ข้อบังคับคณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการส่งมอบและการรับมอบแป้งมันสำปะหลังประเภทสตาร์ช ชั้นพิเศษ พ.ศ.2548

ข่าวกฏหมายและประกาศ Wednesday March 23, 2005 16:25 —ข้อบังคับตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า

               โดยที่เป็นการสมควรกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการ
ส่งมอบ และการรับมอบแป้งมันสำปะหลังประเภทสตาร์ช ชั้นพิเศษ อันเป็นส่วนหนึ่งของ
ข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้าแป้งมันสำปะหลังประเภทสตาร์ช ชั้นพิเศษ อาศัยอำนาจ
ตามความในมาตรา 78 (2) แห่งพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ.
2542 ประกอบกับข้อ 22 ของข้อบังคับคณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ว่าด้วย
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับประเภท คุณสมบัติ สิทธิและหน้าที่ การลงโทษ
และการพ้นจากการเป็นสมาชิกสำนักหักบัญชี พ.ศ. 2547 ลงวันที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ.
2547 อันเป็นพระราชบัญญัติ และข้อบังคับที่มีบทบัญญัติและข้อกำหนดบางประการ
เกี่ยวกับการจำกัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 35 มาตรา
36 มาตรา 48 และมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทำได้
โดยอาศัยอำนาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย คณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า
จึงออกข้อบังคับไว้ดังต่อไปนี้
ข้อ 1. ข้อบังคับนี้เรียกว่า "ข้อบังคับคณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตร
ล่วงหน้าว่าด้วย หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการส่งมอบและการรับมอบ
แป้งมันสำปะหลังประเภทสตาร์ช ชั้นพิเศษ พ.ศ. 2548"
ข้อ 2. ข้อบังคับนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันที่ประกาศเป็นต้นไป
ข้อ 3. ในข้อบังคับนี้
"กฎข้อบังคับ" หมายความว่า ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ คำสั่ง ข้อกำหนด
มติ และหนังสือเวียน ที่ออกโดยคณะกรรมการตลาดหรือตลาด
"ข้อกำหนด" หมายความว่า ข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้าแป้งมันสำปะหลัง
ประเภทสตาร์ช ชั้นพิเศษ
"ข้อตกลง" หมายความว่า ข้อตกลงซื้อขายล่วงหน้า แป้งมันสำปะหลัง
ประเภทสตาร์ช ชั้นพิเศษ
"คณะกรรมการตลาด" หมายความว่า คณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตร
ล่วงหน้า
"คณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน" หมายความว่า คณะอนุกรรมการ หรือ
คณะทำงานที่คณะกรรมการตลาดหรือตลาดแต่งตั้งขึ้นแล้วแต่กรณี เพื่อให้มีอำนาจและ
หน้าที่เกี่ยวกับการส่งมอบ-รับมอบสินค้าตามข้อบังคับนี้
"คลังสินค้าหรือโรงงาน" หมายความว่า คลังสินค้าหรือโรงงานที่ผู้ซื้อ
กำหนดในคำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบ (delivery Instruction) โดยจะต้องเป็น
คลังสินค้าหรือโรงงานที่อยู่ในสภาพที่ใช้การได้ดี ไม่ชำรุดเสียหาย เหมาะสำหรับการ
จัดเก็บแป้งมันสำปะหลังประเภทสตาร์ช ชั้นพิเศษโดยมีทางเข้าออกได้สะดวกอย่างน้อย
สำหรับรถบรรทุกสิบล้อ มีอุปกรณ์และแรงงานเพียงพอตามวิธีปฏิบัติทางการค้าใน
การส่งมอบ-รับมอบสินค้าแป้งมันสำปะหลังประเภทสตาร์ช ชั้นพิเศษ
"เช็คธนาคาร" หมายความว่า เช็คที่ออกและสั่งจ่ายโดยธนาคารพาณิชย์
ภายในประเทศ
"ฐานะการถือครอง" (Open Position) หมายความว่า ภาระผูกพันอันเนื่องมาจาก
