หากสำนักหักบัญชีไม่ได้รับแจ้งจากสมาชิกผู้ขายภายในเวลาที่กำหนดตาม
วรรคก่อน ให้ถือว่าสมาชิกผู้ขายยอมรับว่าเอกสารดังกล่าวไม่ถูกต้องครบถ้วนตามที่ได้รับ
แจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อ
ในกรณีที่สำนักหักบัญชีเห็นว่าสมาชิกผู้ขายต้องแก้ไขเอกสารดังกล่าว
สมาชิกผู้ขายจะต้องชำระค่าปรับให้กับตลาดเป็นรายวันนับตั้งแต่วันที่สำนักหักบัญชีได้
แจ้งให้แก้ไขเอกสารจนถึงวันที่สำนักหักบัญชีได้รับเอกสารที่แก้ไขแล้วในอัตราร้อยละ 0.1
ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนดของข้อตกลงต่อวัน
หากสำนักหักบัญชีพิจารณาแล้วเห็นว่าความไม่ถูกต้องครบถ้วนของเอกสาร
ดังกล่าวมิได้เกิดจากความผิดของสมาชิกผู้ขาย สำนักหักบัญชีอาจพิจารณายกเว้นค่าปรับ
ตามวรรคสามได้
(4) ในกรณีที่สำนักหักบัญชีได้แจ้งให้สมาชิกผู้ขายแก้ไขเอกสารให้ถูกต้อง
สมาชิกผู้ขายต้องดำเนินการให้ผู้ขายแก้ไขแล้วนำส่งเอกสารที่แก้ไขให้แก่สำนักหักบัญชี
และส่งสำเนาให้สมาชิกผู้ซื้อภายในสอง (2) วันทำการถัดไป หากสำนักหักบัญชีเห็นว่าเอกสาร
ที่แก้ไขนั้นไม่ถูกต้องครบถ้วน ให้ถือว่าสมาชิกผู้ขายไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องและไม่สามารถ
เยียวยาแก้ไขได้ และสมาชิกผู้ขายต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดตามอัตราที่กำหนดในข้อ
17 (6)
(5) หลังจากที่สมาชิกผู้ขายได้รับเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารจาก
สำนักหักบัญชีและสมาชิกผู้ซื้อได้รับเอกสารตาม (1) แล้ว ให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ
ลงนามในหนังสือยืนยันการส่งมอบสินค้า การแลกเปลี่ยนเอกสาร และการชำระราคา
สินค้าตามแบบที่ตลาดกำหนด เพื่อยืนยันการส่งมอบสินค้า การแลกเปลี่ยนเอกสาร และ
การชำระราคาสินค้าตามข้อบังคับนี้ให้แก่สำนักหักบัญชี
หากทั้งสองฝ่ายไม่เรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้
ถูกต้องของอีกฝ่ายหนึ่งมายังสำนักหักบัญชีภายในสอง (2) วันทำการหลังจากได้รับเช็ค
ธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารและเอกสารการส่งมอบตาม (1) ให้ถือว่าทั้งสองฝ่าย
ยอมรับการส่งมอบ-รับมอบ รวมทั้งการชำระราคาสินค้าและกระบวนการส่งมอบ-รับมอบ
สินค้าเป็นอันเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว และให้ถือว่าทั้งสองฝ่ายสละสิทธิที่จะเรียกร้องค่าเสียหาย
ใด ๆ ทั้งนี้ หน้าที่และความรับผิดชอบของตลาด สำนักหักบัญชี สมาชิกผู้ขายและสมาชิก
ผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้ให้เป็นอันสิ้นสุดลงพร้อมกัน
(6) สำนักหักบัญชีจะไม่รับผิดชอบต่อการที่ได้ส่งมอบเช็คธนาคารหรือ
ตั๋วแลกเงินธนาคารให้แก่สมาชิกผู้ขายเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับเอกสารตาม (1) ที่ส่งมอบ
โดยสมาชิกผู้ขายให้แก่สำนักหักบัญชี หากสำนักหักบัญชีเชื่อโดยสุจริตว่าเป็นเอกสารที่
ถูกต้อง
ข้อ 16 กรรมสิทธิ์และความเสี่ยงภัยของสินค้า
(1) เมื่อผู้ขายได้นำสินค้ามาส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อ ณ สถานที่ที่ผู้ซื้อกำหนด
ในการจัดเก็บสินค้า และผู้ซื้อได้ออกใบรับสินค้าให้แล้ว ให้ผู้ซื้อเป็นผู้รับความเสี่ยงภัย
ต่อการสูญหายหรือเสียหายของสินค้าทันที
(2) ในกรณีที่ผู้ซื้อปฏิเสธการรับมอบสินค้า
(ก) เมื่อผู้ขายดำเนินการขนสินค้ากลับคืนออกจากที่จัดเก็บสินค้า
แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ผู้ขายเป็นผู้รับความเสี่ยงภัยต่อการสูญหายหรือ
