ข้อ 11. การจับคู่เมื่อสำนักหักบัญชีได้รับแบบแจ้งความประสงค์จะส่งมอบ-รับมอบจากสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแล้ว หรือในกรณีที่ถือได้ว่าสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ ได้แจ้งความประสงค์จะส่งมอบหรือรับมอบสินค้าตามที่ระบุไว้ในข้อ 10 (3) แล้ว สำนักหักบัญชีจะทำการจับคู่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อตามวิธีการที่ตลาดกำหนด ทั้งนี้ การจับคู่ดังกล่าวโดยสำนักหักบัญชีให้ถือเป็นที่สุด สำนักหักบัญชีจะแจ้งผลการจับคู่ รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งมอบ-รับมอบตามแบบที่ตลาดกำหนด ให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อที่ได้รับการจับคู่ทราบภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการที่สอง (2) หลังจากวันกำหนดให้แจ้งความประสงค์ ส่งมอบ-รับมอบ ทั้งนี้ การแจ้งรายละเอียดดังกล่าว สำนักหักบัญชีจะแจ้งแก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อเป็นการเฉพาะตัว โดยไม่เปิดเผยต่อสาธารณชน
ข้อ 12. การส่งมอบ-รับมอบโดยทางเลือกอื่น (Alternative Delivery Procedures)หลังจากที่สำนักหักบัญชีได้แจ้งผลของการจับคู่ให้แก่สมาชิกผู้ขายและ สมาชิกผู้ซื้อทราบแล้ว หากผู้ขายและผู้ซื้อสามารถทำการตกลงกันว่าจะทำการส่งมอบ- รับมอบโดยทางเลือกอื่นตามวิธีใด ๆ ที่ได้ตกลงกัน ให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรตามแบบที่ตลาดกำหนดให้สำนักหักบัญชีทราบตั้งแต่วันทำการถัดไปหลังจากได้รับแจ้งผลของการจับคู่ แต่ไม่เกินเวลา 12.00 น. ของวันทำการสุดท้ายของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ ในกรณีที่ผู้ขายและผู้ซื้อตกลงที่จะทำการส่งมอบ-รับมอบโดยทางเลือกอื่นดังกล่าวข้างต้น เงื่อนไขและรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งมอบและรับมอบสินค้า รวมถึง การชำระราคาสินค้า ให้เป็นไปตามที่ผู้ขายและผู้ซื้อได้ตกลงกัน เมื่อสำนักหักบัญชีได้รับคำบอกกล่าวการส่งมอบ-รับมอบโดยทางเลือกอื่นแล้ว ให้ถือว่าหน้าที่และความรับผิดของสมาชิกผู้ขาย สมาชิกผู้ซื้อ สำนักหักบัญชีและตลาดเกี่ยวกับการส่งมอบ-รับมอบสินค้าตามข้อบังคับนี้ เป็นอันสิ้นสุดลง เว้นแต่หน้าที่ของสำนักหักบัญชีในการคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ
ข้อ 13. การดำเนินการนำสินค้าเข้าคลังสินค้าโดยผู้ขาย
(1) เมื่อสมาชิกผู้ขายได้รับแจ้งผลของการจับคู่จากสำนักหักบัญชีแล้ว ให้สมาชิกผู้ขายดำเนินการให้ผู้ขายส่งมอบสินค้าเข้าคลังสินค้าให้แล้วเสร็จภายในวันทำการสุดท้ายของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ การดำเนินการนำสินค้าเข้าคลังสินค้า ให้ผู้ขายตกลงกับคลังสินค้าเป็นการล่วงหน้าก่อนนำสินค้าเข้าคลังสินค้าตามเวลาที่สมควรเพื่อกำหนดเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
(ก) วันและเวลาที่จะเริ่มนำสินค้าเข้าคลังสินค้า
(ข) วิธีการส่งมอบสินค้าตามที่ผู้ขายตกลงกับคลังสินค้า
(ค) แผนการนำสินค้าเข้าคลังสินค้า
(ง) สิ่งอำนวยความสะดวกที่คลังสินค้าต้องจัดหา
(จ) รายการอื่น ๆ ตามที่คลังสินค้ากำหนด
(2) ในกรณีที่สมาชิกผู้ขายมิได้ดำเนินการให้ผู้ขายนำสินค้าเข้าคลังสินค้าให้เสร็จสิ้นภายในวันทำการสุดท้ายของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ ให้ถือว่าเป็นการผิดนัดการส่งมอบสินค้า และให้นำบทบัญญัติเกี่ยวกับการผิดนัดการส่งมอบ-รับมอบสินค้าตามข้อ 23 มาใช้บังคับ
ข้อ 14. การตรวจสอบสินค้าก่อนนำสินค้าเข้าคลังสินค้ารับรอง
(1) ในการตรวจสอบสินค้าของผู้ขาย ก่อนนำสินค้าเข้าคลังสินค้า ให้คลัง สินค้าที่ตลาดรับรองนั้นเป็นผู้กำหนดผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้า ซึ่งผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าดังกล่าวจะต้องเป็นผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่ตลาดรับรอง หลังจากที่ผู้ขายได้นำสินค้ามายังจุดที่คลังสินค้าได้กำหนดไว้เพื่อการตรวจสอบสินค้า ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าจะทำการตรวจสอบน้ำหนักและคุณภาพของสินค้า โดยผู้ขายจะต้องให้ความร่วมมือกับผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเป็นอย่างดีเพื่อให้การตรวจสอบสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว เรียบร้อย และตรงตามกำหนดเวลาในการนำสินค้าเข้าคลังสินค้า
(2) หากผลการตรวจสอบปรากฏว่าคุณภาพและน้ำหนักของสินค้าไม่ถูกต้องตามข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้า ข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่บรรจุในกระสอบป่านใหม่ (สำหรับกรณีที่ผู้ขายส่งมอบโดยวิธีบรรจุในกระสอบ) ให้คลังสินค้าปฏิเสธการรับมอบสินค้าทั้งหมด แต่หากปรากฏว่าคุณภาพและน้ำหนักของสินค้าถูกต้องตามข้อกำหนดแล้ว ให้ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าออกใบรับรองคุณภาพและน้ำหนักของสินค้า (Certificate of Quality and Weight) ทั้งนี้ ให้ผลการตรวจสอบของผู้ตรวจสอบเป็นที่สุด
ข้อ 15. การนำสินค้าเข้าคลังสินค้าโดยคลังสินค้าเมื่อผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าทำการตรวจสอบสินค้าและออกใบรับรองคุณภาพและน้ำหนักของสินค้าเรียบร้อยแล้ว ให้คลังสินค้านำสินค้าดังกล่าวเข้าไปเก็บไว้ในคลังสินค้าโดยไม่ชักช้าและออกใบรับของคลังสินค้า โดยใบรับของคลังสินค้าแต่ละฉบับให้มีจำนวนสินค้าเท่ากับ 1 หน่วยการซื้อขาย (15 เมตริกตัน) เว้นแต่สำนักหักบัญชีจะได้แจ้งแก่คลังสินค้าเป็นอย่างอื่นภายหลังจากที่ได้ทำการจับคู่แล้ว ทั้งนี้ ให้คลังสินค้าต้องรับผิดชอบต่อสินค้าที่จัดเก็บไว้ในคลังสินค้าตามมาตรฐานและประเพณีปฏิบัติทั่วไปของการค้าข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ และจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อตกลงที่ทำไว้กับตลาดเกี่ยวกับการเป็นคลังสินค้าที่ตลาดรับรอง
ข้อ 16. ค่าใช้จ่ายที่ผู้ขายต้องรับผิดชอบต่อคลังสินค้าผู้ขายต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการส่งมอบสินค้าที่คลังสินค้าเรียกเก็บดังต่อไปนี้ ในทุกขั้นตอนที่มีค่าใช้จ่ายนั้น ๆ เกิดขึ้นแล้ว และไม่ว่าคลังสินค้าจะยอมรับมอบสินค้าไว้แล้วหรือไม่ก็ตาม
(1) ค่าตรวจสอบคุณภาพและน้ำหนักสินค้าก่อนนำสินค้าเข้าคลังสินค้า
(2) ค่าชั่งน้ำหนักสินค้าก่อนนำสินค้าเข้าคลังสินค้า
(3) ค่าขนสินค้าเข้าจัดเก็บในคลังสินค้าโดยคลังสินค้า
(4) ค่าบริการจัดเก็บและดูแลสินค้าเป็นจำนวนเท่ากับกึ่งหนึ่งของค่าจัดเก็บสินค้าสำหรับช่วงการส่งมอบ
(5) ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามที่ตลาดกำหนด
ข้อ 17. การนำส่งเอกสารเพื่อแสดงการส่งมอบให้แก่สมาชิกผู้ซื้อและสำนักหักบัญชี
(1) เมื่อผู้ขายได้ทำการส่งมอบสินค้า ณ คลังสินค้าที่ตลาดรับรองและได้รับใบรับของคลังสินค้าถูกต้องตามข้อ 15 แล้ว สมาชิกผู้ขายจะต้องส่งต้นฉบับเอกสารที่ได้ตรวจสอบว่าถูกต้องดังต่อไปนี้ให้แก่สำนักหักบัญชีพร้อมส่งสำเนาให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในเวลา 12.00 น. ของวันทำการที่สาม
