สำนักวิจัยวิจัยเอแบคโพลล์ (ABAC POLL) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจเรื่อง แผนฟื้นฟูปฏิรูปประเทศไทย ควรปฏิรูปใครก่อนในทรรศนะของประชาชน กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้ที่พักอาศัยอยู่ใน 17 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร ลำปาง เชียงราย เชียงใหม่ ปราจีนบุรี ราชบุรี สุพรรณบุรี ชลบุรี หนองคาย สกลนคร สุรินทร์ บุรีรัมย์ ขอนแก่น นครราชสีมา สุราษฎร์ธานี สงขลา และนครศรีธรรมราช จำนวนทั้งสิ้น 1,689 ครัวเรือน ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 1 — 12 มิถุนายน 2553
ประชาชนที่ถูกศึกษาส่วนใหญ่หรือเกินกว่าร้อยละ 70 ระบุมีปัญหาในชีวิตระดับปานกลางจนถึงระดับมากจนเป็นทุกข์เดือดร้อน โดยร้อยละ 16.8 ระบุมีปัญหาในชีวิตมากจนเป็นทุกข์เดือดร้อน ร้อยละ 24.1 ระบุมีปัญหาค่อนข้างมาก ร้อยละ 36.6 มีปัญหาระดับปานกลาง ร้อยละ 10.1 มีปัญหาค่อนข้างน้อย ร้อยละ 12.4 มีปัญหาน้อยจนถึงไม่มีปัญหาเลย
เมื่อถามถึงกลุ่มคนที่ทำให้กลุ่มคนตอบแบบสอบถามหรือคนรู้จักใกล้ชิดเดือดร้อนเป็นทุกข์มากที่สุด พบว่า ร้อยละ 40.1 ระบุเป็นกลุ่มข้าราชการ รองลงมาคือร้อยละ 36.6 ระบุเป็นตัวประชาชนเอง และร้อยละ 23.3 ระบุเป็นรัฐบาล
เมื่อถามถึงลักษณะของปัญหาที่เจ้าหน้าที่รัฐทำให้ประชาชนเดือดร้อนเป็นทุกข์ในรัฐบาลชุดปัจจุบัน พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 61.9 ระบุเป็นการเรียกรับผลประโยชน์ ทุจริตคอรัปชั่น รีดไถ รองลงมา คือร้อยละ 45.2 ระบุการเลือกปฏิบัติ ไม่ให้ความเป็นธรรม ปล่อยให้ถูกแซงคิว ร้อยละ 43.9 ระบุพูดจาไม่ดี ตะคอก ดุดัน ร้อยละ 40.7 ไม่มีจิตใจบริการ ดูแลประชาชน ร้อยละ 40.2 ไม่ยอมทำงาน แก้ปัญหา ร้อยละ 37.7 ระบุความประพฤติไม่เหมาะสม เช่น ข่มขู่ กลั่นแกล้ง ชู้สาว และร้อยละ 12.4 ระบุอื่นๆ เช่น เป็นเจ้ามือหวย เปิดโต๊ะรับพนันบอล คุมบ่อน เป็นต้น
ตัวอย่างส่วนใหญ่หรือร้อยละ 68.8 มองว่ามีความจำเป็นต้องมีคณะกรรมการอิสระฟื้นฟูปฏิรูปแก้ปัญหาประชาชนระดับจังหวัด ในขณะที่ร้อยละ 31.2 เห็นว่าไม่จำเป็น
เมื่อถามว่า กลุ่มคนกลุ่มคนที่ควรได้รับการปฏิรูปอย่างเร่งด่วนที่สุดก่อนกลุ่มอื่น พบกลุ่มคนสองกลุ่มแรกที่น่าพิจารณาคือ ร้อยละ 43.9 ระบุปฏิรูปกลุ่มข้าราชการก่อน รองลงมาคือ ร้อยละ 32.6 ระบุปฏิรูปนักการเมืองก่อน ในขณะที่ร้อยละ 13.1 ระบุกลุ่มพ่อค้า ผู้ประกอบการก่อน และร้อยละ 10.4 ระบุกลุ่มประชาชนทั่วไปก่อน ตามลำดับ
เมื่อถามถึงความเชื่อมั่นของประชาชนต่อแผนฟื้นฟูปฏิรูปประเทศไทยจะได้ผลจริงจังต่อเนื่องหรือไม่ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 66.3 ระบุไม่เชื่อมั่น ในขณะที่ร้อยละ 33.7 ระบุเชื่อมั่น
สำหรับสิ่งที่อยากให้รัฐบาลทำเร่งด่วนที่สุด พบว่า อันดับแรก หรือร้อยละ 35.9 คือ แก้ปัญหาเศรษฐกิจและความยากจน รองลงมาคือ ร้อยละ 24.4 แก้ปัญหาความไม่เป็นธรรมในสังคม ร้อยละ 12.5 ระบุปัญหาสังคม เช่น พนัน โสเภณี ยาเสพติด และอาชญากรรม ร้อยละ 11.2 ให้ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ร้อยละ 4.5 ระบุให้นายกรัฐมนตรีลาออก และร้อยละ 11.5 ไม่มีความเห็น
จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า
ตัวอย่าง ร้อยละ 52.6 เป็นหญิง
ร้อยละ 47.4 เป็นชาย
ตัวอย่าง ร้อยละ 5.0 อายุต่ำกว่า 20 ปี
ร้อยละ 23.2 อายุ 20 — 29 ปี
ร้อยละ 22.1 อายุ 30 — 39 ปี
ร้อยละ 26.6 อายุ 40 — 49 ปี
และร้อยละ 23.1 อายุ 50 ปีขึ้นไป
