(6) เมื่อสมาชิกผู้ซื้อได้รับสำเนาของเอกสารที่แก้ไขครั้งที่สองดังกล่าวใน (5) ให้สมาชิกผู้ซื้อตรวจสอบเอกสารนั้นอีกครั้งว่าถูกต้องหรือไม่ หากพบว่าไม่ถูกต้อง ให้ แจ้งต่อสำนักหักบัญชีภายในเวลา 16.00 น. ของวันทำการถัดไป หากสำนักหักบัญชี เชื่อว่าเอกสารที่แก้ไขครั้งที่สองนั้นถูกต้อง โดยไม่คำนึงว่าจะได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อ เป็นอย่างอื่นหรือไม่ก็ตาม ให้สำนักหักบัญชีออกใบแจ้งหนี้ให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายในวันทำการ นั้น โดยใบแจ้งหนี้จะระบุรายละเอียดเกี่ยวกับจำนวนและราคาของสินค้าตามใบเรียกเก็บเงิน ที่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ขาย แต่หากสำนักหักบัญชีเห็นว่าเอกสารที่แก้ไขครั้งที่สองนั้นไม่ ถูกต้อง ให้ถือว่าสมาชิกผู้ขายไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องและไม่สามารถเยียวยาได้ และต้อง ชำระค่าปรับให้แก่ตลาดตามอัตราที่กำหนดในข้อ 17 (6)
(7) สมาชิกผู้ซื้อจะต้องดำเนินการให้มีการชำระเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ใน ใบแจ้งหนี้ให้แก่สำนักหักบัญชีภายในเวลา 12.00 น. ของวันทำการที่เจ็ด (7) หลังจากวันที่ ได้รับใบแจ้งหนี้จากสำนักหักบัญชี โดยชำระเป็นเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารสั่งจ่าย ผู้ขาย
(8) เมื่อสำนักหักบัญชีได้รับเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารจากสมาชิก ผู้ซื้อแล้ว สำนักหักบัญชีจะทำการส่งมอบเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารดังกล่าว ให้แก่สมาชิกผู้ขาย และส่งมอบเอกสารตามที่ได้รับจากสมาชิกผู้ขายตาม (1) ให้แก่สมาชิก ผู้ซื้อก่อนเวลา 17.00 น. ของวันทำการถัดไป
(9) หลังจากที่สมาชิกผู้ขายได้รับเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารและ สมาชิกผู้ซื้อได้รับเอกสารตาม (8) หากทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีการเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิด จากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของอีกฝ่ายหนึ่งมายังสำนักหักบัญชีภายในสอง (2) วันทำการหลังจากได้รับเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารและเอกสารการส่งมอบตาม (1) ให้ถือว่าทั้งสองฝ่ายยอมรับการส่งมอบ-รับมอบ รวมทั้งการชำระราคาและกระบวนการ ส่งมอบ-รับมอบสินค้าเป็นอันเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว และให้ถือว่าทั้งสองฝ่ายสละสิทธิที่จะ เรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ทั้งนี้ หน้าที่และความรับผิดชอบของตลาด สำนักหักบัญชี สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้ให้เป็นอันสิ้นสุดลงพร้อมกัน
(10) สำนักหักบัญชีจะไม่รับผิดชอบต่อการที่ได้ส่งมอบเช็คธนาคารหรือ ตั๋วแลกเงินธนาคารให้แก่สมาชิกผู้ขายเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับเอกสารที่ส่งมอบ โดยสมาชิกผู้ขายให้แก่สำนักหักบัญชี หากปรากฏแก่สำนักหักบัญชีว่าเป็นเอกสารอันควร เชื่อโดยสุจริตว่าถูกต้อง
ข้อ 16 กรรมสิทธิ์และความเสี่ยงภัยของสินค้า
(1) ความเสี่ยงภัยต่อการสูญหายหรือเสียหายของสินค้าให้ตกเป็นของ สมาชิกผู้ซื้อทันทีเมื่อสมาชิกผู้ขายได้ทำการบรรทุกสินค้าขึ้นพ้นกราบเรือ หรือตัวแทน ขนส่งของสมาชิกผู้ซื้อได้ออกใบตราส่งที่ลงนามแล้วในกรณีส่งมอบสินค้าที่ลานพักตู้บรรจุ สินค้า โดยถือเวลาที่ออกใบตราส่งที่ลงนามแล้วเป็นสำคัญ
(2) กรรมสิทธิ์ในสินค้าที่ส่งมอบจะโอนไปยังผู้ซื้อต่อเมื่อผู้ขายได้รับชำระเงิน ตามเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารจากผู้ซื้อเรียบร้อยแล้วตามข้อ 15 (8)
