ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (ต.ส.ล.) จะขยายเวลาซื้อขายเพิ่มขึ้นในช่วงบ่ายระหว่างเวลา 13.30 น. — 15.00 น. ของทุกวันทำการที่ตลาดกำหนด เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2547 นี้ คาดว่าจะส่งผลให้มีผู้สนใจเข้ามาซื้อขายในตลาดมากขึ้น ทำให้ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการสินค้าเกษตร สามารถใช้ตลาดในการบริหารความเสี่ยง และสามารถใช้ราคาสินค้าเกษตรล่วงหน้า เพื่อวางแผนการเพาะปลูก การค้า และการผลิตได้
นางนภาภรณ์ คุรุพสุธาชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (ต.ส.ล.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย ได้มีมติให้ขยายเวลาการซื้อขายจากเดิม วันละ 1 ช่วงเวลา เป็นการซื้อขายวันละ 2 ช่วงเวลา คือช่วงที่ 1 ระหว่างเวลา 10.30 น. ถึง 12.00 น. และช่วงที่ 2 ระหว่างเวลา 13.30 น. ถึง 15.00 น. ของทุกวันทำการที่ตลาดกำหนด โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2547 เป็นต้นไป ส่วนสาเหตุของการขยายเวลาการซื้อขายนั้น เพื่อใช้เป็นช่องทางหนึ่งในการสนับสนุนให้เกิดการซื้อขายในตลาดเพิ่มขึ้น และทำให้สามารถรองรับนักลงทุนไทยที่ต้องการเข้ามาซื้อขายในช่วงบ่าย และรองรับนักลงทุนในโซนยุโรป และในภูมิภาคที่ต้องการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง และยังสอดคล้องกับ ตลาดล่วงหน้าอื่นๆทั่วโลกที่มีช่วงเวลาการซื้อขายทั้งภาคเช้าและบ่ายอีกด้วย
ในส่วนของการกำหนดช่วงเวลาการซื้อขายเป็นภาคบ่ายของแต่ละวันนั้น เนื่องจาก ผู้ประกอบการสินค้าเกษตรโดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าข้าว ซึ่งใช้ตลาดในการบริหารความเสี่ยงนั้น มีความต้องการเข้ามาซื้อขายในช่วงบ่าย และเวลาซื้อขายที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นเวลาที่ไม่ซ้อนทับกับช่วงเวลาการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งจุดนี้เองอาจเป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนไทย สนใจเข้ามาทำธุรกรรมในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าได้ ประกอบกับเป็นเวลาที่นักลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะนักลงทุนในตลาดญี่ปุ่น สามารถเข้ามาซื้อขายในตลาดไทยได้อย่างต่อเนื่องภายหลังตลาดญี่ปุ่นปิด และยังสามารถดึงดูดนักลงทุนจากโซนยุโรปให้เข้ามาซื้อขายในตลาดเราได้อีกด้วย
นางนภาภรณ์กล่าวย้ำอีกว่า การขยายเวลาดังกล่าว จะส่งผลให้การซื้อขายในตลาดล่วงหน้ามีความคึกคักมากขึ้น เพราะจะทำให้มีนักลงทุนหรือผู้ประกันความเสี่ยงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่อยู่ในแวดวงสินค้าเกษตร สนใจเข้ามาทำการซื้อขาย ทั้งนี้ตลาดฯ จะได้เตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เพื่อรองรับการขยายเวลาการซื้อขายที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2547 โดยจะดูวิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการรับมอบ — ส่งมอบ ยางแผ่นรมควันชั้น 3 และข้าวขาว 5% ให้สอดคล้องกับเวลาใหม่เป็นการเพิ่มเติม และในส่วนของระบบการซื้อขาย การวางเงินประกัน และการหักบัญชีนั้น คิดว่าสามารถรองรับการขยายเวลาดังกล่าวได้อย่างไม่มีปัญหา คิดว่าการปรับเวลาใหม่จะช่วยให้มีปริมาณการซื้อขายในตลาดสูงขึ้นเป็นลำดับอย่างแน่นอน”
--ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย--
-พห-
นางนภาภรณ์ คุรุพสุธาชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (ต.ส.ล.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย ได้มีมติให้ขยายเวลาการซื้อขายจากเดิม วันละ 1 ช่วงเวลา เป็นการซื้อขายวันละ 2 ช่วงเวลา คือช่วงที่ 1 ระหว่างเวลา 10.30 น. ถึง 12.00 น. และช่วงที่ 2 ระหว่างเวลา 13.30 น. ถึง 15.00 น. ของทุกวันทำการที่ตลาดกำหนด โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 8 พฤศจิกายน 2547 เป็นต้นไป ส่วนสาเหตุของการขยายเวลาการซื้อขายนั้น เพื่อใช้เป็นช่องทางหนึ่งในการสนับสนุนให้เกิดการซื้อขายในตลาดเพิ่มขึ้น และทำให้สามารถรองรับนักลงทุนไทยที่ต้องการเข้ามาซื้อขายในช่วงบ่าย และรองรับนักลงทุนในโซนยุโรป และในภูมิภาคที่ต้องการซื้อขายอย่างต่อเนื่อง และยังสอดคล้องกับ ตลาดล่วงหน้าอื่นๆทั่วโลกที่มีช่วงเวลาการซื้อขายทั้งภาคเช้าและบ่ายอีกด้วย
ในส่วนของการกำหนดช่วงเวลาการซื้อขายเป็นภาคบ่ายของแต่ละวันนั้น เนื่องจาก ผู้ประกอบการสินค้าเกษตรโดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าข้าว ซึ่งใช้ตลาดในการบริหารความเสี่ยงนั้น มีความต้องการเข้ามาซื้อขายในช่วงบ่าย และเวลาซื้อขายที่เพิ่มขึ้นนี้เป็นเวลาที่ไม่ซ้อนทับกับช่วงเวลาการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งจุดนี้เองอาจเป็นแรงจูงใจให้นักลงทุนไทย สนใจเข้ามาทำธุรกรรมในตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าได้ ประกอบกับเป็นเวลาที่นักลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะนักลงทุนในตลาดญี่ปุ่น สามารถเข้ามาซื้อขายในตลาดไทยได้อย่างต่อเนื่องภายหลังตลาดญี่ปุ่นปิด และยังสามารถดึงดูดนักลงทุนจากโซนยุโรปให้เข้ามาซื้อขายในตลาดเราได้อีกด้วย
นางนภาภรณ์กล่าวย้ำอีกว่า การขยายเวลาดังกล่าว จะส่งผลให้การซื้อขายในตลาดล่วงหน้ามีความคึกคักมากขึ้น เพราะจะทำให้มีนักลงทุนหรือผู้ประกันความเสี่ยงโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่อยู่ในแวดวงสินค้าเกษตร สนใจเข้ามาทำการซื้อขาย ทั้งนี้ตลาดฯ จะได้เตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เพื่อรองรับการขยายเวลาการซื้อขายที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2547 โดยจะดูวิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการรับมอบ — ส่งมอบ ยางแผ่นรมควันชั้น 3 และข้าวขาว 5% ให้สอดคล้องกับเวลาใหม่เป็นการเพิ่มเติม และในส่วนของระบบการซื้อขาย การวางเงินประกัน และการหักบัญชีนั้น คิดว่าสามารถรองรับการขยายเวลาดังกล่าวได้อย่างไม่มีปัญหา คิดว่าการปรับเวลาใหม่จะช่วยให้มีปริมาณการซื้อขายในตลาดสูงขึ้นเป็นลำดับอย่างแน่นอน”
--ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย--
-พห-