การซื้อขายล่วงหน้าตามข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้า แป้งมันสำปะหลังประเภทสตาร์ช ชั้น
พิเศษ
"เดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ" หมายความว่า เดือนที่ข้อตกลงหนึ่งๆ ที่เกี่ยวข้อง
ครบกำหนดส่งมอบ
"ตลาด" หมายความว่า ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
"ตั๋วแลกเงินธนาคาร" หมายความว่า ตั๋วแลกเงินที่ออกและสั่งจ่ายโดย
ธนาคารพาณิชย์ภายในประเทศ
"ประกาศกระทรวงพาณิชย์" หมายความว่า ประกาศของกระทรวง
พาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้แป้งมันสำปะหลังเป็นสินค้ามาตรฐานและมาตรฐานสินค้าแป้ง
มันสำปะหลัง (ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2547 ลงวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2547 และให้หมายความ
รวมถึงการแก้ไขเพิ่มเติมประกาศดังกล่าวโดยกระทรวงพาณิชย์ (ถ้ามี) จนถึงวันที่ข้อบังคับนี้
ใช้บังคับ
"ผู้ขาย" หมายความว่า ผู้ที่มีฐานะเป็นผู้ขายตามข้อตกลง (Short Position)
"ผู้ซื้อ" หมายความว่า ผู้ที่มีฐานะเป็นผู้ซื้อตามข้อตกลง (Long Position)
"มูลค่าอ้างอิง" หมายความว่า มูลค่าสินค้าเกษตรตามข้อกำหนดการซื้อขาย
ล่วงหน้า แป้งมันสำปะหลังประเภทสตาร์ช ชั้นพิเศษ ที่ใช้อ้างอิงเพื่อประกอบการพิจารณา
กำหนดอัตราเงินประกัน
"ราคายุติ" หมายความว่า ราคาที่ตลาดกำหนดในแต่ละวันเพื่อใช้ในการปรับ
ฐานะบัญชีเงินประกัน
"ล้างฐานะการถือครอง" (Offset Position) หมายความว่า ทำให้ภาระหรือสิทธิ
ตามข้อตกลงที่มีอยู่เดิมหมดไป โดยการทำข้อตกลงขึ้นใหม่ที่มีผลในทางตรงกันข้าม
"ลูกค้า" หมายความว่า ผู้ขาย ผู้ซื้อ หรือผู้ที่ใช้บริการเกี่ยวกับการหักบัญชี
กับสมาชิกสำนักหักบัญชี
"วันกำหนดให้แจ้งความประสงค์ส่งมอบ-รับมอบ" (Intention Day)
หมายความว่า วันที่กำหนดในข้อบังคับนี้ ให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อต้องแจ้ง
ความประสงค์ที่จะส่งมอบหรือรับมอบสินค้า
"วันซื้อขายสุดท้าย" (Last Trading Day) หมายความว่า วันทำการสุดท้าย
ของเดือนก่อนเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบของข้อตกลงหนึ่ง ๆ
"สถานะคงค้าง" หมายความว่า ฐานะการถือครองของสมาชิกสำนักหักบัญชี
เพื่อผู้ขายหรือผู้ซื้อที่ไม่ได้ยุติฐานะการถือครองภายในวันซื้อขายสุดท้าย
"สมาชิกสำนักหักบัญชี" (Clearing Member) หมายความว่า สมาชิกตลาด
ที่เป็นสมาชิกสำนักหักบัญชีประเภทสามัญหรือประเภทวิสามัญ และสมาชิกสำนักหักบัญชี
ประเภทสมทบ ตามกฎข้อบังคับที่เกี่ยวกับประเภท คุณสมบัติ สิทธิและหน้าที่ การลงโทษ
และการพ้นจากการเป็นสมาชิกสำนักหักบัญชี
"สมาชิกตลาด" หมายความว่า สมาชิกของตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า
แห่งประเทศไทย
"สมาชิกผู้ขาย" (Selling Member) หมายความว่า สมาชิกสำนักหักบัญชี
ที่ใช้บริการเกี่ยวกับการหักบัญชีกับสำนักหักบัญชี และมีฐานะการถือครองข้อตกลงเพื่อผู้ขาย
"สมาชิกผู้ซื้อ" (Buying Member) หมายความว่า สมาชิกสำนักหักบัญชี
ที่ใช้บริการเกี่ยวกับการหักบัญชีกับสำนักหักบัญชี และมีฐานะการถือครองข้อตกลงเพื่อผู้ซื้อ
"สินค้า" หมายความว่า แป้งมันสำปะหลังประเภทสตาร์ช ชั้นพิเศษ
ตามข้อบังคับว่าด้วยข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้า แป้งมันสำปะหลังประเภทสตาร์ช
ชั้นพิเศษ
"หน่วยการซื้อขาย" หมายความว่า หน่วยการซื้อขายที่กำหนดไว้ใน
ข้อบังคับว่าด้วยข้อกำหนดการซื้อขายล่วงหน้า แป้งมันสำปะหลังประเภทสตาร์ช ชั้นพิเศษ
