ข้อ 11. การส่งมอบโดยทางเลือกอื่น (Alternative Delivery Procedures)
หลังจากที่สำนักหักบัญชีได้แจ้งผลของการจับคู่ให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อทราบแล้ว หากผู้ขายและผู้ซื้อสามารถทำการตกลงกันว่าจะทำการส่งมอบโดยทางเลือกอื่นตามวิธีใดๆ ที่ได้ตกลงกัน ให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรตามแบบที่ตลาดกำหนดให้สำนักหักบัญชีทราบตั้งแต่วันทำการแรกของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ แต่ไม่เกินเวลา 12.00 น. ของวันทำการสุดท้ายของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ ในกรณีที่ผู้ขายและผู้ซื้อตกลงที่จะทำการส่งมอบโดยทางเลือกอื่นดังกล่าวข้างต้น เงื่อนไขและรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งมอบและรับมอบสินค้า รวมถึงการชำระราคาสินค้า ให้เป็นไปตามที่ผู้ขายและผู้ซื้อจะได้ตกลงกัน เมื่อสำนักหักบัญชีได้รับคำบอกกล่าวการส่งมอบโดยทางเลือกอื่นแล้ว ให้ถือว่าหน้าที่และความรับผิดของสมาชิกผู้ขาย สมาชิกผู้ซื้อ สำนักหักบัญชีและตลาดเกี่ยวกับการส่งมอบรับมอบสินค้าตามข้อบังคับนี้ เป็นอันสิ้นสุดลง เว้นแต่หน้าที่ของสำนักหักบัญชีในการคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ
ข้อ 12. คำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบ (Delivery Instruction)
หลังจากที่ได้รับแจ้งผลของการจับคู่จากสำนักหักบัญชีแล้ว ให้สมาชิกผู้ซื้อทำการแจ้งรายละเอียดของการส่งมอบ เป็นลายลักษณ์อักษรให้สมาชิกผู้ขายที่ได้รับการจับคู่และส่งสำเนาให้สำนักหักบัญชีทราบโดยเร็วที่สุดแต่ไม่ช้ากว่า 12.00 น. ของวันทำการแรกของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ คำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามแบบที่ตลาดกำหนด โดยอย่างน้อยจะต้องประกอบด้วย
(1) วิธีและสถานที่ส่งมอบ
(2) ชื่อเรือ
(3) วันที่จะเริ่มขนสินค้า (วันที่เรือจะมาเทียบท่า) ทั้งนี้ จะต้องไม่น้อยกว่าห้า (5) วันทำการนับถัดจากวันที่สมาชิกผู้ซื้อแจ้งคำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบ เว้นแต่ผู้ขายและผู้ซื้อจะตกลงกันให้มีการเริ่มขนสินค้าก่อนหน้านั้น และแจ้งให้ตลาดทราบโดยไม่ชักช้า
(4) ปริมาณสินค้าที่จะส่งมอบ
(5) ชื่อผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้า (Surveyor) ที่ได้รับการรับรองจากตลาด (ถ้ามี)
(6) รายละเอียดเครื่องหมายการขนส่ง (Shipping Mark)
(7) ท่าเรือปลายทาง
(8) รายการอื่นๆ ตามที่ตลาดกำหนด
ในกรณีเรือที่ระบุไว้ในคำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบไม่สามารถมารับขนสินค้าได้ตามวันเวลาที่กำหนด สมาชิกผู้ซื้อจะต้องจัดหาเรือและแจ้งคำบอกกล่าวรายละเอียดเกี่ยวกับเรือลำใหม่ที่จะมารับขนสินค้าแทนเรือลำเดิมให้สมาชิกผู้ขายทราบเป็นลายลักษณ์อักษร และส่งสำเนาให้แก่สำนักหักบัญชีทราบโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะต้องได้รับความยินยอมจากสมาชิกผู้ขายก่อน โดยวันที่จะเริ่มขนสินค้าของเรือลำใหม่ต้องไม่น้อยกว่าวันทำการที่ห้า (5) ถัดจากวันที่สมาชิกผู้ขายได้รับคำบอกกล่าวรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งมอบของเรือลำใหม่จากสมาชิกผู้ซื้อ เว้นแต่ผู้ขายและผู้ซื้อจะตกลงกันให้มีการเริ่มขนสินค้าก่อนหน้านั้น และแจ้งให้ตลาดทราบโดยไม่ชักช้า
ข้อ 13. การตรวจสอบสินค้า
หลังจากที่สมาชิกผู้ขายได้รับคำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบจากสมาชิกผู้ซื้อแล้ว ให้สมาชิกผู้ขายนัดหมายกับสมาชิกผู้ซื้อและผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเพื่อกำหนดสถานที่ และวันทำการตรวจสอบสินค้า ทั้งนี้ การตรวจสอบสินค้าสามารถกระทำได้ตั้งแต่วันทำการแรกถัดจากวันที่ได้รับคำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบ สมาชิกผู้ขายจะต้องให้ความร่วมมือกับผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเป็นอย่างดีเพื่อให้การตรวจสอบสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว เรียบร้อย และตรงตามกำหนดเวลาในการส่งมอบสินค้า ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าของสมาชิกผู้ซื้อจะต้องทำการตรวจสอบสินค้าโดยเร็ว โดยจะต้องทำการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดข้างต้น และวิธีการตรวจสอบให้เป็นไปตามมาตรฐาน GREEN BOOK ซึ่งรวมถึงการทำการคัดตัวอย่าง (Sampling) และชั่งน้ำหนัก (Weighing) สินค้าด้วย ในกรณีที่ผู้ตรวจสอบตรวจพบว่าน้ำหนักของหีบห่อ (Bale) ใด ขาดหรือมากเกินกว่าที่กำหนดไว้ในมาตรฐาน GREEN BOOK ให้สมาชิกผู้ขายทำการแก้ไขให้ถูกต้อง และเสร็จสิ้นเพื่อให้ทันการบรรทุกสินค้าขึ้นเรือตามข้อ 14 หากสมาชิกผู้ขายไม่ทำการแก้ไขให้ถูกต้อง ให้ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าปฏิเสธการออกใบรับรองคุณภาพและน้ำหนักของสินค้า (Certificate of Quality and Weight) ทั้งหมด หากปรากฏว่าคุณภาพและน้ำหนักของสินค้าถูกต้องตามข้อกำหนดแล้ว ให้ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าออกใบรับรองคุณภาพและน้ำหนักของสินค้า (Certificate of Quality and Weight) ทั้งนี้ผลการตรวจสอบของผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าให้ถือเป็นที่สุด เมื่อผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าทำการตรวจสอบสินค้าเรียบร้อยแล้ว สมาชิกผู้ขายต้องดำเนินการให้ผู้ขายทำรายละเอียดเครื่องหมายการขนส่ง (Shipping Mark) และบรรจุในตู้บรรจุสินค้าเพื่อทำการบรรทุกสินค้าไปขึ้นเรือ รวมทั้งทำการปิดตู้ ทั้งนี้ การบรรจุ และการปิดตู้สินค้า ให้เป็นไปตามวิธีปฏิบัติที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วไป รายละเอียดเครื่องหมายการขนส่งตามวรรคก่อนให้มีขนาดและแบบตัวอักษรตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐาน GREEN BOOK ทั้งนี้ ให้ระบุสีเป็นสีแดง หรือตามที่ผู้ขายและผู้ซื้อจะตกลงกันเป็นอย่างอื่น และได้ระบุความตกลงนั้นไว้ในคำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบ ค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบสินค้ารวมทั้งค่าธรรมเนียมของผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าให้เป็นความรับผิดชอบของสมาชิกผู้ขายทั้งหมด เว้นแต่สมาชิกผู้ขาย และสมาชิกผู้ซื้อจะได้ตกลงกันเป็นอย่างอื่น และได้แจ้งให้สำนักหักบัญชีทราบถึงความตกลงดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษร
ข้อ 14. การบรรทุกสินค้าขึ้นเรือ
