เอแบคโพลล์: ความเป็นธรรมในสังคมกับความสุขของคนไทย

ข่าวผลสำรวจ Monday August 9, 2010 07:55 —เอแบคโพลล์

ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายวิชาการเพื่อสังเกตการณ์และวิจัยความสุขชุมชน หรือศูนย์วิจัยความสุขชุมชน(Academic Network for Community Happiness Observation and Research, ANCHOR) มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเรื่อง ความเป็น ธรรมในสังคมกับความสุขของคนไทย กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนผู้ที่พักอาศัยอยู่ใน 28 จังหวัดของประเทศ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สระบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ นครนายก สระแก้ว ชลบุรี อำนาจเจริญ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี เลย หนองคาย กาฬสินธุ์ พะเยา เชียงราย เชียงใหม่ อุทัยธานี สุโขทัย เพชรบูรณ์ สมุทรสาคร ราชบุรี นครปฐม กระบี่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ยะลา ปัตตานีและสงขลา จำนวนทั้งสิ้น 5,570 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างเดือน มิถุนายน ถึง กรกฎาคม 2553 พบว่า

ประชาชนที่ถูกศึกษาร้อยละ 42.6 ระบุความเป็นธรรมในสังคมที่ได้รับในการดำเนินชีวิตประจำวันในระดับมาก อย่างไรก็ตามเกินกว่า 1 ใน 3 หรือร้อยละ 35.7 ระบุได้รับความเป็นธรรมในสังคมระดับน้อย ที่เหลือร้อยละ 21.6 ระบุได้รับความเป็นธรรมในระดับปานกลาง

เมื่อจำแนกตามเพศ พบว่า เพศชายและเพศหญิงระบุได้รับความเป็นธรรมในสังคมในการดำเนินชีวิตประจำทุกวันนี้พอ ๆ กัน คือ ร้อยละ 42.8 และ ร้อยละ 42.5 ตามลำดับ

ที่น่าเป็นห่วง คือ เมื่อจำแนกการได้รับความเป็นธรรมในสิ่งที่ตนเองได้รับตามระดับการศึกษา พบว่า คนที่สำเร็จการศึกษาตั้งแต่ปริญญาตรี ขึ้นไปและรู้สึกได้รับความเป็นธรรมมากมีอยู่เพียงร้อยละ 30.6 ในขณะที่คนที่สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีและรู้สึกได้รับความเป็นธรรมมากมีอยู่ร้อย ละ 44.9 ยิ่งไปกว่านั้น คนที่สำเร็จการศึกษาตั้งแต่ปริญญาตรีขึ้นไปและรู้สึกได้รับความเป็นธรรมน้อยมีอยู่เกือบครึ่งหรือร้อยละ 48.9 ในขณะที่คนที่ สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรีและรู้สึกได้รับความเป็นธรรมน้อยมีอยู่ร้อยละ 33.1

ดร.นพดล กล่าวว่า จะเห็นได้ว่ากลุ่มคนที่มีระดับการศึกษาแตกต่างกันจะรู้สึกได้รับความเป็นธรรมแตกต่างกัน โดยคนที่มีการศึกษาตั้งแต่ ปริญญาตรีขึ้นไปจะรู้สึกได้รับความเป็นธรรมน้อยกว่าคนที่สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี ดังนั้น เราอาจมองได้อย่างน้อยสองด้านคือ ในด้านดี การ ศึกษาทำให้ประชาชนรู้จักคิดและรู้สึกต้องเรียกร้องมาซึ่งความเป็นธรรมในสังคม แต่ในด้านที่น่าเป็นห่วงคือ ถ้าประชาชนเห็นว่ามีการศึกษาดีแล้วยังไม่ได้ รับความเป็นธรรมในสังคม ผลที่อาจตามมาคือ การศึกษาอาจถูกมองว่าเป็นอุปสรรคสำคัญของการพัฒนาและกลุ่มผลประโยชน์ต่างๆ

อย่างไรก็ตามเมื่อจำแนกตามช่วงอายุ พบว่า คนที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ระบุความเป็นธรรมในสังคมที่ได้รับในการดำเนินชีวิตประจำทุกวันนี้ อยู่ในระดับมาก รองมา คือช่วงอายุ 40-49 ปี คิดเป็นร้อยละ 43.7 ไม่เกิน 20 ปี ร้อยละ 40.7 อายุ 20-29 ปี ร้อยละ 39.5 และสำหรับคนที่มี อายุ 30-39 ปีระบุรู้สึกว่าตนเองได้รับความเป็นธรรมในระดับน้อย คิดเป็นร้อยละ 39.7