ข้อ 17. การไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
(1) สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแต่ละฝ่ายจะต้องปฏิบัติหน้าที่ของตน ให้ถูกต้องตามที่กำหนดในข้อบังคับนี้ การที่สมาชิกฝ่ายใดไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตน หรือ ปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้องหรือล่าช้า หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติ หน้าที่ให้ถูกต้อง
(2) เว้นแต่กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นในข้อบังคับนี้ เมื่อสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง สมาชิกอีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่จำต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนตามข้อบังคับนี้ โดยไม่ถือว่ามีการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องเกิดขึ้นกับสมาชิกอีกฝ่ายหนึ่งนั้น สมาชิกฝ่ายที่ ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับสมาชิกอีกฝ่าย หนึ่งนั้น
(3) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 15 (3) ถึงข้อ 15 (6) ในกรณีที่ สำนักหักบัญชีได้ทราบถึงการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง สำนัก หักบัญชีโดยคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานจะทำการพิจารณาว่าการไม่ปฏิบัติหน้าที่ ให้ถูกต้องดังกล่าวสามารถที่จะเยียวยาแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร ในกรณีที่คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานพิจารณาว่าการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องดังกล่าวสามารถเยียวยาแก้ไขได้ ให้สำนักหักบัญชีแจ้งให้สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องทำการเยียวยาแก้ไขให้เสร็จ สิ้นภายในสาม (3) วันทำการนับแต่วันที่สำนักหักบัญชีได้ทราบถึงการไม่ปฏิบัติหน้าที่ ให้ถูกต้องดังกล่าว
กรณีที่สมาชิกผู้ซื้อไม่ส่งมอบเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารภายใน เวลาที่กำหนดในข้อ 15 (7) ให้ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง ซึ่งไม่อนุญาตให้ มีการเยียวยาแก้ไขตามวรรคก่อน
หากสมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องทำการเยียวยาแก้ไขได้ตามที่ คณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานกำหนด ให้ความผูกพันและหน้าที่ของสมาชิกผู้ขายและ สมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้ยังคงมีอยู่ต่อไป โดยที่สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง จะต้องชำระค่าปรับและชดใช้ค่าเสียหายตามที่ระบุไว้ใน (4)
(4) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 15 (3) ถึงข้อ 15 (6) ในกรณีที่ มีการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมีการเยียวยาแก้ไขหรือไม่ก็ตาม สมาชิกฝ่าย ที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดในอัตราดังต่อไปนี้
(ก) ค่าปรับสำหรับวันทำการแรกของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 600 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง
(ข) ค่าปรับสำหรับวันทำการที่สองของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 900 บาท ต่อหนึ่งข้อตกลง
(ค) ค่าปรับสำหรับวันทำการที่สามของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 1,200 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง
นอกเหนือจากการชำระค่าปรับดังกล่าวให้แก่ตลาด สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติ หน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องรับผิดชอบชำระค่าเสียหายสำหรับความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นแก่ สมาชิกอีกฝ่ายหนึ่ง (5) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 15 (3) ถึงข้อ 15 (6) หากการ ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องดังกล่าวไม่อาจจะเยียวยาแก้ไขได้ หรือสมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติ หน้าที่ให้ถูกต้องไม่สามารถทำการเยียวยาแก้ไขให้เสร็จสิ้นได้ภายในสาม (3) วันทำการ หรือเป็นกรณีที่ไม่อนุญาตให้มีการเยียวยาแก้ไข ให้ถือว่าความผูกพันและหน้าที่ของสมาชิก ผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้เป็นอันสิ้นสุดลง แต่ไม่ตัดสิทธิสมาชิกฝ่ายที่ได้รับ ความเสียหายจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของสมาชิกอีกฝ่ายที่จะเรียกร้องค่าเสียหายนั้น เอากับสมาชิกที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องนั้น
(6) นอกเหนือจาก (4) แล้ว สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง และไม่สามารถเยียวยาได้จะต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดในอัตราร้อยละ 10 ของมูลค่า อ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 12,000 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง
ข้อ 18. การคืนเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบและ หลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ
(1) เมื่อสิ้นวันทำการซื้อขายสุดท้ายสำหรับข้อตกลงใด ๆ ให้ถือว่า เงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบตามข้อตกลงนั้นได้สิ้นสุดลง สำนักหักบัญชี จะดำเนินการคืนเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบนั้นตามข้อบังคับคณะกรรมการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการวางหรือรักษา เงินประกัน การปรับฐานะบัญชีเงินประกัน การถอนเงินประกัน และการผิดนัดชำระ เงินประกัน พ.ศ. 2547 หรือที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม
(2) สำนักหักบัญชีจะคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ หรือหลักประกัน การส่งมอบ-รับมอบที่เหลือโดยไม่มีดอกเบี้ย หลังจากหักค่าปรับ ค่าเสียหาย และค่าใช้จ่าย ที่สำนักหักบัญชีมีอำนาจหักได้ตามข้อบังคับนี้ให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ ในกรณีใด กรณีหนึ่งดังต่อไปนี้
(ก) ในวันทำการถัดจากวันที่มีการล้างฐานะการถือครองของสมาชิกผู้ขาย หรือสมาชิกผู้ซื้อนั้น
(ข) ในวันทำการถัดไปหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาของการยื่นข้อเรียกร้อง ค่าเสียหายตามข้อ 15 (9) โดยไม่มีการยื่นข้อเรียกร้องค่าเสียหายจากสมาชิกผู้ขายและสมาชิก ผู้ซื้อ
(ค) หากมีการเรียกร้องค่าเสียหายโดยสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ สำนักหักบัญชีจะคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบให้ในวันทำการถัดไป หลังจากสำนัก หักบัญชีได้รับคำชี้ขาดข้อพิพาทที่เป็นที่สุดแล้วตามข้อ 22 หรือเมื่อสมาชิกผู้ขายและ สมาชิกผู้ซื้อได้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรต่อสำนักหักบัญชีว่าได้มีการทำข้อตกลงยุติข้อ พิพาทเป็นที่พอใจทั้งสองฝ่ายแล้วและไม่ประสงค์จะเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ต่อกันอีก
(ง) ในวันทำการถัดจากวันที่ได้รับคำบอกกล่าวการส่งมอบโดยทางเลือกอื่น จากสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ
(จ) ในวันทำการถัดจากวันที่ได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจากสมาชิกผู้ขาย และสมาชิกผู้ซื้อว่าไม่ประสงค์จะเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ต่อกัน
ข้อ 19. ความรับผิดของตลาด
