขดังกล่าวเมื่อ
เปรียบเทียบกับช่วงการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 2004 พบว่าจำนวนผู้ที่ตั้งใจเล่นพนันเพิ่มสูงขึ้นถึงประมาณร้อยละ 130 แต่เป็นที่น่าสังเกต
ว่าวงเงินที่เล่นมีแนวโน้มลดต่ำลงถึงประมาณร้อยละ 54
ประเด็นที่น่าพิจารณาคือ เมื่อทำการเจาะลึกข้อมูลโดยการจำแนกตามพื้นที่ พบว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจำนวนผู้ที่ตั้งใจเล่นพนันทายผล
ฟุตบอลโลก 2006 สูงที่สุด คือ 1,311,344 คน แต่ภาคกลางมีวงเงินหมุนเวียนสูงที่สุดคือ 4,472,513,819 บาท นอกจากนี้ หลังจากวิเคราะห์กลุ่ม
อาชีพ พบว่า กลุ่มอาชีพค้าขาย/ ธุรกิจส่วนตัวจะมีผู้ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอลสูงที่สุดจำนวน 931,684 คน และวงเงินที่คาดว่าจะหมุนเวียนสูงสุด
เช่นกันคือ 5,627,033,201 บาท รองลงมาคือกลุ่มลูกจ้างพนักงานบริษัทเอกชน ประมาณห้าแสนคนทั่วประเทศแต่มีวงเงินสูงถึงเกือบสองพันล้านบาท
ดร.นพดล กล่าวต่อว่า ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ มีประชาชนที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอลถึง 599,477 คนเป็นคนที่ไม่เคยเล่นพนันทาย
ฟุตบอลมาก่อน หรืออีกนัยหนึ่งหมายถึงมีประชาชนถึงประมาณ 6 แสน เป็นมือใหม่ที่กำลังจะเข้าสู่ระบบการเล่นพนันทายผลฟุตบอล ยิ่งไปกว่านั้นจะมีคนที่
เคยเลิกเล่นและจะกลับมาเล่นอีก 750,290 หรือประมาณเจ็ดแสนห้าหมื่นคนในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้
“ที่น่าสนใจ หลังจากจำแนกกลุ่มตัวอย่างออกเป็นสามกลุ่มตามวงเงินที่ตั้งใจจะเล่นคือ กลุ่มแรกไม่เกิน 1,000 บาท กลุ่มที่สอง 1,001 —
10,000 บาท และกลุ่มที่สามมากกว่า 10,000 บาทขึ้นไป ผลสำรวจพบหลายประเด็นที่แตกต่างกันในสามกลุ่มเหล่านี้คือ ถ้ายิ่งมีวงเงินจะใช้เล่นสูง
ขึ้น ยิ่งมีสัดส่วนของคนที่คาดว่าทีมชาติอังกฤษจะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งนี้ ในขณะที่กลุ่มแรกและกลุ่มที่สองส่วนใหญ่ยังคงคาดว่าทีมชาติบราซิลจะคว้า
แชมป์ และบางส่วนคิดว่าทีมชาติอื่นๆ จะคว้าแชมป์เช่น ทีมชาติเยอรมัน ฝรั่งเศส อาร์เจนติน่า อิตาลี สเปน เป็นต้น” ดร.นพดล กล่าว
ดร.นพดล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กลุ่มที่จะใช้วงเงินมากกว่า 10,000 บาทขึ้นไปส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.6 กลับคาดว่าโรนัลโด้จากทีม
ชาติบราซิลน่าจะเป็นดาวซัลโวในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ แตกต่างไปจากกลุ่มผู้ตั้งใจจะเล่นทายพนันบอลที่จะใช้วงเงินไม่เกิน 1,000 บาท และ
กลุ่มที่ตั้งใจจะใช้วงเงิน 1,001 — 10,000 บาท ที่มีประมาณ 1 ใน 3 หรือร้อยละ 34.1 และร้อยละ 32.6 ที่คาดว่า โรนัลดินโญ่น่าจะเป็นดาว
ซัลโว อย่างไรก็ตาม บางส่วนก็คาดว่า โรนัลโด้จากทีมชาติบราซิลจะเป็นดาวซัลโวเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น อองรี
โอเว่น รูนี่ย์ ซีดาน และเจอร์ราด อาจได้เป็นดาวซัลโวอีกด้วย
“ที่น่าพิจารณาคือ คนที่จะใช้วงเงินเกินกว่า 10,000 บาทขึ้นไปในการเล่นทายพนันบอลครั้งนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 53.9 ระบุว่าเคย
ประสบปัญหาเล่นทายพนันบอลจนต้องขายหรือจำนำของมีค่า ร้อยละ 30.3 เคยทะเลาะวิวาทกับโต๊ะบอลหรือผู้เล่นพนันด้วยกัน และเกินกว่า 1 ใน 4
หรือร้อยละ 28.9 เคยโดนโกง ไม่จ่าย จ่ายไม่ครบ ร้อยละ 25.1 หยุดงาน หนีเรียน และร้อยละ 24.0 ขัดแย้งกับคู่รักและคนในครอบครัว ซึ่งจะ
เห็นได้ว่าคนกลุ่มเล่นทายพนันที่ใช้วงเงินสูงเคยเจอสารพัดปัญหาแต่ก็ยังจะเล่นทายพนันต่อไปอีกในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้” ดร.นพดล กล่าว
นอกจากนี้กลุ่มคนที่จะใช้วงเงินมากกว่า 1,000 แต่ไม่เกิน 10,000 บาท ระบุสารพัดปัญหาที่เคยประสบเช่นกันโดยกระจายไปในทุกกลุ่ม
ปัญหาที่แตกต่างเพิ่มขึ้นมาคือการมีหนี้สินพนันและการโกหกคนใกล้ชิดไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ผู้ปกครองหรือคู่รัก และจากการวิจัยก่อนหน้านี้พบว่า ผู้ตั้งใจจะ
เล่นทายพนันบอลจำนวนมากมักเล่นพนันเกินกว่าวงเงินที่ตั้งใจไว้อีกด้วย
สำหรับประเด็นปัญหาที่น่าพิจารณาคือ กลุ่มประชาชนที่เคยพบเห็นพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเล่นทายพนันบอล
ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมาจำนวนมากหรือร้อยละ 40.3 ระบุว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นผู้เล่นพนัน รองลงมาคือร้อยละ 22.7 ระบุเป็นผู้รับส่วยหรือเงิน
สินบนจากโต๊ะบอล ร้อยละ 19.9 เป็นผู้รับแทงรายย่อย ร้อยละ 16.8 จับกุมผู้กระทำผิด ร้อยละ 15.6 ระบุเป็นโต๊ะบอล และร้อยละ 10.3 เป็นผู้
เดินโพย
“เมื่อสอบถามถึงกลุ่มคนที่เล่นทายพนันและช่องทางการเล่น ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่ในทุกกลุ่มจะเล่นกับคนที่รู้จักเช่นเพื่อนร่วมสถาบัน
เพื่อนร่วมงาน แต่ที่น่าสังเกตคือ กลุ่มคนที่จะเล่นด้วยวงเงินสูงๆ คือระหว่าง 1,000 — 10,000 บาท และกลุ่มที่จะเล่นมากกว่า 10,000 บาทขึ้นไป