ดร.นพดล กล่าวอีกว่า กลุ่มคนที่มีช่วงอายุแตกต่างกัน รู้สึกว่าได้รับความเป็นธรรมในสังคมแตกต่างกัน โดยน่าเป็นห่วงเช่นกันเพราะช่วง อายุของคนวัยทำงานที่เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศกลับรู้สึกได้รับความเป็นธรรมน้อยกว่าคนกลุ่มวัยอื่น

ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อจำแนกตามพื้นที่พักอาศัย พบว่า ประชาชนที่พักอาศัยอยู่ในเขตเทศบาล คิดเป็นร้อยละ 51.1 ระบุได้รับความเป็นธรรม ในสังคมในการดำเนินชีวิตประจำทุกวันนี้อยู่ในระดับมาก ขณะที่ประชาชนที่พักอาศัยอยู่นอกเขตเทศบาล คิดเป็นร้อยละ 41.0 ระบุได้รับความเป็นธรรม ในสังคมในการดำเนินชีวิตประจำ

ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อวิเคราะห์กลุ่มที่รู้สึกได้รับความเป็นธรรมในระดับ “มาก” ตามฐานสนับสนุนทางการเมือง พบว่า ร้อยละ 51.2 ของ กลุ่มคนที่สนับสนุนรัฐบาล ร้อยละ 39.4 ของกลุ่มคนที่อยู่ตรงกลาง และเพียงร้อยละ 34.4 ของกลุ่มคนไม่สนับสนุนรัฐบาลที่รู้สึกได้รับความเป็นธรรมมาก

เมื่อพิจารณากลุ่มตัวอย่างที่รู้สึกได้รับความเป็นธรรมส่วนใหญ่หรือร้อยละ 81.7 นั้นมีความสุข และเมื่อวิเคราะห์ค่าสถิติวิจัยพบว่า คนที่รู้สึก ได้รับความเป็นธรรมจะมีความสุขมากถึง 5 เท่าเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม

อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาผลวิจัยแนวโน้มความสุขมวลรวมหรือค่า Gross Domestic Happiness, GDH ของคนไทยภายในประเทศ ในเดือนกรกฎาคม ปี 2553 ล่าสุดเปรียบเทียบกับช่วงต้นปีที่ผ่านมา เมื่อคะแนนเต็ม 10 คะแนน พบว่า ความสุขของคนไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อย จาก 6.52 มาอยู่ที่ 6.77 โดยปัจจัยที่มีนัยสำคัญต่อความสุขมวลรวมของคนไทยในผลวิจัยที่ผ่านมาคือ การใช้ชีวิตตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง ความจงรัก ภักดี ความสัมพันธ์ของคนในครอบครัว วัฒนธรรมประเพณีไทย ความสัมพันธ์ของคนในชุมชน ความพึงพอใจในงาน และความเป็นธรรมในสังคม เป็นต้น ในขณะที่อุปสรรคลดทอนความสุขคนไทยคือ บรรยากาศทางการเมืองและพฤติกรรมในทางมิชอบของกลุ่มข้าราชการ

จากการพิจารณาลักษณะทั่วไปของตัวอย่าง พบว่า

ตัวอย่าง ร้อยละ 47.8 เป็นชาย

ร้อยละ 52.2 เป็นหญิง

ตัวอย่าง ร้อยละ 5.7 อายุน้อยกว่า 20 ปี

ร้อยละ 23.0 อายุระหว่าง 20 — 29 ปี

ร้อยละ 26.9 อายุระหว่าง 30 — 39 ปี

ร้อยละ 25.4 อายุระหว่าง 40 — 49 ปี

และร้อยละ 19.0 อายุ 50 ปีขึ้นไป

ตัวอย่าง ร้อยละ 83.7 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าปริญญาตรี

ร้อยละ 15.3 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี

และร้อยละ 1.0 สำเร็จการศึกษาสูงกว่าปริญญาตรี

ตัวอย่าง ร้อยละ 33.2 ระบุอาชีพเกษตรกร/รับจ้างทั่วไป

ร้อยละ 37.2 ระบุอาชีพค้าขาย/ธุรกิจส่วนตัว

ร้อยละ 9.4 ระบุเป็นพนักงานเอกชน

ร้อยละ 4.4 ระบุข้าราชการ/พนักงานรัฐวิสาหกิจ

ร้อยละ 7.1 เป็นแม่บ้าน/พ่อบ้าน/เกษียณอายุ

ร้อยละ 6.2 ระบุเป็นนักเรียนนักศึกษา

ในขณะที่ร้อยละ 2.5 ระบุว่างงาน/ไม่ประกอบอาชีพ

ตารางที่ 1 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความเป็นธรรมในสังคมที่ได้รับในการดำเนินชีวิตประจำทุกวันนี้
ลำดับที่          ความเป็นธรรมในสังคมที่ได้รับในการดำเนินชีวิตประจำทุกวันนี้            ค่าร้อยละ
1          น้อย                                                            35.7
2          ปานกลาง                                                        21.6
3          มาก                                                            42.6
          รวมทั้งสิ้น                                                        100.0

