ถูกต้อง ให้สมาชิกผู้ซื้อแจ้งต่อสำนักหักบัญชีทราบถึงรายการที่ต้องแก้ไขทั้งหมดภายใน
เวลา 16.00 น. ของวันทำการถัดไป ทั้งนี้ หากสำนักหักบัญชีไม่ได้รับแจ้งให้ถือว่าสมาชิก
ผู้ซื้อยอมรับว่าเอกสารของผู้ซื้อถูกต้อง
(3) เมื่อสำนักหักบัญชีได้รับเอกสารตาม (1) จากสมาชิกผู้ขายแล้ว หาก
สำนักหักบัญชีเห็นว่าเป็นเอกสารอันควรเชื่อว่าถูกต้อง และไม่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อ
ว่าเอกสารดังกล่าวไม่ถูกต้องภายในเวลาที่กำหนดไว้ใน (2) ให้สำนักหักบัญชีออกใบ
แจ้งหนี้ (Debit Note) ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในวันทำการที่สอง (2) นับจากวันที่สำนัก
หักบัญชีได้รับเอกสารตาม (1) โดยใบแจ้งหนี้จะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนและราคาของ
สินค้าตามใบเรียกเก็บเงินที่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ขาย
(4) หากสำนักหักบัญชีเห็นว่าเอกสารที่ได้รับจากสมาชิกผู้ขายไม่ถูกต้อง
หรือได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อภายในเวลาที่กำหนดใน (2) ว่าเป็นเอกสารที่ไม่ถูกต้อง
ให้สำนักหักบัญชีแจ้งไปยังสมาชิกผู้ขายภายในวันทำการที่สอง (2) นับจากวันที่ได้รับเอกสาร
ตาม (1) เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขเอกสารให้ถูกต้องและนำส่งเอกสารที่แก้ไขแล้วให้แก่สำนัก
หักบัญชีและส่งสำเนาให้กับสมาชิกผู้ซื้อภายในสอง (2) วันทำการถัดไป
เมื่อสมาชิกผู้ซื้อได้รับสำเนาของเอกสารที่แก้ไขดังกล่าวตามวรรคก่อน ให้
สมาชิกผู้ซื้อตรวจสอบเอกสารนั้นอีกครั้งว่าถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าไม่ถูกต้อง ให้แจ้ง
ต่อสำนักหักบัญชีภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการถัดไป หากสำนักหักบัญชีเห็นว่า
เอกสารที่แก้ไขนั้นถูกต้องและไม่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อเป็นอย่างอื่น ให้สำนักหักบัญชี
ออกใบแจ้งหนี้ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในวันทำการที่สอง (2) หลังจากนั้น โดยใบแจ้งหนี้จะระบุ
รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนและราคาของสินค้าตามใบเรียกเก็บเงินที่ได้รับแจ้งจากสมาชิก
ผู้ขาย
(5) หากสำนักหักบัญชีเห็นว่าเอกสารที่แก้ไขนั้นยังไม่ถูกต้อง หรือได้รับแจ้ง
จากสมาชิกผู้ซื้อว่าเอกสารนั้นไม่ถูกต้องภายในเวลาที่กำหนดไว้ใน (4) ให้สำนักหักบัญชี
แจ้งไปยังสมาชิกผู้ขายภายในวันทำการที่สอง (2) นับจากวันที่ได้รับเอกสารที่แก้ไขตาม
(4) เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขเอกสารนั้นอีกครั้งเป็นครั้งที่สองและนำส่งเอกสารที่แก้ไขแล้ว
ให้แก่สำนักหักบัญชีและส่งสำเนาให้กับสมาชิกผู้ซื้อภายในห้า (5) วันทำการถัดไป
ในกรณีตาม (5) ข้างต้น สมาชิกผู้ขายจะต้องชำระค่าปรับให้กับตลาดใน
อัตราร้อยละ 0.1 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนดของข้อตกลงต่อวัน นับตั้งแต่วันที่
สำนักหักบัญชีได้แจ้งให้แก้ไขเอกสารจนถึงวันที่สำนักหักบัญชีได้รับเอกสารที่แก้ไขแล้ว
(6) เมื่อสมาชิกผู้ซื้อได้รับสำเนาของเอกสารที่แก้ไขครั้งที่สองดังกล่าวใน (5)
ให้สมาชิกผู้ซื้อดำเนินการให้ผู้ซื้อตรวจสอบเอกสารนั้นอีกครั้งว่าถูกต้องหรือไม่ หาก
พบว่าไม่ถูกต้อง ให้สมาชิกผู้ซื้อแจ้งต่อสำนักหักบัญชีภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำ
การถัดไป หากสำนักหักบัญชีเชื่อว่าเอกสารที่แก้ไขครั้งที่สองนั้นถูกต้อง โดยไม่คำนึง
ว่าจะได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อเป็นอย่างอื่นหรือไม่ก็ตาม ให้สำนักหักบัญชีออกใบแจ้งหนี้
ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในวันทำการนั้น โดยใบแจ้งหนี้จะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนและ
ราคาของสินค้าตามใบเรียกเก็บเงินที่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ขาย แต่หากสำนักหักบัญชีเห็น
ว่าเอกสารที่แก้ไขครั้งที่สองนั้นไม่ถูกต้อง ให้ถือว่าสมาชิกผู้ขายไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องและ
ไม่สามารถเยียวยาได้ และต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดตามอัตราที่กำหนดในข้อ 19 (6)
(7) สมาชิกผู้ซื้อจะต้องดำเนินการให้ผู้ซื้อทำการชำระราคาสินค้าตาม
จำนวนที่ระบุไว้ในใบแจ้งหนี้ให้แก่สำนักหักบัญชีภายในเวลา 12.00 น. ของวันทำการที่
เจ็ด (7) หลังจากวันที่ได้รับใบแจ้งหนี้จากสำนักหักบัญชี โดยชำระเป็นเช็คธนาคารหรือตั๋ว
แลกเงินธนาคารสั่งจ่ายผู้ขาย
(8) เมื่อสำนักหักบัญชีได้รับเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารของผู้ซื้อ