เสียหายของสินค้าทันทีที่ผู้ขายรับสินค้าคืน
(ข) ในกรณีที่ผู้ขายมิได้ดำเนินการขนสินค้ากลับคืนออกจากที่จัดเก็บ
สินค้าให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ความเสี่ยงภัยต่อการสูญหายหรือเสียหาย
ของสินค้า ตกแก่ผู้ขายทันทีที่ครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าว เว้นแต่ความสูญหายหรือ
เสียหายดังกล่าวจะเกิดจากความผิดของผู้ซื้อ
(3) กรรมสิทธิ์ในสินค้าที่ส่งมอบจะโอนไปยังผู้ซื้อต่อเมื่อผู้ขายได้รับชำระ
ราคาสินค้าตามเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคาร และได้ลงนามในหนังสือยืนยันการส่ง
มอบสินค้า การแลกเปลี่ยนเอกสาร และการชำระราคาสินค้าตามข้อ 15 (5) แล้ว
ข้อ 17. การไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
(1) สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแต่ละฝ่ายจะต้องปฏิบัติหน้าที่ของตน
ให้ถูกต้องตามที่กำหนดในข้อบังคับนี้ การที่สมาชิกฝ่ายใดไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตน หรือ
ปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้องหรือล่าช้า หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติ
หน้าที่ให้ถูกต้อง
(2) เว้นแต่กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นในข้อบังคับนี้ เมื่อสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง สมาชิกอีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนตาม
ข้อบังคับนี้ โดยไม่ถือว่าสมาชิกอีกฝ่ายหนึ่งนั้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง และสมาชิกฝ่ายที่
ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นกับสมาชิกอีกฝ่าย
หนึ่ง
(3) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 15 (4) ในกรณีที่สำนักหักบัญชี
ได้ทราบถึงการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง สำนักหักบัญชีโดย
คณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานจะทำการพิจารณาว่าการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
ดังกล่าวสามารถที่จะเยียวยาแก้ไขได้หรือไม่ หากคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน
พิจารณาเห็นว่าการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องดังกล่าวสามารถเยียวยาแก้ไขได้ ให้สำนักหัก
บัญชีแจ้งให้สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องทำการเยียวยาแก้ไขให้เสร็จสิ้นภายใน
สาม (3) วันทำการนับแต่วันที่สำนักหักบัญชีได้แจ้งให้สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้
ถูกต้องทำการเยียวยาแก้ไขดังกล่าว
กรณีที่สมาชิกผู้ซื้อไม่ส่งมอบเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารภายใน
เวลาที่กำหนดในข้อ 12 ให้ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง ซึ่งไม่อนุญาตให้มี
การเยียวยาแก้ไขตามวรรคก่อน
หากสมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องทำการเยียวยาแก้ไขได้ตามที่
คณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานกำหนด ให้ความผูกพันและหน้าที่ของสมาชิกผู้ขายและ
สมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้ยังคงมีอยู่ต่อไป โดยที่สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
จะต้องชำระค่าปรับและชดใช้ค่าเสียหายตามที่ระบุไว้ในข้อ 17 (4)
(4) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 15 (3) ในกรณีที่มีการไม่ปฏิบัติ