(2) หลังจากวันที่ปรากฏในใบรับของคลังสินค้าว่าเป็นวันที่นำสินค้าเข้าคลังสินค้าแล้วเสร็จ ยกเว้นกรณีที่ผู้ขายได้นำสินค้าเข้าคลังสินค้าเสร็จสิ้นแล้วก่อนการจับคู่ ให้สมาชิกผู้ขายส่งต้นฉบับเอกสารดังกล่าวให้แก่สำนักหักบัญชีพร้อมส่งสำเนาให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในเวลา 12.00 น. ของวันทำการที่สาม
(3) หลังจากวันที่ได้รับแจ้งผลการจับคู่
(ก) ใบรับของคลังสินค้าซึ่งผู้ขายได้โอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้ซื้อ
(ข) ใบรับรองคุณภาพและน้ำหนักของสินค้า
(ค) ใบเรียกเก็บเงิน (Invoice) โดยอย่างน้อยต้องมีรายละเอียดตามที่กำหนดดังนี้
1) ชื่อและที่อยู่ของผู้ขายและผู้ซื้อ
2) รายการสินค้า
3) จำนวนและราคาสินค้าโดยคำนวณจากราคายุติ ณ วันซื้อขายสุดท้าย ซึ่งได้ปรับส่วนเพิ่ม (Premium) หรือส่วนลด (Discount) (ถ้ามี) ตามที่ตลาดกำหนดสำหรับการส่งมอบสินค้านอกเขตกรุงเทพมหานคร และราคาค่ากระสอบป่านใหม่ (ในกรณีที่ผู้ขายส่งมอบโดยวิธีบรรจุในกระสอบ)
4) ลายมือชื่อผู้ขาย
(ง) เอกสารอื่นๆ ตามที่ตลาดกำหนด (2) ในกรณีที่สมาชิกผู้ขายไม่ส่งมอบเอกสารตาม (1) ให้แก่สำนักหักบัญชีและสมาชิกผู้ซื้อภายในเวลาที่ระบุข้างต้น สมาชิกผู้ขายจะต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดในอัตราร้อยละ 0.1 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนดของข้อตกลงต่อวัน นับตั้งแต่ วันที่ครบกำหนดให้ส่งมอบเอกสารดังกล่าวจนถึงวันที่สมาชิกผู้ซื้อและสำนักหักบัญชีได้รับเอกสารจากสมาชิกผู้ขาย หากสมาชิกผู้ขายละเลยไม่ส่งมอบเอกสารจนเวลาล่วงเลยไปเกินกว่าเวลาที่สำนักหักบัญชีเห็นสมควร ให้ถือว่าสมาชิกผู้ขายผิดนัดส่งมอบสินค้าและต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดตามอัตราที่กำหนดในข้อ 23 (3) (นอกเหนือจากค่าปรับตามที่ระบุข้างต้น) และไม่ว่าในกรณีที่เป็นการส่งมอบเอกสารล่าช้าหรือการผิดนัดส่งมอบสินค้า สมาชิกผู้ขายจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับผู้ซื้อ สมาชิกผู้ซื้อ และคลังสินค้า จากการล่าช้าหรือการผิดนัดส่งมอบสินค้าดังกล่าวด้วย (3) เมื่อสมาชิกผู้ซื้อได้รับสำเนาของเอกสารดังกล่าวตาม (1) แล้วให้สมาชิกผู้ซื้อตรวจสอบเอกสารนั้นว่าถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าเอกสารไม่ถูกต้อง ให้แจ้งต่อสำนักหักบัญชีและสมาชิกผู้ขายทราบถึงรายการที่จะต้องแก้ไขทั้งหมด ภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการถัดไปนับจากวันที่สมาชิกผู้ขายได้ส่งเอกสารตาม (1) ทั้งนี้ หากสำนักหักบัญชีและสมาชิกผู้ขายไม่ได้รับแจ้งภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ถือว่าสมาชิกผู้ซื้อยอมรับว่าเอกสารนั้นถูกต้อง หรือหากสำนักหักบัญชีเห็นว่าการร้องขอให้แก้ไขเอกสารโดยสมาชิกผู้ซื้อนั้นไม่เหมาะสม หรือเห็นว่าเอกสารนั้นถูกต้องแล้วโดยไม่คำนึงว่าสมาชิกผู้ซื้อจะได้แจ้งเป็นอย่างอื่นหรือไม่ก็ตาม ให้ถือว่าเอกสารนั้นถูกต้องแล้วและให้ดุลยพินิจของสำนักหักบัญชีเป็นที่สุด ให้สำนักหักบัญชีออกใบแจ้งหนี้ (Debit Note) ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการที่สอง (2) นับแต่วันที่สำนักหักบัญชีได้รับเอกสารตาม (1) (4) เมื่อสมาชิกผู้ขายได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อถึงรายการที่ต้องแก้ไข และสำนักหักบัญชีมิได้มีความเห็นเป็นอย่างอื่นตาม (3) ให้สมาชิกผู้ขายดำเนินการให้มีการแก้ไขเอกสารให้ถูกต้องทั้งหมด และนำส่งต้นฉบับเอกสารที่แก้ไขแล้วให้แก่สำนักหักบัญชี พร้อมสำเนาให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในสอง (2) วันทำการถัดไปนับจากวันที่สมาชิกผู้ขายได้รับแจ้งถึงรายการที่ต้องแก้ไขดังกล่าว (5) เมื่อสมาชิกผู้ซื้อได้รับสำเนาของเอกสารที่แก้ไขดังกล่าวตาม (4) ให้สมาชิกผู้ซื้อตรวจสอบเอกสารนั้นอีกครั้งว่าถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าไม่ถูกต้อง ให้แจ้งต่อสมาชิกผู้ขายและสำนักหักบัญชีภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการถัดไป หากสำนัก หักบัญชีหรือสมาชิกผู้ขายไม่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อเป็นอย่างอื่นภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว หรือสำนักหักบัญชีมีเห็นว่าเอกสารที่แก้ไขดังกล่าวนั้นถูกต้อง โดยไม่คำนึงว่าจะได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อเป็นอย่างอื่นหรือไม่ก็ตาม ให้ถือว่าเอกสารที่แก้ไขนั้นเป็นที่ยอมรับว่าถูกต้อง และให้ดุลยพินิจของสำนักหักบัญชีเป็นที่สุด ให้สำนักหักบัญชีออกใบแจ้งหนี้ (Debit Note) ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการที่สอง (2) นับแต่วันที่สำนักหักบัญชีได้รับเอกสารตาม (4) ในกรณีตาม (5) ข้างต้น สมาชิกผู้ขายจะต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดในอัตราร้อยละ 0.1 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนดของข้อตกลงต่อวัน นับตั้งแต่วันที่สมาชิกผู้ซื้อแจ้งให้สมาชิกผู้ขายแก้ไขเอกสารตาม (3) จนถึงวันที่สมาชิกผู้ซื้อและสำนักหักบัญชีได้รับเอกสารที่แก้ไขใหม่ดังกล่าวจากสมาชิกผู้ขาย แต่หากกรณีที่สำนัก หักบัญชีพิจารณาแล้วเห็นว่า ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับเอกสารที่จะต้องทำการแก้ไขนั้นไม่ได้เกิดจากความผิดของสมาชิกผู้ขาย สำนักหักบัญชีอาจพิจารณายกเว้นค่าปรับดังกล่าวข้างต้นได้ (6) ในกรณีที่มีการล่าช้าเกิดขึ้นเนื่องจากการแก้ไขเอกสารตาม (5) จนทำให้กำหนดวันนำสินค้าออกจากคลังสินค้าต้องล่าช้าออกไปกว่าวันที่ 20 ของเดือนถัดจากเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ สำนักหักบัญชีอาจกำหนดวันนำสินค้าออกจากคลังสินค้าใหม่ก็ได้ และผู้ขายจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับผู้ซื้อ สมาชิกผู้ซื้อ และคลังสินค้า จากการที่ต้องเลื่อนกำหนดวันนำสินค้าออกจากคลังสินค้าออกไป แต่หากสำนักหักบัญชีเห็นว่าเอกสารที่แก้ไขตาม (5) ยังไม่ถูกต้อง ให้ถือว่าสมาชิกผู้ขายผิดนัดส่งมอบสินค้าและต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดตามอัตราที่กำหนดในข้อ 23 (3) นอกเหนือจากค่าปรับตาม (5) ข้างต้น