จะเล่นกับโต๊ะบอลด้วย ซึ่งโต๊ะบอลที่จะเล่นด้วยนั้นจะเล่นผ่านทางโทรศัพท์และเว็ปไซด์ ในขณะที่เล่นผ่านเด็กเดินโพยจะมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งผล
สำรวจครั้งนี้ยังชี้ให้เห็นว่าพฤติกรรมการเล่นทายพนันบอลของกลุ่มคนที่จะใช้วงเงินสูงๆ จะไม่ค่อยเล่นผ่านเด็กเดินโพยแต่จะใช้เทคโนโลยีสื่อสารมาเป็น
ตัวกลางในการเล่นทายพนัน และบางส่วนจะรับเป็นเจ้ามือหรือรับแทงเองด้วย” ดร.นพดล กล่าว
และเมื่อสอบถามถึงความกังวลใจว่าจะถูกจับดำเนินคดีเล่นทายพนันบอลหรือไม่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 64.4 ไม่กังวลใจ ในขณะที่ร้อยละ
35.6 กังวลใจ อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่ถูกศึกษาครั้งนี้ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.1 ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีโต๊ะรับพนันบอลเปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ในขณะที่ร้อยละ 17.5 เห็นด้วย และร้อยละ 17.4 ไม่มีความเห็น
ดร.นพดล กล่าวว่า ผลสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่สังคมควรช่วยกันเฝ้าระวังคือปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาในช่วงการแข่งขันบอลโลกและ
ภายหลังการแข่งขัน โดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรม การจี้ปล้น วิ่งราว ลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ และปัญหาความแตกแยกของคนในครอบครัว เจ้าหน้าที่รัฐ
ที่เกี่ยวข้องควรเข้มงวดกวดขันและทันต่อพฤติกรรมการเล่นทายพนันบอลของประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไปจากการแข่งขันบอลโลกเมื่อสี่ปีที่แล้วมาสู่การใช้
เทคโนโลยีสื่อสารที่ทันสมัยเพื่อหลบหนีการถูกจับกุม และเมื่อผลสำรวจพบว่าผู้เล่นทายพนันบอลไม่กังวลต่อการถูกจับกุมดำเนินคดี ก็ยิ่งเป็นการท้าทายเจ้า
หน้าที่ของรัฐและบทลงโทษที่ประชาชนยังไม่รับรู้ว่ารุนแรงเพียงพอ จึงทำให้มีประชาชนทั่วไปและเยาวชนจำนวนมากกำลังตั้งใจจะเข้าสู่วงการพนันเป็น
ครั้งแรกและอีกจำนวนมากหลายแสนคนที่กำลังจะเข้ามาเล่นทายพนันอีกครั้งทั้งๆ ที่เคยเลิกเล่นไปแล้ว
ทางออกที่เป็นไปได้คือ การสร้างพลังขับเคลื่อนทางสังคมให้ประชาชนติดตามชมการแข่งขันเพื่อความบันเทิงและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีทาง
สังคมกับคนรอบข้างใกล้ชิด เช่น คนในครอบครัวเดียวกัน ญาติสนิท และเพื่อนร่วมงาน และควรระมัดระวังการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่แอบแฝงมากับ
การโฆษณาที่อาจทำลายสุขภาพของประชาชนผู้ติดตามชมการแข่งขันด้วย
ประเด็นสำคัญที่ค้นพบปรากฏในตารางต่อไปนี้
ตารางที่ 1แสดงผลการประมาณการจำนวนผู้ที่ตั้งใจจะชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2006 และนัดเปิดสนาม
ผลประมาณการ จำนวน (คน) ร้อยละ
จำนวนผู้ที่ตั้งใจจะชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2006 20,590,400 47.1
หมายเหตุ เป็นการประมาณการจากประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 13 -60 ปี ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 43,723,690 คน
(สี่สิบสามล้านเจ็ดแสนสองหมื่นสามพันหกร้อยเก้าสิบคน)
ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่าง ที่ระบุสถานที่ที่คิดว่าจะติดตามชมการถ่ายทอดสด
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 (ค่าร้อยละเฉพาะกลุ่มที่ตั้งใจติดตามชมการถ่ายทอดสด
และตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ สถานที่ที่คิดว่าจะติดตามชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ร้อยละ
1 บ้าน / ที่พักของตนเอง 86.1
2 บ้าน / ที่พักของเพื่อน 20.8
3 ร้านอาหาร / สวนอาหาร 14.7
4 สถานบันเทิงต่าง ๆ 8.8
5 สถานที่ที่มีการติดตั้งจอขนาดใหญ่ให้บุคคลทั่วไปชม (เช่นหน้าห้าง สนามกีฬา / ลานกีฬา) 8.4
ตารางที่ 3 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่าง ที่ระบุบุคคลที่คิดว่าจะติดตามชมการถ่ายทอดสด
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ด้วย (ค่าร้อยละเฉพาะกลุ่มที่ตั้งใจติดตามชมการ
ถ่ายทอดสดและตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ บุคคลที่คิดว่าจะชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ด้วย ร้อยละ
1 เพื่อน 51.9
2 ครอบครัว (พ่อ / แม่ / ลูก / พี่ / น้อง) 43.7
3 ชมคนเดียว 25.7
4 คนทั่ว ๆ ไปที่มาเชียร์ในสถานที่เดียวกัน 15.5
5 หัวหน้า / ลูกน้องในบริษัทหรือหน่วยงาน 3.4
6 ครู /อาจารย์ร่วมสถาบัน 0.9
ตารางที่ 4 แสดงผลการประมาณการจำนวนผู้ที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผล
ฟุตบอลโลก 2006 และวงเงินหมุนเวียนผลประมาณการ จำนวน
จำนวนผู้ที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006 (คน) 3,688,273
วงเงินหมุนเวียน (บาท) 14,034,525,124
ตารางที่ 5 แสดงผลการประมาณการจำนวนผู้ที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006 และวงเงินหมุนเวียน
เปรียบเทียบกับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2004
