ประกาศคณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า
ที่ กกข 1/2548
เรื่อง กำหนดปริมาณการประกอบธุรกิจของสมาชิก
******************************
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 6 และข้อ 7 (3) (ฉ) ของข้อบังคับคณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ว่าด้วยการลงโทษและการพ้นจากสมาชิกภาพ พ.ศ. 2547 ลงวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 อันเป็นข้อบังคับที่มีข้อกำหนดบางประการ
เกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 35 มาตรา 36 มาตรา 48 และมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตร
ล่วงหน้าจึงออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ในประกาศฉบับนี้
"ตลาด" หมายความว่า ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
"คณะกรรมการตลาด" หมายความว่า คณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า
"สมาชิก" หมายความว่า สมาชิกตลาดประเภทนายหน้าซื้อขายล่วงหน้า
"ปริมาณการประกอบธุรกิจ" หมายความว่า ปริมาณการซื้อขายล่วงหน้าที่จับคู่ได้ของสมาชิก
"เดือน" หมายความว่า เดือนตามปฏิทิน
ข้อ 2. ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ที่ กกข 5/2547 เรื่อง กำหนดปริมาณการประกอบธุรกิจของสมาชิก ลงวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2547
ข้อ 3. กำหนดให้สมาชิกต้องมีปริมาณการประกอบธุรกิจโดยเฉลี่ยต่อวันในแต่ละเดือนมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท
คณะกรรมการตลาดอาจเปลี่ยนแปลงเกณฑ์การกำหนดปริมาณการประกอบธุรกิจของสมาชิกได้ โดยประกาศให้สมาชิกทราบล่วงหน้า
การคำนวณเพื่อกำหนดปริมาณการประกอบธุรกิจโดยเฉลี่ยตามประกาศฉบับนี้ ให้คำนวณเฉพาะวันที่ตลาดเปิดทำการซื้อขายเท่านั้น
ข้อ 4. สมาชิกรายใดมีปริมาณการประกอบธุรกิจไม่เป็นไปตามที่กำหนดตามข้อ 3 ตลาดจะลงโทษและดำเนินการกับสมาชิกรายนั้นตามลำดับดังต่อไปนี้
(1) ตักเตือน
(2) ภาคทัณฑ์
(3) ปรับ
(4) ห้ามสมาชิกทำการซื้อหรือขายล่วงหน้าหรือเปิดฐานะการถือครองขึ้นใหม่ เว้นแต่เป็นการซื้อหรือขายเพื่อล้างฐานะการถือครอง พร้อมกับนำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการตลาดเพื่อพิจารณาสั่งให้พ้นจากสมาชิกภาพ
ข้อ 5. หากปรากฏว่าปริมาณการประกอบธุรกิจของสมาชิกในเดือนใดไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดตามข้อ 3 ตลาดจะทำการตักเตือนสมาชิกรายนั้นเป็นหนังสือ
ข้อ 6. หากเดือนใดเดือนหนึ่งภายในระยะเวลาหกเดือนนับแต่เดือนที่ถูกตักเตือนตามข้อ 5 ปรากฏว่าสมาชิกมีปริมาณการประกอบธุรกิจไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดอีก ตลาดจะทำการภาคทัณฑ์สมาชิกรายนั้นเป็นระยะเวลาหกเดือน แต่หากไม่ปรากฏว่าสมาชิกมีปริมาณการประกอบธุรกิจตลอดระยะเวลาหกเดือนนับแต่เดือนที่ถูกตักเตือนดังกล่าวไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดอีก ให้ถือเสมือนว่าสมาชิกรายนั้นไม่เคยถูกตักเตือนมาก่อน
ข้อ 7. หากเดือนใดเดือนหนึ่งภายในระยะเวลาหกเดือนนับแต่เดือนที่ถูกภาคทัณฑ์ตามข้อ 6 ปรากฏว่าสมาชิกมีปริมาณการประกอบธุรกิจไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดอีก ตลาดจะดำเนินการปรับสมาชิกรายนั้นเป็นเงิน 50,000 บาท แต่หากไม่ปรากฏว่า
สมาชิกมีปริมาณการประกอบธุรกิจตลอดระยะเวลาที่ถูกภาคทัณฑ์ดังกล่าวไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดอีก ให้สมาชิกรายนั้นพ้นจากการภาคทัณฑ์และให้ถือเสมือนว่าสมาชิกรายนั้นไม่เคยถูกภาคทัณฑ์และถูกตักเตือนมาก่อน