หลังจากที่ได้มีการตรวจสอบสินค้าโดยถูกต้องแล้ว หรือไม่มีการตรวจสอบหรือการตรวจสอบไม่เสร็จสิ้นภายในวันทำการสุดท้ายของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ โดยไม่ใช่ความผิดของสมาชิกผู้ขาย สมาชิกผู้ขายสามารถเริ่มทำการบรรทุกสินค้าขึ้นเรือได้ตามเวลาที่สมาชิกผู้ขายพิจารณาว่าเหมาะสม และสอดคล้องกับกำหนดวันที่เรือจะมาเทียบท่า ตามที่ระบุในคำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบที่ได้รับจากสมาชิกผู้ซื้อทั้งนี้ การบรรทุกสินค้าขึ้นเรือจะต้องทำให้เสร็จสิ้นก่อนกำหนดเรือออก แต่ต้องไม่ช้ากว่าวันทำการสุดท้ายของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อจะต้องให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดีเพื่อให้การบรรทุกสินค้าขึ้นเรือเป็นไปอย่างรวดเร็ว เรียบร้อย และตรงตามกำหนดเวลา ค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบรรทุกสินค้าขึ้นเรือ ค่าขนส่งสินค้าจากโรงงานที่ตลาดรับรองไปยังท่าเรือกรุงเทพฯ หรือลานพักตู้บรรจุสินค้า ณ บริเวณท่าเรือกรุงเทพฯ ที่สมาชิกผู้ซื้อกำหนด รวมทั้งค่าธรรมเนียมของผู้บรรทุก หรือขนส่งสินค้าให้เป็นความรับผิดชอบของสมาชิกผู้ขายทั้งหมด เว้นแต่จะได้ตกลงกันเป็นอย่างอื่นระหว่างสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ และได้แจ้งให้สำนักหักบัญชีทราบถึงความตกลงดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษร ในกรณีส่งมอบสินค้าโดยนำตู้บรรจุสินค้าไปยังลานพักตู้บรรจุสินค้าตามคำสั่งของสมาชิกผู้ซื้อ ให้ถือว่าสมาชิกผู้ขายได้ทำการส่งมอบสินค้า ณ จุดส่งมอบโดยถูกต้องแล้วเมื่อตัวแทนขนส่งของสมาชิกผู้ซื้อได้ออกใบตราส่งที่ลงนามแล้ว (Signed Bill of Lading) บรรดาค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ได้ส่งมอบสินค้าเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะโดยบรรทุกสินค้าขึ้นเรือ หรือเมื่อตัวแทนขนส่งของสมาชิกผู้ซื้อได้ออกใบตราส่งที่ลงนามแล้วในกรณีของการส่งมอบตู้บรรจุสินค้าไว้ที่ลานพักตู้บรรจุสินค้าดังกล่าวในวรรคก่อน ให้เป็นความรับผิดชอบของสมาชิกผู้ซื้อทั้งสิ้น เว้นแต่จะได้ตกลงกันเป็นอย่างอื่นระหว่างสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ และได้แจ้งให้สำนักหักบัญชีทราบถึงความตกลงดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรโดยไม่ชักช้า
ข้อ 15. การส่งเอกสาร การชำระราคา และการแลกเปลี่ยนเอกสาร
(1) เมื่อสมาชิกผู้ขายได้ทำการส่งมอบสินค้า ณ จุดส่งมอบโดยถูกต้องตามข้อ 14 แล้ว สมาชิกผู้ขายจะต้องส่งต้นฉบับเอกสารที่ได้ตรวจสอบว่าถูกต้องดังต่อไปนี้ ให้แก่สำนักหักบัญชี พร้อมสำเนาให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในเวลา 12.00 น. ของวันทำการที่สอง (2) หลังจากวันที่ออกใบตราส่งที่ลงนามแล้ว
(ก) ใบตราส่งที่ลงนามแล้ว
(ข) ใบรับรองคุณภาพและน้ำหนักของสินค้า (เว้นแต่กรณีที่ไม่มีการตรวจสอบ)
(ค) ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า
(ง) ใบเรียกเก็บเงิน (Invoice) ระบุจำนวนและราคาสินค้าโดยคำนวณจากราคายุติ ณ วันซื้อขายสุดท้าย
(จ) สำเนาใบเสร็จรับเงินค่าภาษีสงเคราะห์การทำสวนยาง
(ฉ) เอกสารอื่นๆ ตามที่ตลาดกำหนด
(2) เมื่อสมาชิกผู้ซื้อได้รับสำเนาของเอกสารดังกล่าวตาม (1) แล้ว ให้สมาชิกผู้ซื้อตรวจสอบเอกสารนั้นว่าถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าเอกสารไม่ถูกต้อง ให้แจ้งต่อสำนักหักบัญชีทราบถึงรายการที่ต้องแก้ไขทั้งหมด ภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการถัดไป ทั้งนี้ หากสำนักหักบัญชีไม่ได้รับแจ้งให้ถือว่าสมาชิกผู้ซื้อยอมรับว่าเอกสารนั้นถูกต้อง
(3) เมื่อสำนักหักบัญชีได้รับเอกสารตาม (1) จากสมาชิกผู้ขายแล้ว หากสำนักหักบัญชีเห็นว่าเป็นเอกสารอันควรเชื่อว่าถูกต้อง และไม่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อว่าเอกสารดังกล่าวไม่ถูกต้องภายในเวลาที่กำหนดไว้ใน (2) ให้สำนักหักบัญชีออกใบแจ้งหนี้ (Debit Note) ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในวันทำการที่สอง (2) นับจากวันที่สำนักหักบัญชีได้รับเอกสารตาม (1) โดยใบแจ้งหนี้จะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนและราคาของสินค้าตามใบเรียกเก็บเงินที่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ขาย
(4) หากสำนักหักบัญชีเห็นว่าเอกสารที่ได้รับจากสมาชิกผู้ขายไม่ถูกต้องหรือได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อภายในเวลาที่กำหนดใน (2) ว่าเป็นเอกสารที่ไม่ถูกต้อง ให้สำนักหักบัญชีแจ้งไปยังสมาชิกผู้ขายภายในวันทำการที่สอง (2) นับจากวันที่ได้รับเอกสารตาม (1) เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขเอกสารให้ถูกต้องและนำส่งเอกสารที่แก้ไขแล้วให้แก่สำนักหักบัญชีและส่งสำเนาให้กับสมาชิกผู้ซื้อภายในสอง (2) วันทำการถัดไป เมื่อสมาชิกผู้ซื้อได้รับสำเนาของเอกสารที่แก้ไขดังกล่าวตามวรรคก่อน ให้สมาชิกผู้ซื้อตรวจสอบเอกสารนั้นอีกครั้งว่าถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าไม่ถูกต้อง ให้แจ้งต่อสำนักหักบัญชี ภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการถัดไป หากสำนักหักบัญชีเห็นว่าเอกสารที่แก้ไขนั้นถูกต้องและไม่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อเป็นอย่างอื่น ให้สำนักหักบัญชีออกใบแจ้งหนี้ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในวันทำการที่สอง (2) หลังจากนั้น โดยใบแจ้งหนี้จะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนและราคาของสินค้าตามใบเรียกเก็บเงินที่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ขาย
(5) หากสำนักหักบัญชีเห็นว่าเอกสารที่แก้ไขนั้นยังไม่ถูกต้อง หรือได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อว่าเอกสารนั้นไม่ถูกต้องภายในเวลาที่กำหนดไว้ใน (4) ให้สำนักหักบัญชีแจ้งไปยังสมาชิกผู้ขายภายในวันทำการที่สอง (2) นับจากวันที่ได้รับเอกสารที่แก้ไขตาม (4) เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขเอกสารนั้นอีกครั้งเป็นครั้งที่สองและนำส่งเอกสารที่แก้ไขแล้วให้แก่สำนักหักบัญชีและส่งสำเนาให้กับสมาชิกผู้ซื้อภายในห้า (5) วันทำการถัดไป ในกรณีตาม (5) นี้ สมาชิกผู้ขายจะต้องชำระค่าปรับให้กับตลาดในอัตราร้อยละ 0.1 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนดของข้อตกลงต่อวัน นับตั้งแต่วันที่สำนักหักบัญชีได้แจ้งให้แก้ไขเอกสารจนถึงวันที่สำนักหักบัญชีได้รับเอกสารที่แก้ไขแล้ว
(6) เมื่อสมาชิกผู้ซื้อได้รับสำเนาของเอกสารที่แก้ไขครั้งที่สองดังกล่าวใน (5) ให้สมาชิกผู้ซื้อตรวจสอบเอกสารนั้นอีกครั้งว่าถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าไม่ถูกต้อง ให้แจ้งต่อสำนักหักบัญชี ภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการถัดไป หากสำนักหักบัญชีเชื่อว่าเอกสารที่แก้ไขครั้งที่สองนั้นถูกต้อง โดยไม่คำนึงว่าจะได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อเป็นอย่างอื่นหรือไม่ก็ตาม ให้สำนักหักบัญชีออกใบแจ้งหนี้ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในวันทำการนั้น โดยใบแจ้งหนี้จะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนและราคาของสินค้าตามใบเรียกเก็บเงินที่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ขาย แต่หากสำนักหักบัญชีเห็นว่าเอกสารที่แก้ไขครั้งที่สองนั้นไม่ถูกต้อง ให้ถือว่าสมาชิกผู้ขายไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องและไม่สามารถเยียวยาได้ และต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดตามอัตราที่กำหนดในข้อ 17 (6)