โดยตัวอย่าง ร้อยละ 31.6 ระบุอาชีพเกษตรกร/รับจ้างทั่วไป
ร้อยละ 23.3 ระบุอาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว
ร้อยละ 19.3 ระบุอาชีพพนักงานบริษัทเอกชน
ร้อยละ 12.4 ระบุข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ
ร้อยละ 4.9 เป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณอายุ
ร้อยละ 4.7 เป็นนักเรียน/นักศึกษา
ในขณะที่ ร้อยละ 3.8 ระบุว่างงาน/ไม่ประกอบอาชีพ
นอกจากนี้ ร้อยละ 77.6 มีการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี
ร้อยละ 20.0 มีการศึกษาระดับปริญญาตรี
และร้อยละ 2.4 สำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรีขึ้นไป
ลำดับที่ ระดับปัญหาในชีวิตประจำวัน ค่าร้อยละ
1 มีปัญหามากจนเป็นทุกข์เดือดร้อน 16.8
2 มีปัญหาค่อนข้างมาก 24.1
3 มีปัญหาระดับปานกลาง 36.6
4 มีปัญหาค่อนข้างน้อย 10.1
5 มีปัญหาน้อย ถึงไม่มีเลย 12.4
รวมทั้งสิ้น 100.0
ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ คำตอบต่อคำถามที่ว่า ใครทำให้ตัวท่านหรือคนรู้จักใกล้ชิดเดือดร้อนเป็นทุกข์มากที่สุด
ลำดับที่ คนที่ทำให้ประชาชนเดือดร้อนจนเป็นทุกข์มากที่สุด ค่าร้อยละ
1 กลุ่มข้าราชการ 40.1
2 ตัวประชาชนเอง 36.6
3 รัฐบาล 23.3
รวมทั้งสิ้น 100.0
ตารางที่ 3 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ลักษณะของปัญหาที่เจ้าหน้าที่รัฐทำให้ประชาชนเดือดร้อนเป็นทุกข์ ในรัฐบาลชุดปัจจุบัน
(ตอบได้มากกว่า 1 ข้อ)
ลำดับที่ ลักษณะของปัญหาที่เกิดจากการกระทำของเจ้าหน้าที่รัฐ ค่าร้อยละ
1 การเรียกรับผลประโยชน์ ทุจริตคอรัปชั่น รีดไถ 61.9
2 การเลือกปฏิบัติ ไม่ให้ความเป็นธรรม ปล่อยให้ถูกแซงคิว 45.2
3 พูดจาไม่ดี ตะคอก ดุดัน 43.9
4 การไม่มีจิตใจบริการ ดูแลประชาชน 40.7
5 ไม่ยอมทำงาน แก้ปัญหา 40.2
6 ความประพฤติที่ไม่เหมาะสม เช่น ข่มขู่ กลั่นแกล้ง ชู้สาว 37.7
7 อื่นๆ เช่น เป็นเจ้ามือหวย เปิดโต๊ะรับพนันบอล คุมบ่อน 12.4
ตารางที่ 4 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ความเห็นต่อ การมีคณะกรรมการอิสระในการฟื้นฟูปฏิรูปแก้ปัญหาประชาชนระดับจังหวัด
ลำดับที่ ความเห็น ค่าร้อยละ
1 จำเป็นต้องมีคณะกรรมการอิสระฟื้นฟูปฏิรูปฯ ระดับจังหวัด 68.8
2 ไม่จำเป็น 31.2
รวมทั้งสิ้น 100.0
ตารางที่ 5 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ กลุ่มคนที่ควรจะได้รับการปฏิรูปเร่งด่วนที่สุด ภายในจังหวัดของตนเอง
ลำดับที่ กลุ่มคนที่ควรได้รับการปฏิรูปอย่างเร่งด่วนที่สุด ค่าร้อยละ
1 ปฏิรูปข้าราชการก่อน 43.9
2 ปฏิรูปนักการเมือง 32.6
3 กลุ่มพ่อค้า ผู้ประกอบการก่อน 13.1
4 ประชาชนทั่วไป 10.4
รวมทั้งสิ้น 100.0
ตารางที่ 6 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ ความเชื่อมั่นว่าแผนฟื้นฟูปฏิรูปประเทศไทยจะได้ผลจริงจังต่อเนื่อง
ลำดับที่ ความเห็น ค่าร้อยละ
1 ไม่เชื่อมั่น 66.3
2 เชื่อมั่น 33.7
รวมทั้งสิ้น 100.0
ตารางที่ 7 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุ สิ่งที่รัฐบาลควรเร่งดำเนินการในช่วงฟื้นฟูปฏิรูปประเทศไทยมากที่สุด
ลำดับที่ ความเห็น ค่าร้อยละ
1 แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ความยากจน 35.9
2 แก้ปัญหาความไม่เป็นธรรมในสังคม 24.4
3 แก้ปัญหาสังคม เช่น การพนัน โสเภณี ยาเสพติดและอาชญากรรม 12.5
4 ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ 11.2
5 นายกรัฐมนตรีควรลาออก 4.5
6 ไม่มีความเห็น 11.5
รวมทั้งสิ้น 100.0
--เอแบคโพลล์--
-พห-