ในการส่งมอบ-รับมอบตามข้อบังคับนี้ ตลาด สำนักหักบัญชี กรรมการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า เจ้าหน้าที่ และบุคลากรของตลาดมีหน้าที่เป็นเพียงตัวกลาง ในการแลกเปลี่ยนเอกสาร ระหว่างสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อเท่านั้น และไม่ว่าในกรณี ใดก็ตาม ตลาดจะไม่รับผิดชอบต่อการกระทำไม่ว่าโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ การฉ้อฉล หรือการผิดนัดใดๆ ของผู้ขาย ผู้ซื้อหรือสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือบุคคลอื่นใดที่มีหน้าที่ที่ จะต้องกระทำการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบ-รับมอบภายใต้ข้อบังคับนี้ ข้อ 20. เหตุสุดวิสัย
ในกรณีที่เกิดอุปสรรคในการส่งมอบ-รับมอบ เนื่องจากเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) สมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ แล้วแต่กรณี จะต้องแจ้งให้ตลาดทราบโดยทันที พร้อมทั้งแจ้งยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันทำการถัดไป หากตลาดมีความเห็นว่า มีเหตุสุดวิสัยอันเป็นอุปสรรคในการส่งมอบ-รับมอบเกิดขึ้นจริง คณะกรรมการตลาดอาจ พิจารณากำหนดมาตรการในการแก้ไขอุปสรรคนั้นตามที่เห็นสมควร เช่น ขยายเวลาในการ ส่งมอบ-รับมอบ หรือให้นำสินค้าอื่นที่มีชนิด และคุณภาพเท่าเทียมกันหรือดีกว่ามาส่งมอบ แทน (Alternative Facilities) หรือให้ชดใช้ความเสียหายตามส่วนต่างของราคา (Cash Settlement) ตามวิธีการที่ตลาดกำหนด
ทั้งนี้ หากสมาชิกผู้ขาย สมาชิกผู้ซื้อ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตาม ข้อบังคับนี้ อันเป็นเหตุจากเหตุสุดวิสัย ตลาดอาจพิจารณายกเว้นบทลงโทษ และค่าปรับ ตามความเหมาะสม
หากเหตุสุดวิสัยดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานโดยไม่อาจแก้ไขอุปสรรค นั้นได้ แต่ไม่เกินสาม (3) เดือนนับแต่วันที่กำหนดให้แจ้งความประสงค์ส่งมอบ-รับมอบ คณะกรรมการตลาดอาจพิจารณากำหนดเฉพาะการชดใช้ความเสียหายตามส่วนต่างของราคา (Cash Settlement) ดังกล่าวข้างต้น ข้อ 21. การระงับข้อพิพาท
(1) ในกรณีที่มีข้อพิพาทใดๆ เกี่ยวกับการส่งมอบ-รับมอบสินค้า รวมถึงการ เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของผู้ขาย ผู้ซื้อหรือ สมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามข้อบังคับนี้ ให้นำข้อพิพาทดังกล่าวเสนอต่อคณะอนุกรรมการหรือ คณะทำงานเพื่อพิจารณาไกล่เกลี่ยเบื้องต้น
(2) หากผู้ขาย ผู้ซื้อ สมาชิกผู้ขาย และสมาชิกผู้ซื้อสามารถตกลงตามคำ ไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน ให้ความตกลงดังกล่าวเป็นที่สุด
(3) ผู้ขาย ผู้ซื้อ สมาชิกผู้ขาย และสมาชิกผู้ซื้อที่ไม่สามารถตกลงตามคำ ไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานได้ อาจยื่นคำร้องต่อตลาดหรือสำนักงาน คณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า เพื่อขอให้มีการชี้ขาดข้อพิพาท ตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542
ข้อ 22. การปฏิบัติตามคำชี้ขาด
เมื่อมีคำชี้ขาดข้อพิพาทตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542 แล้ว ให้คู่กรณีผู้ที่มีสิทธิได้รับการชดใช้ค่าเสียหายแจ้งให้สำนักหักบัญชีชำระ ค่าเสียหายจากหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบของคู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ตามคำชี้ขาด ในกรณีที่มีหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบคงเหลือภายหลังจากหักค่าปรับ ค่าใช้จ่ายของตลาด และชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวแล้ว ให้คืนแก่คู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ ค่าเสียหาย หากหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบไม่เพียงพอที่จะชดใช้ค่าเสียหายตามคำชี้ขาด ให้คู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายรับผิดชอบค่าเสียหายให้ครบตามจำนวน