ข้อ 18. การชำระราคาสินค้าและการแลกเปลี่ยนเอกสาร (1) สมาชิกผู้ซื้อต้องดำเนินการให้มีการชำระเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ในใบแจ้งหนี้ให้แก่สำนักหักบัญชีภายในเวลา 12.00 น. ของวันทำการที่สี่ (4) หลังจากวันที่ได้รับใบแจ้งหนี้จากสำนักหักบัญชี ตามข้อ 17 (3) หรือ (5) แล้วแต่กรณี โดยชำระเป็นเช็คธนาคารสั่งจ่ายผู้ขาย (2) เมื่อสำนักหักบัญชีได้รับเช็คธนาคารจากสมาชิกผู้ซื้อแล้ว สำนัก หักบัญชีจะทำการส่งมอบเช็คธนาคารดังกล่าวให้แก่สมาชิกผู้ขาย และส่งมอบเอกสารตามที่ได้รับจากสมาชิกผู้ขายตาม ข้อ 17 (1) หรือ (4) แล้วแต่กรณี ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อ ภายในเวลา 17.00 น. ของวันทำการถัดไป (3) หลังจากที่สมาชิกผู้ขายได้รับชำระเงินค่าสินค้าตาม (1) และสมาชิกผู้ซื้อได้รับเอกสารตาม (2) แล้ว ให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อลงนามในหนังสือยืนยันการส่งมอบสินค้า การแลกเปลี่ยนเอกสารและการชำระเงินตามแบบที่ตลาดกำหนด เพื่อยืนยันการส่งมอบสินค้า การแลกเปลี่ยนเอกสารและการชำระเงินตามข้อบังคับนี้ให้แก่สำนักหักบัญชี (4) เมื่อได้มีการลงนามในหนังสือยืนยันการส่งมอบสินค้า การแลกเปลี่ยนเอกสาร และการชำระเงินตาม (3) แล้ว ให้หน้าที่และความรับผิดชอบของตลาด สำนัก หักบัญชี สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้ เป็นอันสิ้นสุดลง เว้นแต่หน้าที่ของสำนักหักบัญชีในการคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ (5) หากสมาชิกผู้ซื้อไม่ดำเนินการให้มีการชำระเงินค่าสินค้าให้ถูกต้องตาม (1) ให้ถือว่าสมาชิกผู้ซื้อผิดนัดการรับมอบสินค้า และให้นำบทบัญญัติเกี่ยวกับการผิดนัดการส่งมอบ-รับมอบสินค้าตามข้อ 23 มาใช้บังคับ และสมาชิกผู้ซื้อจะต้องรับผิดชอบในบรรดาค่าเสียหาย และค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้ขาย สมาชิกผู้ขาย และคลังสินค้าอันเนื่องมาจากการผิดนัดดังกล่าว (6) สำนักหักบัญชีจะไม่รับผิดชอบต่อการส่งมอบเช็คธนาคารให้แก่สมาชิกผู้ขายเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับเอกสารที่ส่งมอบโดยสมาชิกผู้ขายให้แก่สำนักหักบัญชี หากปรากฏแก่สำนักหักบัญชีว่าเป็นเอกสารอันควรเชื่อโดยสุจริตว่าถูกต้อง
ข้อ 19. การนำสินค้าออกจากคลังสินค้ารับรองโดยผู้ซื้อ(1) เมื่อสมาชิกผู้ขายได้รับชำระราคาค่าสินค้า และสมาชิกผู้ซื้อได้รับมอบต้นฉบับเอกสารต่างๆ ตามข้อ 18 (2) เรียบร้อยแล้ว สมาชิกผู้ซื้อจะต้องดำเนินการให้ผู้ซื้อนำสินค้าออกจากคลังสินค้าภายในวันที่ 20 ของเดือนถัดจากเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบและชำระค่าใช้จ่ายในการนำสินค้าออกจากคลังสินค้าตามที่ระบุไว้ในข้อ 20 เว้นแต่จะได้ตกลงกับคลังสินค้าเป็นอย่างอื่น โดยการดำเนินการดังกล่าวให้ผู้ซื้อตกลงกับคลังสินค้าเป็นการล่วงหน้าตามเวลาที่สมควรเพื่อกำหนดเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 ของเดือนถัดจากเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ หรือ ข้อ 17 (6) แล้วแต่กรณี (ก) วันและเวลาที่จะเริ่มนำสินค้าออกจากคลังสินค้า (ข) วิธีการรับมอบสินค้า (ค) แผนการนำสินค้าออกจากคลังสินค้า (ง) สิ่งอำนวยความสะดวกที่คลังสินค้าต้องจัดหา (จ) รายการอื่น ๆ ตามที่คลังสินค้ากำหนด (2) คลังสินค้าจะต้องดำเนินการให้ผู้ซื้อนำสินค้าออกจากคลังสินค้าโดยไม่ชักช้า ในกรณีที่ผู้ซื้อไม่นำสินค้าออกจากคลังสินค้าภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ตาม (1) ผู้ซื้อจะต้องชำระค่าใช้จ่ายให้แก่คลังสินค้าตามที่คลังสินค้ากำหนด เว้นแต่กรณีที่การล่าช้าในการนำสินค้าออกจากคลังสินค้าไม่ได้เกิดจากความผิดของผู้ซื้อ
ข้อ 20. ค่าใช้จ่ายที่ผู้ซื้อต้องรับผิดชอบต่อคลังสินค้าผู้ซื้อต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรับมอบสินค้าที่คลังสินค้าเรียกเก็บ ดังต่อไปนี้ ในทุกขั้นตอนที่มีค่าใช้จ่ายนั้น ๆ เกิดขึ้น
(1) ค่าตรวจสอบคุณภาพและน้ำหนักสินค้าในการนำสินค้าออกจากคลังสินค้า
(2) ค่าชั่งน้ำหนักสินค้าในการนำสินค้าออกจากคลังสินค้า
(3) ค่าขนสินค้าออกจากคลังสินค้า
(4) ค่าจัดเก็บและดูแลสินค้าเป็นจำนวนเท่ากับกึ่งหนึ่งของค่าจัดเก็บสินค้าสำหรับช่วงการส่งมอบ
(5) ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามที่ตลาดกำหนด
ข้อ 21. การตรวจสอบสินค้าออกจากคลังสินค้ารับรอง(1) หลังจากที่ผู้ซื้อได้ติดต่อนัดหมายกับคลังสินค้าเกี่ยวกับแผนการนำสินค้าออกจากคลังสินค้าแล้ว ให้ผู้ซื้อเป็นผู้เลือกผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าจากรายชื่อ ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่ตลาดรับรอง โดยให้ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าทำการตรวจสอบน้ำหนักและคุณภาพของสินค้า (2) หากผลการตรวจสอบคุณภาพและน้ำหนักของสินค้าไม่ถูกต้องตามข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้า ข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่บรรจุในกระสอบป่านใหม่ (สำหรับกรณีที่ผู้ขายส่งมอบโดยวิธีบรรจุในกระสอบ) ให้ผู้ซื้อปฏิเสธการรับมอบสินค้าทั้งหมด แต่หากปรากฏว่าคุณภาพและน้ำหนักของสินค้าถูกต้องตามข้อกำหนดแล้ว ให้ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าออกใบรับรองคุณภาพและน้ำหนักของสินค้า (Certificate of Quality and Weight) ทั้งนี้ ให้ผลการตรวจสอบของผู้ตรวจสอบเป็นที่สุด
ข้อ 22. กรรมสิทธิ์และความเสี่ยงภัยของสินค้า(1) ความเสี่ยงภัยต่อการสูญหายหรือเสียหายของสินค้าให้ตกเป็นของผู้ขายหรือผู้ซื้อ ในกรณีดังต่อไปนี้
(ก) ในกรณีของผู้ขายให้ความเสี่ยงภัยสิ้นสุดลงเมื่อผู้ขายได้นำสินค้าเข้าคลังสินค้าและคลังสินค้าได้ออกใบรับของคลังสินค้าให้แก่ผู้ขายแล้ว
(ข) ในกรณีของผู้ซื้อให้ความเสี่ยงภัยตกเป็นของผู้ซื้อทันทีเมื่อผู้ซื้อได้รับมอบสินค้าจากคลังสินค้า ทั้งนี้ การนำสินค้าออกจากคลังสินค้าจะต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 20 ของเดือนถัดจากเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ (2) กรรมสิทธิ์ในสินค้าที่ส่งมอบจะโอนไปยังผู้ซื้อต่อเมื่อผู้ขายได้รับชำระเงินตามเช็คธนาคารจากผู้ซื้อเรียบร้อยแล้วตามข้อ 18 (2) (3) ให้คลังสินค้ารับผิดชอบต่อสินค้าที่จัดเก็บไว้ในคลังสินค้า จนกว่าผู้ซื้อจะนำสินค้าออกจากคลังสินค้า ทั้งนี้ ไม่เกินวันที่ 20 ของเดือนถัดจากเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ หากมีความเสียหายเกี่ยวกับคุณภาพและน้ำหนักของสินค้าในระหว่างระยะเวลาการจัดเก็บในคลังสินค้า คลังสินค้าต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายโดยจัดหาสินค้าให้กับ ผู้ซื้อให้ครบทั้งจำนวน
ข้อ 23. การผิดนัดการส่งมอบ-รับมอบสินค้า
(1) ในกรณีดังต่อไปนี้ให้ถือเป็นเหตุของการผิดนัดการส่งมอบ-รับมอบสินค้า
(ก) การที่สมาชิกผู้ขายไม่ดำเนินการให้ผู้ขายนำสินค้าเข้าคลังสินค้าภายในวันทำการสุดท้ายของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ หรือ
(ข)การที่สมาชิกผู้ขายไม่ส่งมอบเอกสารตามข้อ 17 (1) หรือ ไม่ดำเนินการให้มีการแก้ไขเอกสารให้ถูกต้องตามเวลาที่สำนักหักบัญชีกำหนดตามที่ระบุในข้อ 17 (6) หรือ
(ค)การที่สมาชิกผู้ซื้อไม่ดำเนินการให้มีการชำระเงินค่าสินค้า ตามที่ระบุในข้อ 18 (1) หรือ
(ง)กรณีอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการตลาดกำหนด
(2) หากเกิดกรณีการผิดนัดการส่งมอบ-รับมอบสินค้า ให้สมาชิกผู้ขาย หรือสมาชิกผู้ซื้อดำเนินการให้มีการระงับข้อพิพาทตามที่กำหนดไว้ในข้อ 27 (3) สมาชิกฝ่ายที่ผิดนัดต้องดำเนินการให้มีการชำระค่าปรับให้แก่ตลาด ในอัตราร้อยละ 10 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนดของข้อตกลง แต่ต้องไม่น้อยกว่า 12,000 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง นอกจากนี้ ตลาดมีอำนาจกำหนดมาตรการอื่น ๆ เพื่อบังคับกับสมาชิกฝ่ายที่ผิดนัดตามที่ตลาดเห็นสมควร