(7) สมาชิกผู้ซื้อต้องดำเนินการให้มีการชำระเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ในใบแจ้งหนี้ให้แก่สำนักหักบัญชีภายในเวลา 12.00 น. ของวันทำการที่เจ็ด (7) หลังจากวันที่ได้รับใบแจ้งหนี้จากสำนักหักบัญชี โดยชำระเป็นเช็คธนาคารของธนาคารพาณิชย์สั่งจ่ายผู้ขาย (8) เมื่อสำนักหักบัญชีได้รับเช็คธนาคารของธนาคารพาณิชย์จากสมาชิกผู้ซื้อแล้ว สำนักหักบัญชีจะทำการส่งมอบเช็คธนาคารของธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวให้แก่สมาชิกผู้ขาย และส่งมอบเอกสารตามที่ได้รับจากสมาชิกผู้ขายตาม (1) ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อ ก่อนเวลา 17.00 น. ของวันทำการถัดไป
(9) หลังจากที่สมาชิกผู้ขายได้รับเช็คธนาคารของธนาคารพาณิชย์และสมาชิกผู้ซื้อได้รับเอกสารตาม (8) หากทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีการเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของอีกฝ่ายหนึ่งมายังสำนักหักบัญชีภายในสอง (2) วันทำการหลังจากได้รับเช็คธนาคารของธนาคารพาณิชย์และเอกสารการส่งมอบตาม (1) ให้ถือว่าทั้งสองฝ่ายยอมรับการส่งมอบ-รับมอบ รวมทั้งการชำระราคาและกระบวนการส่งมอบ-รับมอบสินค้าเป็นอันเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว และให้ถือว่าทั้งสองฝ่ายสละสิทธิที่จะเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ทั้งนี้ หน้าที่และความรับผิดชอบของตลาด สำนักหักบัญชี สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้ให้เป็นอันสิ้นสุดลงพร้อมกัน
(10) สำนักหักบัญชีจะไม่รับผิดชอบต่อการที่ได้ส่งมอบเช็คธนาคารของธนาคารพาณิชย์ให้แก่สมาชิกผู้ขายเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับเอกสารที่ส่งมอบโดยสมาชิกผู้ขายให้แก่สำนักหักบัญชี หากปรากฏแก่สำนักหักบัญชีว่าเป็นเอกสารอันควรเชื่อโดยสุจริตว่าถูกต้อง
ข้อ 16. กรรมสิทธิ์และความเสี่ยงภัยของสินค้า
(1) ความเสี่ยงภัยต่อการสูญหายหรือเสียหายของสินค้า ให้ตกเป็นของสมาชิกผู้ซื้อทันทีเมื่อสมาชิกผู้ขายได้ทำการบรรทุกสินค้าขึ้นพ้นกราบเรือ หรือตัวแทนขนส่งของสมาชิกผู้ซื้อออกใบตราส่งที่ลงนามแล้วให้ในกรณีส่งมอบสินค้าที่ลานพักตู้บรรจุสินค้า โดยถือเวลาที่ออกใบตราส่งที่ลงนามแล้วส่งนั้นเป็นสำคัญ
(2) กรรมสิทธิ์ในสินค้าที่ส่งมอบจะโอนไปยังผู้ซื้อต่อเมื่อผู้ขายได้รับชำระเงินตามเช็คธนาคารของธนาคารพาณิชย์จากผู้ซื้อเรียบร้อยแล้วตามข้อ 15 (8)
ข้อ 17. การไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
(1) สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแต่ละฝ่ายจะต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ถูกต้องตามที่กำหนดในข้อบังคับนี้ การที่สมาชิกฝ่ายใดไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตน หรือปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้องหรือล่าช้า หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
(2) เว้นแต่กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นในข้อบังคับนี้ เมื่อสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง สมาชิกอีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่จำต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนตามข้อบังคับนี้ โดยไม่ถือว่ามีการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องเกิดขึ้นกับสมาชิกอีกฝ่ายหนึ่งนั้น สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับสมาชิกอีกฝ่ายหนึ่งนั้น
(3) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 15 (3) ถึงข้อ 15 (6) ในกรณีที่สำนักหักบัญชีได้ทราบถึงการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง สำนักหักบัญชีโดยคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานจะทำการพิจารณาว่าการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องดังกล่าวสามารถที่จะเยียวยาแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร ในกรณีที่คณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานพิจารณาว่าการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องดังกล่าวสามารถเยียวยาแก้ไขได้ ให้สำนักหักบัญชีแจ้งให้สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องทำการเยียวยาแก้ไขให้เสร็จสิ้นภายในสาม (3) วันทำการนับแต่วันที่สำนักหักบัญชีได้ทราบถึงการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องดังกล่าว
กรณีที่สมาชิกผู้ซื้อไม่ส่งมอบเช็คธนาคารของธนาคารพาณิชย์ภายในเวลาที่กำหนดในข้อ 15 (7) ให้ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องซึ่งไม่อนุญาตให้มีการเยียวยาแก้ไขตามวรรคก่อน
หากสมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องทำการเยียวยาแก้ไขได้ตามที่คณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานกำหนด ให้ความผูกพันและหน้าที่ของสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้ยังคงมีอยู่ต่อไป โดยที่สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องชำระค่าปรับและชดใช้ค่าเสียหายตามที่ระบุไว้ใน (4)
(4) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 15 (3) ถึงข้อ 15 (6) ในกรณีที่มีการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมีการเยียวยาแก้ไขหรือไม่ก็ตาม สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดในอัตราดังต่อไปนี้ (ก) ค่าปรับสำหรับวันทำการแรกของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 600 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง (ข) ค่าปรับสำหรับวันทำการที่สองของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 900 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง (ค) ค่าปรับสำหรับวันทำการที่สามของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 1,200 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง นอกเหนือจากการชำระค่าปรับดังกล่าวให้แก่ตลาด สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องรับผิดชอบชำระค่าเสียหายสำหรับความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นแก่สมาชิกอีกฝ่ายหนึ่ง
(5) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 15 (3) ถึงข้อ 15 (6) หากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องดังกล่าวไม่อาจจะเยียวยาแก้ไขได้ หรือสมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องไม่สามารถทำการเยียวยาแก้ไขให้เสร็จสิ้นได้ภายในสาม (3) วันทำการ หรือเป็นกรณีที่ไม่อนุญาตให้มีการเยียวยาแก้ไข ให้ถือว่าความผูกพันและหน้าที่ของสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้ เป็นอันสิ้นสุดลง แต่ไม่ตัดสิทธิสมาชิกฝ่ายที่ได้รับความเสียหายจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของสมาชิกอีกฝ่ายที่จะเรียกร้องค่าเสียหายนั้นเอากับสมาชิกที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องนั้น