ข้อ 8. หากเดือนใดเดือนหนึ่งภายในระยะเวลาหกเดือนนับแต่เดือนที่ถูกปรับตามข้อ 7 ปรากฏว่าสมาชิกมีปริมาณการประกอบธุรกิจไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดอีก ตลาดจะดำเนินการนำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการตลาดเพื่อพิจารณาสั่งให้สมาชิกรายนั้นพ้นจากสมาชิกภาพ แต่หากไม่ปรากฏว่าสมาชิกมีปริมาณการประกอบธุรกิจตลอดระยะเวลาหกเดือนนับแต่เดือนที่ถูกปรับดังกล่าวไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดอีก ให้ถือเสมือนว่าสมาชิกรายนั้นไม่เคยถูกภาคทัณฑ์และถูกตักเตือนมาก่อน
ในระหว่างที่ตลาดนำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการตลาดเพื่อพิจารณาสั่งให้สมาชิกนั้นพ้นจากสมาชิกภาพตามวรรคแรก ให้ตลาดมีอำนาจพิจารณาสั่งห้ามสมาชิกทำการซื้อหรือขายล่วงหน้าหรือเปิดฐานะการถือครองขึ้นใหม่ได้ เว้นแต่เป็นการซื้อหรือขาย
เพื่อล้างฐานะการถือครอง
ข้อ 10. สมาชิกที่จะถูกสั่งให้พ้นจากสมาชิกภาพต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เกี่ยวกับการพ้นจากสมาชิกภาพตามที่คณะกรรมการตลาดกำหนด
ข้อ 11. สมาชิกรายใดที่มีปริมาณการประกอบธุรกิจไม่เป็นไปตามที่กำหนดและถูกลงโทษหรือถูกสั่งให้ต้องดำเนินการใด ๆ ตามที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ที่ กกข 5/2547 เรื่อง กำหนดปริมาณการประกอบธุรกิจของสมาชิก ลงวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2547 ให้สมาชิกรายนั้นพ้นจากการถูกลงโทษหรือไม่ต้องดำเนินการใด ๆ ตามประกาศดังกล่าวต่อไป และให้ถือเสมือนว่าสมาชิกรายนั้นไม่เคยได้รับการลงโทษหรือถูกสั่งให้ต้องดำเนินการใด ๆ มาก่อน
ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2548
(ลงนาม) สุวรรณ วลัยเสถียร
(นายสุวรรณ วลัยเสถียร)
ประธานกรรมการ
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
--ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย--
-พห-
ที่ กกข 1/2548
เรื่อง กำหนดปริมาณการประกอบธุรกิจของสมาชิก
******************************
อาศัยอำนาจตามความในข้อ 6 และข้อ 7 (3) (ฉ) ของข้อบังคับคณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ว่าด้วยการลงโทษและการพ้นจากสมาชิกภาพ พ.ศ. 2547 ลงวันที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 อันเป็นข้อบังคับที่มีข้อกำหนดบางประการ
เกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 35 มาตรา 36 มาตรา 48 และมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตร
ล่วงหน้าจึงออกประกาศไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ในประกาศฉบับนี้
"ตลาด" หมายความว่า ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
"คณะกรรมการตลาด" หมายความว่า คณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า
"สมาชิก" หมายความว่า สมาชิกตลาดประเภทนายหน้าซื้อขายล่วงหน้า
"ปริมาณการประกอบธุรกิจ" หมายความว่า ปริมาณการซื้อขายล่วงหน้าที่จับคู่ได้ของสมาชิก
"เดือน" หมายความว่า เดือนตามปฏิทิน
ข้อ 2. ให้ยกเลิกประกาศคณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ที่ กกข 5/2547 เรื่อง กำหนดปริมาณการประกอบธุรกิจของสมาชิก ลงวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2547
ข้อ 3. กำหนดให้สมาชิกต้องมีปริมาณการประกอบธุรกิจโดยเฉลี่ยต่อวันในแต่ละเดือนมีมูลค่าไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท
คณะกรรมการตลาดอาจเปลี่ยนแปลงเกณฑ์การกำหนดปริมาณการประกอบธุรกิจของสมาชิกได้ โดยประกาศให้สมาชิกทราบล่วงหน้า
การคำนวณเพื่อกำหนดปริมาณการประกอบธุรกิจโดยเฉลี่ยตามประกาศฉบับนี้ ให้คำนวณเฉพาะวันที่ตลาดเปิดทำการซื้อขายเท่านั้น