ข้อ 23. ให้ผู้จัดการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทยรักษาการ ตามข้อบังคับนี้
ประกาศ ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2547
(ลงนาม) สุวรรณ วลัยเสถียร
(นายสุวรรณ วลัยเสถียร)
ประธานกรรมการ
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
--ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย--
-พห-
(7) สมาชิกผู้ซื้อจะต้องดำเนินการให้มีการชำระเงินตามจำนวนที่ระบุไว้ใน ใบแจ้งหนี้ให้แก่สำนักหักบัญชีภายในเวลา 12.00 น. ของวันทำการที่เจ็ด (7) หลังจากวันที่ ได้รับใบแจ้งหนี้จากสำนักหักบัญชี โดยชำระเป็นเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารสั่งจ่าย ผู้ขาย
(8) เมื่อสำนักหักบัญชีได้รับเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารจากสมาชิก ผู้ซื้อแล้ว สำนักหักบัญชีจะทำการส่งมอบเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารดังกล่าว ให้แก่สมาชิกผู้ขาย และส่งมอบเอกสารตามที่ได้รับจากสมาชิกผู้ขายตาม (1) ให้แก่สมาชิก ผู้ซื้อก่อนเวลา 17.00 น. ของวันทำการถัดไป
(9) หลังจากที่สมาชิกผู้ขายได้รับเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารและ สมาชิกผู้ซื้อได้รับเอกสารตาม (8) หากทั้งสองฝ่ายไม่ได้มีการเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิด จากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของอีกฝ่ายหนึ่งมายังสำนักหักบัญชีภายในสอง (2) วันทำการหลังจากได้รับเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารและเอกสารการส่งมอบตาม (1) ให้ถือว่าทั้งสองฝ่ายยอมรับการส่งมอบ-รับมอบ รวมทั้งการชำระราคาและกระบวนการ ส่งมอบ-รับมอบสินค้าเป็นอันเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว และให้ถือว่าทั้งสองฝ่ายสละสิทธิที่จะ เรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ ทั้งนี้ หน้าที่และความรับผิดชอบของตลาด สำนักหักบัญชี สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้ให้เป็นอันสิ้นสุดลงพร้อมกัน
(10) สำนักหักบัญชีจะไม่รับผิดชอบต่อการที่ได้ส่งมอบเช็คธนาคารหรือ ตั๋วแลกเงินธนาคารให้แก่สมาชิกผู้ขายเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับเอกสารที่ส่งมอบ โดยสมาชิกผู้ขายให้แก่สำนักหักบัญชี หากปรากฏแก่สำนักหักบัญชีว่าเป็นเอกสารอันควร เชื่อโดยสุจริตว่าถูกต้อง
ข้อ 16 กรรมสิทธิ์และความเสี่ยงภัยของสินค้า
(1) ความเสี่ยงภัยต่อการสูญหายหรือเสียหายของสินค้าให้ตกเป็นของ สมาชิกผู้ซื้อทันทีเมื่อสมาชิกผู้ขายได้ทำการบรรทุกสินค้าขึ้นพ้นกราบเรือ หรือตัวแทน ขนส่งของสมาชิกผู้ซื้อได้ออกใบตราส่งที่ลงนามแล้วในกรณีส่งมอบสินค้าที่ลานพักตู้บรรจุ สินค้า โดยถือเวลาที่ออกใบตราส่งที่ลงนามแล้วเป็นสำคัญ
(2) กรรมสิทธิ์ในสินค้าที่ส่งมอบจะโอนไปยังผู้ซื้อต่อเมื่อผู้ขายได้รับชำระเงิน ตามเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารจากผู้ซื้อเรียบร้อยแล้วตามข้อ 15 (8)
ข้อ 17. การไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
(1) สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแต่ละฝ่ายจะต้องปฏิบัติหน้าที่ของตน ให้ถูกต้องตามที่กำหนดในข้อบังคับนี้ การที่สมาชิกฝ่ายใดไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตน หรือ ปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้องหรือล่าช้า หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติ หน้าที่ให้ถูกต้อง