(6) นอกเหนือจาก (4) แล้ว สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องและไม่สามารถเยียวยาได้จะต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาด ในอัตราร้อยละ 10 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 12,000 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง
ข้อ 18. การคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ
สำนักหักบัญชีจะคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ หรือหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบที่เหลือโดยไม่มีดอกเบี้ย หลังจากหักค่าปรับ ค่าเสียหาย และค่าใช้จ่ายที่สำนักหักบัญชีมีอำนาจหักได้ตามข้อบังคับนี้ให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ ในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้
(1) ในวันทำการถัดจากวันที่มีการล้างฐานะการถือครองของสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อนั้น
(2) ในวันทำการถัดไปหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาของการยื่นข้อเรียกร้องค่าเสียหายตามข้อ 15 (9) โดยไม่มีการยื่นข้อเรียกร้องค่าเสียหายจากสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ
(3) หากมีการเรียกร้องค่าเสียหายโดยสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ สำนักหักบัญชีจะคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบให้ในวันทำการถัดไป หลังจากสำนักหักบัญชีได้รับ คำชี้ขาดข้อพิพาทที่เป็นที่สุดแล้วตามข้อ 22 หรือเมื่อสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อได้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรต่อสำนักหักบัญชีว่าได้มีการทำข้อตกลงยุติข้อพิพาทเป็นที่พอใจทั้งสองฝ่ายแล้วและไม่ประสงค์จะเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ต่อกันอีก
(4) ในวันทำการถัดจากวันที่ได้รับคำบอกกล่าวการส่งมอบโดยทางเลือกอื่นจากสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ
(5) ในวันทำการถัดจากวันที่ได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจากสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อว่าไม่ประสงค์จะเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ต่อกัน
ข้อ 19. ความรับผิดของตลาด
ในการส่งมอบ-รับมอบตามข้อบังคับนี้ ตลาด สำนักหักบัญชี กรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า เจ้าหน้าที่ และบุคลากรของตลาดมีหน้าที่เป็นเพียงตัวกลางในการแลกเปลี่ยนเอกสาร ระหว่างสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อเท่านั้น และไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ตลาดจะไม่รับผิดชอบต่อการกระทำไม่ว่าโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ การฉ้อฉล หรือการผิดนัดใดๆ ของผู้ขาย ผู้ซื้อหรือสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือบุคคลอื่นใดที่มีหน้าที่ที่จะต้องกระทำการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบหรือรับมอบภายใต้ข้อบังคับนี้
ข้อ 20. เหตุสุดวิสัย
ในกรณีที่เกิดอุปสรรคในการส่งมอบ-รับมอบ เนื่องจากเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) สมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ แล้วแต่กรณี จะต้องแจ้งให้ตลาดทราบโดยทันที พร้อมทั้งแจ้งยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันทำการถัดไป หากตลาดมีความเห็นว่า มีเหตุสุดวิสัยอันเป็นอุปสรรคในการส่งมอบ-รับมอบเกิดขึ้นจริง คณะกรรมการตลาดอาจพิจารณากำหนดมาตรการในการแก้ไขอุปสรรคนั้นตามที่เห็นสมควร เช่น ขยายเวลาในการส่งมอบ-รับมอบ หรือให้นำสินค้าอื่นที่มีชนิด และคุณภาพเท่าเทียมกันหรือดีกว่ามาส่งมอบแทน (Alternative Facilities) หรือให้ชดใช้ความเสียหายตามส่วนต่างของราคา (Cash Settlement) ตามวิธีการที่ตลาดกำหนด ทั้งนี้ หากสมาชิกผู้ขาย สมาชิกผู้ซื้อ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตามข้อบังคับนี้ อันเป็นเหตุจากเหตุสุดวิสัย ตลาดอาจพิจารณายกเว้นบทลงโทษ และค่าปรับตามความเหมาะสม หากเหตุสุดวิสัยดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานโดยไม่อาจแก้ไขอุปสรรคนั้นได้ แต่ไม่เกินสาม (3) เดือนนับแต่วันที่กำหนดให้แจ้งความประสงค์ส่งมอบ-รับมอบ คณะกรรมการตลาดอาจพิจารณากำหนดเฉพาะการชดใช้ความเสียหายตามส่วนต่างของราคา (Cash Settlement) ดังกล่าวข้างต้น
ข้อ 21. การระงับข้อพิพาท
(1) ในกรณีที่มีข้อพิพาทใดๆ เกี่ยวกับการส่งมอบ-รับมอบสินค้า รวมถึงการเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของผู้ขาย ผู้ซื้อหรือสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามข้อบังคับนี้ ให้นำข้อพิพาทดังกล่าวเสนอต่อคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อพิจารณาไกล่เกลี่ยเบื้องต้น
(2) หากผู้ขาย ผู้ซื้อ สมาชิกผู้ขาย และสมาชิกผู้ซื้อสามารถตกลงตามคำไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน ให้ความตกลงดังกล่าวเป็นที่สุด
(3) ผู้ขาย ผู้ซื้อ สมาชิกผู้ขาย และสมาชิกผู้ซื้อที่ไม่สามารถตกลงตามคำไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานได้อาจยื่นคำร้องต่อตลาดหรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า เพื่อขอให้มีการชี้ขาดข้อพิพาทตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542
ข้อ 22. การปฏิบัติตามคำชี้ขาด
เมื่อมีคำชี้ขาดข้อพิพาทตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542 แล้ว ให้คู่กรณีผู้ที่มีสิทธิได้รับการชดใช้ค่าเสียหาย แจ้งให้สำนักหักบัญชีชำระค่าเสียหายจากหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบของคู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายตามคำชี้ขาด ในกรณีที่มีหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบคงเหลือภายหลังจากหักค่าปรับ ค่าใช้จ่ายของตลาด และชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวแล้ว ให้คืนแก่คู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย หากหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบไม่เพียงพอที่จะชดใช้ค่าเสียหายตามคำชี้ขาด ให้คู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายรับผิดชอบค่าเสียหายให้ครบตามจำนวน
ข้อ 23. ให้ผู้จัดการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทยรักษาการตามข้อบังคับนี้
ประกาศ ณ วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2547
(ลงนาม) สุวรรณ วลัยเสถียร
(นายสุวรรณ วลัยเสถียร)
ประธานกรรมการ
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
--ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย--
-พห-
หลังจากที่สำนักหักบัญชีได้แจ้งผลของการจับคู่ให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อทราบแล้ว หากผู้ขายและผู้ซื้อสามารถทำการตกลงกันว่าจะทำการส่งมอบโดยทางเลือกอื่นตามวิธีใดๆ ที่ได้ตกลงกัน ให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรตามแบบที่ตลาดกำหนดให้สำนักหักบัญชีทราบตั้งแต่วันทำการแรกของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ แต่ไม่เกินเวลา 12.00 น. ของวันทำการสุดท้ายของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ ในกรณีที่ผู้ขายและผู้ซื้อตกลงที่จะทำการส่งมอบโดยทางเลือกอื่นดังกล่าวข้างต้น เงื่อนไขและรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งมอบและรับมอบสินค้า รวมถึงการชำระราคาสินค้า ให้เป็นไปตามที่ผู้ขายและผู้ซื้อจะได้ตกลงกัน เมื่อสำนักหักบัญชีได้รับคำบอกกล่าวการส่งมอบโดยทางเลือกอื่นแล้ว ให้ถือว่าหน้าที่และความรับผิดของสมาชิกผู้ขาย สมาชิกผู้ซื้อ สำนักหักบัญชีและตลาดเกี่ยวกับการส่งมอบรับมอบสินค้าตามข้อบังคับนี้ เป็นอันสิ้นสุดลง เว้นแต่หน้าที่ของสำนักหักบัญชีในการคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ
ข้อ 12. คำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบ (Delivery Instruction)
หลังจากที่ได้รับแจ้งผลของการจับคู่จากสำนักหักบัญชีแล้ว ให้สมาชิกผู้ซื้อทำการแจ้งรายละเอียดของการส่งมอบ เป็นลายลักษณ์อักษรให้สมาชิกผู้ขายที่ได้รับการจับคู่และส่งสำเนาให้สำนักหักบัญชีทราบโดยเร็วที่สุดแต่ไม่ช้ากว่า 12.00 น. ของวันทำการแรกของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ คำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามแบบที่ตลาดกำหนด โดยอย่างน้อยจะต้องประกอบด้วย
(1) วิธีและสถานที่ส่งมอบ
(2) ชื่อเรือ
(3) วันที่จะเริ่มขนสินค้า (วันที่เรือจะมาเทียบท่า) ทั้งนี้ จะต้องไม่น้อยกว่าห้า (5) วันทำการนับถัดจากวันที่สมาชิกผู้ซื้อแจ้งคำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบ เว้นแต่ผู้ขายและผู้ซื้อจะตกลงกันให้มีการเริ่มขนสินค้าก่อนหน้านั้น และแจ้งให้ตลาดทราบโดยไม่ชักช้า
(4) ปริมาณสินค้าที่จะส่งมอบ
(5) ชื่อผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้า (Surveyor) ที่ได้รับการรับรองจากตลาด (ถ้ามี)
(6) รายละเอียดเครื่องหมายการขนส่ง (Shipping Mark)
(7) ท่าเรือปลายทาง
(8) รายการอื่นๆ ตามที่ตลาดกำหนด
ในกรณีเรือที่ระบุไว้ในคำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบไม่สามารถมารับขนสินค้าได้ตามวันเวลาที่กำหนด สมาชิกผู้ซื้อจะต้องจัดหาเรือและแจ้งคำบอกกล่าวรายละเอียดเกี่ยวกับเรือลำใหม่ที่จะมารับขนสินค้าแทนเรือลำเดิมให้สมาชิกผู้ขายทราบเป็นลายลักษณ์อักษร และส่งสำเนาให้แก่สำนักหักบัญชีทราบโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าวจะต้องได้รับความยินยอมจากสมาชิกผู้ขายก่อน โดยวันที่จะเริ่มขนสินค้าของเรือลำใหม่ต้องไม่น้อยกว่าวันทำการที่ห้า (5) ถัดจากวันที่สมาชิกผู้ขายได้รับคำบอกกล่าวรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งมอบของเรือลำใหม่จากสมาชิกผู้ซื้อ เว้นแต่ผู้ขายและผู้ซื้อจะตกลงกันให้มีการเริ่มขนสินค้าก่อนหน้านั้น และแจ้งให้ตลาดทราบโดยไม่ชักช้า
ข้อ 13. การตรวจสอบสินค้า
หลังจากที่สมาชิกผู้ขายได้รับคำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบจากสมาชิกผู้ซื้อแล้ว ให้สมาชิกผู้ขายนัดหมายกับสมาชิกผู้ซื้อและผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเพื่อกำหนดสถานที่ และวันทำการตรวจสอบสินค้า ทั้งนี้ การตรวจสอบสินค้าสามารถกระทำได้ตั้งแต่วันทำการแรกถัดจากวันที่ได้รับคำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบ สมาชิกผู้ขายจะต้องให้ความร่วมมือกับผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเป็นอย่างดีเพื่อให้การตรวจสอบสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว เรียบร้อย และตรงตามกำหนดเวลาในการส่งมอบสินค้า ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าของสมาชิกผู้ซื้อจะต้องทำการตรวจสอบสินค้าโดยเร็ว โดยจะต้องทำการตรวจสอบให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนดข้างต้น และวิธีการตรวจสอบให้เป็นไปตามมาตรฐาน GREEN BOOK ซึ่งรวมถึงการทำการคัดตัวอย่าง (Sampling) และชั่งน้ำหนัก (Weighing) สินค้าด้วย ในกรณีที่ผู้ตรวจสอบตรวจพบว่าน้ำหนักของหีบห่อ (Bale) ใด ขาดหรือมากเกินกว่าที่กำหนดไว้ในมาตรฐาน GREEN BOOK ให้สมาชิกผู้ขายทำการแก้ไขให้ถูกต้อง และเสร็จสิ้นเพื่อให้ทันการบรรทุกสินค้าขึ้นเรือตามข้อ 14 หากสมาชิกผู้ขายไม่ทำการแก้ไขให้ถูกต้อง ให้ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าปฏิเสธการออกใบรับรองคุณภาพและน้ำหนักของสินค้า (Certificate of Quality and Weight) ทั้งหมด หากปรากฏว่าคุณภาพและน้ำหนักของสินค้าถูกต้องตามข้อกำหนดแล้ว ให้ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าออกใบรับรองคุณภาพและน้ำหนักของสินค้า (Certificate of Quality and Weight) ทั้งนี้ผลการตรวจสอบของผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าให้ถือเป็นที่สุด เมื่อผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าทำการตรวจสอบสินค้าเรียบร้อยแล้ว สมาชิกผู้ขายต้องดำเนินการให้ผู้ขายทำรายละเอียดเครื่องหมายการขนส่ง (Shipping Mark) และบรรจุในตู้บรรจุสินค้าเพื่อทำการบรรทุกสินค้าไปขึ้นเรือ รวมทั้งทำการปิดตู้ ทั้งนี้ การบรรจุ และการปิดตู้สินค้า ให้เป็นไปตามวิธีปฏิบัติที่เป็นที่ยอมรับกันทั่วไป รายละเอียดเครื่องหมายการขนส่งตามวรรคก่อนให้มีขนาดและแบบตัวอักษรตามที่กำหนดไว้ในมาตรฐาน GREEN BOOK ทั้งนี้ ให้ระบุสีเป็นสีแดง หรือตามที่ผู้ขายและผู้ซื้อจะตกลงกันเป็นอย่างอื่น และได้ระบุความตกลงนั้นไว้ในคำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบ ค่าใช้จ่ายใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบสินค้ารวมทั้งค่าธรรมเนียมของผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าให้เป็นความรับผิดชอบของสมาชิกผู้ขายทั้งหมด เว้นแต่สมาชิกผู้ขาย และสมาชิกผู้ซื้อจะได้ตกลงกันเป็นอย่างอื่น และได้แจ้งให้สำนักหักบัญชีทราบถึงความตกลงดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษร
ข้อ 14. การบรรทุกสินค้าขึ้นเรือ