ข้อ 24. การคืนเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ และหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ
(1) เมื่อสิ้นวันซื้อขายสุดท้ายสำหรับข้อตกลงใด ๆ ให้ถือว่าภาระเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบตามข้อตกลงนั้นได้สิ้นสุดลง สำนักหักบัญชีจะดำเนินการ คืนเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบนั้น ตามข้อบังคับคณะกรรมการตลาดสินค้า เกษตรล่วงหน้า ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการวางหรือรักษาเงินประกัน การปรับฐานะบัญชีเงินประกัน การถอนเงินประกัน และการผิดนัดชำระเงินประกัน พ.ศ. 2547 หรือที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม
(2) สำนักหักบัญชีจะคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ หรือหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบที่เหลือโดยไม่มีดอกเบี้ย หลังจากหักค่าปรับ ค่าเสียหาย และค่าใช้จ่ายที่สำนักหักบัญชีมีอำนาจหักได้ตามข้อบังคับนี้ ให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ ในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้
(ก)ในวันทำการถัดจากวันที่มีการล้างฐานะการถือครองของสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ
(ข)ในวันทำการถัดไปหลังจากวันที่สำนักหักบัญชีได้รับการยืนยันการส่งมอบสินค้า การแลกเปลี่ยนเอกสาร และการชำระเงินตามที่ระบุในข้อ 18
(3)โดยไม่มีการยื่นข้อเรียกร้องค่าเสียหายจากสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ
(ค)หากมีการเรียกร้องค่าเสียหายโดยสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ สำนักหักบัญชีจะคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบให้ในวันทำการถัดไปหลังจากสำนักหักบัญชีได้รับคำไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานตามข้อ 27(2) หรือได้รับคำชี้ขาดข้อพิพาทที่เป็นที่สุดแล้วตามข้อ 28 หรือเมื่อได้รับคำพิพากษาถึงที่สุด หรือเมื่อสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อได้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรต่อสำนักหักบัญชีว่าได้มีการทำข้อตกลงยุติข้อพิพาทเป็นที่พอใจทั้งสองฝ่ายแล้วและไม่ประสงค์จะเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ต่อกันอีก
(ง)ในวันทำการถัดจากวันที่ได้รับคำบอกกล่าวการส่งมอบ-รับมอบโดยทางเลือกอื่นจากสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ
(จ)ในวันทำการถัดจากวันที่ได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจากสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อว่าไม่ประสงค์จะเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ต่อกัน
(ฉ)หากมีการผิดนัดการส่งมอบ-รับมอบสินค้าตามข้อ 23 สำนักหักบัญชีจะคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบให้กับฝ่ายที่มิได้ผิดนัด
ข้อ 25. ความรับผิดของตลาดในการส่งมอบ-รับมอบตามข้อบังคับนี้ ตลาด สำนักหักบัญชี กรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า เจ้าหน้าที่ และบุคลากรตลาดมีหน้าที่เพื่อให้มีการดำเนินการให้ครบถ้วนตามข้อบังคับนี้ และไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ตลาดจะไม่รับผิดชอบต่อการกระทำไม่ว่าโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ การฉ้อฉล หรือการผิดนัดใดๆ ของผู้ขาย ผู้ซื้อหรือสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือบุคคลอื่นใดที่มีหน้าที่ที่จะต้องกระทำการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบหรือรับมอบสินค้าภายใต้ข้อบังคับนี้
ข้อ 26. เหตุสุดวิสัยในกรณีที่เกิดอุปสรรคในการส่งมอบ-รับมอบ เนื่องจากเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) สมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ แล้วแต่กรณี จะต้องแจ้งให้ตลาดทราบโดยทันที พร้อมทั้งแจ้งยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันทำการถัดไป หากตลาดมีความเห็นว่า มีเหตุสุดวิสัยอันเป็นอุปสรรคในการส่งมอบ-รับมอบเกิดขึ้นจริง คณะกรรมการตลาดอาจพิจารณากำหนดมาตรการในการแก้ไขอุปสรรคนั้นตามที่เห็นสมควร เช่น ขยายเวลาในการส่งมอบ-รับมอบ หรือให้นำสินค้าอื่นที่มีชนิด และคุณภาพเท่าเทียมกันหรือดีกว่ามา ส่งมอบแทน (Alternative Facilities) หรือให้ชดใช้ความเสียหายตามส่วนต่างของราคา (Cash Settlement) ตามวิธีการที่ตลาดกำหนด ทั้งนี้ หากสมาชิกผู้ขาย สมาชิกผู้ซื้อ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตาม ข้อบังคับนี้ อันเป็นเหตุจากเหตุสุดวิสัย ตลาดอาจพิจารณายกเว้นบทลงโทษ และค่าปรับตามความเหมาะสม หากเหตุสุดวิสัยดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานโดยไม่อาจแก้ไขอุปสรรคนั้นได้ แต่ไม่เกินสาม (3) เดือนนับแต่วันที่กำหนดให้แจ้งความประสงค์ส่งมอบ-รับมอบ คณะกรรมการตลาดอาจพิจารณากำหนดวิธีการชดใช้ความเสียหายตามส่วนต่างของราคา (Cash Settlement) ดังกล่าวข้างต้น
ข้อ 27. การระงับข้อพิพาท(1) ในกรณีที่มีข้อพิพาทใดๆ เกี่ยวกับการส่งมอบ-รับมอบสินค้า รวมถึงการเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของผู้ขาย ผู้ซื้อ หรือสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามข้อบังคับนี้ ให้นำข้อพิพาทดังกล่าวเสนอต่อคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อพิจารณาไกล่เกลี่ยเบื้องต้น (2) หากผู้ขาย ผู้ซื้อ สมาชิกผู้ขาย หรือสมาชิกผู้ซื้อสามารถตกลงตาม คำไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน ให้ความตกลงดังกล่าวเป็นที่สุด (3) ผู้ขาย ผู้ซื้อ สมาชิกผู้ขาย หรือสมาชิกผู้ซื้อที่ไม่สามารถตกลงตาม คำไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานได้ อาจยื่นคำร้องต่อตลาดหรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า เพื่อขอให้มีการชี้ขาดข้อพิพาทตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542
ข้อ 28. การปฏิบัติตามคำชี้ขาดเมื่อมีคำชี้ขาดข้อพิพาทตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542 หรือเมื่อได้รับคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ให้คู่กรณีผู้ที่มีสิทธิได้รับการชดใช้ค่าเสียหาย แจ้งให้สำนักหักบัญชีชำระค่าเสียหายจากหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบของคู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายตามคำชี้ขาด ในกรณีที่มีหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ คงเหลือภายหลังจากหักค่าปรับ ค่าใช้จ่ายของตลาด และชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวแล้ว ให้คืนแก่คู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย หากหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบไม่เพียงพอที่จะชดใช้ค่าเสียหายตามคำชี้ขาด ให้คู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายรับผิดชอบค่าเสียหายให้ครบตามจำนวน