"หน่วยการส่งมอบ" หมายความว่า หน่วยที่ใช้ในการส่งมอบ โดยหนึ่งหน่วย
การส่งมอบมีจำนวนเท่ากับหนึ่งหน่วยการซื้อขาย หรือเท่ากับจำนวนสินค้า 15 เมตริกตัน
"หลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ" (Delivery Deposit) หมายความว่า เงินสด
หรือหลักประกันอื่นที่ตลาดกำหนด ซึ่งสมาชิกสำนักหักบัญชีต้องวางไว้กับสำนักหักบัญชี
เพื่อเป็นประกันการส่งมอบหรือการรับมอบสินค้าตามข้อบังคับนี้
ข้อ 4. สินค้าที่ส่งมอบ-รับมอบ
สินค้าที่ส่งมอบ-รับมอบตามข้อบังคับนี้คือ แป้งมันสำปะหลังประเภทสตาร์ช
ชั้นพิเศษ ซึ่งมีคุณภาพตามที่กำหนดไว้ในประกาศกระทรวงพาณิชย์ โดยมีความหนืด
ไม่น้อยกว่า 550 Brabender Unit (B.U.) และผลิตหรือส่งมอบจากโรงงานที่ได้รับ
ใบรับรองมาตรฐานสินค้าแป้งมันสำปะหลังจากสำนักงานมาตรฐานสินค้า กรมการค้า
ต่างประเทศ
ในกรณีที่มีการส่งมอบ-รับมอบสินค้า ณ จุดส่งมอบ ให้ผู้ขายและผู้ซื้อ
ถือปฏิบัติตามเกณฑ์ดังต่อไปนี้
(1) ในกรณีมีการส่งมอบ-รับมอบสินค้าตามข้อตกลงที่ได้รับการจับคู่จาก
สำนักหักบัญชีเพียงหนึ่งข้อตกลง ให้ผู้ซื้อกำหนดจุดส่งมอบเพียงหนึ่งแห่งเท่านั้น และให้
ทำการส่งมอบ-รับมอบสินค้าให้แล้วเสร็จภายในหนึ่ง (1) วัน
(2) ในกรณีมีการส่งมอบ-รับมอบสินค้าตามข้อตกลงที่ได้รับการจับคู่จาก
สำนักหักบัญชีมากกว่าหนึ่งข้อตกลง ผู้ซื้ออาจกำหนดจุดส่งมอบสินค้าได้เกินกว่าหนึ่งแห่ง
โดยในแต่ละจุดส่งมอบผู้ขายหรือผู้ซื้อสามารถทยอยส่งมอบ-รับมอบสินค้าได้มากกว่าหนึ่ง
(1) วัน
ข้อ 5. เงื่อนไขการส่งมอบ-รับมอบ
(1) ให้ทำการส่งมอบสินค้า ณ จุดส่งมอบที่คลังสินค้าหรือโรงงานที่ผู้ซื้อ
กำหนดในเขตกรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ ปทุมธานี
หรือฉะเชิงเทรา เว้นแต่ผู้ขายและผู้ซื้อจะตกลงให้มีการส่งมอบ-รับมอบโดยทางเลือก
อื่นตามที่กำหนดไว้ในข้อ 11
(2) การส่งมอบสินค้า ผู้ขายจะต้องส่งมอบสินค้ารวมบรรจุภัณฑ์ (บรรจุถุง
2 ชั้นใหม่ (PP/PE)) โดยมีน้ำหนักสุทธิถุงละ 50 กิโลกรัมและจัดพิมพ์ชื่อโรงงานผู้ผลิตด้าน
นอกของบรรจุภัณฑ์หรือตามที่ตลาดกำหนดเพิ่มเติม
ในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงบรรจุภัณฑ์แตกต่างจากข้อกำหนดนี้ ให้
เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ตลาดกำหนด
ข้อ 6. การแจ้งเตือนฐานะการถือครอง
(1) ณ วันทำการแรกของเดือนก่อนเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ ตลาดจะแจ้ง
เตือนไปยังสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ เกี่ยวกับฐานะการถือครองของสมาชิกผู้ขายและ
สมาชิกผู้ซื้อรายนั้น ๆ ที่จะเข้าสู่เดือนที่ครบกำหนดส่งมอบที่มีอยู่ในขณะนั้น และในทันทีที่
ได้รับแจ้งเตือน ให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแจ้งให้ลูกค้าของตนที่มีฐานะการถือครอง
ทราบถึงภาระหน้าที่ ความเสี่ยง ตลอดจนขั้นตอนในการส่งมอบ-รับมอบสินค้า หากลูกค้า
รายดังกล่าวยังดำรงสถานะคงค้างจนถึงกำหนดส่งมอบ-รับมอบ
(2) ตั้งแต่วันทำการที่สิบ (10) ก่อนวันทำการแรกของเดือนที่ครบกำหนด
ส่งมอบ สำนักหักบัญชีอาจขอข้อมูล แผนการส่งมอบ-รับมอบสินค้าจากสมาชิกผู้ขาย
และสมาชิกผู้ซื้อ รวมทั้งเอกสารและหลักฐานอื่นใด เพื่อยืนยันความสามารถในการส่งมอบ
สินค้าของผู้ขายหรือในการชำระราคาสินค้าของผู้ซื้อ แล้วแต่กรณี
ในกรณีที่สำนักหักบัญชีเชื่อได้ว่า ผู้ขายหรือผู้ซื้อนั้นจะไม่สามารถส่งมอบ