หลังจากที่ได้มีการตรวจสอบสินค้าโดยถูกต้องแล้ว หรือไม่มีการตรวจสอบหรือการตรวจสอบไม่เสร็จสิ้นภายในวันทำการสุดท้ายของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ โดยไม่ใช่ความผิดของสมาชิกผู้ขาย สมาชิกผู้ขายสามารถเริ่มทำการบรรทุกสินค้าขึ้นเรือได้ตามเวลาที่สมาชิกผู้ขายพิจารณาว่าเหมาะสม และสอดคล้องกับกำหนดวันที่เรือจะมาเทียบท่า ตามที่ระบุในคำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบที่ได้รับจากสมาชิกผู้ซื้อทั้งนี้ การบรรทุกสินค้าขึ้นเรือจะต้องทำให้เสร็จสิ้นก่อนกำหนดเรือออก แต่ต้องไม่ช้ากว่าวันทำการสุดท้ายของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อจะต้องให้ความร่วมมือกันเป็นอย่างดีเพื่อให้การบรรทุกสินค้าขึ้นเรือเป็นไปอย่างรวดเร็ว เรียบร้อย และตรงตามกำหนดเวลา ค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการบรรทุกสินค้าขึ้นเรือ ค่าขนส่งสินค้าจากโรงงานที่ตลาดรับรองไปยังท่าเรือกรุงเทพฯ หรือลานพักตู้บรรจุสินค้า ณ บริเวณท่าเรือกรุงเทพฯ ที่สมาชิกผู้ซื้อกำหนด รวมทั้งค่าธรรมเนียมของผู้บรรทุก หรือขนส่งสินค้าให้เป็นความรับผิดชอบของสมาชิกผู้ขายทั้งหมด เว้นแต่จะได้ตกลงกันเป็นอย่างอื่นระหว่างสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ และได้แจ้งให้สำนักหักบัญชีทราบถึงความตกลงดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษร ในกรณีส่งมอบสินค้าโดยนำตู้บรรจุสินค้าไปยังลานพักตู้บรรจุสินค้าตามคำสั่งของสมาชิกผู้ซื้อ ให้ถือว่าสมาชิกผู้ขายได้ทำการส่งมอบสินค้า ณ จุดส่งมอบโดยถูกต้องแล้วเมื่อตัวแทนขนส่งของสมาชิกผู้ซื้อได้ออกใบตราส่งที่ลงนามแล้ว (Signed Bill of Lading) บรรดาค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกิดขึ้นหลังจากที่ได้ส่งมอบสินค้าเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะโดยบรรทุกสินค้าขึ้นเรือ หรือเมื่อตัวแทนขนส่งของสมาชิกผู้ซื้อได้ออกใบตราส่งที่ลงนามแล้วในกรณีของการส่งมอบตู้บรรจุสินค้าไว้ที่ลานพักตู้บรรจุสินค้าดังกล่าวในวรรคก่อน ให้เป็นความรับผิดชอบของสมาชิกผู้ซื้อทั้งสิ้น เว้นแต่จะได้ตกลงกันเป็นอย่างอื่นระหว่างสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ และได้แจ้งให้สำนักหักบัญชีทราบถึงความตกลงดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษรโดยไม่ชักช้า
ข้อ 15. การส่งเอกสาร การชำระราคา และการแลกเปลี่ยนเอกสาร
(1) เมื่อสมาชิกผู้ขายได้ทำการส่งมอบสินค้า ณ จุดส่งมอบโดยถูกต้องตามข้อ 14 แล้ว สมาชิกผู้ขายจะต้องส่งต้นฉบับเอกสารที่ได้ตรวจสอบว่าถูกต้องดังต่อไปนี้ ให้แก่สำนักหักบัญชี พร้อมสำเนาให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในเวลา 12.00 น. ของวันทำการที่สอง (2) หลังจากวันที่ออกใบตราส่งที่ลงนามแล้ว
(ก) ใบตราส่งที่ลงนามแล้ว
(ข) ใบรับรองคุณภาพและน้ำหนักของสินค้า (เว้นแต่กรณีที่ไม่มีการตรวจสอบ)
(ค) ใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า
(ง) ใบเรียกเก็บเงิน (Invoice) ระบุจำนวนและราคาสินค้าโดยคำนวณจากราคายุติ ณ วันซื้อขายสุดท้าย
(จ) สำเนาใบเสร็จรับเงินค่าภาษีสงเคราะห์การทำสวนยาง
(ฉ) เอกสารอื่นๆ ตามที่ตลาดกำหนด
(2) เมื่อสมาชิกผู้ซื้อได้รับสำเนาของเอกสารดังกล่าวตาม (1) แล้ว ให้สมาชิกผู้ซื้อตรวจสอบเอกสารนั้นว่าถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าเอกสารไม่ถูกต้อง ให้แจ้งต่อสำนักหักบัญชีทราบถึงรายการที่ต้องแก้ไขทั้งหมด ภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการถัดไป ทั้งนี้ หากสำนักหักบัญชีไม่ได้รับแจ้งให้ถือว่าสมาชิกผู้ซื้อยอมรับว่าเอกสารนั้นถูกต้อง
(3) เมื่อสำนักหักบัญชีได้รับเอกสารตาม (1) จากสมาชิกผู้ขายแล้ว หากสำนักหักบัญชีเห็นว่าเป็นเอกสารอันควรเชื่อว่าถูกต้อง และไม่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อว่าเอกสารดังกล่าวไม่ถูกต้องภายในเวลาที่กำหนดไว้ใน (2) ให้สำนักหักบัญชีออกใบแจ้งหนี้ (Debit Note) ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในวันทำการที่สอง (2) นับจากวันที่สำนักหักบัญชีได้รับเอกสารตาม (1) โดยใบแจ้งหนี้จะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนและราคาของสินค้าตามใบเรียกเก็บเงินที่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ขาย
(4) หากสำนักหักบัญชีเห็นว่าเอกสารที่ได้รับจากสมาชิกผู้ขายไม่ถูกต้องหรือได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อภายในเวลาที่กำหนดใน (2) ว่าเป็นเอกสารที่ไม่ถูกต้อง ให้สำนักหักบัญชีแจ้งไปยังสมาชิกผู้ขายภายในวันทำการที่สอง (2) นับจากวันที่ได้รับเอกสารตาม (1) เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขเอกสารให้ถูกต้องและนำส่งเอกสารที่แก้ไขแล้วให้แก่สำนักหักบัญชีและส่งสำเนาให้กับสมาชิกผู้ซื้อภายในสอง (2) วันทำการถัดไป เมื่อสมาชิกผู้ซื้อได้รับสำเนาของเอกสารที่แก้ไขดังกล่าวตามวรรคก่อน ให้สมาชิกผู้ซื้อตรวจสอบเอกสารนั้นอีกครั้งว่าถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าไม่ถูกต้อง ให้แจ้งต่อสำนักหักบัญชี ภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการถัดไป หากสำนักหักบัญชีเห็นว่าเอกสารที่แก้ไขนั้นถูกต้องและไม่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อเป็นอย่างอื่น ให้สำนักหักบัญชีออกใบแจ้งหนี้ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในวันทำการที่สอง (2) หลังจากนั้น โดยใบแจ้งหนี้จะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนและราคาของสินค้าตามใบเรียกเก็บเงินที่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ขาย
(5) หากสำนักหักบัญชีเห็นว่าเอกสารที่แก้ไขนั้นยังไม่ถูกต้อง หรือได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อว่าเอกสารนั้นไม่ถูกต้องภายในเวลาที่กำหนดไว้ใน (4) ให้สำนักหักบัญชีแจ้งไปยังสมาชิกผู้ขายภายในวันทำการที่สอง (2) นับจากวันที่ได้รับเอกสารที่แก้ไขตาม (4) เพื่อให้ดำเนินการแก้ไขเอกสารนั้นอีกครั้งเป็นครั้งที่สองและนำส่งเอกสารที่แก้ไขแล้วให้แก่สำนักหักบัญชีและส่งสำเนาให้กับสมาชิกผู้ซื้อภายในห้า (5) วันทำการถัดไป ในกรณีตาม (5) นี้ สมาชิกผู้ขายจะต้องชำระค่าปรับให้กับตลาดในอัตราร้อยละ 0.1 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนดของข้อตกลงต่อวัน นับตั้งแต่วันที่สำนักหักบัญชีได้แจ้งให้แก้ไขเอกสารจนถึงวันที่สำนักหักบัญชีได้รับเอกสารที่แก้ไขแล้ว
(6) เมื่อสมาชิกผู้ซื้อได้รับสำเนาของเอกสารที่แก้ไขครั้งที่สองดังกล่าวใน (5) ให้สมาชิกผู้ซื้อตรวจสอบเอกสารนั้นอีกครั้งว่าถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าไม่ถูกต้อง ให้แจ้งต่อสำนักหักบัญชี ภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการถัดไป หากสำนักหักบัญชีเชื่อว่าเอกสารที่แก้ไขครั้งที่สองนั้นถูกต้อง โดยไม่คำนึงว่าจะได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อเป็นอย่างอื่นหรือไม่ก็ตาม ให้สำนักหักบัญชีออกใบแจ้งหนี้ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในวันทำการนั้น โดยใบแจ้งหนี้จะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนและราคาของสินค้าตามใบเรียกเก็บเงินที่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ขาย แต่หากสำนักหักบัญชีเห็นว่าเอกสารที่แก้ไขครั้งที่สองนั้นไม่ถูกต้อง ให้ถือว่าสมาชิกผู้ขายไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องและไม่สามารถเยียวยาได้ และต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดตามอัตราที่กำหนดในข้อ 17 (6)