ข้อ 29.ให้ผู้จัดการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทยรักษาการตามข้อบังคับนี้
ประกาศ ณ วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2547
(ลงนาม) สุวรรณ วลัยเสถียร
(นายสุวรรณ วลัยเสถียร)
ประธานกรรมการ
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
--ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย--
-พห-
ข้อ 12. การส่งมอบ-รับมอบโดยทางเลือกอื่น (Alternative Delivery Procedures)หลังจากที่สำนักหักบัญชีได้แจ้งผลของการจับคู่ให้แก่สมาชิกผู้ขายและ สมาชิกผู้ซื้อทราบแล้ว หากผู้ขายและผู้ซื้อสามารถทำการตกลงกันว่าจะทำการส่งมอบ- รับมอบโดยทางเลือกอื่นตามวิธีใด ๆ ที่ได้ตกลงกัน ให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรตามแบบที่ตลาดกำหนดให้สำนักหักบัญชีทราบตั้งแต่วันทำการถัดไปหลังจากได้รับแจ้งผลของการจับคู่ แต่ไม่เกินเวลา 12.00 น. ของวันทำการสุดท้ายของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ ในกรณีที่ผู้ขายและผู้ซื้อตกลงที่จะทำการส่งมอบ-รับมอบโดยทางเลือกอื่นดังกล่าวข้างต้น เงื่อนไขและรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งมอบและรับมอบสินค้า รวมถึง การชำระราคาสินค้า ให้เป็นไปตามที่ผู้ขายและผู้ซื้อได้ตกลงกัน เมื่อสำนักหักบัญชีได้รับคำบอกกล่าวการส่งมอบ-รับมอบโดยทางเลือกอื่นแล้ว ให้ถือว่าหน้าที่และความรับผิดของสมาชิกผู้ขาย สมาชิกผู้ซื้อ สำนักหักบัญชีและตลาดเกี่ยวกับการส่งมอบ-รับมอบสินค้าตามข้อบังคับนี้ เป็นอันสิ้นสุดลง เว้นแต่หน้าที่ของสำนักหักบัญชีในการคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ
ข้อ 13. การดำเนินการนำสินค้าเข้าคลังสินค้าโดยผู้ขาย
(1) เมื่อสมาชิกผู้ขายได้รับแจ้งผลของการจับคู่จากสำนักหักบัญชีแล้ว ให้สมาชิกผู้ขายดำเนินการให้ผู้ขายส่งมอบสินค้าเข้าคลังสินค้าให้แล้วเสร็จภายในวันทำการสุดท้ายของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ การดำเนินการนำสินค้าเข้าคลังสินค้า ให้ผู้ขายตกลงกับคลังสินค้าเป็นการล่วงหน้าก่อนนำสินค้าเข้าคลังสินค้าตามเวลาที่สมควรเพื่อกำหนดเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้
(ก) วันและเวลาที่จะเริ่มนำสินค้าเข้าคลังสินค้า
(ข) วิธีการส่งมอบสินค้าตามที่ผู้ขายตกลงกับคลังสินค้า
(ค) แผนการนำสินค้าเข้าคลังสินค้า
(ง) สิ่งอำนวยความสะดวกที่คลังสินค้าต้องจัดหา
(จ) รายการอื่น ๆ ตามที่คลังสินค้ากำหนด
(2) ในกรณีที่สมาชิกผู้ขายมิได้ดำเนินการให้ผู้ขายนำสินค้าเข้าคลังสินค้าให้เสร็จสิ้นภายในวันทำการสุดท้ายของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ ให้ถือว่าเป็นการผิดนัดการส่งมอบสินค้า และให้นำบทบัญญัติเกี่ยวกับการผิดนัดการส่งมอบ-รับมอบสินค้าตามข้อ 23 มาใช้บังคับ
ข้อ 14. การตรวจสอบสินค้าก่อนนำสินค้าเข้าคลังสินค้ารับรอง
(1) ในการตรวจสอบสินค้าของผู้ขาย ก่อนนำสินค้าเข้าคลังสินค้า ให้คลัง สินค้าที่ตลาดรับรองนั้นเป็นผู้กำหนดผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้า ซึ่งผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าดังกล่าวจะต้องเป็นผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่ตลาดรับรอง หลังจากที่ผู้ขายได้นำสินค้ามายังจุดที่คลังสินค้าได้กำหนดไว้เพื่อการตรวจสอบสินค้า ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าจะทำการตรวจสอบน้ำหนักและคุณภาพของสินค้า โดยผู้ขายจะต้องให้ความร่วมมือกับผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเป็นอย่างดีเพื่อให้การตรวจสอบสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว เรียบร้อย และตรงตามกำหนดเวลาในการนำสินค้าเข้าคลังสินค้า
(2) หากผลการตรวจสอบปรากฏว่าคุณภาพและน้ำหนักของสินค้าไม่ถูกต้องตามข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้า ข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่บรรจุในกระสอบป่านใหม่ (สำหรับกรณีที่ผู้ขายส่งมอบโดยวิธีบรรจุในกระสอบ) ให้คลังสินค้าปฏิเสธการรับมอบสินค้าทั้งหมด แต่หากปรากฏว่าคุณภาพและน้ำหนักของสินค้าถูกต้องตามข้อกำหนดแล้ว ให้ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าออกใบรับรองคุณภาพและน้ำหนักของสินค้า (Certificate of Quality and Weight) ทั้งนี้ ให้ผลการตรวจสอบของผู้ตรวจสอบเป็นที่สุด
ข้อ 15. การนำสินค้าเข้าคลังสินค้าโดยคลังสินค้าเมื่อผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าทำการตรวจสอบสินค้าและออกใบรับรองคุณภาพและน้ำหนักของสินค้าเรียบร้อยแล้ว ให้คลังสินค้านำสินค้าดังกล่าวเข้าไปเก็บไว้ในคลังสินค้าโดยไม่ชักช้าและออกใบรับของคลังสินค้า โดยใบรับของคลังสินค้าแต่ละฉบับให้มีจำนวนสินค้าเท่ากับ 1 หน่วยการซื้อขาย (15 เมตริกตัน) เว้นแต่สำนักหักบัญชีจะได้แจ้งแก่คลังสินค้าเป็นอย่างอื่นภายหลังจากที่ได้ทำการจับคู่แล้ว ทั้งนี้ ให้คลังสินค้าต้องรับผิดชอบต่อสินค้าที่จัดเก็บไว้ในคลังสินค้าตามมาตรฐานและประเพณีปฏิบัติทั่วไปของการค้าข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ และจะต้องเป็นไปตามเงื่อนไขและข้อตกลงที่ทำไว้กับตลาดเกี่ยวกับการเป็นคลังสินค้าที่ตลาดรับรอง
ข้อ 16. ค่าใช้จ่ายที่ผู้ขายต้องรับผิดชอบต่อคลังสินค้าผู้ขายต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการส่งมอบสินค้าที่คลังสินค้าเรียกเก็บดังต่อไปนี้ ในทุกขั้นตอนที่มีค่าใช้จ่ายนั้น ๆ เกิดขึ้นแล้ว และไม่ว่าคลังสินค้าจะยอมรับมอบสินค้าไว้แล้วหรือไม่ก็ตาม
(1) ค่าตรวจสอบคุณภาพและน้ำหนักสินค้าก่อนนำสินค้าเข้าคลังสินค้า
(2) ค่าชั่งน้ำหนักสินค้าก่อนนำสินค้าเข้าคลังสินค้า
(3) ค่าขนสินค้าเข้าจัดเก็บในคลังสินค้าโดยคลังสินค้า
(4) ค่าบริการจัดเก็บและดูแลสินค้าเป็นจำนวนเท่ากับกึ่งหนึ่งของค่าจัดเก็บสินค้าสำหรับช่วงการส่งมอบ
(5) ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามที่ตลาดกำหนด
ข้อ 17. การนำส่งเอกสารเพื่อแสดงการส่งมอบให้แก่สมาชิกผู้ซื้อและสำนักหักบัญชี
(1) เมื่อผู้ขายได้ทำการส่งมอบสินค้า ณ คลังสินค้าที่ตลาดรับรองและได้รับใบรับของคลังสินค้าถูกต้องตามข้อ 15 แล้ว สมาชิกผู้ขายจะต้องส่งต้นฉบับเอกสารที่ได้ตรวจสอบว่าถูกต้องดังต่อไปนี้ให้แก่สำนักหักบัญชีพร้อมส่งสำเนาให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในเวลา 12.00 น. ของวันทำการที่สาม
(2) หลังจากวันที่ปรากฏในใบรับของคลังสินค้าว่าเป็นวันที่นำสินค้าเข้าคลังสินค้าแล้วเสร็จ ยกเว้นกรณีที่ผู้ขายได้นำสินค้าเข้าคลังสินค้าเสร็จสิ้นแล้วก่อนการจับคู่ ให้สมาชิกผู้ขายส่งต้นฉบับเอกสารดังกล่าวให้แก่สำนักหักบัญชีพร้อมส่งสำเนาให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในเวลา 12.00 น. ของวันทำการที่สาม
(3) หลังจากวันที่ได้รับแจ้งผลการจับคู่
(ก) ใบรับของคลังสินค้าซึ่งผู้ขายได้โอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ผู้ซื้อ