หน้าที่ให้ถูกต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมีการเยียวยาแก้ไขหรือไม่ก็ตาม สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติ
หน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดในอัตราดังต่อไปนี้
(ก) ค่าปรับสำหรับวันทำการแรกของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า
600 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง
(ข) ค่าปรับสำหรับวันทำการที่สองของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 900 บาท
ต่อหนึ่งข้อตกลง
(ค) ค่าปรับสำหรับวันทำการที่สามของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 1,200
บาทต่อหนึ่งข้อตกลง
นอกเหนือจากการชำระค่าปรับดังกล่าวให้แก่ตลาด สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติ
หน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องรับผิดชอบชำระค่าเสียหายสำหรับความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นแก่
สมาชิกอีกฝ่ายหนึ่ง
(5) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 15 (4) หากการไม่ปฏิบัติหน้าที่
ให้ถูกต้องดังกล่าวไม่อาจจะเยียวยาแก้ไขได้ หรือสมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
ไม่สามารถทำการเยียวยาแก้ไขให้เสร็จสิ้นได้ภายในสาม (3) วันทำการ หรือเป็นกรณีที่ไม่
อนุญาตให้มีการเยียวยาแก้ไข ให้ถือว่าความผูกพันและหน้าที่ของสมาชิกผู้ขายและสมาชิก
ผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้เป็นอันสิ้นสุดลง แต่ไม่ตัดสิทธิสมาชิกฝ่ายที่ได้รับความเสียหายจาก
การไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของสมาชิกอีกฝ่ายที่จะเรียกร้องค่าเสียหายนั้นจากสมาชิกที่ไม่
ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องนั้น
(6) นอกเหนือจากข้อ 17 (4) แล้ว สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
และไม่สามารถเยียวยาได้จะต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดในอัตราร้อยละ 10 ของมูลค่า
อ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 12,000 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง
ข้อ 18. การคืนเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบและ
หลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ
(1) เมื่อสิ้นวันซื้อขายสุดท้ายสำหรับข้อตกลงใด ๆ ให้ถือว่าภาระผูกพัน
ของเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบตามข้อตกลงนั้น ๆ ได้สิ้นสุดลง และเมื่อ
สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อได้ดำเนินการตามข้อ 8 วรรคหนึ่งแล้วให้ถือว่าสำนักหักบัญชี
ได้คืนเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแล้ว
หากปรากฏว่ายังมีเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบคงเหลืออยู่ สำนักหักบัญชี
จะดำเนินการคืนเงินส่วนที่เหลือนั้นให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อนั้นตามข้อบังคับ
คณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการวาง
หรือรักษาเงินประกัน การปรับฐานะบัญชีเงินประกัน การถอนเงินประกัน และการผิดนัด
ชำระเงินประกัน พ.ศ. 2547 หรือที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม
(2) สำนักหักบัญชีจะคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบโดยไม่มีดอกผล