(7) สมาชิกผู้ซื้อต้องดำเนินการให้มีการชำระเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ในใบแจ้งหนี้ให้แก่สำนักหักบัญชีภายในเวลา 12.00 น. ของวันทำการที่เจ็ด (7) หลังจากวันที่ได้รับใบแจ้งหนี้จากสำนักหักบัญชี โดยชำระเป็นเช็คธนาคารของธนาคารพาณิชย์สั่งจ่ายผู้ขาย (8) เมื่อสำนักหักบัญชีได้รับเช็คธนาคารของธนาคารพาณิชย์จากสมาชิกผู้ซื้อแล้ว สำนักหักบัญชีจะทำการส่งมอบเช็คธนาคารของธนาคารพาณิชย์ดังกล่าวให้แก่สมาชิกผู้ขาย และส่งมอบเอกสารตามที่ได้รับจากสมาชิกผู้ขายตาม (1) ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อ ก่อนเวลา 17.00 น. ของวันทำการถัดไป
(9) หลังจากที่สมาชิกผู้ขายได้รับเช็คธนาคารของธนาคารพาณิชย์และสมาชิกผู้ซื้อได้รับเอกสารตาม (8) หากทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีการเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของอีกฝ่ายหนึ่งมายังสำนักหักบัญชีภายในสอง (2) วันทำการหลังจากได้รับเช็คธนาคารของธนาคารพาณิชย์และเอกสารการส่งมอบตาม (1) ให้ถือว่าทั้งสองฝ่ายยอมรับการส่งมอบ-รับมอบ รวมทั้งการชำระราคาและกระบวนการส่งมอบ-รับมอบสินค้าเป็นอันเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว และให้ถือว่าทั้งสองฝ่ายสละสิทธิที่จะเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ทั้งนี้ หน้าที่และความรับผิดชอบของตลาด สำนักหักบัญชี สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้ให้เป็นอันสิ้นสุดลงพร้อมกัน
(10) สำนักหักบัญชีจะไม่รับผิดชอบต่อการที่ได้ส่งมอบเช็คธนาคารของธนาคารพาณิชย์ให้แก่สมาชิกผู้ขายเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับเอกสารที่ส่งมอบโดยสมาชิกผู้ขายให้แก่สำนักหักบัญชี หากปรากฏแก่สำนักหักบัญชีว่าเป็นเอกสารอันควรเชื่อโดยสุจริตว่าถูกต้อง
ข้อ 16. กรรมสิทธิ์และความเสี่ยงภัยของสินค้า
(1) ความเสี่ยงภัยต่อการสูญหายหรือเสียหายของสินค้า ให้ตกเป็นของสมาชิกผู้ซื้อทันทีเมื่อสมาชิกผู้ขายได้ทำการบรรทุกสินค้าขึ้นพ้นกราบเรือ หรือตัวแทนขนส่งของสมาชิกผู้ซื้อออกใบตราส่งที่ลงนามแล้วให้ในกรณีส่งมอบสินค้าที่ลานพักตู้บรรจุสินค้า โดยถือเวลาที่ออกใบตราส่งที่ลงนามแล้วส่งนั้นเป็นสำคัญ
(2) กรรมสิทธิ์ในสินค้าที่ส่งมอบจะโอนไปยังผู้ซื้อต่อเมื่อผู้ขายได้รับชำระเงินตามเช็คธนาคารของธนาคารพาณิชย์จากผู้ซื้อเรียบร้อยแล้วตามข้อ 15 (8)
ข้อ 17. การไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
(1) สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแต่ละฝ่ายจะต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนให้ถูกต้องตามที่กำหนดในข้อบังคับนี้ การที่สมาชิกฝ่ายใดไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตน หรือปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้องหรือล่าช้า หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
(2) เว้นแต่กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นในข้อบังคับนี้ เมื่อสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง สมาชิกอีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่จำต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนตามข้อบังคับนี้ โดยไม่ถือว่ามีการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องเกิดขึ้นกับสมาชิกอีกฝ่ายหนึ่งนั้น สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับสมาชิกอีกฝ่ายหนึ่งนั้น
(3) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 15 (3) ถึงข้อ 15 (6) ในกรณีที่สำนักหักบัญชีได้ทราบถึงการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง สำนักหักบัญชีโดยคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานจะทำการพิจารณาว่าการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องดังกล่าวสามารถที่จะเยียวยาแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร ในกรณีที่คณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานพิจารณาว่าการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องดังกล่าวสามารถเยียวยาแก้ไขได้ ให้สำนักหักบัญชีแจ้งให้สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องทำการเยียวยาแก้ไขให้เสร็จสิ้นภายในสาม (3) วันทำการนับแต่วันที่สำนักหักบัญชีได้ทราบถึงการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องดังกล่าว
กรณีที่สมาชิกผู้ซื้อไม่ส่งมอบเช็คธนาคารของธนาคารพาณิชย์ภายในเวลาที่กำหนดในข้อ 15 (7) ให้ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องซึ่งไม่อนุญาตให้มีการเยียวยาแก้ไขตามวรรคก่อน
หากสมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องทำการเยียวยาแก้ไขได้ตามที่คณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานกำหนด ให้ความผูกพันและหน้าที่ของสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้ยังคงมีอยู่ต่อไป โดยที่สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องชำระค่าปรับและชดใช้ค่าเสียหายตามที่ระบุไว้ใน (4)
(4) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 15 (3) ถึงข้อ 15 (6) ในกรณีที่มีการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมีการเยียวยาแก้ไขหรือไม่ก็ตาม สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดในอัตราดังต่อไปนี้ (ก) ค่าปรับสำหรับวันทำการแรกของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 600 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง (ข) ค่าปรับสำหรับวันทำการที่สองของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 900 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง (ค) ค่าปรับสำหรับวันทำการที่สามของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 1,200 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง นอกเหนือจากการชำระค่าปรับดังกล่าวให้แก่ตลาด สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องรับผิดชอบชำระค่าเสียหายสำหรับความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นแก่สมาชิกอีกฝ่ายหนึ่ง
(5) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 15 (3) ถึงข้อ 15 (6) หากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องดังกล่าวไม่อาจจะเยียวยาแก้ไขได้ หรือสมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องไม่สามารถทำการเยียวยาแก้ไขให้เสร็จสิ้นได้ภายในสาม (3) วันทำการ หรือเป็นกรณีที่ไม่อนุญาตให้มีการเยียวยาแก้ไข ให้ถือว่าความผูกพันและหน้าที่ของสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้ เป็นอันสิ้นสุดลง แต่ไม่ตัดสิทธิสมาชิกฝ่ายที่ได้รับความเสียหายจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของสมาชิกอีกฝ่ายที่จะเรียกร้องค่าเสียหายนั้นเอากับสมาชิกที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องนั้น