ผลประมาณการ ฟุตบอลยูโร 2004 ฟุตบอลโลก 2006 ผลต่าง
จำนวนผู้ที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอล (คน) 1,601,536 3,688,273 + 130.3 %
วงเงินหมุนเวียน (บาท) 30,451,123,760 14,034,525,124 - 53.9 %
ตารางที่ 6 แสดงผลการประมาณการจำนวนผู้ที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006
และวงเงินหมุนเวียนจำแนกตามพื้นที่
ผลประมาณการ กทม. ปริมณฑล ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคต.อ./น ภาคใต้
จำนวนผู้ตั้งใจเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006 (คน) 850,173 615,815 380,626 1,311,344 530,315
วงเงินหมุนเวียน (บาท) 2,137,304,745 4,472,513,819 1,247,440,683 4,334,686,536 1,842,579,341
ตารางที่ 7 แสดงผลการประมาณการจำนวนผู้ที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006 และวงเงินหมุนเวียน
จำแนกตามกลุ่มอาชีพ
ผลประมาณการ ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ ลูกจ้าง/พนักงานบริษัท ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว นักเรียน/นักศึกษา รับจ้างทั่วไป อื่นๆ
จำนวนผู้ตั้งใจเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006(คน) 176,611 498,533 931,684 823,164 886,376 352,084
วงเงินหมุนเวียน (บาท) 215,167,073 1,812,267,321 5,627,033,201 1,558,092,554 855,374,814 1,963,328,735
ตารางที่ 8 แสดงผลการประมาณการจำนวนผู้ที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006
จำแนกตามประสบการณ์ในการเล่นพนันทายผลฟุตบอล
ประสบการณ์การเล่นพนันทายผลฟุตบอล ผลประมาณการจำนวนผู้ที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอล
เคยเล่นและปัจจุบันยังเล่นอยู่ 2,280,592
เคยเลิกเล่นและจะกลับมาเล่นอีก 750,290
ไม่เคยเล่นพนันทายผลฟุตบอล 599,477
ไม่ระบุประสบการณ์ในการเล่น 57,914
รวมทั้งสิ้น 3,688,273
ตารางที่ 9 แสดง 3 อันดับแรกค่าร้อยละของตัวอย่าง ที่ระบุทีมชาติที่คาดว่าจะคว้าแชมป์
ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 จำแนกตามวงเงินที่จะใช้เล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006
(ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ ทีมชาติที่คาดว่าจะคว้าแชมป์ วงเงินที่จะใช้เล่น
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ไม่เกิน1,000 บาท 1,001—10,000 บาท มากกว่า 10,000 บาท
1 บราซิล 61.5 61.7 21.4
2 อังกฤษ 17.1 19.4 33.1
3 อื่นๆ เช่น เยอรมัน ฝรั่งเศส อาร์เจนตินา อิตาลี สเปน 19.6 14.9 10.7
ตารางที่ 10 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่าง ที่ระบุนักฟุตบอลที่คาดว่ามีโอกาสได้รับตำแหน่งดาวซัลโวมากที่สุด
ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 จำแนกตามวงเงินที่จะใช้เล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006
(ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ นักฟุตบอลที่คาดว่ามีโอกาสได้รับตำแหน่งดาวซัลโวมากที่สุด วงเงินที่จะใช้เล่น
ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ไม่เกิน1,000 บาท 1,001—10,000 บาท มากกว่า 10,000 บาท
1 โรนัลดินโญ่ (บราซิล) 34.1 32.6 8.0
2 โรนัลโด้ (บราซิล) 27.3 32.4 61.6
3 เธียร์รี่ อองรี (ฝรั่งเศส) 13.2 6.0 4.1
4 ไมเคิล โอเว่น (อังกฤษ) 5.2 8.7 3.2
5 เวย์น รูนี่ย์ (อังกฤษ) 2.8 3.0 7.7
6 ซีเนดีน ซีดาน (ฝรั่งเศส) 2.0 0.9 18.6
7 สตีเว่น เจอร์ราด (อังกฤษ) 1.8 0.8 -
ตารางที่ 11 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่าง ที่ระบุปัญหาที่เคยประสบในการเล่นพนันทายผลฟุตบอล
จำแนกตามวงเงินที่จะใช้เล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006 (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ ประสบการณ์ที่เคยประสบในการเล่นพนันทายผลฟุตบอล วงเงินที่จะใช้เล่น
ไม่เกิน1,000 บาท 1,001—10,000 บาท มากกว่า 10,000 บาท
1 โดนโกง / จ่ายไม่ครบ / ไม่จ่าย 20.5 23.6 28.9
2 หยุดงาน / หนีเรียนเนื่องจากติดตามดูการถ่ายทอดสด 18.1 24.2 25.1
3 มีหนี้สินจากการเล่นพนัน 6.7 27.6 27.7
4 ความขัดแย้งกับคู่รัก / ครอบครัว 9.0 28.5 24.0
5 ต้องขายหรือจำนำของมีค่า 5.9 22.4 53.9
6 โกหกพ่อ แม่ ผู้ปกครอง/คู่รัก 8.9 22.3 4.0
7 ทะเลาะวิวาทกับโต๊ะพนันบอล / ผู้ที่เล่นพนันด้วย 5.8 8.9 30.3
ตารางที่ 12 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่าง ที่ระบุการพบเห็น เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง
กับการเล่นพนันทายผลฟุตบอล ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ พฤติกรรมที่เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเล่นพนันทายผลฟุตบอลตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา ร้อยละ
1 เป็นผู้เล่นพนัน 40.3
2 รับส่วย (เงินสินบน) จากโต๊ะบอล 22.7
3 เป็นผู้รับแทงรายย่อย 19.9
4 จับกุมผู้กระทำผิด (โต๊ะบอล / ผู้รับแทง / ผู้เล่น) 16.8
5 เป็นโต๊ะบอล 15.6
6 เป็นผู้เดินโพย 10.3