หรือรับมอบสินค้า หรือไม่สามารถชำระราคาสินค้าได้ถูกต้องครบถ้วน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความ
เสียหายต่อการซื้อขายล่วงหน้า หรือการส่งมอบ-รับมอบสินค้าได้ ให้ตลาดสั่งให้สมาชิก
ผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อที่มีฐานะถือครองข้อตกลงดังกล่าวทำการล้างฐานะการถือครองของ
ผู้ขายหรือผู้ซื้อนั้นบางส่วนหรือทั้งหมดให้แล้วเสร็จภายในเวลา 12.00 น. ของวันทำการก่อน
วันซื้อขายสุดท้าย หากสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อไม่ได้กระทำการดังกล่าวให้เสร็จสิ้น
ภายในเวลาที่กำหนด ให้ตลาดมีอำนาจล้างฐานะการถือครองของผู้ขายหรือผู้ซื้อรายนั้น
บางส่วนหรือทั้งหมด เฉพาะข้อตกลงที่จะเข้าสู่เดือนที่ครบกำหนดส่งมอบนั้นได้
ข้อ 7. การวางเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ
ณ วันทำการที่สิบ (10) ก่อนวันทำการแรกของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ
จะเป็นวันที่เริ่มใช้บังคับอัตราเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ สำหรับฐานะการ
ถือครองที่จะเข้าสู่เดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ ตามจำนวนและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ใน
กฎข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการวางเงินประกัน
ข้อ 8. การวางหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ
ณ สิ้นวันซื้อขายสุดท้ายของข้อตกลงใดๆ จะเป็นวันและเวลาที่เริ่มใช้
บังคับให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อที่มีฐานะการถือครองที่จะเข้าสู่เดือนที่ครบกำหนด
ส่งมอบตามข้อตกลงนั้นๆ วางหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบตามข้อบังคับนี้ โดยในวัน
ดังกล่าวให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อโอนเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ
ที่ได้สิ้นสุดลงมาวางเป็นหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ ทั้งนี้ การวาง การรักษา การบริหาร
และการใช้หลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขที่
คณะกรรมการตลาดกำหนด
หลักประกันการส่งมอบ-รับมอบดังกล่าวตามวรรคหนึ่งให้มีจำนวนเท่ากับ
ร้อยละ 25 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด โดยตลาดจะประกาศให้ทราบล่วงหน้า
เป็นจำนวนเงินบาท
หากปรากฏว่าจำนวนเงินตามวรรคหนึ่งมีไม่เพียงพอตามมูลค่าของ
หลักประกันการส่งมอบ-รับมอบที่ตลาดประกาศกำหนด ให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ
ดำเนินการวางหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบเป็นเงินสดหรือหลักประกันอื่นที่ตลาด
กำหนดเพิ่มเติมจนเต็มมูลค่าที่ขาดจำนวนไปตามวิธีการและภายในเวลาที่ตลาดกำหนด
ในกรณีที่คณะกรรมการตลาดได้ประกาศเปลี่ยนแปลงอัตรามูลค่า
หลักประกันการส่งมอบ-รับมอบตามวรรคสองแล้ว ปรากฏว่าจำนวนเงินตามวรรคหนึ่งมีไม่
เพียงพอกับจำนวนมูลค่าของหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบที่ประกาศกำหนด ให้สมาชิก
ผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อดำเนินการวางหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบเป็นเงินสดหรือ
หลักประกันอื่นที่ตลาดกำหนดจนเต็มมูลค่าที่ขาดจำนวนไปตามวิธีการและภายในเวลาที่
ตลาดกำหนด
หากปรากฏว่าสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อไม่ดำเนินการวางหลักประกัน
การส่งมอบ-รับมอบเพิ่มเติมตามวรรคสามหรือวรรคสี่ให้ถูกต้องครบถ้วนตามวิธีการและ