หลังจากหักค่าปรับ ค่าเสียหาย และค่าใช้จ่ายที่สำนักหักบัญชีมีอำนาจหักได้ตามข้อบังคับ
นี้ให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ ในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้
(ก) ในวันทำการถัดไปหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาของการยื่นข้อ
เรียกร้องค่าเสียหายตามข้อ 15 (5) โดยไม่มีการยื่นข้อเรียกร้องค่าเสียหายจากสมาชิกผู้ขาย
และสมาชิกผู้ซื้อ
(ข) หากมีการเรียกร้องค่าเสียหายโดยสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ
และคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานมีคำไกล่เกลี่ยอันที่เป็นที่สุดตามข้อ 21 (2) หรือคณะ
อนุญาโตตุลาการ หรือเลขาธิการมีคำชี้ขาดข้อพิพาทตามข้อ 22 หรือเมื่อมีคำพิพากษา
หรือคำสั่งถึงที่สุดแล้ว การคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์
วิธีการและเงื่อนไขที่ตลาดกำหนด
(ค) ในวันทำการถัดจากวันที่ได้รับคำบอกกล่าวการส่งมอบโดยทางเลือก
อื่นจากสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ
(ง) ในวันทำการถัดจากวันที่ได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจากสมาชิก
ผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อว่าไม่ประสงค์จะเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ต่อกัน
ข้อ 19. ความรับผิดของตลาด
ในการส่งมอบ-รับมอบตามข้อบังคับนี้ ตลาด สำนักหักบัญชี กรรมการ
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า เจ้าหน้าที่ และบุคลากรของตลาดมีหน้าที่เป็นเพียงตัวกลาง
ในการแลกเปลี่ยนเอกสาร ระหว่างสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อเท่านั้น และไม่ว่าในกรณี
ใดก็ตาม ตลาดจะไม่รับผิดชอบต่อการกระทำไม่ว่าโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ การฉ้อฉล
หรือการผิดนัดใดๆ ของผู้ขาย ผู้ซื้อ หรือสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือบุคคลอื่นใดที่มีหน้าที่
ที่จะต้องกระทำการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบ-รับมอบภายใต้ข้อบังคับนี้
ข้อ 20. เหตุสุดวิสัย
ในกรณีที่เกิดอุปสรรคในการส่งมอบ-รับมอบ เนื่องจากเหตุสุดวิสัย (Force
Majeure) สมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ แล้วแต่กรณี จะต้องแจ้งให้ตลาดทราบโดยทันที
พร้อมทั้งแจ้งยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันทำการถัดไป หากตลาดมีความเห็นว่า
มีเหตุสุดวิสัยอันเป็นอุปสรรคในการส่งมอบ-รับมอบเกิดขึ้นจริง คณะกรรมการตลาดอาจ
พิจารณากำหนดมาตรการในการแก้ไขอุปสรรคนั้นตามที่เห็นสมควร เช่น ขยายเวลาในการ
ส่งมอบ-รับมอบภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการตลาดกำหนด แต่ไม่เกินสาม (3) เดือนนับ
แต่วันที่แจ้งความประสงค์ส่งมอบ-รับมอบ หรือให้นำสินค้าอื่นที่มีชนิด และคุณภาพเท่าเทียม
กันหรือดีกว่ามาส่งมอบแทน (Alternative Facilities) หรือให้ชดใช้ความเสียหายตาม
ส่วนต่างของราคา (Cash Settlement) ตามวิธีการที่ตลาดกำหนด
ทั้งนี้ หากสมาชิกผู้ขาย สมาชิกผู้ซื้อ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตาม
ข้อบังคับนี้ อันเป็นเหตุจากเหตุสุดวิสัย ตลาดอาจพิจารณายกเว้นบทลงโทษ และค่าปรับ
ตามความเหมาะสม
หากเหตุสุดวิสัยดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานโดยไม่อาจแก้ไขอุปสรรค
นั้นได้ แต่ไม่เกินสาม (3) เดือนนับแต่วันที่กำหนดให้แจ้งความประสงค์ส่งมอบ-รับมอบ