ตารางที่ 13 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่าง ที่ระบุบุคคลหรือช่องทางที่จะเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006 ด้วย
จำแนกตามวงเงินที่จะใช้เล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006 (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ )
ลำดับที่ บุคคลที่ตั้งใจจะเล่น/ช่องทางที่คิดจะเล่น วงเงินที่จะใช้เล่น
ไม่เกิน1,000 บาท 1,001—10,000 บาท มากกว่า 10,000 บาท
1 เพื่อนร่วมสถาบัน / เพื่อนร่วมงาน 60.6 56.9 76.7
2 คนรู้จักในละแวกบ้าน / ชุมชน 29.9 33.7 27.3
3 แทงที่โต๊ะบอล 19.9 42.7 58.0
4 ญาติ / พี่น้อง 22.7 7.4 8.6
5 โต๊ะบอลผ่านเด็กเดินโพย 6.6 14.0 9.0
6 โต๊ะบอลผ่านทางโทรศัพท์ 4.0 16.1 31.1
7 ผู้ที่มาชมการถ่ายทอดฟุตบอลตามสถานบันเทิงที่มีการถ่ายทอดสด 2.8 6.1 9.3
8 รับเป็นเจ้ามือ / รับแทงเอง 0.9 7.0 20.4
9 อินเทอร์เน็ต / เว็ปไซด์ 1.4 6.0 12.7
10 อื่น ๆ อาทิ แฟน / คนรัก เป็นต้น 0.7 0.4 -
ตารางที่ 14 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่าง ที่ระบุความกังวลใจว่าจะถูกจับดำเนินคดีเล่นพนันทายผลฟุตบอล
(เฉพาะผู้ที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอลและตอบได้มากกว่า 1 ข้อ
ลำดับที่ ความกังวลใจเกี่ยวกับการถูกจับดำเนินคดีเล่นพนันทายผล ร้อยละ
1 กังวลใจ 35.6
2 ไม่กังวลใจ 64.4
รวมทั้งสิ้น 100.0
ตารางที่ 15 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่าง ที่ระบุความคิดเห็นต่อการเปิดรับโต๊ะพนันทายผลฟุตบอล
อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ลำดับที่ ความคิดเห็นต่อการเปิดโต๊ะรับพนันทายผลฟุตบอลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ร้อยละ
1 เห็นด้วย 17.5
2 ไม่เห็นด้วย 65.1
3 ไม่มีความเห็น 17.4
รวมทั้งสิ้น 100.0
สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โทร.0-2719-1549-50
www.abacpoll.au.edu หรือ www.abacpoll.com
--เอแบคโพลล์--
-พห-
ในช่วงมหกรรมฟุตบอลโลก 2006 ปัญหาที่น่าห่วงใยประการหนึ่งของสังคม คือการเล่นพนันทายผลฟุตบอล ทั้งนี้ผลการสำรวจเบื้องต้นของ
สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ที่ได้นำเสนอไปในวันที่ 24 พฤษภาคม 2549 ซึ่งเป็นการสำรวจในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล พบข้อมูลที่น่าสนใจว่า
นอกจากความสนใจติดตามชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันในนัดต่างๆ แล้ว ประชาชนจำนวนถึงประมาณ 8 แสนกว่าคนมีความตั้งใจจะเล่นพนันทายผล
ฟุตบอล ขณะที่วงเงินหมุนเวียนคาดว่าจะมีสูงถึงประมาณ 2 พันกว่าล้านบาท
เพื่อให้ภาพของปัญหาดังกล่าวมีความชัดเจนยิ่งขึ้น สำนักวิจัยฯ ได้ขยายพื้นที่การสำรวจครอบคลุมทั่วประเทศ รวมถึงการวิเคราะห์เจาะลึก
ข้อมูลที่น่าสนใจอีกครั้ง โดยจัดส่งอาจารย์ เจ้าหน้าที่ และพนักงานเก็บรวบรวมข้อมูลจากพื้นที่ต่างๆ ตามหลักการวิจัยทางสังคมศาสตร์ต่อไป
วัตถุประสงค์ของโครงการ
1. เพื่อสำรวจถึงความสนใจติดตามชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006
2. เพื่อประมาณการจำนวนผู้ที่คาดว่าจะเล่นพนันทายผลฟุตบอล รวมถึงวงเงินหมุนเวียนในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006
3. เพื่อวิเคราะห์เจาะลึกข้อมูลในประเด็นสำคัญๆ เช่น คุณลักษณะด้านประชากร พื้นที่ ช่องทาง ฯลฯ
4. เพื่อสำรวจถึงประเด็นสำคัญอื่นๆ
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. ทำให้ทราบถึงความสนใจของประชาชนต่อการติดตามการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006
2. เพื่อศึกษาถึงสถานการณ์ของการเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006
3. เป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาตัดสินใจของบุคคล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการใดๆ ใน
การป้องกันและแก้ไขปัญหาการเล่นพนันทายผลฟุตบอล
4. เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการศึกษาของผู้ที่สนใจต่อไป
ระเบียบวิธีการทำโพลล์
โครงการสำรวจภาคสนามของสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญในครั้งนี้เรื่อง “โค้งสุดท้ายฟุตบอลโลก 2006 เจาะลึกปัญหา
การเล่นพนันทายผลฟุตบอล: กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชน 21 จังหวัดทั่วประเทศ” ประกอบด้วย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลพบุรี ชลบุรี ระยอง
นครนายก กาญจนบุรี สมุทรสาคร อุบลราชธานี ขอนแก่น ร้อยเอ็ด เชียงใหม่ อุตรดิตถ์ กำแพงเพชร พังงา ชุมพร สงขลา พัทลุง ปทุมธานี
สมุทรปราการ นนทบุรี และกรุงเทพมหานคร ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 22 พฤษภาคม — 3 มิถุนายน 2549
ประเภทของการสำรวจวิจัยครั้งนี้คือ การวิจัยเชิงสำรวจ (Survey Research)
กลุ่มประชากรเป้าหมาย คือ กลุ่มประชาชนทั่วไปที่มีอายุ 13 — 60 ปี
เทคนิควิธีการสุ่มตัวอย่าง ใช้การสุ่มตัวอย่างแบบแบ่งกลุ่มเชิงชั้นภูมิ (stratified cluster sampling) และใช้วิธีการสุ่มที่คำนึง