ภายในเวลาที่ตลาดกำหนด ให้ถือว่าสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อนั้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้
ถูกต้อง โดยไม่สามารถเยียวยาแก้ไขได้
ข้อ 9. วันกำหนดให้แจ้งความประสงค์ส่งมอบ-รับมอบ
ตั้งแต่เวลา 08.30 น. ถึงเวลา 12.00 น. ของวันทำการถัดจากวันซื้อขาย
สุดท้าย ให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแจ้งความประสงค์ที่จะส่งมอบสินค้าและความ
ประสงค์ที่จะรับมอบสินค้าตามแบบที่ตลาดกำหนดต่อสำนักหักบัญชี
หากสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อไม่ยื่นแบบแจ้งความประสงค์จะส่งมอบ-
รับมอบภายในระยะเวลาที่กำหนด หรือยื่นแบบแจ้งความประสงค์ที่มีข้อความไม่สมบูรณ์
ถูกต้อง ให้ถือว่าสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อได้แจ้งความประสงค์ที่จะส่งมอบหรือรับมอบ
สินค้าดังกล่าวแล้ว ในกรณีดังกล่าว สมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อจะต้องชำระค่าปรับเป็น
เงินร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนดของข้อตกลงที่เกี่ยวข้องแต่ต้องไม่
น้อยกว่า 300 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง
ข้อ 10. การจับคู่
เมื่อสำนักหักบัญชีได้รับแบบแจ้งความประสงค์จะส่งมอบ-รับมอบจาก
สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแล้ว หรือในกรณีที่ถือได้ว่าสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อได้
แจ้งความประสงค์จะส่งมอบหรือรับมอบสินค้าตามที่ได้ระบุไว้ในข้อ 9 วรรคสองแล้ว สำนัก
หักบัญชีจะทำการจับคู่ผู้ขายและผู้ซื้อตามวิธีการที่ตลาดกำหนด ทั้งนี้ การจับคู่ดังกล่าว
โดยสำนักหักบัญชีให้ถือเป็นที่สุด
สำนักหักบัญชีจะแจ้งผลการจับคู่รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งมอบ-
รับมอบให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อที่ได้รับการจับคู่ทราบภายในเวลา 16.00 น.
ของวันทำการที่หนึ่ง (1) หลังจากวันกำหนดให้แจ้งความประสงค์ส่งมอบ-รับมอบ ทั้งนี้
การแจ้งรายละเอียดดังกล่าว สำนักหักบัญชีจะแจ้งให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อทราบ
เป็นการเฉพาะตัว
ข้อ 11. การส่งมอบโดยทางเลือกอื่น (Alternative Delivery
Procedures)
หลังจากที่สำนักหักบัญชีได้แจ้งผลของการจับคู่ให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิก
ผู้ซื้อทราบแล้ว หากผู้ขายและผู้ซื้อสามารถทำการตกลงกันว่าจะทำการส่งมอบโดยทางเลือก
อื่นตามวิธีใดๆ ที่ได้ตกลงกัน ให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแจ้งคำบอกกล่าวการส่งมอบ
โดยทางเลือกอื่นตามแบบที่ตลาดกำหนดให้สำนักหักบัญชีทราบตั้งแต่วันทำการถัดจากวันที่
ทราบผลการจับคู่ในเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ แต่ไม่เกินเวลา 12.00 น. ของวันทำการ
สุดท้ายของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ ในกรณีที่ผู้ขายและผู้ซื้อตกลงที่จะทำการส่งมอบ
โดยทางเลือกอื่นดังกล่าวข้างต้น เงื่อนไขและรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งมอบและรับมอบ
สินค้า รวมถึงการชำระราคาสินค้า ให้เป็นไปตามที่ผู้ขายและผู้ซื้อจะได้ตกลงกัน
เมื่อสำนักหักบัญชีได้รับคำบอกกล่าวการส่งมอบโดยทางเลือกอื่นแล้ว ให้ถือว่า
หน้าที่และความรับผิดของสมาชิกผู้ขาย สมาชิกผู้ซื้อ สำนักหักบัญชี และตลาดเกี่ยวกับ
การส่งมอบ-รับมอบสินค้าตามข้อบังคับนี้เป็นอันสิ้นสุดลง เว้นแต่หน้าที่ของสำนักหักบัญชี
ในการคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ
ข้อ 12. คำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบ (Delivery Instruction)
หลังจากได้รับแจ้งผลการจับคู่จากสำนักหักบัญชีแล้ว ให้สมาชิกผู้ซื้อกระทำ
การดังต่อไปนี้ให้แล้วเสร็จภายในเวลา 17.00 น. ของวันทำการที่สาม (3) ของเดือนที่ครบ
กำหนดส่งมอบ
(1) ส่งคำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบเป็นลายลักษณ์อักษรให้
สมาชิกผู้ขายที่ได้รับการจับคู่พร้อมทั้งส่งสำเนาให้แก่สำนักหักบัญชี
คำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบตามวรรคก่อน ให้เป็นไปตาม
แบบที่ตลาดกำหนด โดยอย่างน้อยจะต้องประกอบด้วย
(ก) วิธีการส่งมอบและจุดส่งมอบ
(ข) วันที่และช่วงเวลาที่สินค้าจะไปถึงจุดส่งมอบ ทั้งนี้ ผู้ซื้อต้อง
กำหนดเวลาให้แก่ผู้ขายในการปฏิบัติหน้าที่ส่งมอบสินค้าตามสมควร โดยต้องให้เวลาผู้ขาย
เตรียมการที่จะทำการส่งมอบสินค้าเป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าเจ็ด (7) วันนับจากวันที่สมาชิก
ผู้ซื้อส่งคำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบให้แก่สมาชิกผู้ขาย
(ค) ปริมาณสินค้าที่จะส่งมอบ
(ง) ชนิดของบรรจุภัณฑ์
(จ) ชื่อผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้า (Surveyor) ที่ได้รับการรับรองจาก
ตลาด ทั้งนี้ ผู้ขายและผู้ซื้ออาจตกลงแต่งตั้งผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าที่มิได้เป็นบุคคลที่ตลาด
รับรองให้เป็นผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าได้
(ฉ) รายละเอียดของผู้ส่งมอบที่สามารถติดต่อได้
(ช) รายการอื่นๆ ตามที่ตลาดกำหนด
(2)
นำส่งเช็คธนาคาร หรือ ตั๋วแลกเงินธนาคาร สั่งจ่ายผู้ขายเป็นมูลค่าสินค้า
โดยคำนวณจากราคายุติ ณ วันซื้อขายสุดท้าย ซึ่งได้ปรับส่วนเพิ่ม (Premium) หรือส่วนลด
(Discount) (ถ้ามี) ตามที่ตลาดกำหนดสำหรับการส่งสินค้านอกเหนือจากจุดส่งมอบที่กำหนด
ไว้ในข้อ 5 (1) และราคาค่าบรรจุภัณฑ์ใหม่ (ในกรณีที่มีการตกลงให้ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ต่าง
จากที่ตลาดกำหนด) ให้แก่สำนักหักบัญชี
ข้อ 13. การตรวจสอบสินค้า
ในการตรวจสอบคุณภาพสินค้า ให้ผู้ซื้อเป็นผู้นัดหมายกับผู้ตรวจสอบ
คุณภาพสินค้าเพื่อทำการตรวจสอบคุณภาพสินค้าของผู้ขายในวันและช่วงเวลาที่สินค้าไปถึง
ณ จุดส่งมอบสินค้า เว้นแต่ผู้ขายและผู้ซื้อจะได้ตกลงกันไว้เป็นอย่างอื่น และแจ้งให้สำนัก
หักบัญชีทราบเป็นลายลักษณ์อักษร
ผู้ขายจะต้องให้ความร่วมมือเป็นอย่างดีกับผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าเพื่อให้
การตรวจสอบสินค้าเป็นไปอย่างรวดเร็ว เรียบร้อย และตรงตามกำหนดเวลาที่ได้นัดหมาย
ไว้
ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าจะต้องทำการตรวจสอบสินค้าให้แล้วเสร็จ
ภายในเจ็ด (7) วันนับแต่วันที่ผู้ซื้อได้รับมอบสินค้าแล้วเสร็จ และตรวจสอบคุณภาพสินค้าให้
เป็นไปตามข้อกำหนด โดยการตรวจสอบสินค้าให้ดำเนินการดังต่อไปนี้
(1) หากปรากฏว่าคุณภาพและน้ำหนักของสินค้าได้มาตรฐานตามข้อกำหนด
แล้ว ให้ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าออกใบรับรองคุณภาพและน้ำหนักของสินค้า (Certificate
of Quality and Weight) ให้แก่ผู้ขาย
(2) หากปรากฏว่าน้ำหนักของสินค้าเกินกว่าที่กำหนดไว้ในข้อกำหนด ให้
ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าทำการออกใบรับรองคุณภาพและน้ำหนักของสินค้า (Certificate