(ข) ใบรับรองคุณภาพและน้ำหนักของสินค้า
(ค) ใบเรียกเก็บเงิน (Invoice) โดยอย่างน้อยต้องมีรายละเอียดตามที่กำหนดดังนี้
1) ชื่อและที่อยู่ของผู้ขายและผู้ซื้อ
2) รายการสินค้า
3) จำนวนและราคาสินค้าโดยคำนวณจากราคายุติ ณ วันซื้อขายสุดท้าย ซึ่งได้ปรับส่วนเพิ่ม (Premium) หรือส่วนลด (Discount) (ถ้ามี) ตามที่ตลาดกำหนดสำหรับการส่งมอบสินค้านอกเขตกรุงเทพมหานคร และราคาค่ากระสอบป่านใหม่ (ในกรณีที่ผู้ขายส่งมอบโดยวิธีบรรจุในกระสอบ)
4) ลายมือชื่อผู้ขาย
(ง) เอกสารอื่นๆ ตามที่ตลาดกำหนด (2) ในกรณีที่สมาชิกผู้ขายไม่ส่งมอบเอกสารตาม (1) ให้แก่สำนักหักบัญชีและสมาชิกผู้ซื้อภายในเวลาที่ระบุข้างต้น สมาชิกผู้ขายจะต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดในอัตราร้อยละ 0.1 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนดของข้อตกลงต่อวัน นับตั้งแต่ วันที่ครบกำหนดให้ส่งมอบเอกสารดังกล่าวจนถึงวันที่สมาชิกผู้ซื้อและสำนักหักบัญชีได้รับเอกสารจากสมาชิกผู้ขาย หากสมาชิกผู้ขายละเลยไม่ส่งมอบเอกสารจนเวลาล่วงเลยไปเกินกว่าเวลาที่สำนักหักบัญชีเห็นสมควร ให้ถือว่าสมาชิกผู้ขายผิดนัดส่งมอบสินค้าและต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดตามอัตราที่กำหนดในข้อ 23 (3) (นอกเหนือจากค่าปรับตามที่ระบุข้างต้น) และไม่ว่าในกรณีที่เป็นการส่งมอบเอกสารล่าช้าหรือการผิดนัดส่งมอบสินค้า สมาชิกผู้ขายจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับผู้ซื้อ สมาชิกผู้ซื้อ และคลังสินค้า จากการล่าช้าหรือการผิดนัดส่งมอบสินค้าดังกล่าวด้วย (3) เมื่อสมาชิกผู้ซื้อได้รับสำเนาของเอกสารดังกล่าวตาม (1) แล้วให้สมาชิกผู้ซื้อตรวจสอบเอกสารนั้นว่าถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าเอกสารไม่ถูกต้อง ให้แจ้งต่อสำนักหักบัญชีและสมาชิกผู้ขายทราบถึงรายการที่จะต้องแก้ไขทั้งหมด ภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการถัดไปนับจากวันที่สมาชิกผู้ขายได้ส่งเอกสารตาม (1) ทั้งนี้ หากสำนักหักบัญชีและสมาชิกผู้ขายไม่ได้รับแจ้งภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ถือว่าสมาชิกผู้ซื้อยอมรับว่าเอกสารนั้นถูกต้อง หรือหากสำนักหักบัญชีเห็นว่าการร้องขอให้แก้ไขเอกสารโดยสมาชิกผู้ซื้อนั้นไม่เหมาะสม หรือเห็นว่าเอกสารนั้นถูกต้องแล้วโดยไม่คำนึงว่าสมาชิกผู้ซื้อจะได้แจ้งเป็นอย่างอื่นหรือไม่ก็ตาม ให้ถือว่าเอกสารนั้นถูกต้องแล้วและให้ดุลยพินิจของสำนักหักบัญชีเป็นที่สุด ให้สำนักหักบัญชีออกใบแจ้งหนี้ (Debit Note) ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการที่สอง (2) นับแต่วันที่สำนักหักบัญชีได้รับเอกสารตาม (1) (4) เมื่อสมาชิกผู้ขายได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อถึงรายการที่ต้องแก้ไข และสำนักหักบัญชีมิได้มีความเห็นเป็นอย่างอื่นตาม (3) ให้สมาชิกผู้ขายดำเนินการให้มีการแก้ไขเอกสารให้ถูกต้องทั้งหมด และนำส่งต้นฉบับเอกสารที่แก้ไขแล้วให้แก่สำนักหักบัญชี พร้อมสำเนาให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในสอง (2) วันทำการถัดไปนับจากวันที่สมาชิกผู้ขายได้รับแจ้งถึงรายการที่ต้องแก้ไขดังกล่าว (5) เมื่อสมาชิกผู้ซื้อได้รับสำเนาของเอกสารที่แก้ไขดังกล่าวตาม (4) ให้สมาชิกผู้ซื้อตรวจสอบเอกสารนั้นอีกครั้งว่าถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าไม่ถูกต้อง ให้แจ้งต่อสมาชิกผู้ขายและสำนักหักบัญชีภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการถัดไป หากสำนัก หักบัญชีหรือสมาชิกผู้ขายไม่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อเป็นอย่างอื่นภายในกำหนดระยะเวลาดังกล่าว หรือสำนักหักบัญชีมีเห็นว่าเอกสารที่แก้ไขดังกล่าวนั้นถูกต้อง โดยไม่คำนึงว่าจะได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อเป็นอย่างอื่นหรือไม่ก็ตาม ให้ถือว่าเอกสารที่แก้ไขนั้นเป็นที่ยอมรับว่าถูกต้อง และให้ดุลยพินิจของสำนักหักบัญชีเป็นที่สุด ให้สำนักหักบัญชีออกใบแจ้งหนี้ (Debit Note) ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการที่สอง (2) นับแต่วันที่สำนักหักบัญชีได้รับเอกสารตาม (4) ในกรณีตาม (5) ข้างต้น สมาชิกผู้ขายจะต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดในอัตราร้อยละ 0.1 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนดของข้อตกลงต่อวัน นับตั้งแต่วันที่สมาชิกผู้ซื้อแจ้งให้สมาชิกผู้ขายแก้ไขเอกสารตาม (3) จนถึงวันที่สมาชิกผู้ซื้อและสำนักหักบัญชีได้รับเอกสารที่แก้ไขใหม่ดังกล่าวจากสมาชิกผู้ขาย แต่หากกรณีที่สำนัก หักบัญชีพิจารณาแล้วเห็นว่า ความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับเอกสารที่จะต้องทำการแก้ไขนั้นไม่ได้เกิดจากความผิดของสมาชิกผู้ขาย สำนักหักบัญชีอาจพิจารณายกเว้นค่าปรับดังกล่าวข้างต้นได้ (6) ในกรณีที่มีการล่าช้าเกิดขึ้นเนื่องจากการแก้ไขเอกสารตาม (5) จนทำให้กำหนดวันนำสินค้าออกจากคลังสินค้าต้องล่าช้าออกไปกว่าวันที่ 20 ของเดือนถัดจากเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ สำนักหักบัญชีอาจกำหนดวันนำสินค้าออกจากคลังสินค้าใหม่ก็ได้ และผู้ขายจะต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายและค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับผู้ซื้อ สมาชิกผู้ซื้อ และคลังสินค้า จากการที่ต้องเลื่อนกำหนดวันนำสินค้าออกจากคลังสินค้าออกไป แต่หากสำนักหักบัญชีเห็นว่าเอกสารที่แก้ไขตาม (5) ยังไม่ถูกต้อง ให้ถือว่าสมาชิกผู้ขายผิดนัดส่งมอบสินค้าและต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดตามอัตราที่กำหนดในข้อ 23 (3) นอกเหนือจากค่าปรับตาม (5) ข้างต้น
ข้อ 18. การชำระราคาสินค้าและการแลกเปลี่ยนเอกสาร (1) สมาชิกผู้ซื้อต้องดำเนินการให้มีการชำระเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ในใบแจ้งหนี้ให้แก่สำนักหักบัญชีภายในเวลา 12.00 น. ของวันทำการที่สี่ (4) หลังจากวันที่ได้รับใบแจ้งหนี้จากสำนักหักบัญชี ตามข้อ 17 (3) หรือ (5) แล้วแต่กรณี โดยชำระเป็นเช็คธนาคารสั่งจ่ายผู้ขาย (2) เมื่อสำนักหักบัญชีได้รับเช็คธนาคารจากสมาชิกผู้ซื้อแล้ว สำนัก หักบัญชีจะทำการส่งมอบเช็คธนาคารดังกล่าวให้แก่สมาชิกผู้ขาย และส่งมอบเอกสารตามที่ได้รับจากสมาชิกผู้ขายตาม ข้อ 17 (1) หรือ (4) แล้วแต่กรณี ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อ ภายในเวลา 17.00 น. ของวันทำการถัดไป (3) หลังจากที่สมาชิกผู้ขายได้รับชำระเงินค่าสินค้าตาม (1) และสมาชิกผู้ซื้อได้รับเอกสารตาม (2) แล้ว ให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อลงนามในหนังสือยืนยันการส่งมอบสินค้า การแลกเปลี่ยนเอกสารและการชำระเงินตามแบบที่ตลาดกำหนด เพื่อยืนยันการส่งมอบสินค้า การแลกเปลี่ยนเอกสารและการชำระเงินตามข้อบังคับนี้ให้แก่สำนักหักบัญชี (4) เมื่อได้มีการลงนามในหนังสือยืนยันการส่งมอบสินค้า การแลกเปลี่ยนเอกสาร และการชำระเงินตาม (3) แล้ว ให้หน้าที่และความรับผิดชอบของตลาด สำนัก หักบัญชี สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้ เป็นอันสิ้นสุดลง เว้นแต่หน้าที่ของสำนักหักบัญชีในการคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ (5) หากสมาชิกผู้ซื้อไม่ดำเนินการให้มีการชำระเงินค่าสินค้าให้ถูกต้องตาม (1) ให้ถือว่าสมาชิกผู้ซื้อผิดนัดการรับมอบสินค้า และให้นำบทบัญญัติเกี่ยวกับการผิดนัดการส่งมอบ-รับมอบสินค้าตามข้อ 23 มาใช้บังคับ และสมาชิกผู้ซื้อจะต้องรับผิดชอบในบรรดาค่าเสียหาย และค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับผู้ขาย สมาชิกผู้ขาย และคลังสินค้าอันเนื่องมาจากการผิดนัดดังกล่าว (6) สำนักหักบัญชีจะไม่รับผิดชอบต่อการส่งมอบเช็คธนาคารให้แก่สมาชิกผู้ขายเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับเอกสารที่ส่งมอบโดยสมาชิกผู้ขายให้แก่สำนักหักบัญชี หากปรากฏแก่สำนักหักบัญชีว่าเป็นเอกสารอันควรเชื่อโดยสุจริตว่าถูกต้อง