(6) นอกเหนือจาก (4) แล้ว สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องและไม่สามารถเยียวยาได้จะต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาด ในอัตราร้อยละ 10 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 12,000 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง
ข้อ 18. การคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ
สำนักหักบัญชีจะคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ หรือหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบที่เหลือโดยไม่มีดอกเบี้ย หลังจากหักค่าปรับ ค่าเสียหาย และค่าใช้จ่ายที่สำนักหักบัญชีมีอำนาจหักได้ตามข้อบังคับนี้ให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ ในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้
(1) ในวันทำการถัดจากวันที่มีการล้างฐานะการถือครองของสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อนั้น
(2) ในวันทำการถัดไปหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาของการยื่นข้อเรียกร้องค่าเสียหายตามข้อ 15 (9) โดยไม่มีการยื่นข้อเรียกร้องค่าเสียหายจากสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ
(3) หากมีการเรียกร้องค่าเสียหายโดยสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ สำนักหักบัญชีจะคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบให้ในวันทำการถัดไป หลังจากสำนักหักบัญชีได้รับ คำชี้ขาดข้อพิพาทที่เป็นที่สุดแล้วตามข้อ 22 หรือเมื่อสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อได้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรต่อสำนักหักบัญชีว่าได้มีการทำข้อตกลงยุติข้อพิพาทเป็นที่พอใจทั้งสองฝ่ายแล้วและไม่ประสงค์จะเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ต่อกันอีก
(4) ในวันทำการถัดจากวันที่ได้รับคำบอกกล่าวการส่งมอบโดยทางเลือกอื่นจากสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ
(5) ในวันทำการถัดจากวันที่ได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจากสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อว่าไม่ประสงค์จะเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ต่อกัน
ข้อ 19. ความรับผิดของตลาด
ในการส่งมอบ-รับมอบตามข้อบังคับนี้ ตลาด สำนักหักบัญชี กรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า เจ้าหน้าที่ และบุคลากรของตลาดมีหน้าที่เป็นเพียงตัวกลางในการแลกเปลี่ยนเอกสาร ระหว่างสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อเท่านั้น และไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม ตลาดจะไม่รับผิดชอบต่อการกระทำไม่ว่าโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ การฉ้อฉล หรือการผิดนัดใดๆ ของผู้ขาย ผู้ซื้อหรือสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือบุคคลอื่นใดที่มีหน้าที่ที่จะต้องกระทำการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบหรือรับมอบภายใต้ข้อบังคับนี้
ข้อ 20. เหตุสุดวิสัย
ในกรณีที่เกิดอุปสรรคในการส่งมอบ-รับมอบ เนื่องจากเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) สมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ แล้วแต่กรณี จะต้องแจ้งให้ตลาดทราบโดยทันที พร้อมทั้งแจ้งยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันทำการถัดไป หากตลาดมีความเห็นว่า มีเหตุสุดวิสัยอันเป็นอุปสรรคในการส่งมอบ-รับมอบเกิดขึ้นจริง คณะกรรมการตลาดอาจพิจารณากำหนดมาตรการในการแก้ไขอุปสรรคนั้นตามที่เห็นสมควร เช่น ขยายเวลาในการส่งมอบ-รับมอบ หรือให้นำสินค้าอื่นที่มีชนิด และคุณภาพเท่าเทียมกันหรือดีกว่ามาส่งมอบแทน (Alternative Facilities) หรือให้ชดใช้ความเสียหายตามส่วนต่างของราคา (Cash Settlement) ตามวิธีการที่ตลาดกำหนด ทั้งนี้ หากสมาชิกผู้ขาย สมาชิกผู้ซื้อ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตามข้อบังคับนี้ อันเป็นเหตุจากเหตุสุดวิสัย ตลาดอาจพิจารณายกเว้นบทลงโทษ และค่าปรับตามความเหมาะสม หากเหตุสุดวิสัยดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานโดยไม่อาจแก้ไขอุปสรรคนั้นได้ แต่ไม่เกินสาม (3) เดือนนับแต่วันที่กำหนดให้แจ้งความประสงค์ส่งมอบ-รับมอบ คณะกรรมการตลาดอาจพิจารณากำหนดเฉพาะการชดใช้ความเสียหายตามส่วนต่างของราคา (Cash Settlement) ดังกล่าวข้างต้น
ข้อ 21. การระงับข้อพิพาท
(1) ในกรณีที่มีข้อพิพาทใดๆ เกี่ยวกับการส่งมอบ-รับมอบสินค้า รวมถึงการเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของผู้ขาย ผู้ซื้อหรือสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามข้อบังคับนี้ ให้นำข้อพิพาทดังกล่าวเสนอต่อคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อพิจารณาไกล่เกลี่ยเบื้องต้น
(2) หากผู้ขาย ผู้ซื้อ สมาชิกผู้ขาย และสมาชิกผู้ซื้อสามารถตกลงตามคำไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน ให้ความตกลงดังกล่าวเป็นที่สุด
(3) ผู้ขาย ผู้ซื้อ สมาชิกผู้ขาย และสมาชิกผู้ซื้อที่ไม่สามารถตกลงตามคำไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานได้อาจยื่นคำร้องต่อตลาดหรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า เพื่อขอให้มีการชี้ขาดข้อพิพาทตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542
ข้อ 22. การปฏิบัติตามคำชี้ขาด
เมื่อมีคำชี้ขาดข้อพิพาทตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542 แล้ว ให้คู่กรณีผู้ที่มีสิทธิได้รับการชดใช้ค่าเสียหาย แจ้งให้สำนักหักบัญชีชำระค่าเสียหายจากหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบของคู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายตามคำชี้ขาด ในกรณีที่มีหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบคงเหลือภายหลังจากหักค่าปรับ ค่าใช้จ่ายของตลาด และชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวแล้ว ให้คืนแก่คู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย หากหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบไม่เพียงพอที่จะชดใช้ค่าเสียหายตามคำชี้ขาด ให้คู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายรับผิดชอบค่าเสียหายให้ครบตามจำนวน
ข้อ 23. ให้ผู้จัดการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทยรักษาการตามข้อบังคับนี้
ประกาศ ณ วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2547
(ลงนาม) สุวรรณ วลัยเสถียร
(นายสุวรรณ วลัยเสถียร)
ประธานกรรมการ
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
--ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย--
-พห-