ข้อ 4. สมาชิกรายใดมีปริมาณการประกอบธุรกิจไม่เป็นไปตามที่กำหนดตามข้อ 3 ตลาดจะลงโทษและดำเนินการกับสมาชิกรายนั้นตามลำดับดังต่อไปนี้
(1) ตักเตือน
(2) ภาคทัณฑ์
(3) ปรับ
(4) ห้ามสมาชิกทำการซื้อหรือขายล่วงหน้าหรือเปิดฐานะการถือครองขึ้นใหม่ เว้นแต่เป็นการซื้อหรือขายเพื่อล้างฐานะการถือครอง พร้อมกับนำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการตลาดเพื่อพิจารณาสั่งให้พ้นจากสมาชิกภาพ
ข้อ 5. หากปรากฏว่าปริมาณการประกอบธุรกิจของสมาชิกในเดือนใดไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดตามข้อ 3 ตลาดจะทำการตักเตือนสมาชิกรายนั้นเป็นหนังสือ
ข้อ 6. หากเดือนใดเดือนหนึ่งภายในระยะเวลาหกเดือนนับแต่เดือนที่ถูกตักเตือนตามข้อ 5 ปรากฏว่าสมาชิกมีปริมาณการประกอบธุรกิจไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดอีก ตลาดจะทำการภาคทัณฑ์สมาชิกรายนั้นเป็นระยะเวลาหกเดือน แต่หากไม่ปรากฏว่าสมาชิกมีปริมาณการประกอบธุรกิจตลอดระยะเวลาหกเดือนนับแต่เดือนที่ถูกตักเตือนดังกล่าวไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดอีก ให้ถือเสมือนว่าสมาชิกรายนั้นไม่เคยถูกตักเตือนมาก่อน
ข้อ 7. หากเดือนใดเดือนหนึ่งภายในระยะเวลาหกเดือนนับแต่เดือนที่ถูกภาคทัณฑ์ตามข้อ 6 ปรากฏว่าสมาชิกมีปริมาณการประกอบธุรกิจไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดอีก ตลาดจะดำเนินการปรับสมาชิกรายนั้นเป็นเงิน 50,000 บาท แต่หากไม่ปรากฏว่า
สมาชิกมีปริมาณการประกอบธุรกิจตลอดระยะเวลาที่ถูกภาคทัณฑ์ดังกล่าวไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดอีก ให้สมาชิกรายนั้นพ้นจากการภาคทัณฑ์และให้ถือเสมือนว่าสมาชิกรายนั้นไม่เคยถูกภาคทัณฑ์และถูกตักเตือนมาก่อน
ข้อ 8. หากเดือนใดเดือนหนึ่งภายในระยะเวลาหกเดือนนับแต่เดือนที่ถูกปรับตามข้อ 7 ปรากฏว่าสมาชิกมีปริมาณการประกอบธุรกิจไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดอีก ตลาดจะดำเนินการนำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการตลาดเพื่อพิจารณาสั่งให้สมาชิกรายนั้นพ้นจากสมาชิกภาพ แต่หากไม่ปรากฏว่าสมาชิกมีปริมาณการประกอบธุรกิจตลอดระยะเวลาหกเดือนนับแต่เดือนที่ถูกปรับดังกล่าวไม่ถึงเกณฑ์ที่กำหนดอีก ให้ถือเสมือนว่าสมาชิกรายนั้นไม่เคยถูกภาคทัณฑ์และถูกตักเตือนมาก่อน
ในระหว่างที่ตลาดนำเรื่องเสนอต่อคณะกรรมการตลาดเพื่อพิจารณาสั่งให้สมาชิกนั้นพ้นจากสมาชิกภาพตามวรรคแรก ให้ตลาดมีอำนาจพิจารณาสั่งห้ามสมาชิกทำการซื้อหรือขายล่วงหน้าหรือเปิดฐานะการถือครองขึ้นใหม่ได้ เว้นแต่เป็นการซื้อหรือขาย
เพื่อล้างฐานะการถือครอง
ข้อ 10. สมาชิกที่จะถูกสั่งให้พ้นจากสมาชิกภาพต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข เกี่ยวกับการพ้นจากสมาชิกภาพตามที่คณะกรรมการตลาดกำหนด
ข้อ 11. สมาชิกรายใดที่มีปริมาณการประกอบธุรกิจไม่เป็นไปตามที่กำหนดและถูกลงโทษหรือถูกสั่งให้ต้องดำเนินการใด ๆ ตามที่กำหนดไว้ในประกาศคณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ที่ กกข 5/2547 เรื่อง กำหนดปริมาณการประกอบธุรกิจของสมาชิก ลงวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2547 ให้สมาชิกรายนั้นพ้นจากการถูกลงโทษหรือไม่ต้องดำเนินการใด ๆ ตามประกาศดังกล่าวต่อไป และให้ถือเสมือนว่าสมาชิกรายนั้นไม่เคยได้รับการลงโทษหรือถูกสั่งให้ต้องดำเนินการใด ๆ มาก่อน
ประกาศฉบับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2548
(ลงนาม) สุวรรณ วลัยเสถียร
(นายสุวรรณ วลัยเสถียร)
ประธานกรรมการ
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
--ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย--
-พห-