ถึงสัดส่วนที่แท้จริงของประชากร (Probability Proportionate to Size Sampling) จากนั้นเข้าถึงตัวอย่างที่ระดับครัวเรือนตามคุณลักษณะ
และสัดส่วนที่กำหนด
ขนาดตัวอย่าง 4,685 ตัวอย่าง
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ แบบสอบถาม
วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลคือ การสัมภาษณ์
หลังจากนั้นคณะผู้วิจัยได้ตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของแบบสอบถามทุกชุดก่อนนำเข้าวิเคราะห์ข้อมูล และงบประมาณที่ใช้เป็นของมหาวิทยาลัย
ข้อมูลทั่วไปของตัวอย่าง
จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่างที่เป็นประชาชนทั่วไป พบว่า
ร้อยละ 50.1 ระบุเป็นหญิง
ขณะที่ร้อยละ 49.9 ระบุเป็นชาย
ซึ่งร้อยละ 24.4 อายุระหว่าง 20 — 29 ปี
ร้อยละ 24.2 อายุ 30 - 39 ปี
ร้อยละ 20.3 ระบุอายุ 40 - 49 ปี
ส่วนที่ระบุอายุระหว่าง 13 - 19 ปี และ 50 ปีขึ้นไปมีอยู่ร้อยละ 15.6 และ 15.4 ตามลำดับ
อย่างไรก็ตามร้อยละ 0.1 ไม่ระบุอายุ ด้านระดับการศึกษา
ตัวอย่างร้อยละ 85.6 ระบุสำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี
ขณะที่ร้อยละ 12.1 ระบุสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี
ร้อยละ 0.9 ระบุสำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี
และร้อยละ 1.4 ไม่ระบุระดับการศึกษา
นอกจากนี้ตัวอย่างร้อยละ 32.0 ระบุอาชีพค้าขาย / ธุรกิจส่วนตัว
รองลงมาร้อยละ 19.3 ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป
ร้อยละ 17.9 ระบุเป็นนักเรียน / นักศึกษา
ร้อยละ 10.0 ระบุอาชีพพนักงาน / ลูกจ้างบริษัทเอกชน ส่วนที่ระบุอาชีพอื่น อาทิ รับราชการ /
รัฐวิสาหกิจ แม่บ้าน / พ่อบ้าน / เกษียณอายุ ว่างงาน ฯลฯ มีอยู่รวมกันร้อยละ 20.3
และที่ไม่ระบุอาชีพมีอยู่ร้อยละ 0.5
ด้านรายได้ส่วนบุคคลเฉลี่ยต่อเดือนส่วนใหญ่คือร้อยละ 75.2 ระบุไม่เกิน 10,000 บาท
ขณะที่ร้อยละ 11.1 ระบุระหว่าง 10,001 — 15,000 บาท
ร้อยละ 3.3 ระบุระหว่าง 15,001 -20,000 บาท
ส่วนที่ระบุรายได้เฉลี่ยต่อเดือนสูงกว่า 20,000 บาทมีอยู่รวมกัน 6.4 และไม่ระบุรายได้ร้อยละ 4.0
บทสรุปผลวิจัย
ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญได้เปิดเผย ผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง “โค้งสุดท้ายฟุตบอล
โลก 2006 เจาะลึกปัญหาการเล่นพนันทายผลฟุตบอล: กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชน 21 จังหวัดทั่วประเทศ” จำนวนทั้งสิ้น 4,685 ตัวอย่าง ดำเนิน
โครงการระหว่างวันที่ 22 พฤษภาคม — 3 มิถุนายน 2549 ซึ่งประเด็นสำคัญที่ค้นพบจากการสำรวจสรุปได้ดังนี้
ผลสำรวจสามารถประมาณการได้ว่ามีผู้สนใจติดตามชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2006 ทั่วประเทศสูงถึงประมาณ 20,590,400 คน
หรือร้อยละ 47.1 ของประชากรทั้งหมด เมื่อสอบถามต่อไปถึงพฤติกรรมการรับชม ร้อยละ 86.1 ตั้งใจจะชมที่บ้าน/ที่พักของตน รองลงมาร้อยละ
20.8 ตั้งใจจะติดตามชมที่บ้าน / ที่พักของเพื่อน และร้อยละ 14.7 ตั้งใจติดตามรับชมที่ร้านอาหาร / สวนอาหาร
ผลการสำรวจยังประมาณการได้ว่ามีประชาชนทั่วประเทศสูงถึง 3,688,273 คนที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006 โดยมีวงเงิน
หมุนเวียนในการเล่นอยู่ที่ 14,034,525,124 บาท (หนึ่งหมื่นสี่พันสามสิบสี่ล้านบาทห้าแสนสองหมื่นห้าพันหนึ่งร้อยยี่สิบสี่บาทถ้วน) ตัวเลขดังกล่าวเมื่อ
เปรียบเทียบกับช่วงการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปปี 2004 พบว่าจำนวนผู้ที่ตั้งใจเล่นพนันเพิ่มสูงขึ้นถึงประมาณร้อยละ 130 แต่เป็นที่น่าสังเกต
ว่าวงเงินที่เล่นมีแนวโน้มลดต่ำลงถึงประมาณร้อยละ 54
ประเด็นที่น่าพิจารณาคือ เมื่อทำการเจาะลึกข้อมูลโดยการจำแนกตามพื้นที่ พบว่าภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีจำนวนผู้ที่ตั้งใจเล่นพนันทายผล
ฟุตบอลโลก 2006 สูงที่สุด คือ 1,311,344 คน แต่ภาคกลางมีวงเงินหมุนเวียนสูงที่สุดคือ 4,472,513,819 บาท นอกจากนี้ หลังจากวิเคราะห์กลุ่ม
อาชีพ พบว่า กลุ่มอาชีพค้าขาย/ ธุรกิจส่วนตัวจะมีผู้ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอลสูงที่สุดจำนวน 931,684 คน และวงเงินที่คาดว่าจะหมุนเวียนสูงสุด
เช่นกันคือ 5,627,033,201 บาท รองลงมาคือกลุ่มลูกจ้างพนักงานบริษัทเอกชน ประมาณห้าแสนคนทั่วประเทศแต่มีวงเงินสูงถึงเกือบสองพันล้านบาท
ดร.นพดล กล่าวต่อว่า ประเด็นที่น่าเป็นห่วงคือ มีประชาชนที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอลถึง 599,477 คนเป็นคนที่ไม่เคยเล่นพนันทาย
ฟุตบอลมาก่อน หรืออีกนัยหนึ่งหมายถึงมีประชาชนถึงประมาณ 6 แสน เป็นมือใหม่ที่กำลังจะเข้าสู่ระบบการเล่นพนันทายผลฟุตบอล ยิ่งไปกว่านั้นจะมีคนที่
เคยเลิกเล่นและจะกลับมาเล่นอีก 750,290 หรือประมาณเจ็ดแสนห้าหมื่นคนในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้
“ที่น่าสนใจ หลังจากจำแนกกลุ่มตัวอย่างออกเป็นสามกลุ่มตามวงเงินที่ตั้งใจจะเล่นคือ กลุ่มแรกไม่เกิน 1,000 บาท กลุ่มที่สอง 1,001 —