คณะกรรมการตลาดอาจพิจารณากำหนดเฉพาะการชดใช้ความเสียหายตามส่วนต่างของราคา
(Cash Settlement) ดังกล่าวข้างต้น
ข้อ 21. การระงับข้อพิพาท
(1) ในกรณีที่มีข้อพิพาทใดๆ เกี่ยวกับการส่งมอบ-รับมอบสินค้า รวมถึงการ
เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของผู้ขาย ผู้ซื้อหรือ
สมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามข้อบังคับนี้ ให้นำข้อพิพาทดังกล่าวเสนอต่อคณะอนุกรรมการหรือ
คณะทำงานเพื่อพิจารณาไกล่เกลี่ยเบื้องต้น
(2) หากผู้ขาย ผู้ซื้อ สมาชิกผู้ขาย และสมาชิกผู้ซื้อสามารถตกลงตาม
คำไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน ให้ความตกลงดังกล่าวเป็นที่สุด
(3) ผู้ขาย ผู้ซื้อ สมาชิกผู้ขาย และสมาชิกผู้ซื้อที่ไม่สามารถตกลงตาม
คำไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานได้ อาจยื่นคำร้องต่อตลาดหรือสำนักงาน
คณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า เพื่อขอให้มีการชี้ขาดข้อพิพาท
ตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542
ข้อ 22. การปฏิบัติตามคำไกล่เกลี่ยและคำชี้ขาด
เมื่อมีคำไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานอันเป็นที่สุด หรือ
คำชี้ขาดข้อพิพาทตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542 แล้ว ให้
คู่กรณีผู้ที่มีสิทธิได้รับการชดใช้ค่าเสียหายตามที่ระบุไว้ในคำไกล่เกลี่ยหรือคำชี้ขาดโดย
ให้สำนักหักบัญชีชำระค่าเสียหายจากหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบของคู่กรณีฝ่ายที่
ต้องชดใช้ค่าเสียหายตามคำไกล่เกลี่ยหรือคำชี้ขาดนั้น ในกรณีที่มีหลักประกันการ
ส่งมอบ-รับมอบคงเหลือภายหลังจากหักค่าปรับ ค่าใช้จ่ายของตลาด และชดใช้
ค่าเสียหายดังกล่าวแล้ว ให้คืนแก่คู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย หากหลักประกันการ
ส่งมอบ-รับมอบไม่เพียงพอที่จะชดใช้ค่าเสียหายตามคำชี้ขาด ให้คู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้
ค่าเสียหายรับผิดชอบค่าเสียหายให้ครบตามจำนวน
ข้อ 23. ให้ผู้จัดการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทยรักษาการ
ตามข้อบังคับนี้
ประกาศ ณ วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2548
(ลงนาม) สุวรรณ วลัยเสถียร
(นายสุวรรณ วลัยเสถียร)
ประธานกรรมการ
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
--ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย--
วรรคก่อน ให้ถือว่าสมาชิกผู้ขายยอมรับว่าเอกสารดังกล่าวไม่ถูกต้องครบถ้วนตามที่ได้รับ
แจ้งจากสมาชิกผู้ซื้อ
ในกรณีที่สำนักหักบัญชีเห็นว่าสมาชิกผู้ขายต้องแก้ไขเอกสารดังกล่าว
สมาชิกผู้ขายจะต้องชำระค่าปรับให้กับตลาดเป็นรายวันนับตั้งแต่วันที่สำนักหักบัญชีได้
แจ้งให้แก้ไขเอกสารจนถึงวันที่สำนักหักบัญชีได้รับเอกสารที่แก้ไขแล้วในอัตราร้อยละ 0.1
ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนดของข้อตกลงต่อวัน
หากสำนักหักบัญชีพิจารณาแล้วเห็นว่าความไม่ถูกต้องครบถ้วนของเอกสาร
ดังกล่าวมิได้เกิดจากความผิดของสมาชิกผู้ขาย สำนักหักบัญชีอาจพิจารณายกเว้นค่าปรับ
ตามวรรคสามได้
(4) ในกรณีที่สำนักหักบัญชีได้แจ้งให้สมาชิกผู้ขายแก้ไขเอกสารให้ถูกต้อง
สมาชิกผู้ขายต้องดำเนินการให้ผู้ขายแก้ไขแล้วนำส่งเอกสารที่แก้ไขให้แก่สำนักหักบัญชี
และส่งสำเนาให้สมาชิกผู้ซื้อภายในสอง (2) วันทำการถัดไป หากสำนักหักบัญชีเห็นว่าเอกสาร