ตารางที่ 2 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความเป็นธรรมในสังคมในการดำเนินชีวิตประจำทุกวันนี้ จำแนกตามระดับการศึกษา
ลำดับที่          การได้รับความเป็นธรรมในสังคมในการดำเนินชีวิตประจำทุกวันนี้   ต่ำกว่า ป.ตรีค่าร้อยละ   ป.ตรีขึ้นไปค่าร้อยละ
1          น้อย                                                           33.1             48.9
2          ปานกลาง                                                       22.0             20.5
3          มาก                                                           44.9             30.6
          รวมทั้งสิ้น                                                       100.0            100.0

ตารางที่ 3 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความเป็นธรรมในสังคมที่ได้รับในการดำเนินชีวิตประจำทุกวันนี้ จำแนกตามช่วงอายุ
ลำดับที่          ความเป็นธรรมในสังคมที่ได้รับในการดำเนินชีวิตประจำทุกวันนี้  < 20 ปี     20-29     30-39      40-49     50ปีขึ้นไป
1          น้อย                                                  32.7      37.6      39.7       34.6       30.0
2          ปานกลาง                                              26.6      22.9      22.1       21.7       19.6
3          มาก                                                  40.7      39.5      38.2       43.7       50.4
          รวมทั้งสิ้น                                              100.0     100.0     100.0      100.0      100.0


ตารางที่ 4 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความเป็นธรรมในสังคมในการดำเนินชีวิตประจำทุกวันนี้ จำแนกตามพื้นที่พักอาศัย
ลำดับที่          การได้รับความเป็นธรรมในสังคมในการดำเนินชีวิตประจำทุกวันนี้    นอกเขตเทศบาลค่าร้อยละ   ในเขตเทศบาลค่าร้อยละ
1          น้อย                                                            36.6                  26.5
2          ปานกลาง                                                        22.4                  22.4
3          มาก                                                            41.0                  51.1
          รวมทั้งสิ้น                                                        100.0                 100.0


ตารางที่ 5 แสดงค่าร้อยละของตัวอย่างที่ระบุความเป็นธรรมในสังคมในการดำเนินชีวิตประจำทุกวันนี้ จำแนกตามการสนับสนุนรัฐบาล
ลำดับที่          การได้รับความเป็นธรรมในสังคมในการดำเนินชีวิตประจำทุกวันนี้   สนับสนุนรัฐบาลค่าร้อยละ   ไม่สนับสนุนรัฐบาลค่าร้อยละ   ไม่อยู่ฝ่ายใดค่าร้อยละ
1          น้อย                                                          26.8                    50.5              37.6
2          ปานกลาง                                                      22.0                    15.1              23.0
3          มาก                                                          51.2                    34.4              39.4
          รวมทั้งสิ้น                                                      100.0                   100.0             100.0

ตารางที่ 6 แสดงค่าอิทธิพลของความเป็นธรรมทางสังคมที่ได้รับกับความสุขของคนไทย
ลำดับที่          ความสุขของคนไทยในช่วงเดือนกรกฏาคม 2553       ได้รับความเป็นธรรม       ไม่ได้รับความเป็นธรรม
1          มีความสุข                                            81.7                    48.8
2          ไม่มีความสุข                                          18.3                    51.2
          รวมทั้งสิ้น                                            100.0                   100.0

***ค่าความเสี่ยงหลังทดสอบทางสถิติด้วยค่า Odd Ratio = 4.695 ค่าสูงสุดอยู่ที่ 5.397 ที่ระดับนัยสำคัญ 0.000 หมายความว่า คนที่ได้รับความเป็นธรรมในสังคมมีความสุขสูงสุดกว่า 5 เท่าของคนที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมทางสังคม

ตารางที่ 7 แสดงแนวโน้มค่าคะแนนเฉลี่ยความสุขมวลรวมของคนไทยตั้งแต่ เดือนมีนาคม 2552 จนถึงปัจจุบัน เมื่อคะแนนเต็ม 10

มี.ค.52 เม.ย.52 ต้น มิ.ย.52 ก.ค.52 ส.ค.52 ต้นต.ค.52 พ.ย.52 5ธ.ค.52 ปลายธ.ค.52 ม.ค.53 ก.ค.53 ค่าคะแนนเฉลี่ยความสุข มวลรวมของคนไทย ภายในประเทศ

(Gross Domestic Happiness) 6.18    7.17       7.15      5.92    7.18      6.83     7.52     9.86       7.26       6.52    6.77

--เอแบคโพลล์--

-พห-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