10,000 บาท และกลุ่มที่สามมากกว่า 10,000 บาทขึ้นไป ผลสำรวจพบหลายประเด็นที่แตกต่างกันในสามกลุ่มเหล่านี้คือ ถ้ายิ่งมีวงเงินจะใช้เล่นสูง
ขึ้น ยิ่งมีสัดส่วนของคนที่คาดว่าทีมชาติอังกฤษจะคว้าแชมป์ฟุตบอลโลกครั้งนี้ ในขณะที่กลุ่มแรกและกลุ่มที่สองส่วนใหญ่ยังคงคาดว่าทีมชาติบราซิลจะคว้า
แชมป์ และบางส่วนคิดว่าทีมชาติอื่นๆ จะคว้าแชมป์เช่น ทีมชาติเยอรมัน ฝรั่งเศส อาร์เจนติน่า อิตาลี สเปน เป็นต้น” ดร.นพดล กล่าว
ดร.นพดล กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ กลุ่มที่จะใช้วงเงินมากกว่า 10,000 บาทขึ้นไปส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.6 กลับคาดว่าโรนัลโด้จากทีม
ชาติบราซิลน่าจะเป็นดาวซัลโวในการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้ แตกต่างไปจากกลุ่มผู้ตั้งใจจะเล่นทายพนันบอลที่จะใช้วงเงินไม่เกิน 1,000 บาท และ
กลุ่มที่ตั้งใจจะใช้วงเงิน 1,001 — 10,000 บาท ที่มีประมาณ 1 ใน 3 หรือร้อยละ 34.1 และร้อยละ 32.6 ที่คาดว่า โรนัลดินโญ่น่าจะเป็นดาว
ซัลโว อย่างไรก็ตาม บางส่วนก็คาดว่า โรนัลโด้จากทีมชาติบราซิลจะเป็นดาวซัลโวเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าคนอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น อองรี
โอเว่น รูนี่ย์ ซีดาน และเจอร์ราด อาจได้เป็นดาวซัลโวอีกด้วย
“ที่น่าพิจารณาคือ คนที่จะใช้วงเงินเกินกว่า 10,000 บาทขึ้นไปในการเล่นทายพนันบอลครั้งนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 53.9 ระบุว่าเคย
ประสบปัญหาเล่นทายพนันบอลจนต้องขายหรือจำนำของมีค่า ร้อยละ 30.3 เคยทะเลาะวิวาทกับโต๊ะบอลหรือผู้เล่นพนันด้วยกัน และเกินกว่า 1 ใน 4
หรือร้อยละ 28.9 เคยโดนโกง ไม่จ่าย จ่ายไม่ครบ ร้อยละ 25.1 หยุดงาน หนีเรียน และร้อยละ 24.0 ขัดแย้งกับคู่รักและคนในครอบครัว ซึ่งจะ
เห็นได้ว่าคนกลุ่มเล่นทายพนันที่ใช้วงเงินสูงเคยเจอสารพัดปัญหาแต่ก็ยังจะเล่นทายพนันต่อไปอีกในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลกครั้งนี้” ดร.นพดล กล่าว
นอกจากนี้กลุ่มคนที่จะใช้วงเงินมากกว่า 1,000 แต่ไม่เกิน 10,000 บาท ระบุสารพัดปัญหาที่เคยประสบเช่นกันโดยกระจายไปในทุกกลุ่ม
ปัญหาที่แตกต่างเพิ่มขึ้นมาคือการมีหนี้สินพนันและการโกหกคนใกล้ชิดไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ ผู้ปกครองหรือคู่รัก และจากการวิจัยก่อนหน้านี้พบว่า ผู้ตั้งใจจะ
เล่นทายพนันบอลจำนวนมากมักเล่นพนันเกินกว่าวงเงินที่ตั้งใจไว้อีกด้วย
สำหรับประเด็นปัญหาที่น่าพิจารณาคือ กลุ่มประชาชนที่เคยพบเห็นพฤติกรรมเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเล่นทายพนันบอล
ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมาจำนวนมากหรือร้อยละ 40.3 ระบุว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นผู้เล่นพนัน รองลงมาคือร้อยละ 22.7 ระบุเป็นผู้รับส่วยหรือเงิน
สินบนจากโต๊ะบอล ร้อยละ 19.9 เป็นผู้รับแทงรายย่อย ร้อยละ 16.8 จับกุมผู้กระทำผิด ร้อยละ 15.6 ระบุเป็นโต๊ะบอล และร้อยละ 10.3 เป็นผู้
เดินโพย
“เมื่อสอบถามถึงกลุ่มคนที่เล่นทายพนันและช่องทางการเล่น ผลสำรวจพบว่า ส่วนใหญ่ในทุกกลุ่มจะเล่นกับคนที่รู้จักเช่นเพื่อนร่วมสถาบัน
เพื่อนร่วมงาน แต่ที่น่าสังเกตคือ กลุ่มคนที่จะเล่นด้วยวงเงินสูงๆ คือระหว่าง 1,000 — 10,000 บาท และกลุ่มที่จะเล่นมากกว่า 10,000 บาทขึ้นไป
จะเล่นกับโต๊ะบอลด้วย ซึ่งโต๊ะบอลที่จะเล่นด้วยนั้นจะเล่นผ่านทางโทรศัพท์และเว็ปไซด์ ในขณะที่เล่นผ่านเด็กเดินโพยจะมีเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งผล
สำรวจครั้งนี้ยังชี้ให้เห็นว่าพฤติกรรมการเล่นทายพนันบอลของกลุ่มคนที่จะใช้วงเงินสูงๆ จะไม่ค่อยเล่นผ่านเด็กเดินโพยแต่จะใช้เทคโนโลยีสื่อสารมาเป็น
ตัวกลางในการเล่นทายพนัน และบางส่วนจะรับเป็นเจ้ามือหรือรับแทงเองด้วย” ดร.นพดล กล่าว
และเมื่อสอบถามถึงความกังวลใจว่าจะถูกจับดำเนินคดีเล่นทายพนันบอลหรือไม่ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 64.4 ไม่กังวลใจ ในขณะที่ร้อยละ
35.6 กังวลใจ อย่างไรก็ตาม ประชาชนที่ถูกศึกษาครั้งนี้ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 65.1 ไม่เห็นด้วยที่จะให้มีโต๊ะรับพนันบอลเปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ในขณะที่ร้อยละ 17.5 เห็นด้วย และร้อยละ 17.4 ไม่มีความเห็น
ดร.นพดล กล่าวว่า ผลสำรวจครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่า สิ่งที่สังคมควรช่วยกันเฝ้าระวังคือปัญหาที่จะเกิดขึ้นตามมาในช่วงการแข่งขันบอลโลกและ
ภายหลังการแข่งขัน โดยเฉพาะปัญหาอาชญากรรม การจี้ปล้น วิ่งราว ลักทรัพย์ ยักยอกทรัพย์ และปัญหาความแตกแยกของคนในครอบครัว เจ้าหน้าที่รัฐ
ที่เกี่ยวข้องควรเข้มงวดกวดขันและทันต่อพฤติกรรมการเล่นทายพนันบอลของประชาชนที่เปลี่ยนแปลงไปจากการแข่งขันบอลโลกเมื่อสี่ปีที่แล้วมาสู่การใช้
เทคโนโลยีสื่อสารที่ทันสมัยเพื่อหลบหนีการถูกจับกุม และเมื่อผลสำรวจพบว่าผู้เล่นทายพนันบอลไม่กังวลต่อการถูกจับกุมดำเนินคดี ก็ยิ่งเป็นการท้าทายเจ้า