ที่แก้ไขนั้นไม่ถูกต้องครบถ้วน ให้ถือว่าสมาชิกผู้ขายไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องและไม่สามารถ
เยียวยาแก้ไขได้ และสมาชิกผู้ขายต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดตามอัตราที่กำหนดในข้อ
17 (6)
(5) หลังจากที่สมาชิกผู้ขายได้รับเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารจาก
สำนักหักบัญชีและสมาชิกผู้ซื้อได้รับเอกสารตาม (1) แล้ว ให้สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ
ลงนามในหนังสือยืนยันการส่งมอบสินค้า การแลกเปลี่ยนเอกสาร และการชำระราคา
สินค้าตามแบบที่ตลาดกำหนด เพื่อยืนยันการส่งมอบสินค้า การแลกเปลี่ยนเอกสาร และ
การชำระราคาสินค้าตามข้อบังคับนี้ให้แก่สำนักหักบัญชี
หากทั้งสองฝ่ายไม่เรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้
ถูกต้องของอีกฝ่ายหนึ่งมายังสำนักหักบัญชีภายในสอง (2) วันทำการหลังจากได้รับเช็ค
ธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารและเอกสารการส่งมอบตาม (1) ให้ถือว่าทั้งสองฝ่าย
ยอมรับการส่งมอบ-รับมอบ รวมทั้งการชำระราคาสินค้าและกระบวนการส่งมอบ-รับมอบ
สินค้าเป็นอันเสร็จสิ้นสมบูรณ์แล้ว และให้ถือว่าทั้งสองฝ่ายสละสิทธิที่จะเรียกร้องค่าเสียหาย
ใด ๆ ทั้งนี้ หน้าที่และความรับผิดชอบของตลาด สำนักหักบัญชี สมาชิกผู้ขายและสมาชิก
ผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้ให้เป็นอันสิ้นสุดลงพร้อมกัน
(6) สำนักหักบัญชีจะไม่รับผิดชอบต่อการที่ได้ส่งมอบเช็คธนาคารหรือ
ตั๋วแลกเงินธนาคารให้แก่สมาชิกผู้ขายเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนกับเอกสารตาม (1) ที่ส่งมอบ
โดยสมาชิกผู้ขายให้แก่สำนักหักบัญชี หากสำนักหักบัญชีเชื่อโดยสุจริตว่าเป็นเอกสารที่
ถูกต้อง
ข้อ 16 กรรมสิทธิ์และความเสี่ยงภัยของสินค้า
(1) เมื่อผู้ขายได้นำสินค้ามาส่งมอบให้แก่ผู้ซื้อ ณ สถานที่ที่ผู้ซื้อกำหนด
ในการจัดเก็บสินค้า และผู้ซื้อได้ออกใบรับสินค้าให้แล้ว ให้ผู้ซื้อเป็นผู้รับความเสี่ยงภัย
ต่อการสูญหายหรือเสียหายของสินค้าทันที
(2) ในกรณีที่ผู้ซื้อปฏิเสธการรับมอบสินค้า
(ก) เมื่อผู้ขายดำเนินการขนสินค้ากลับคืนออกจากที่จัดเก็บสินค้า
แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ผู้ขายเป็นผู้รับความเสี่ยงภัยต่อการสูญหายหรือ
เสียหายของสินค้าทันทีที่ผู้ขายรับสินค้าคืน
(ข) ในกรณีที่ผู้ขายมิได้ดำเนินการขนสินค้ากลับคืนออกจากที่จัดเก็บ
สินค้าให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลาที่กำหนด ให้ความเสี่ยงภัยต่อการสูญหายหรือเสียหาย
ของสินค้า ตกแก่ผู้ขายทันทีที่ครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าว เว้นแต่ความสูญหายหรือ
เสียหายดังกล่าวจะเกิดจากความผิดของผู้ซื้อ
(3) กรรมสิทธิ์ในสินค้าที่ส่งมอบจะโอนไปยังผู้ซื้อต่อเมื่อผู้ขายได้รับชำระ
ราคาสินค้าตามเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคาร และได้ลงนามในหนังสือยืนยันการส่ง
มอบสินค้า การแลกเปลี่ยนเอกสาร และการชำระราคาสินค้าตามข้อ 15 (5) แล้ว
ข้อ 17. การไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
(1) สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแต่ละฝ่ายจะต้องปฏิบัติหน้าที่ของตน
ให้ถูกต้องตามที่กำหนดในข้อบังคับนี้ การที่สมาชิกฝ่ายใดไม่ปฏิบัติหน้าที่ของตน หรือ
ปฏิบัติหน้าที่ไม่ถูกต้องหรือล่าช้า หรือไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติ
หน้าที่ให้ถูกต้อง
(2) เว้นแต่กำหนดไว้เป็นอย่างอื่นในข้อบังคับนี้ เมื่อสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง สมาชิกอีกฝ่ายหนึ่งก็ไม่จำเป็นต้องปฏิบัติหน้าที่ของตนตาม
ข้อบังคับนี้ โดยไม่ถือว่าสมาชิกอีกฝ่ายหนึ่งนั้นไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง และสมาชิกฝ่ายที่
ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นกับสมาชิกอีกฝ่าย
หนึ่ง
(3) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 15 (4) ในกรณีที่สำนักหักบัญชี
ได้ทราบถึงการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง สำนักหักบัญชีโดย
คณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานจะทำการพิจารณาว่าการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
ดังกล่าวสามารถที่จะเยียวยาแก้ไขได้หรือไม่ หากคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน
พิจารณาเห็นว่าการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องดังกล่าวสามารถเยียวยาแก้ไขได้ ให้สำนักหัก
บัญชีแจ้งให้สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องทำการเยียวยาแก้ไขให้เสร็จสิ้นภายใน
สาม (3) วันทำการนับแต่วันที่สำนักหักบัญชีได้แจ้งให้สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้
ถูกต้องทำการเยียวยาแก้ไขดังกล่าว
กรณีที่สมาชิกผู้ซื้อไม่ส่งมอบเช็คธนาคารหรือตั๋วแลกเงินธนาคารภายใน
เวลาที่กำหนดในข้อ 12 ให้ถือว่าเป็นการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง ซึ่งไม่อนุญาตให้มี
การเยียวยาแก้ไขตามวรรคก่อน
หากสมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องทำการเยียวยาแก้ไขได้ตามที่
คณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานกำหนด ให้ความผูกพันและหน้าที่ของสมาชิกผู้ขายและ
สมาชิกผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้ยังคงมีอยู่ต่อไป โดยที่สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
จะต้องชำระค่าปรับและชดใช้ค่าเสียหายตามที่ระบุไว้ในข้อ 17 (4)
(4) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 15 (3) ในกรณีที่มีการไม่ปฏิบัติ
หน้าที่ให้ถูกต้องเกิดขึ้น ไม่ว่าจะมีการเยียวยาแก้ไขหรือไม่ก็ตาม สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติ
หน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดในอัตราดังต่อไปนี้
(ก) ค่าปรับสำหรับวันทำการแรกของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า
600 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง
(ข) ค่าปรับสำหรับวันทำการที่สองของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 900 บาท
ต่อหนึ่งข้อตกลง
(ค) ค่าปรับสำหรับวันทำการที่สามของการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
คิดในอัตราร้อยละ 0.5 ของมูลค่าอ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 1,200
บาทต่อหนึ่งข้อตกลง
นอกเหนือจากการชำระค่าปรับดังกล่าวให้แก่ตลาด สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติ
หน้าที่ให้ถูกต้องจะต้องรับผิดชอบชำระค่าเสียหายสำหรับความเสียหายใด ๆ ที่เกิดขึ้นแก่
สมาชิกอีกฝ่ายหนึ่ง
(5) ยกเว้นกรณีที่ได้กำหนดไว้แล้วในข้อ 15 (4) หากการไม่ปฏิบัติหน้าที่
ให้ถูกต้องดังกล่าวไม่อาจจะเยียวยาแก้ไขได้ หรือสมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