ข้อ 19. การนำสินค้าออกจากคลังสินค้ารับรองโดยผู้ซื้อ(1) เมื่อสมาชิกผู้ขายได้รับชำระราคาค่าสินค้า และสมาชิกผู้ซื้อได้รับมอบต้นฉบับเอกสารต่างๆ ตามข้อ 18 (2) เรียบร้อยแล้ว สมาชิกผู้ซื้อจะต้องดำเนินการให้ผู้ซื้อนำสินค้าออกจากคลังสินค้าภายในวันที่ 20 ของเดือนถัดจากเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบและชำระค่าใช้จ่ายในการนำสินค้าออกจากคลังสินค้าตามที่ระบุไว้ในข้อ 20 เว้นแต่จะได้ตกลงกับคลังสินค้าเป็นอย่างอื่น โดยการดำเนินการดังกล่าวให้ผู้ซื้อตกลงกับคลังสินค้าเป็นการล่วงหน้าตามเวลาที่สมควรเพื่อกำหนดเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องดังต่อไปนี้ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 ของเดือนถัดจากเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ หรือ ข้อ 17 (6) แล้วแต่กรณี (ก) วันและเวลาที่จะเริ่มนำสินค้าออกจากคลังสินค้า (ข) วิธีการรับมอบสินค้า (ค) แผนการนำสินค้าออกจากคลังสินค้า (ง) สิ่งอำนวยความสะดวกที่คลังสินค้าต้องจัดหา (จ) รายการอื่น ๆ ตามที่คลังสินค้ากำหนด (2) คลังสินค้าจะต้องดำเนินการให้ผู้ซื้อนำสินค้าออกจากคลังสินค้าโดยไม่ชักช้า ในกรณีที่ผู้ซื้อไม่นำสินค้าออกจากคลังสินค้าภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ตาม (1) ผู้ซื้อจะต้องชำระค่าใช้จ่ายให้แก่คลังสินค้าตามที่คลังสินค้ากำหนด เว้นแต่กรณีที่การล่าช้าในการนำสินค้าออกจากคลังสินค้าไม่ได้เกิดจากความผิดของผู้ซื้อ
ข้อ 20. ค่าใช้จ่ายที่ผู้ซื้อต้องรับผิดชอบต่อคลังสินค้าผู้ซื้อต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรับมอบสินค้าที่คลังสินค้าเรียกเก็บ ดังต่อไปนี้ ในทุกขั้นตอนที่มีค่าใช้จ่ายนั้น ๆ เกิดขึ้น
(1) ค่าตรวจสอบคุณภาพและน้ำหนักสินค้าในการนำสินค้าออกจากคลังสินค้า
(2) ค่าชั่งน้ำหนักสินค้าในการนำสินค้าออกจากคลังสินค้า
(3) ค่าขนสินค้าออกจากคลังสินค้า
(4) ค่าจัดเก็บและดูแลสินค้าเป็นจำนวนเท่ากับกึ่งหนึ่งของค่าจัดเก็บสินค้าสำหรับช่วงการส่งมอบ
(5) ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามที่ตลาดกำหนด
ข้อ 21. การตรวจสอบสินค้าออกจากคลังสินค้ารับรอง(1) หลังจากที่ผู้ซื้อได้ติดต่อนัดหมายกับคลังสินค้าเกี่ยวกับแผนการนำสินค้าออกจากคลังสินค้าแล้ว ให้ผู้ซื้อเป็นผู้เลือกผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าจากรายชื่อ ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่ตลาดรับรอง โดยให้ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าทำการตรวจสอบน้ำหนักและคุณภาพของสินค้า (2) หากผลการตรวจสอบคุณภาพและน้ำหนักของสินค้าไม่ถูกต้องตามข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้า ข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่บรรจุในกระสอบป่านใหม่ (สำหรับกรณีที่ผู้ขายส่งมอบโดยวิธีบรรจุในกระสอบ) ให้ผู้ซื้อปฏิเสธการรับมอบสินค้าทั้งหมด แต่หากปรากฏว่าคุณภาพและน้ำหนักของสินค้าถูกต้องตามข้อกำหนดแล้ว ให้ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าออกใบรับรองคุณภาพและน้ำหนักของสินค้า (Certificate of Quality and Weight) ทั้งนี้ ให้ผลการตรวจสอบของผู้ตรวจสอบเป็นที่สุด
ข้อ 22. กรรมสิทธิ์และความเสี่ยงภัยของสินค้า(1) ความเสี่ยงภัยต่อการสูญหายหรือเสียหายของสินค้าให้ตกเป็นของผู้ขายหรือผู้ซื้อ ในกรณีดังต่อไปนี้
(ก) ในกรณีของผู้ขายให้ความเสี่ยงภัยสิ้นสุดลงเมื่อผู้ขายได้นำสินค้าเข้าคลังสินค้าและคลังสินค้าได้ออกใบรับของคลังสินค้าให้แก่ผู้ขายแล้ว
(ข) ในกรณีของผู้ซื้อให้ความเสี่ยงภัยตกเป็นของผู้ซื้อทันทีเมื่อผู้ซื้อได้รับมอบสินค้าจากคลังสินค้า ทั้งนี้ การนำสินค้าออกจากคลังสินค้าจะต้องเสร็จสิ้นภายในวันที่ 20 ของเดือนถัดจากเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ (2) กรรมสิทธิ์ในสินค้าที่ส่งมอบจะโอนไปยังผู้ซื้อต่อเมื่อผู้ขายได้รับชำระเงินตามเช็คธนาคารจากผู้ซื้อเรียบร้อยแล้วตามข้อ 18 (2) (3) ให้คลังสินค้ารับผิดชอบต่อสินค้าที่จัดเก็บไว้ในคลังสินค้า จนกว่าผู้ซื้อจะนำสินค้าออกจากคลังสินค้า ทั้งนี้ ไม่เกินวันที่ 20 ของเดือนถัดจากเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ หากมีความเสียหายเกี่ยวกับคุณภาพและน้ำหนักของสินค้าในระหว่างระยะเวลาการจัดเก็บในคลังสินค้า คลังสินค้าต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายโดยจัดหาสินค้าให้กับ ผู้ซื้อให้ครบทั้งจำนวน
ข้อ 23. การผิดนัดการส่งมอบ-รับมอบสินค้า
(1) ในกรณีดังต่อไปนี้ให้ถือเป็นเหตุของการผิดนัดการส่งมอบ-รับมอบสินค้า
(ก) การที่สมาชิกผู้ขายไม่ดำเนินการให้ผู้ขายนำสินค้าเข้าคลังสินค้าภายในวันทำการสุดท้ายของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ หรือ
(ข)การที่สมาชิกผู้ขายไม่ส่งมอบเอกสารตามข้อ 17 (1) หรือ ไม่ดำเนินการให้มีการแก้ไขเอกสารให้ถูกต้องตามเวลาที่สำนักหักบัญชีกำหนดตามที่ระบุในข้อ 17 (6) หรือ
(ค)การที่สมาชิกผู้ซื้อไม่ดำเนินการให้มีการชำระเงินค่าสินค้า ตามที่ระบุในข้อ 18 (1) หรือ
(ง)กรณีอื่น ๆ ตามที่คณะกรรมการตลาดกำหนด
(2) หากเกิดกรณีการผิดนัดการส่งมอบ-รับมอบสินค้า ให้สมาชิกผู้ขาย หรือสมาชิกผู้ซื้อดำเนินการให้มีการระงับข้อพิพาทตามที่กำหนดไว้ในข้อ 27 (3) สมาชิกฝ่ายที่ผิดนัดต้องดำเนินการให้มีการชำระค่าปรับให้แก่ตลาด ในอัตราร้อยละ 10 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนดของข้อตกลง แต่ต้องไม่น้อยกว่า 12,000 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง นอกจากนี้ ตลาดมีอำนาจกำหนดมาตรการอื่น ๆ เพื่อบังคับกับสมาชิกฝ่ายที่ผิดนัดตามที่ตลาดเห็นสมควร
ข้อ 24. การคืนเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ และหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ
(1) เมื่อสิ้นวันซื้อขายสุดท้ายสำหรับข้อตกลงใด ๆ ให้ถือว่าภาระเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบตามข้อตกลงนั้นได้สิ้นสุดลง สำนักหักบัญชีจะดำเนินการ คืนเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบนั้น ตามข้อบังคับคณะกรรมการตลาดสินค้า เกษตรล่วงหน้า ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการวางหรือรักษาเงินประกัน การปรับฐานะบัญชีเงินประกัน การถอนเงินประกัน และการผิดนัดชำระเงินประกัน พ.ศ. 2547 หรือที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม
(2) สำนักหักบัญชีจะคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ หรือหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบที่เหลือโดยไม่มีดอกเบี้ย หลังจากหักค่าปรับ ค่าเสียหาย และค่าใช้จ่ายที่สำนักหักบัญชีมีอำนาจหักได้ตามข้อบังคับนี้ ให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ ในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้
(ก)ในวันทำการถัดจากวันที่มีการล้างฐานะการถือครองของสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ
(ข)ในวันทำการถัดไปหลังจากวันที่สำนักหักบัญชีได้รับการยืนยันการส่งมอบสินค้า การแลกเปลี่ยนเอกสาร และการชำระเงินตามที่ระบุในข้อ 18
(3)โดยไม่มีการยื่นข้อเรียกร้องค่าเสียหายจากสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ
(ค)หากมีการเรียกร้องค่าเสียหายโดยสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ สำนักหักบัญชีจะคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบให้ในวันทำการถัดไปหลังจากสำนักหักบัญชีได้รับคำไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานตามข้อ 27(2) หรือได้รับคำชี้ขาดข้อพิพาทที่เป็นที่สุดแล้วตามข้อ 28 หรือเมื่อได้รับคำพิพากษาถึงที่สุด หรือเมื่อสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อได้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรต่อสำนักหักบัญชีว่าได้มีการทำข้อตกลงยุติข้อพิพาทเป็นที่พอใจทั้งสองฝ่ายแล้วและไม่ประสงค์จะเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ต่อกันอีก
(ง)ในวันทำการถัดจากวันที่ได้รับคำบอกกล่าวการส่งมอบ-รับมอบโดยทางเลือกอื่นจากสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ
(จ)ในวันทำการถัดจากวันที่ได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจากสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อว่าไม่ประสงค์จะเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ต่อกัน
(ฉ)หากมีการผิดนัดการส่งมอบ-รับมอบสินค้าตามข้อ 23 สำนักหักบัญชีจะคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบให้กับฝ่ายที่มิได้ผิดนัด
ข้อ 25. ความรับผิดของตลาดในการส่งมอบ-รับมอบตามข้อบังคับนี้ ตลาด สำนักหักบัญชี กรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า เจ้าหน้าที่ และบุคลากรตลาดมีหน้าที่เพื่อให้มีการดำเนินการให้ครบถ้วนตามข้อบังคับนี้ และไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ตลาดจะไม่รับผิดชอบต่อการกระทำไม่ว่าโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ การฉ้อฉล หรือการผิดนัดใดๆ ของผู้ขาย ผู้ซื้อหรือสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือบุคคลอื่นใดที่มีหน้าที่ที่จะต้องกระทำการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบหรือรับมอบสินค้าภายใต้ข้อบังคับนี้
ข้อ 26. เหตุสุดวิสัยในกรณีที่เกิดอุปสรรคในการส่งมอบ-รับมอบ เนื่องจากเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) สมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ แล้วแต่กรณี จะต้องแจ้งให้ตลาดทราบโดยทันที พร้อมทั้งแจ้งยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันทำการถัดไป หากตลาดมีความเห็นว่า มีเหตุสุดวิสัยอันเป็นอุปสรรคในการส่งมอบ-รับมอบเกิดขึ้นจริง คณะกรรมการตลาดอาจพิจารณากำหนดมาตรการในการแก้ไขอุปสรรคนั้นตามที่เห็นสมควร เช่น ขยายเวลาในการส่งมอบ-รับมอบ หรือให้นำสินค้าอื่นที่มีชนิด และคุณภาพเท่าเทียมกันหรือดีกว่ามา ส่งมอบแทน (Alternative Facilities) หรือให้ชดใช้ความเสียหายตามส่วนต่างของราคา (Cash Settlement) ตามวิธีการที่ตลาดกำหนด ทั้งนี้ หากสมาชิกผู้ขาย สมาชิกผู้ซื้อ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตาม ข้อบังคับนี้ อันเป็นเหตุจากเหตุสุดวิสัย ตลาดอาจพิจารณายกเว้นบทลงโทษ และค่าปรับตามความเหมาะสม หากเหตุสุดวิสัยดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานโดยไม่อาจแก้ไขอุปสรรคนั้นได้ แต่ไม่เกินสาม (3) เดือนนับแต่วันที่กำหนดให้แจ้งความประสงค์ส่งมอบ-รับมอบ คณะกรรมการตลาดอาจพิจารณากำหนดวิธีการชดใช้ความเสียหายตามส่วนต่างของราคา (Cash Settlement) ดังกล่าวข้างต้น
ข้อ 27. การระงับข้อพิพาท(1) ในกรณีที่มีข้อพิพาทใดๆ เกี่ยวกับการส่งมอบ-รับมอบสินค้า รวมถึงการเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของผู้ขาย ผู้ซื้อ หรือสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามข้อบังคับนี้ ให้นำข้อพิพาทดังกล่าวเสนอต่อคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อพิจารณาไกล่เกลี่ยเบื้องต้น (2) หากผู้ขาย ผู้ซื้อ สมาชิกผู้ขาย หรือสมาชิกผู้ซื้อสามารถตกลงตาม คำไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน ให้ความตกลงดังกล่าวเป็นที่สุด (3) ผู้ขาย ผู้ซื้อ สมาชิกผู้ขาย หรือสมาชิกผู้ซื้อที่ไม่สามารถตกลงตาม คำไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานได้ อาจยื่นคำร้องต่อตลาดหรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า เพื่อขอให้มีการชี้ขาดข้อพิพาทตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542
ข้อ 28. การปฏิบัติตามคำชี้ขาดเมื่อมีคำชี้ขาดข้อพิพาทตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542 หรือเมื่อได้รับคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ให้คู่กรณีผู้ที่มีสิทธิได้รับการชดใช้ค่าเสียหาย แจ้งให้สำนักหักบัญชีชำระค่าเสียหายจากหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบของคู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายตามคำชี้ขาด ในกรณีที่มีหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ คงเหลือภายหลังจากหักค่าปรับ ค่าใช้จ่ายของตลาด และชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวแล้ว ให้คืนแก่คู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย หากหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบไม่เพียงพอที่จะชดใช้ค่าเสียหายตามคำชี้ขาด ให้คู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายรับผิดชอบค่าเสียหายให้ครบตามจำนวน
ข้อ 29.ให้ผู้จัดการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทยรักษาการตามข้อบังคับนี้
ประกาศ ณ วันที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2547
(ลงนาม) สุวรรณ วลัยเสถียร
(นายสุวรรณ วลัยเสถียร)
ประธานกรรมการ
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
--ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย--
-พห-