หน้าที่ของรัฐและบทลงโทษที่ประชาชนยังไม่รับรู้ว่ารุนแรงเพียงพอ จึงทำให้มีประชาชนทั่วไปและเยาวชนจำนวนมากกำลังตั้งใจจะเข้าสู่วงการพนันเป็น
ครั้งแรกและอีกจำนวนมากหลายแสนคนที่กำลังจะเข้ามาเล่นทายพนันอีกครั้งทั้งๆ ที่เคยเลิกเล่นไปแล้ว
ทางออกที่เป็นไปได้คือ การสร้างพลังขับเคลื่อนทางสังคมให้ประชาชนติดตามชมการแข่งขันเพื่อความบันเทิงและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีทาง
สังคมกับคนรอบข้างใกล้ชิด เช่น คนในครอบครัวเดียวกัน ญาติสนิท และเพื่อนร่วมงาน และควรระมัดระวังการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่แอบแฝงมากับ
การโฆษณาที่อาจทำลายสุขภาพของประชาชนผู้ติดตามชมการแข่งขันด้วย
ประเด็นสำคัญที่ค้นพบปรากฏในตารางต่อไปนี้
ตารางที่ 1แสดงผลการประมาณการจำนวนผู้ที่ตั้งใจจะชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2006 และนัดเปิดสนาม
ผลประมาณการ จำนวน (คน) ร้อยละ
จำนวนผู้ที่ตั้งใจจะชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2006 20,590,400 47.1
หมายเหตุ เป็นการประมาณการจากประชากรที่มีอายุตั้งแต่ 13 -60 ปี ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้น 43,723,690 คน
(สี่สิบสามล้านเจ็ดแสนสองหมื่นสามพันหกร้อยเก้าสิบคน)
ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่าง ที่ระบุสถานที่ที่คิดว่าจะติดตามชมการถ่ายทอดสด
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 (ค่าร้อยละเฉพาะกลุ่มที่ตั้งใจติดตามชมการถ่ายทอดสด
และตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ สถานที่ที่คิดว่าจะติดตามชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ร้อยละ
1 บ้าน / ที่พักของตนเอง 86.1
2 บ้าน / ที่พักของเพื่อน 20.8
3 ร้านอาหาร / สวนอาหาร 14.7
4 สถานบันเทิงต่าง ๆ 8.8
5 สถานที่ที่มีการติดตั้งจอขนาดใหญ่ให้บุคคลทั่วไปชม (เช่นหน้าห้าง สนามกีฬา / ลานกีฬา) 8.4
ตารางที่ 3 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่าง ที่ระบุบุคคลที่คิดว่าจะติดตามชมการถ่ายทอดสด
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ด้วย (ค่าร้อยละเฉพาะกลุ่มที่ตั้งใจติดตามชมการ
ถ่ายทอดสดและตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ บุคคลที่คิดว่าจะชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ด้วย ร้อยละ
1 เพื่อน 51.9
2 ครอบครัว (พ่อ / แม่ / ลูก / พี่ / น้อง) 43.7
3 ชมคนเดียว 25.7
4 คนทั่ว ๆ ไปที่มาเชียร์ในสถานที่เดียวกัน 15.5
5 หัวหน้า / ลูกน้องในบริษัทหรือหน่วยงาน 3.4
6 ครู /อาจารย์ร่วมสถาบัน 0.9
ตารางที่ 4 แสดงผลการประมาณการจำนวนผู้ที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผล
ฟุตบอลโลก 2006 และวงเงินหมุนเวียนผลประมาณการ จำนวน
จำนวนผู้ที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006 (คน) 3,688,273
วงเงินหมุนเวียน (บาท) 14,034,525,124
ตารางที่ 5 แสดงผลการประมาณการจำนวนผู้ที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006 และวงเงินหมุนเวียน
เปรียบเทียบกับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2004
ผลประมาณการ ฟุตบอลยูโร 2004 ฟุตบอลโลก 2006 ผลต่าง
จำนวนผู้ที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอล (คน) 1,601,536 3,688,273 + 130.3 %
วงเงินหมุนเวียน (บาท) 30,451,123,760 14,034,525,124 - 53.9 %
ตารางที่ 6 แสดงผลการประมาณการจำนวนผู้ที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006
และวงเงินหมุนเวียนจำแนกตามพื้นที่
ผลประมาณการ กทม. ปริมณฑล ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคต.อ./น ภาคใต้
จำนวนผู้ตั้งใจเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006 (คน) 850,173 615,815 380,626 1,311,344 530,315
วงเงินหมุนเวียน (บาท) 2,137,304,745 4,472,513,819 1,247,440,683 4,334,686,536 1,842,579,341
ตารางที่ 7 แสดงผลการประมาณการจำนวนผู้ที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006 และวงเงินหมุนเวียน
จำแนกตามกลุ่มอาชีพ
ผลประมาณการ ข้าราชการ/รัฐวิสาหกิจ ลูกจ้าง/พนักงานบริษัท ค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว นักเรียน/นักศึกษา รับจ้างทั่วไป อื่นๆ
จำนวนผู้ตั้งใจเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006(คน) 176,611 498,533 931,684 823,164 886,376 352,084
วงเงินหมุนเวียน (บาท) 215,167,073 1,812,267,321 5,627,033,201 1,558,092,554 855,374,814 1,963,328,735
ตารางที่ 8 แสดงผลการประมาณการจำนวนผู้ที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006
จำแนกตามประสบการณ์ในการเล่นพนันทายผลฟุตบอล
ประสบการณ์การเล่นพนันทายผลฟุตบอล ผลประมาณการจำนวนผู้ที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอล
เคยเล่นและปัจจุบันยังเล่นอยู่ 2,280,592
เคยเลิกเล่นและจะกลับมาเล่นอีก 750,290
ไม่เคยเล่นพนันทายผลฟุตบอล 599,477
ไม่ระบุประสบการณ์ในการเล่น 57,914
รวมทั้งสิ้น 3,688,273