จากสมาชิกผู้ซื้อแล้ว สำนักหักบัญชีจะทำการส่งมอบเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงิน
ธนาคารดังกล่าวให้แก่ผู้ขายโดยผ่านสมาชิกผู้ขาย และส่งมอบเอกสารตามที่ได้รับจาก
สมาชิกผู้ขายตาม (1) ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อก่อนเวลา 17.00 น. ของวันทำการถัดไป
(9) หลังจากที่ผู้ขายได้รับเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารจากสมาชิก
ผู้ขายและผู้ซื้อได้รับเอกสารตาม (8) จากสมาชิกผู้ซื้อแล้ว หากผู้ขายและผู้ซื้อไม่ได้มีการ
เรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของอีกฝ่ายหนึ่งโดยผ่าน
สมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อมายังสำนักหักบัญชีภายในสอง (2) วันทำการหลังจาก
ได้รับเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารและเอกสารการส่งมอบตาม (1) ให้ถือว่า
ผู้ขายและผู้ซื้อยอมรับการส่งมอบ-รับมอบ รวมทั้งการชำระราคาและกระบวนการส่งมอบ-
รับมอบสินค้าเป็นอันเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว และให้ถือว่าผู้ขายและผู้ซื้อสละสิทธิที่จะเรียกร้อง
ค่าเสียหายใด ๆ ทั้งนี้ หน้าที่และความรับผิดชอบของตลาด สำนักหักบัญชี สมาชิกผู้ขาย
และสมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้ให้เป็นอันสิ้นสุดลงพร้อมกัน
(10) สำนักหักบัญชีจะไม่รับผิดชอบต่อการที่ได้ส่งมอบเช็คธนาคารหรือ
ตั๋วแลกเงินธนาคารให้แก่สมาชิกผู้ขายเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับเอกสารที่ส่งมอบ
โดยสมาชิกผู้ขายให้แก่สำนักหักบัญชี หากปรากฏแก่สำนักหักบัญชีว่าเป็นเอกสารอันควร
เชื่อโดยสุจริตว่าถูกต้อง
ข้อ 18. กรรมสิทธิ์และความเสี่ยงภัยของสินค้า
(1) ความเสี่ยงภัยต่อการสูญหายหรือเสียหายของสินค้าให้ตกเป็นของ
ผู้ซื้อทันทีเมื่อผู้ขายได้ทำการบรรทุกสินค้าขึ้นพ้นกราบเรือ หรือตัวแทนขนส่งของผู้ซื้อ
ได้ออกใบตราส่งที่ลงนามแล้วในกรณีส่งมอบสินค้าที่ลานพักตู้บรรจุสินค้า โดยถือเวลาที่
ออกใบตราส่งที่ลงนามแล้วเป็นสำคัญ
(2) กรรมสิทธิ์ในสินค้าที่ส่งมอบจะโอนไปยังผู้ซื้อต่อเมื่อผู้ขายได้รับชำระ
ราคาสินค้าเป็นเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารจากผู้ซื้อเรียบร้อยแล้วตามข้อ 17 (8)
ข้อ 19. การไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
(1) สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแต่ละฝ่ายจะต้องปฏิบัติหน้าที่ของตน
ให้ถูกต้องตามที่กำหนดในข้อบังคับนี้ การที่สมาชิกฝ่ายใดไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตน หรือ
ปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้องหรือล่าช้า หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติ
หน้าที่ให้ถูกต้อง
(2) เว้นแต่กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นในข้อบังคับนี้ เมื่อสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง สมาชิกอีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่จำต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนตามข้อบังคับนี้
โดยไม่ถือว่ามีการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องเกิดขึ้นกับสมาชิกอีกฝ่ายหนึ่งนั้น สมาชิกฝ่ายที่
ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับสมาชิกอีกฝ่าย
หนึ่งนั้น
(3) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 17 (3) ถึงข้อ 17 (6) ในกรณีที่
สำนักหักบัญชีได้ทราบถึงการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง สำนัก
หักบัญชีโดยคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานจะทำการพิจารณาว่าการไม่ปฏิบัติหน้าที่
ให้ถูกต้องดังกล่าวสามารถที่จะเยียวยาแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร ในกรณีที่คณะอนุกรรมการ
หรือคณะทำงานพิจารณาว่าการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องดังกล่าวสามารถเยียวยาแก้ไขได้
ให้สำนักหักบัญชีแจ้งให้สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องทำการเยียวยาแก้ไขให้เสร็จ
สิ้นภายในสาม (3) วันทำการนับแต่วันที่สำนักหักบัญชีได้ทราบถึงการไม่ปฏิบัติหน้าที่
ให้ถูกต้องดังกล่าว
กรณีที่สมาชิกผู้ซื้อไม่ส่งมอบเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารภายใน
เวลาที่กำหนดในข้อ 17 (7) ให้ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง ซึ่งไม่อนุญาตให้
มีการเยียวยาแก้ไขตามวรรคก่อน
หากสมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องทำการเยียวยาแก้ไขได้ตามที่
คณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานกำหนด ให้ความผูกพันและหน้าที่ของสมาชิกผู้ขายและ
สมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้ยังคงมีอยู่ต่อไป โดยที่สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
จะต้องชำระค่าปรับและชดใช้ค่าเสียหายตามที่ระบุไว้ใน (4)
(4) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 17 (3) ถึงข้อ 17 (6) ในกรณีที่
มีการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมีการเยียวยาแก้ไขหรือไม่ก็ตาม สมาชิกฝ่าย
ที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดในอัตราดังต่อไปนี้
(ก) ค่าปรับสำหรับวันทำการแรกของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า
600 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง
(ข) ค่าปรับสำหรับวันทำการที่สองของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 900 บาท
ต่อหนึ่งข้อตกลง
(ค) ค่าปรับสำหรับวันทำการที่สามของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 1,200
บาทต่อหนึ่งข้อตกลง
นอกเหนือจากการชำระค่าปรับดังกล่าวให้แก่ตลาด สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติ
หน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องรับผิดชอบชำระค่าเสียหายสำหรับความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นแก่
สมาชิกอีกฝ่ายหนึ่ง
(5) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 17 (3) ถึงข้อ 17 (6) หากการ
ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องดังกล่าวไม่อาจจะเยียวยาแก้ไขได้ หรือสมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติ
หน้าที่ให้ถูกต้องไม่สามารถทำการเยียวยาแก้ไขให้เสร็จสิ้นได้ภายในสาม (3) วันทำการ
หรือเป็นกรณีที่ไม่อนุญาตให้มีการเยียวยาแก้ไข ให้ถือว่าความผูกพันและหน้าที่ของสมาชิก
ผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้เป็นอันสิ้นสุดลง แต่ไม่ตัดสิทธิสมาชิกฝ่ายที่ได้รับ
ความเสียหายจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของสมาชิกอีกฝ่ายที่จะเรียกร้องค่าเสียหายนั้น
เอากับสมาชิกที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องนั้น
(6) นอกเหนือจาก (4) แล้ว สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
และไม่สามารถเยียวยาได้จะต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดในอัตราร้อยละ 10 ของมูลค่า
อ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 12,000 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง
ข้อ 20. การคืนเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบและ
หลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ
(1) เมื่อสิ้นวันซื้อขายสุดท้ายสำหรับข้อตกลงใด ๆ ให้ถือว่าภาระผูกพัน
ของเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบตามข้อตกลงนั้น ๆ ได้สิ้นสุดลง และเมื่อ
สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อได้ดำเนินการตามข้อ 10 วรรคหนึ่งแล้ว ให้ถือว่าสำนักหักบัญชี
ได้คืนเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแล้ว
หากปรากฏว่ายังมีเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบคงเหลืออยู่ สำนักหักบัญชี
จะดำเนินการคืนเงินส่วนที่เหลือนั้นให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อนั้นตามข้อบังคับ
คณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับ
การวางหรือรักษาเงินประกัน การปรับฐานะบัญชีเงินประกัน การถอนเงินประกันและ
การผิดนัดชำระเงินประกัน พ.ศ. 2547 หรือที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม
(2) สำนักหักบัญชีจะคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบโดยไม่มีดอกผล
หลังจากหักค่าปรับ ค่าเสียหาย และค่าใช้จ่ายที่สำนักหักบัญชีมีอำนาจหักได้ตามข้อบังคับ
นี้ให้แก่ผู้ขายโดยผ่านสมาชิกผู้ขายและผู้ซื้อโดยผ่านสมาชิกผู้ซื้อในกรณีใดกรณีหนึ่ง
ดังต่อไปนี้
(ก) ในวันทำการถัดไปหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาของการยื่นข้อ
เรียกร้องค่าเสียหายตามข้อ 17 (9)
(ข) หากมีการเรียกร้องค่าเสียหายโดยสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ
และคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานมีคำไกล่เกลี่ยอันเป็นที่สุดตามข้อ 23 (2) หรือคณะ
อนุญาโตตุลาการ หรือเลขาธิการมีคำชี้ขาดข้อพิพาทตามข้อ 24 หรือเมื่อมีคำพิพากษา
หรือคำสั่งถึงที่สุดแล้ว การคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์
เงื่อนไขและวิธีการที่ตลาดกำหนด
(ค) ในวันทำการถัดจากวันที่ได้รับคำบอกกล่าวการส่งมอบโดย
ทางเลือกอื่นจากสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ
(ง) ในวันทำการถัดจากวันที่ได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจาก
สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อว่าไม่ประสงค์จะเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ต่อกัน
ข้อ 21. ความรับผิดของตลาด
ในการส่งมอบ-รับมอบตามข้อบังคับนี้ ตลาด สำนักหักบัญชี กรรมการ
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า เจ้าหน้าที่ และบุคลากรของตลาดมีหน้าที่เป็นเพียงตัวกลาง
ในการแลกเปลี่ยนเอกสาร ระหว่างสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อเท่านั้น และไม่ว่าในกรณี
ใดก็ตาม ตลาดจะไม่รับผิดชอบต่อการกระทำไม่ว่าโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ การฉ้อฉล
หรือการผิดนัดใดๆ ของผู้ขาย ผู้ซื้อหรือสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือบุคคลอื่นใดที่มีหน้าที่ที่
จะต้องกระทำการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบ-รับมอบภายใต้ข้อบังคับนี้
ข้อ 22. เหตุสุดวิสัย
ในกรณีที่เกิดอุปสรรคในการส่งมอบ-รับมอบ เนื่องจากเหตุสุดวิสัย (Force
Majeure) สมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ แล้วแต่กรณี จะต้องแจ้งให้ตลาดทราบโดยทันที
พร้อมทั้งแจ้งยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันทำการถัดไป หากตลาดมีความเห็นว่า
มีเหตุสุดวิสัยอันเป็นอุปสรรคในการส่งมอบ-รับมอบเกิดขึ้นจริง คณะกรรมการตลาดอาจ
พิจารณากำหนดมาตรการในการแก้ไขอุปสรรคนั้นตามที่เห็นสมควร เช่น ขยายเวลาในการ
ส่งมอบ-รับมอบ หรือให้นำสินค้าอื่นที่มีชนิด และคุณภาพเท่าเทียมกันหรือดีกว่ามาส่งมอบ
แทน (Alternative Facilities) หรือให้ชดใช้ความเสียหายตามส่วนต่างของราคา (Cash
Settlement) ตามวิธีการที่ตลาดกำหนด
ทั้งนี้ หากสมาชิกผู้ขาย สมาชิกผู้ซื้อ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตาม
ข้อบังคับนี้ อันเป็นเหตุจากเหตุสุดวิสัย ตลาดอาจพิจารณายกเว้นบทลงโทษ และค่าปรับ
ตามความเหมาะสม
หากเหตุสุดวิสัยดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานโดยไม่อาจแก้ไขอุปสรรค
นั้นได้ แต่ไม่เกินสาม (3) เดือนนับแต่วันที่กำหนดให้แจ้งความประสงค์ส่งมอบ-รับมอบ
คณะกรรมการตลาดอาจพิจารณากำหนดเฉพาะการชดใช้ความเสียหายตามส่วนต่างของราคา
(Cash Settlement) ดังกล่าวข้างต้น
ข้อ 23. การระงับข้อพิพาท
(1) ในกรณีที่มีข้อพิพาทใดๆ เกี่ยวกับการส่งมอบ-รับมอบสินค้า รวมถึงการ
เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของผู้ขาย ผู้ซื้อหรือ
สมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามข้อบังคับนี้ ให้นำข้อพิพาทดังกล่าวเสนอต่อคณะอนุกรรมการหรือ
คณะทำงานเพื่อพิจารณาไกล่เกลี่ยเบื้องต้น
(2) หากผู้ขาย ผู้ซื้อ สมาชิกผู้ขาย และสมาชิกผู้ซื้อสามารถตกลงตามคำ
ไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน ให้ความตกลงดังกล่าวเป็นที่สุด
(3) ผู้ขาย ผู้ซื้อ สมาชิกผู้ขาย และสมาชิกผู้ซื้อที่ไม่สามารถตกลงตามคำ
ไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานได้ อาจยื่นคำร้องต่อตลาดหรือสำนักงาน
คณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า เพื่อขอให้มีการชี้ขาดข้อพิพาท
ตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542
ข้อ 24. การปฏิบัติตามคำไกล่เกลี่ยและคำชี้ขาด
เมื่อมีคำไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานอันเป็นที่สุด หรือ
คำชี้ขาดข้อพิพาทตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542 แล้ว ให้
คู่กรณีผู้ที่มีสิทธิได้รับการชดใช้ค่าเสียหายตามที่ได้ระบุไว้ในคำไกล่เกลี่ยหรือคำชี้ขาดนั้น
แจ้งให้สำนักหักบัญชีชำระค่าเสียหายจากหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบของคู่กรณี
ฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายตามคำชี้ขาด ในกรณีที่มีหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ
คงเหลือภายหลังจากหักค่าปรับ ค่าใช้จ่ายของตลาด และชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวแล้ว
ให้คืนแก่คู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย หากหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบไม่เพียงพอ
ที่จะชดใช้ค่าเสียหายตามคำชี้ขาด ให้คู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายรับผิดชอบค่าเสียหาย
ให้ครบตามจำนวน
ข้อ 25. ให้ผู้จัดการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทยรักษาการ
ตามข้อบังคับนี้
ประกาศ ณ วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2548
(ลงนาม) สุวรรณ วลัยเสถียร
(นายสุวรรณ วลัยเสถียร)
ประธานกรรมการ
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
--ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย--
-พห-
เวลา 16.00 น. ของวันทำการถัดไป ทั้งนี้ หากสำนักหักบัญชีไม่ได้รับแจ้งให้ถือว่าสมาชิก
ผู้ซื้อยอมรับว่าเอกสารของผู้ซื้อถูกต้อง
(3) เมื่อสำนักหักบัญชีได้รับเอกสารตาม (1) จากสมาชิกผู้ขายแล้ว หาก
สำนักหักบัญชีเห็นว่าเป็นเอกสารอันควรเชื่อว่าถูกต้อง และไม่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อ
ว่าเอกสารดังกล่าวไม่ถูกต้องภายในเวลาที่กำหนดไว้ใน (2) ให้สำนักหักบัญชีออกใบ
แจ้งหนี้ (Debit Note) ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในวันทำการที่สอง (2) นับจากวันที่สำนัก
หักบัญชีได้รับเอกสารตาม (1) โดยใบแจ้งหนี้จะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนและราคาของ
สินค้าตามใบเรียกเก็บเงินที่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ขาย
(4) หากสำนักหักบัญชีเห็นว่าเอกสารที่ได้รับจากสมาชิกผู้ขายไม่ถูกต้อง
หรือได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อภายในเวลาที่กำหนดใน (2) ว่าเป็นเอกสารที่ไม่ถูกต้อง
ให้สำนักหักบัญชีแจ้งไปยังสมาชิกผู้ขายภายในวันทำการที่สอง (2) นับจากวันที่ได้รับเอกสาร
ตาม (1) เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขเอกสารให้ถูกต้องและนำส่งเอกสารที่แก้ไขแล้วให้แก่สำนัก
หักบัญชีและส่งสำเนาให้กับสมาชิกผู้ซื้อภายในสอง (2) วันทำการถัดไป
เมื่อสมาชิกผู้ซื้อได้รับสำเนาของเอกสารที่แก้ไขดังกล่าวตามวรรคก่อน ให้
สมาชิกผู้ซื้อตรวจสอบเอกสารนั้นอีกครั้งว่าถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าไม่ถูกต้อง ให้แจ้ง
ต่อสำนักหักบัญชีภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการถัดไป หากสำนักหักบัญชีเห็นว่า
เอกสารที่แก้ไขนั้นถูกต้องและไม่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อเป็นอย่างอื่น ให้สำนักหักบัญชี
ออกใบแจ้งหนี้ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในวันทำการที่สอง (2) หลังจากนั้น โดยใบแจ้งหนี้จะระบุ
รายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนและราคาของสินค้าตามใบเรียกเก็บเงินที่ได้รับแจ้งจากสมาชิก
ผู้ขาย
(5) หากสำนักหักบัญชีเห็นว่าเอกสารที่แก้ไขนั้นยังไม่ถูกต้อง หรือได้รับแจ้ง
จากสมาชิกผู้ซื้อว่าเอกสารนั้นไม่ถูกต้องภายในเวลาที่กำหนดไว้ใน (4) ให้สำนักหักบัญชี
แจ้งไปยังสมาชิกผู้ขายภายในวันทำการที่สอง (2) นับจากวันที่ได้รับเอกสารที่แก้ไขตาม
(4) เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขเอกสารนั้นอีกครั้งเป็นครั้งที่สองและนำส่งเอกสารที่แก้ไขแล้ว
ให้แก่สำนักหักบัญชีและส่งสำเนาให้กับสมาชิกผู้ซื้อภายในห้า (5) วันทำการถัดไป
ในกรณีตาม (5) ข้างต้น สมาชิกผู้ขายจะต้องชำระค่าปรับให้กับตลาดใน
อัตราร้อยละ 0.1 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนดของข้อตกลงต่อวัน นับตั้งแต่วันที่
สำนักหักบัญชีได้แจ้งให้แก้ไขเอกสารจนถึงวันที่สำนักหักบัญชีได้รับเอกสารที่แก้ไขแล้ว
(6) เมื่อสมาชิกผู้ซื้อได้รับสำเนาของเอกสารที่แก้ไขครั้งที่สองดังกล่าวใน (5)
ให้สมาชิกผู้ซื้อดำเนินการให้ผู้ซื้อตรวจสอบเอกสารนั้นอีกครั้งว่าถูกต้องหรือไม่ หาก
พบว่าไม่ถูกต้อง ให้สมาชิกผู้ซื้อแจ้งต่อสำนักหักบัญชีภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำ
การถัดไป หากสำนักหักบัญชีเชื่อว่าเอกสารที่แก้ไขครั้งที่สองนั้นถูกต้อง โดยไม่คำนึง
ว่าจะได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อเป็นอย่างอื่นหรือไม่ก็ตาม ให้สำนักหักบัญชีออกใบแจ้งหนี้
ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในวันทำการนั้น โดยใบแจ้งหนี้จะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนและ
ราคาของสินค้าตามใบเรียกเก็บเงินที่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ขาย แต่หากสำนักหักบัญชีเห็น
ว่าเอกสารที่แก้ไขครั้งที่สองนั้นไม่ถูกต้อง ให้ถือว่าสมาชิกผู้ขายไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องและ
ไม่สามารถเยียวยาได้ และต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดตามอัตราที่กำหนดในข้อ 19 (6)
(7) สมาชิกผู้ซื้อจะต้องดำเนินการให้ผู้ซื้อทำการชำระราคาสินค้าตาม
จำนวนที่ระบุไว้ในใบแจ้งหนี้ให้แก่สำนักหักบัญชีภายในเวลา 12.00 น. ของวันทำการที่
เจ็ด (7) หลังจากวันที่ได้รับใบแจ้งหนี้จากสำนักหักบัญชี โดยชำระเป็นเช็คธนาคารหรือตั๋ว
แลกเงินธนาคารสั่งจ่ายผู้ขาย
(8) เมื่อสำนักหักบัญชีได้รับเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารของผู้ซื้อ
จากสมาชิกผู้ซื้อแล้ว สำนักหักบัญชีจะทำการส่งมอบเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงิน
ธนาคารดังกล่าวให้แก่ผู้ขายโดยผ่านสมาชิกผู้ขาย และส่งมอบเอกสารตามที่ได้รับจาก
สมาชิกผู้ขายตาม (1) ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อก่อนเวลา 17.00 น. ของวันทำการถัดไป
(9) หลังจากที่ผู้ขายได้รับเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารจากสมาชิก
ผู้ขายและผู้ซื้อได้รับเอกสารตาม (8) จากสมาชิกผู้ซื้อแล้ว หากผู้ขายและผู้ซื้อไม่ได้มีการ
เรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของอีกฝ่ายหนึ่งโดยผ่าน
สมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อมายังสำนักหักบัญชีภายในสอง (2) วันทำการหลังจาก
ได้รับเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารและเอกสารการส่งมอบตาม (1) ให้ถือว่า
ผู้ขายและผู้ซื้อยอมรับการส่งมอบ-รับมอบ รวมทั้งการชำระราคาและกระบวนการส่งมอบ-
รับมอบสินค้าเป็นอันเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว และให้ถือว่าผู้ขายและผู้ซื้อสละสิทธิที่จะเรียกร้อง
ค่าเสียหายใด ๆ ทั้งนี้ หน้าที่และความรับผิดชอบของตลาด สำนักหักบัญชี สมาชิกผู้ขาย
และสมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้ให้เป็นอันสิ้นสุดลงพร้อมกัน
(10) สำนักหักบัญชีจะไม่รับผิดชอบต่อการที่ได้ส่งมอบเช็คธนาคารหรือ
ตั๋วแลกเงินธนาคารให้แก่สมาชิกผู้ขายเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับเอกสารที่ส่งมอบ
โดยสมาชิกผู้ขายให้แก่สำนักหักบัญชี หากปรากฏแก่สำนักหักบัญชีว่าเป็นเอกสารอันควร
เชื่อโดยสุจริตว่าถูกต้อง
ข้อ 18. กรรมสิทธิ์และความเสี่ยงภัยของสินค้า
(1) ความเสี่ยงภัยต่อการสูญหายหรือเสียหายของสินค้าให้ตกเป็นของ
ผู้ซื้อทันทีเมื่อผู้ขายได้ทำการบรรทุกสินค้าขึ้นพ้นกราบเรือ หรือตัวแทนขนส่งของผู้ซื้อ
ได้ออกใบตราส่งที่ลงนามแล้วในกรณีส่งมอบสินค้าที่ลานพักตู้บรรจุสินค้า โดยถือเวลาที่
ออกใบตราส่งที่ลงนามแล้วเป็นสำคัญ
(2) กรรมสิทธิ์ในสินค้าที่ส่งมอบจะโอนไปยังผู้ซื้อต่อเมื่อผู้ขายได้รับชำระ
ราคาสินค้าเป็นเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารจากผู้ซื้อเรียบร้อยแล้วตามข้อ 17 (8)
ข้อ 19. การไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
(1) สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแต่ละฝ่ายจะต้องปฏิบัติหน้าที่ของตน
ให้ถูกต้องตามที่กำหนดในข้อบังคับนี้ การที่สมาชิกฝ่ายใดไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตน หรือ
ปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้องหรือล่าช้า หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติ
หน้าที่ให้ถูกต้อง
(2) เว้นแต่กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นในข้อบังคับนี้ เมื่อสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง สมาชิกอีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่จำต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนตามข้อบังคับนี้
โดยไม่ถือว่ามีการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องเกิดขึ้นกับสมาชิกอีกฝ่ายหนึ่งนั้น สมาชิกฝ่ายที่
ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับสมาชิกอีกฝ่าย
หนึ่งนั้น
(3) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 17 (3) ถึงข้อ 17 (6) ในกรณีที่
สำนักหักบัญชีได้ทราบถึงการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง สำนัก
หักบัญชีโดยคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานจะทำการพิจารณาว่าการไม่ปฏิบัติหน้าที่
ให้ถูกต้องดังกล่าวสามารถที่จะเยียวยาแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร ในกรณีที่คณะอนุกรรมการ
หรือคณะทำงานพิจารณาว่าการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องดังกล่าวสามารถเยียวยาแก้ไขได้
ให้สำนักหักบัญชีแจ้งให้สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องทำการเยียวยาแก้ไขให้เสร็จ
สิ้นภายในสาม (3) วันทำการนับแต่วันที่สำนักหักบัญชีได้ทราบถึงการไม่ปฏิบัติหน้าที่
ให้ถูกต้องดังกล่าว
กรณีที่สมาชิกผู้ซื้อไม่ส่งมอบเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารภายใน
เวลาที่กำหนดในข้อ 17 (7) ให้ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง ซึ่งไม่อนุญาตให้
มีการเยียวยาแก้ไขตามวรรคก่อน
หากสมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องทำการเยียวยาแก้ไขได้ตามที่
คณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานกำหนด ให้ความผูกพันและหน้าที่ของสมาชิกผู้ขายและ
สมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้ยังคงมีอยู่ต่อไป โดยที่สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