(2) เว้นแต่กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นในข้อบังคับนี้ เมื่อสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง สมาชิกอีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่จำต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนตามข้อบังคับนี้ โดยไม่ถือว่ามีการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องเกิดขึ้นกับสมาชิกอีกฝ่ายหนึ่งนั้น สมาชิกฝ่ายที่ ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นกับสมาชิกอีกฝ่าย หนึ่งนั้น
(3) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 15 (3) ถึงข้อ 15 (6) ในกรณีที่ สำนักหักบัญชีได้ทราบถึงการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง สำนัก หักบัญชีโดยคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานจะทำการพิจารณาว่าการไม่ปฏิบัติหน้าที่ ให้ถูกต้องดังกล่าวสามารถที่จะเยียวยาแก้ไขได้หรือไม่อย่างไร ในกรณีที่คณะอนุกรรมการ หรือคณะทำงานพิจารณาว่าการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องดังกล่าวสามารถเยียวยาแก้ไขได้ ให้สำนักหักบัญชีแจ้งให้สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องทำการเยียวยาแก้ไขให้เสร็จ สิ้นภายในสาม (3) วันทำการนับแต่วันที่สำนักหักบัญชีได้ทราบถึงการไม่ปฏิบัติหน้าที่ ให้ถูกต้องดังกล่าว
กรณีที่สมาชิกผู้ซื้อไม่ส่งมอบเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารภายใน เวลาที่กำหนดในข้อ 15 (7) ให้ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง ซึ่งไม่อนุญาตให้ มีการเยียวยาแก้ไขตามวรรคก่อน
หากสมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องทำการเยียวยาแก้ไขได้ตามที่ คณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานกำหนด ให้ความผูกพันและหน้าที่ของสมาชิกผู้ขายและ สมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้ยังคงมีอยู่ต่อไป โดยที่สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง จะต้องชำระค่าปรับและชดใช้ค่าเสียหายตามที่ระบุไว้ใน (4)
(4) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 15 (3) ถึงข้อ 15 (6) ในกรณีที่ มีการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมีการเยียวยาแก้ไขหรือไม่ก็ตาม สมาชิกฝ่าย ที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดในอัตราดังต่อไปนี้
(ก) ค่าปรับสำหรับวันทำการแรกของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 600 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง
(ข) ค่าปรับสำหรับวันทำการที่สองของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 900 บาท ต่อหนึ่งข้อตกลง
(ค) ค่าปรับสำหรับวันทำการที่สามของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 1,200 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง
นอกเหนือจากการชำระค่าปรับดังกล่าวให้แก่ตลาด สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติ หน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องรับผิดชอบชำระค่าเสียหายสำหรับความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นแก่ สมาชิกอีกฝ่ายหนึ่ง (5) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 15 (3) ถึงข้อ 15 (6) หากการ ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องดังกล่าวไม่อาจจะเยียวยาแก้ไขได้ หรือสมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติ หน้าที่ให้ถูกต้องไม่สามารถทำการเยียวยาแก้ไขให้เสร็จสิ้นได้ภายในสาม (3) วันทำการ หรือเป็นกรณีที่ไม่อนุญาตให้มีการเยียวยาแก้ไข ให้ถือว่าความผูกพันและหน้าที่ของสมาชิก ผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้เป็นอันสิ้นสุดลง แต่ไม่ตัดสิทธิสมาชิกฝ่ายที่ได้รับ ความเสียหายจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของสมาชิกอีกฝ่ายที่จะเรียกร้องค่าเสียหายนั้น เอากับสมาชิกที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องนั้น