ตารางที่ 9 แสดง 3 อันดับแรกค่าร้อยละของตัวอย่าง ที่ระบุทีมชาติที่คาดว่าจะคว้าแชมป์
ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 จำแนกตามวงเงินที่จะใช้เล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006
(ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ ทีมชาติที่คาดว่าจะคว้าแชมป์ วงเงินที่จะใช้เล่น
การแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ไม่เกิน1,000 บาท 1,001—10,000 บาท มากกว่า 10,000 บาท
1 บราซิล 61.5 61.7 21.4
2 อังกฤษ 17.1 19.4 33.1
3 อื่นๆ เช่น เยอรมัน ฝรั่งเศส อาร์เจนตินา อิตาลี สเปน 19.6 14.9 10.7
ตารางที่ 10 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่าง ที่ระบุนักฟุตบอลที่คาดว่ามีโอกาสได้รับตำแหน่งดาวซัลโวมากที่สุด
ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 จำแนกตามวงเงินที่จะใช้เล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006
(ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ นักฟุตบอลที่คาดว่ามีโอกาสได้รับตำแหน่งดาวซัลโวมากที่สุด วงเงินที่จะใช้เล่น
ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ไม่เกิน1,000 บาท 1,001—10,000 บาท มากกว่า 10,000 บาท
1 โรนัลดินโญ่ (บราซิล) 34.1 32.6 8.0
2 โรนัลโด้ (บราซิล) 27.3 32.4 61.6
3 เธียร์รี่ อองรี (ฝรั่งเศส) 13.2 6.0 4.1
4 ไมเคิล โอเว่น (อังกฤษ) 5.2 8.7 3.2
5 เวย์น รูนี่ย์ (อังกฤษ) 2.8 3.0 7.7
6 ซีเนดีน ซีดาน (ฝรั่งเศส) 2.0 0.9 18.6
7 สตีเว่น เจอร์ราด (อังกฤษ) 1.8 0.8 -
ตารางที่ 11 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่าง ที่ระบุปัญหาที่เคยประสบในการเล่นพนันทายผลฟุตบอล
จำแนกตามวงเงินที่จะใช้เล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006 (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ ประสบการณ์ที่เคยประสบในการเล่นพนันทายผลฟุตบอล วงเงินที่จะใช้เล่น
ไม่เกิน1,000 บาท 1,001—10,000 บาท มากกว่า 10,000 บาท
1 โดนโกง / จ่ายไม่ครบ / ไม่จ่าย 20.5 23.6 28.9
2 หยุดงาน / หนีเรียนเนื่องจากติดตามดูการถ่ายทอดสด 18.1 24.2 25.1
3 มีหนี้สินจากการเล่นพนัน 6.7 27.6 27.7
4 ความขัดแย้งกับคู่รัก / ครอบครัว 9.0 28.5 24.0
5 ต้องขายหรือจำนำของมีค่า 5.9 22.4 53.9
6 โกหกพ่อ แม่ ผู้ปกครอง/คู่รัก 8.9 22.3 4.0
7 ทะเลาะวิวาทกับโต๊ะพนันบอล / ผู้ที่เล่นพนันด้วย 5.8 8.9 30.3
ตารางที่ 12 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่าง ที่ระบุการพบเห็น เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง
กับการเล่นพนันทายผลฟุตบอล ตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ พฤติกรรมที่เจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเล่นพนันทายผลฟุตบอลตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา ร้อยละ
1 เป็นผู้เล่นพนัน 40.3
2 รับส่วย (เงินสินบน) จากโต๊ะบอล 22.7
3 เป็นผู้รับแทงรายย่อย 19.9
4 จับกุมผู้กระทำผิด (โต๊ะบอล / ผู้รับแทง / ผู้เล่น) 16.8
5 เป็นโต๊ะบอล 15.6
6 เป็นผู้เดินโพย 10.3
ตารางที่ 13 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่าง ที่ระบุบุคคลหรือช่องทางที่จะเล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006 ด้วย
จำแนกตามวงเงินที่จะใช้เล่นพนันทายผลฟุตบอลโลก 2006 (ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ )
ลำดับที่ บุคคลที่ตั้งใจจะเล่น/ช่องทางที่คิดจะเล่น วงเงินที่จะใช้เล่น
ไม่เกิน1,000 บาท 1,001—10,000 บาท มากกว่า 10,000 บาท
1 เพื่อนร่วมสถาบัน / เพื่อนร่วมงาน 60.6 56.9 76.7
2 คนรู้จักในละแวกบ้าน / ชุมชน 29.9 33.7 27.3
3 แทงที่โต๊ะบอล 19.9 42.7 58.0
4 ญาติ / พี่น้อง 22.7 7.4 8.6
5 โต๊ะบอลผ่านเด็กเดินโพย 6.6 14.0 9.0
6 โต๊ะบอลผ่านทางโทรศัพท์ 4.0 16.1 31.1
7 ผู้ที่มาชมการถ่ายทอดฟุตบอลตามสถานบันเทิงที่มีการถ่ายทอดสด 2.8 6.1 9.3
8 รับเป็นเจ้ามือ / รับแทงเอง 0.9 7.0 20.4
9 อินเทอร์เน็ต / เว็ปไซด์ 1.4 6.0 12.7
10 อื่น ๆ อาทิ แฟน / คนรัก เป็นต้น 0.7 0.4 -
ตารางที่ 14 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่าง ที่ระบุความกังวลใจว่าจะถูกจับดำเนินคดีเล่นพนันทายผลฟุตบอล
(เฉพาะผู้ที่ตั้งใจจะเล่นพนันทายผลฟุตบอลและตอบได้มากกว่า 1 ข้อ
ลำดับที่ ความกังวลใจเกี่ยวกับการถูกจับดำเนินคดีเล่นพนันทายผล ร้อยละ
1 กังวลใจ 35.6
2 ไม่กังวลใจ 64.4
รวมทั้งสิ้น 100.0
ตารางที่ 15 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่าง ที่ระบุความคิดเห็นต่อการเปิดรับโต๊ะพนันทายผลฟุตบอล
อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ลำดับที่ ความคิดเห็นต่อการเปิดโต๊ะรับพนันทายผลฟุตบอลอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ร้อยละ
1 เห็นด้วย 17.5
2 ไม่เห็นด้วย 65.1
3 ไม่มีความเห็น 17.4
รวมทั้งสิ้น 100.0
สำนักวิจัยเอแบคโพลล์ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ โทร.0-2719-1549-50
www.abacpoll.au.edu หรือ www.abacpoll.com
--เอแบคโพลล์--
-พห-