of Quality and Weight) ตามที่เป็นจริง และให้ผู้ซื้อรับมอบสินค้านั้น ทั้งนี้ ผู้ซื้อไม่จำเป็น
ต้องชำระราคาสินค้าในส่วนน้ำหนักสินค้าที่เกินแต่อย่างใด
(3) หากปรากฏว่าน้ำหนักของสินค้าน้อยกว่าที่กำหนดไว้ในข้อกำหนดแต่
ไม่เกินร้อยละ 0.3 ของน้ำหนักสินค้าที่กำหนดไว้ในข้อกำหนด ให้ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้า
ทำการออกใบรับรองคุณภาพและน้ำหนักของสินค้า (Certificate of Quality and Weight)
ตามที่เป็นจริง และให้ผู้ซื้อรับมอบสินค้านั้น แต่หากปรากฏว่าน้ำหนักของสินค้าน้อยกว่าที่
กำหนดไว้ในข้อตกลงเกินกว่าร้อยละ 0.3 ของน้ำหนักสินค้าที่กำหนดไว้ในข้อกำหนด
ผู้ซื้ออาจปฏิเสธการรับมอบสินค้าทั้งหมด หรือในกรณีที่ผู้ซื้อยอมรับสินค้านั้นก็ให้ใช้
ราคาตามส่วน ทั้งนี้ ให้ผู้ขายชำระราคาสินค้าในส่วนน้ำหนักสินค้าที่ขาดไปดังกล่าวเป็นเช็ค
ธนาคาร หรือตั๋วแลกเงินธนาคารให้แก่ผู้ซื้อ โดยใช้ราคายุติในวันซื้อขายสุดท้ายเป็นเกณฑ์
ในการคำนวณส่วนลด
(4) หากปรากฏว่าคุณภาพของสินค้านั้นไม่ได้มาตรฐานตามข้อกำหนด ให้
ผู้ซื้อปฏิเสธการรับมอบสินค้าดังกล่าวทั้งหมด
(5) ในกรณีที่ผู้ซื้อปฏิเสธการรับมอบสินค้าตาม (3) หรือ (4) ให้สมาชิกผู้ขาย
และสมาชิกผู้ซื้อดำเนินการดังต่อไปนี้
(ก) ให้สมาชิกผู้ซื้อดำเนินการแจ้งให้ตลาดทราบเป็นลายลักษณ์อักษร
และส่งสำเนาให้สมาชิกผู้ขายภายในสอง (2) วันทำการหลังจากวันที่ที่ระบุในใบรับรอง
คุณภาพและน้ำหนักของสินค้าเพื่อให้ผู้ขายดำเนินการรับสินค้ากลับคืน
(ข) ให้สมาชิกผู้ขายดำเนินการให้ผู้ขายนำสินค้ากลับคืนออกจากที่
จัดเก็บสินค้าให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาไม่เกินสามสิบ (30) วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับ
สำเนาแจ้งปฏิเสธการรับมอบสินค้า โดยให้ผู้ขายเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมด
อันได้แก่ค่าใช้จ่ายในการขนสินค้ามายังจุดส่งมอบ ค่าเคลื่อนย้ายสินค้าจากพาหนะขนสินค้า
ไปเก็บในที่จัดเก็บสินค้า ค่าชั่งน้ำหนัก ค่าตรวจสอบคุณภาพสินค้า ค่าขนสินค้าออกจากที่
จัดเก็บสินค้า ค่าบริการจัดเก็บและดูแลสินค้า (ถ้ามี) หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามที่ตลาด
ประกาศกำหนดเพิ่มเติม นับจากวันที่ผู้ซื้อออกใบรับสินค้าให้กับผู้ขายจนถึงวันที่ผู้ขายรับ
สินค้าคืน ทั้งนี้ ให้ใช้อัตราค่าใช้จ่ายต่างๆ ดังกล่าว ตามที่องค์การคลังสินค้าถือปฏิบัติ
(ค) ผู้ซื้อจะต้องเก็บรักษาสินค้าที่รับมอบให้อยู่ในสภาพที่ดีตามสภาพ
ในขณะที่รับมอบ โดยคุณภาพสินค้าจะต้องไม่ด้อยไปกว่าตัวอย่างคุณภาพของสินค้าตามที่
ผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าได้เก็บไปวิเคราะห์ตั้งแต่วันที่ผู้ซื้อรับมอบสินค้าเข้าที่จัดเก็บ
สินค้าจนถึงวันที่ผู้ขายนำสินค้าออกจากที่จัดเก็บสินค้า
(ง) ผู้ซื้ออาจตกลงกับผู้ขายให้มีการส่งมอบ-รับมอบสินค้าดังกล่าวโดย
แจ้งคำบอกกล่าวการส่งมอบ-รับมอบโดยทางเลือกอื่นตามแบบและภายในวัน เวลาที่ตลาด
กำหนดไว้ตามข้อ 11
(6) ภาระค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการตรวจสอบคุณภาพสินค้าของผู้ขายและ
ผู้ซื้อให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่ตลาดกำหนด เว้นแต่มีกำหนดไว้ใน
ข้อบังคับเป็นอย่างอื่น หรือผู้ขายและผู้ซื้อจะได้ตกลงกันเป็นอย่างอื่น และได้แจ้งให้สำนัก
หักบัญชีทราบถึงการตกลงดังกล่าวเป็นลายลักษณ์อักษร
(7) ผลการตรวจสอบของผู้ตรวจสอบคุณภาพสินค้าให้ถือเป็นที่สุด