จะต้องชำระค่าปรับและชดใช้ค่าเสียหายตามที่ระบุไว้ใน (4)
(4) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 17 (3) ถึงข้อ 17 (6) ในกรณีที่
มีการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมีการเยียวยาแก้ไขหรือไม่ก็ตาม สมาชิกฝ่าย
ที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดในอัตราดังต่อไปนี้
(ก) ค่าปรับสำหรับวันทำการแรกของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า
600 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง
(ข) ค่าปรับสำหรับวันทำการที่สองของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 900 บาท
ต่อหนึ่งข้อตกลง
(ค) ค่าปรับสำหรับวันทำการที่สามของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 1,200
บาทต่อหนึ่งข้อตกลง
นอกเหนือจากการชำระค่าปรับดังกล่าวให้แก่ตลาด สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติ
หน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องรับผิดชอบชำระค่าเสียหายสำหรับความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นแก่
สมาชิกอีกฝ่ายหนึ่ง
(5) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 17 (3) ถึงข้อ 17 (6) หากการ
ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องดังกล่าวไม่อาจจะเยียวยาแก้ไขได้ หรือสมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติ
หน้าที่ให้ถูกต้องไม่สามารถทำการเยียวยาแก้ไขให้เสร็จสิ้นได้ภายในสาม (3) วันทำการ
หรือเป็นกรณีที่ไม่อนุญาตให้มีการเยียวยาแก้ไข ให้ถือว่าความผูกพันและหน้าที่ของสมาชิก
ผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้เป็นอันสิ้นสุดลง แต่ไม่ตัดสิทธิสมาชิกฝ่ายที่ได้รับ
ความเสียหายจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของสมาชิกอีกฝ่ายที่จะเรียกร้องค่าเสียหายนั้น
เอากับสมาชิกที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องนั้น
(6) นอกเหนือจาก (4) แล้ว สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
และไม่สามารถเยียวยาได้จะต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดในอัตราร้อยละ 10 ของมูลค่า
อ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 12,000 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง
ข้อ 20. การคืนเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบและ
หลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ
(1) เมื่อสิ้นวันซื้อขายสุดท้ายสำหรับข้อตกลงใด ๆ ให้ถือว่าภาระผูกพัน
ของเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบตามข้อตกลงนั้น ๆ ได้สิ้นสุดลง และเมื่อ
สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อได้ดำเนินการตามข้อ 10 วรรคหนึ่งแล้ว ให้ถือว่าสำนักหักบัญชี
ได้คืนเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแล้ว
หากปรากฏว่ายังมีเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบคงเหลืออยู่ สำนักหักบัญชี
จะดำเนินการคืนเงินส่วนที่เหลือนั้นให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อนั้นตามข้อบังคับ
คณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับ
การวางหรือรักษาเงินประกัน การปรับฐานะบัญชีเงินประกัน การถอนเงินประกันและ
การผิดนัดชำระเงินประกัน พ.ศ. 2547 หรือที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม
(2) สำนักหักบัญชีจะคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบโดยไม่มีดอกผล
หลังจากหักค่าปรับ ค่าเสียหาย และค่าใช้จ่ายที่สำนักหักบัญชีมีอำนาจหักได้ตามข้อบังคับ
นี้ให้แก่ผู้ขายโดยผ่านสมาชิกผู้ขายและผู้ซื้อโดยผ่านสมาชิกผู้ซื้อในกรณีใดกรณีหนึ่ง
ดังต่อไปนี้
(ก) ในวันทำการถัดไปหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาของการยื่นข้อ
เรียกร้องค่าเสียหายตามข้อ 17 (9)
(ข) หากมีการเรียกร้องค่าเสียหายโดยสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ
และคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานมีคำไกล่เกลี่ยอันเป็นที่สุดตามข้อ 23 (2) หรือคณะ
อนุญาโตตุลาการ หรือเลขาธิการมีคำชี้ขาดข้อพิพาทตามข้อ 24 หรือเมื่อมีคำพิพากษา
หรือคำสั่งถึงที่สุดแล้ว การคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์
เงื่อนไขและวิธีการที่ตลาดกำหนด
(ค) ในวันทำการถัดจากวันที่ได้รับคำบอกกล่าวการส่งมอบโดย
ทางเลือกอื่นจากสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ
(ง) ในวันทำการถัดจากวันที่ได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจาก
สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อว่าไม่ประสงค์จะเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ต่อกัน
ข้อ 21. ความรับผิดของตลาด
ในการส่งมอบ-รับมอบตามข้อบังคับนี้ ตลาด สำนักหักบัญชี กรรมการ
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า เจ้าหน้าที่ และบุคลากรของตลาดมีหน้าที่เป็นเพียงตัวกลาง
ในการแลกเปลี่ยนเอกสาร ระหว่างสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อเท่านั้น และไม่ว่าในกรณี
ใดก็ตาม ตลาดจะไม่รับผิดชอบต่อการกระทำไม่ว่าโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ การฉ้อฉล
หรือการผิดนัดใดๆ ของผู้ขาย ผู้ซื้อหรือสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือบุคคลอื่นใดที่มีหน้าที่ที่
จะต้องกระทำการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบ-รับมอบภายใต้ข้อบังคับนี้
ข้อ 22. เหตุสุดวิสัย
ในกรณีที่เกิดอุปสรรคในการส่งมอบ-รับมอบ เนื่องจากเหตุสุดวิสัย (Force
Majeure) สมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ แล้วแต่กรณี จะต้องแจ้งให้ตลาดทราบโดยทันที
พร้อมทั้งแจ้งยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันทำการถัดไป หากตลาดมีความเห็นว่า
มีเหตุสุดวิสัยอันเป็นอุปสรรคในการส่งมอบ-รับมอบเกิดขึ้นจริง คณะกรรมการตลาดอาจ
พิจารณากำหนดมาตรการในการแก้ไขอุปสรรคนั้นตามที่เห็นสมควร เช่น ขยายเวลาในการ
ส่งมอบ-รับมอบ หรือให้นำสินค้าอื่นที่มีชนิด และคุณภาพเท่าเทียมกันหรือดีกว่ามาส่งมอบ
แทน (Alternative Facilities) หรือให้ชดใช้ความเสียหายตามส่วนต่างของราคา (Cash
Settlement) ตามวิธีการที่ตลาดกำหนด
ทั้งนี้ หากสมาชิกผู้ขาย สมาชิกผู้ซื้อ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตาม
ข้อบังคับนี้ อันเป็นเหตุจากเหตุสุดวิสัย ตลาดอาจพิจารณายกเว้นบทลงโทษ และค่าปรับ
ตามความเหมาะสม
หากเหตุสุดวิสัยดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานโดยไม่อาจแก้ไขอุปสรรค
นั้นได้ แต่ไม่เกินสาม (3) เดือนนับแต่วันที่กำหนดให้แจ้งความประสงค์ส่งมอบ-รับมอบ
คณะกรรมการตลาดอาจพิจารณากำหนดเฉพาะการชดใช้ความเสียหายตามส่วนต่างของราคา
(Cash Settlement) ดังกล่าวข้างต้น
ข้อ 23. การระงับข้อพิพาท
(1) ในกรณีที่มีข้อพิพาทใดๆ เกี่ยวกับการส่งมอบ-รับมอบสินค้า รวมถึงการ
เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของผู้ขาย ผู้ซื้อหรือ
สมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามข้อบังคับนี้ ให้นำข้อพิพาทดังกล่าวเสนอต่อคณะอนุกรรมการหรือ
คณะทำงานเพื่อพิจารณาไกล่เกลี่ยเบื้องต้น
(2) หากผู้ขาย ผู้ซื้อ สมาชิกผู้ขาย และสมาชิกผู้ซื้อสามารถตกลงตามคำ
ไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน ให้ความตกลงดังกล่าวเป็นที่สุด
(3) ผู้ขาย ผู้ซื้อ สมาชิกผู้ขาย และสมาชิกผู้ซื้อที่ไม่สามารถตกลงตามคำ
ไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานได้ อาจยื่นคำร้องต่อตลาดหรือสำนักงาน
คณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า เพื่อขอให้มีการชี้ขาดข้อพิพาท
ตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542
ข้อ 24. การปฏิบัติตามคำไกล่เกลี่ยและคำชี้ขาด
เมื่อมีคำไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานอันเป็นที่สุด หรือ
คำชี้ขาดข้อพิพาทตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542 แล้ว ให้
คู่กรณีผู้ที่มีสิทธิได้รับการชดใช้ค่าเสียหายตามที่ได้ระบุไว้ในคำไกล่เกลี่ยหรือคำชี้ขาดนั้น
แจ้งให้สำนักหักบัญชีชำระค่าเสียหายจากหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบของคู่กรณี
ฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายตามคำชี้ขาด ในกรณีที่มีหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ
คงเหลือภายหลังจากหักค่าปรับ ค่าใช้จ่ายของตลาด และชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวแล้ว
ให้คืนแก่คู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย หากหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบไม่เพียงพอ
ที่จะชดใช้ค่าเสียหายตามคำชี้ขาด ให้คู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายรับผิดชอบค่าเสียหาย
ให้ครบตามจำนวน
ข้อ 25. ให้ผู้จัดการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทยรักษาการ
ตามข้อบังคับนี้
ประกาศ ณ วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2548
(ลงนาม) สุวรรณ วลัยเสถียร
(นายสุวรรณ วลัยเสถียร)
ประธานกรรมการ
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
--ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย--
-พห-