(6) นอกเหนือจาก (4) แล้ว สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง และไม่สามารถเยียวยาได้จะต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดในอัตราร้อยละ 10 ของมูลค่า อ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 12,000 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง
ข้อ 18. การคืนเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบและ หลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ
(1) เมื่อสิ้นวันทำการซื้อขายสุดท้ายสำหรับข้อตกลงใด ๆ ให้ถือว่า เงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบตามข้อตกลงนั้นได้สิ้นสุดลง สำนักหักบัญชี จะดำเนินการคืนเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบนั้นตามข้อบังคับคณะกรรมการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการวางหรือรักษา เงินประกัน การปรับฐานะบัญชีเงินประกัน การถอนเงินประกัน และการผิดนัดชำระ เงินประกัน พ.ศ. 2547 หรือที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม
(2) สำนักหักบัญชีจะคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ หรือหลักประกัน การส่งมอบ-รับมอบที่เหลือโดยไม่มีดอกเบี้ย หลังจากหักค่าปรับ ค่าเสียหาย และค่าใช้จ่าย ที่สำนักหักบัญชีมีอำนาจหักได้ตามข้อบังคับนี้ให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ ในกรณีใด กรณีหนึ่งดังต่อไปนี้
(ก) ในวันทำการถัดจากวันที่มีการล้างฐานะการถือครองของสมาชิกผู้ขาย หรือสมาชิกผู้ซื้อนั้น
(ข) ในวันทำการถัดไปหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาของการยื่นข้อเรียกร้อง ค่าเสียหายตามข้อ 15 (9) โดยไม่มีการยื่นข้อเรียกร้องค่าเสียหายจากสมาชิกผู้ขายและสมาชิก ผู้ซื้อ
(ค) หากมีการเรียกร้องค่าเสียหายโดยสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ สำนักหักบัญชีจะคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบให้ในวันทำการถัดไป หลังจากสำนัก หักบัญชีได้รับคำชี้ขาดข้อพิพาทที่เป็นที่สุดแล้วตามข้อ 22 หรือเมื่อสมาชิกผู้ขายและ สมาชิกผู้ซื้อได้แจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรต่อสำนักหักบัญชีว่าได้มีการทำข้อตกลงยุติข้อ พิพาทเป็นที่พอใจทั้งสองฝ่ายแล้วและไม่ประสงค์จะเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ต่อกันอีก
(ง) ในวันทำการถัดจากวันที่ได้รับคำบอกกล่าวการส่งมอบโดยทางเลือกอื่น จากสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ
(จ) ในวันทำการถัดจากวันที่ได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจากสมาชิกผู้ขาย และสมาชิกผู้ซื้อว่าไม่ประสงค์จะเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ต่อกัน
ข้อ 19. ความรับผิดของตลาด
ในการส่งมอบ-รับมอบตามข้อบังคับนี้ ตลาด สำนักหักบัญชี กรรมการ ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า เจ้าหน้าที่ และบุคลากรของตลาดมีหน้าที่เป็นเพียงตัวกลาง ในการแลกเปลี่ยนเอกสาร ระหว่างสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อเท่านั้น และไม่ว่าในกรณี ใดก็ตาม ตลาดจะไม่รับผิดชอบต่อการกระทำไม่ว่าโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ การฉ้อฉล หรือการผิดนัดใดๆ ของผู้ขาย ผู้ซื้อหรือสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือบุคคลอื่นใดที่มีหน้าที่ที่ จะต้องกระทำการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบ-รับมอบภายใต้ข้อบังคับนี้ ข้อ 20. เหตุสุดวิสัย