ข้อ 14. การส่งมอบ-รับมอบสินค้า ณ จุดส่งมอบที่ผู้ซื้อกำหนด
สมาชิกผู้ขายจะต้องดำเนินการให้ผู้ขายส่งมอบสินค้าให้ถูกต้องตามเวลา
และสถานที่ที่ได้กำหนดไว้ในคำบอกกล่าวรายละเอียดของการส่งมอบตามข้อ 12 โดย
ผู้ขายจะต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันทำการสุดท้ายของเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบ
ทั้งนี้ ให้ผู้ขายเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายในการขนส่งสินค้ามายังจุดส่งมอบ
ตามที่ผู้ซื้อกำหนด และให้ผู้ซื้อเป็นผู้รับภาระค่าใช้จ่ายในการชั่งน้ำหนักสินค้าและการ
เคลื่อนย้ายสินค้าจากพาหนะขนสินค้าเข้าไปเก็บในที่จัดเก็บสินค้ารวมทั้งค่าใช้จ่ายในการ
เก็บรักษาสินค้า (ถ้ามี) หากสมาชิกผู้ขายไม่สามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน
กำหนดเวลาตามวรรคแรก ให้ถือว่าสมาชิกผู้ขายปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้อง
ข้อ 15. การส่งเอกสาร การชำระราคาสินค้า และการแลกเปลี่ยน
เอกสาร
(1) เมื่อผู้ขายได้ทำการส่งมอบสินค้า ณ จุดส่งมอบโดยถูกต้องตาม ข้อ 14
แล้ว สมาชิกผู้ขายจะต้องดำเนินการรวบรวมต้นฉบับเอกสารที่ได้ตรวจสอบว่าถูกต้อง
ดังต่อไปนี้ จากผู้ขายและส่งให้แก่สำนักหักบัญชี พร้อมสำเนาให้แก่สมาชิกผู้ซื้อภายใน
เวลา 17.00 น. ของวันทำการที่สาม (3) หลังจากวันที่ออกใบรับรองคุณภาพและน้ำหนัก
ของสินค้า
(ก) ใบรับสินค้าที่ลงนามแล้ว
(ข) ใบรับรองคุณภาพและน้ำหนักของสินค้า (เว้นแต่กรณีที่ไม่มีการตรวจสอบ)
(ค) ใบเรียกเก็บเงิน (Invoice) โดยอย่างน้อยต้องมีรายละเอียดตามที่
กำหนด ดังนี้
1) ชื่อและที่อยู่ของผู้ขายและผู้ซื้อ
2) รายการสินค้า
3) จำนวนและราคาสินค้าโดยคำนวณจากราคายุติ ณ วันซื้อขาย
สุดท้าย ซึ่งได้ปรับส่วนเพิ่ม (Premium) หรือส่วนลด (Discount) (ถ้ามี) ตามที่ตลาดกำหนด
สำหรับการส่งสินค้านอกเหนือจากจุดส่งมอบที่กำหนดไว้ในข้อ 5 (1) และราคาค่าบรรจุภัณฑ์
ใหม่ (ในกรณีที่มีการตกลงให้ใช้บรรจุภัณฑ์ที่ต่างจากที่ตลาดกำหนด)
(ง) ในกรณีที่น้ำหนักของสินค้าน้อยกว่าที่กำหนดไว้ในข้อกำหนด
ตามข้อ 13 (2) ให้ผู้ขายจ่ายเงินส่วนลดค่าสินค้าคืนให้แก่ผู้ซื้อโดยให้ผู้ขายจัดทำเช็ค
ธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารสั่งจ่ายผู้ซื้อ
(จ) เอกสารอื่นๆ ตามที่ตลาดกำหนด
(2) เมื่อสมาชิกผู้ซื้อได้รับสำเนาเอกสารดังกล่าวตาม (1) แล้ว ให้สมาชิกผู้ซื้อ
และผู้ซื้อตรวจสอบเอกสารนั้นว่าถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ หากพบว่าเอกสารไม่ถูกต้อง
ครบถ้วนให้สมาชิกผู้ซื้อแจ้งสมาชิกผู้ขายทราบเป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อแก้ไขเอกสารให้
ถูกต้องพร้อมทั้งส่งสำเนาหนังสือดังกล่าวให้สำนักหักบัญชีทราบภายในเวลา 16.00 น. ของ
วันทำการถัดไป ทั้งนี้ หากสำนักหักบัญชีไม่ได้รับแจ้งกรณีข้างต้นจากสมาชิกผู้ซื้อภายใน
เวลาที่กำหนดให้ถือว่าสมาชิกผู้ซื้อยอมรับว่าเอกสารนั้นถูกต้องครบถ้วน
(3) หากสมาชิกผู้ขายเห็นว่าเอกสารตาม (1) ถูกต้องครบถ้วนแล้ว ให้
สมาชิกผู้ขายแจ้งสำนักหักบัญชีทราบเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันทำการถัดจากวันที่
ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อตาม (2) เพื่อให้สำนักหักบัญชีทำการตรวจสอบความถูกต้อง
ครบถ้วนของเอกสาร และให้ถือว่าผลการตรวจสอบของสำนักหักบัญชีเป็นที่สุด
(ยังมีต่อ)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