ในกรณีที่เกิดอุปสรรคในการส่งมอบ-รับมอบ เนื่องจากเหตุสุดวิสัย (Force Majeure) สมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ แล้วแต่กรณี จะต้องแจ้งให้ตลาดทราบโดยทันที พร้อมทั้งแจ้งยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันทำการถัดไป หากตลาดมีความเห็นว่า มีเหตุสุดวิสัยอันเป็นอุปสรรคในการส่งมอบ-รับมอบเกิดขึ้นจริง คณะกรรมการตลาดอาจ พิจารณากำหนดมาตรการในการแก้ไขอุปสรรคนั้นตามที่เห็นสมควร เช่น ขยายเวลาในการ ส่งมอบ-รับมอบ หรือให้นำสินค้าอื่นที่มีชนิด และคุณภาพเท่าเทียมกันหรือดีกว่ามาส่งมอบ แทน (Alternative Facilities) หรือให้ชดใช้ความเสียหายตามส่วนต่างของราคา (Cash Settlement) ตามวิธีการที่ตลาดกำหนด
ทั้งนี้ หากสมาชิกผู้ขาย สมาชิกผู้ซื้อ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตาม ข้อบังคับนี้ อันเป็นเหตุจากเหตุสุดวิสัย ตลาดอาจพิจารณายกเว้นบทลงโทษ และค่าปรับ ตามความเหมาะสม
หากเหตุสุดวิสัยดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานโดยไม่อาจแก้ไขอุปสรรค นั้นได้ แต่ไม่เกินสาม (3) เดือนนับแต่วันที่กำหนดให้แจ้งความประสงค์ส่งมอบ-รับมอบ คณะกรรมการตลาดอาจพิจารณากำหนดเฉพาะการชดใช้ความเสียหายตามส่วนต่างของราคา (Cash Settlement) ดังกล่าวข้างต้น ข้อ 21. การระงับข้อพิพาท
(1) ในกรณีที่มีข้อพิพาทใดๆ เกี่ยวกับการส่งมอบ-รับมอบสินค้า รวมถึงการ เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของผู้ขาย ผู้ซื้อหรือ สมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามข้อบังคับนี้ ให้นำข้อพิพาทดังกล่าวเสนอต่อคณะอนุกรรมการหรือ คณะทำงานเพื่อพิจารณาไกล่เกลี่ยเบื้องต้น
(2) หากผู้ขาย ผู้ซื้อ สมาชิกผู้ขาย และสมาชิกผู้ซื้อสามารถตกลงตามคำ ไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน ให้ความตกลงดังกล่าวเป็นที่สุด
(3) ผู้ขาย ผู้ซื้อ สมาชิกผู้ขาย และสมาชิกผู้ซื้อที่ไม่สามารถตกลงตามคำ ไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานได้ อาจยื่นคำร้องต่อตลาดหรือสำนักงาน คณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า เพื่อขอให้มีการชี้ขาดข้อพิพาท ตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542
ข้อ 22. การปฏิบัติตามคำชี้ขาด
เมื่อมีคำชี้ขาดข้อพิพาทตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542 แล้ว ให้คู่กรณีผู้ที่มีสิทธิได้รับการชดใช้ค่าเสียหายแจ้งให้สำนักหักบัญชีชำระ ค่าเสียหายจากหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบของคู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ตามคำชี้ขาด ในกรณีที่มีหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบคงเหลือภายหลังจากหักค่าปรับ ค่าใช้จ่ายของตลาด และชดใช้ค่าเสียหายดังกล่าวแล้ว ให้คืนแก่คู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ ค่าเสียหาย หากหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบไม่เพียงพอที่จะชดใช้ค่าเสียหายตามคำชี้ขาด ให้คู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหายรับผิดชอบค่าเสียหายให้ครบตามจำนวน
ข้อ 23. ให้ผู้จัดการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทยรักษาการ ตามข้อบังคับนี้
ประกาศ ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2547
(ลงนาม) สุวรรณ วลัยเสถียร
(นายสุวรรณ วลัยเสถียร)
ประธานกรรมการ
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
--ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย--
-พห-