ไม่สามารถทำการเยียวยาแก้ไขให้เสร็จสิ้นได้ภายในสาม (3) วันทำการ หรือเป็นกรณีที่ไม่
อนุญาตให้มีการเยียวยาแก้ไข ให้ถือว่าความผูกพันและหน้าที่ของสมาชิกผู้ขายและสมาชิก
ผู้ซื้อตามข้อบังคับนี้เป็นอันสิ้นสุดลง แต่ไม่ตัดสิทธิสมาชิกฝ่ายที่ได้รับความเสียหายจาก
การไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของสมาชิกอีกฝ่ายที่จะเรียกร้องค่าเสียหายนั้นจากสมาชิกที่ไม่
ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องนั้น
(6) นอกเหนือจากข้อ 17 (4) แล้ว สมาชิกฝ่ายที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้อง
และไม่สามารถเยียวยาได้จะต้องชำระค่าปรับให้แก่ตลาดในอัตราร้อยละ 10 ของมูลค่า
อ้างอิงที่ตลาดประกาศกำหนด แต่ต้องไม่น้อยกว่า 12,000 บาทต่อหนึ่งข้อตกลง
ข้อ 18. การคืนเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบและ
หลักประกันการส่งมอบ-รับมอบ
(1) เมื่อสิ้นวันซื้อขายสุดท้ายสำหรับข้อตกลงใด ๆ ให้ถือว่าภาระผูกพัน
ของเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบตามข้อตกลงนั้น ๆ ได้สิ้นสุดลง และเมื่อ
สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อได้ดำเนินการตามข้อ 8 วรรคหนึ่งแล้วให้ถือว่าสำนักหักบัญชี
ได้คืนเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อแล้ว
หากปรากฏว่ายังมีเงินประกันสำหรับเดือนที่ครบกำหนดส่งมอบคงเหลืออยู่ สำนักหักบัญชี
จะดำเนินการคืนเงินส่วนที่เหลือนั้นให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อนั้นตามข้อบังคับ
คณะกรรมการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการวาง
หรือรักษาเงินประกัน การปรับฐานะบัญชีเงินประกัน การถอนเงินประกัน และการผิดนัด
ชำระเงินประกัน พ.ศ. 2547 หรือที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม
(2) สำนักหักบัญชีจะคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบโดยไม่มีดอกผล
หลังจากหักค่าปรับ ค่าเสียหาย และค่าใช้จ่ายที่สำนักหักบัญชีมีอำนาจหักได้ตามข้อบังคับ
นี้ให้แก่สมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ ในกรณีใดกรณีหนึ่งดังต่อไปนี้
(ก) ในวันทำการถัดไปหลังจากสิ้นสุดระยะเวลาของการยื่นข้อ
เรียกร้องค่าเสียหายตามข้อ 15 (5) โดยไม่มีการยื่นข้อเรียกร้องค่าเสียหายจากสมาชิกผู้ขาย
และสมาชิกผู้ซื้อ
(ข) หากมีการเรียกร้องค่าเสียหายโดยสมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ
และคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานมีคำไกล่เกลี่ยอันที่เป็นที่สุดตามข้อ 21 (2) หรือคณะ
อนุญาโตตุลาการ หรือเลขาธิการมีคำชี้ขาดข้อพิพาทตามข้อ 22 หรือเมื่อมีคำพิพากษา
หรือคำสั่งถึงที่สุดแล้ว การคืนหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์
วิธีการและเงื่อนไขที่ตลาดกำหนด
(ค) ในวันทำการถัดจากวันที่ได้รับคำบอกกล่าวการส่งมอบโดยทางเลือก
อื่นจากสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อ
(ง) ในวันทำการถัดจากวันที่ได้รับแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจากสมาชิก
ผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อว่าไม่ประสงค์จะเรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ต่อกัน
ข้อ 19. ความรับผิดของตลาด
ในการส่งมอบ-รับมอบตามข้อบังคับนี้ ตลาด สำนักหักบัญชี กรรมการ
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า เจ้าหน้าที่ และบุคลากรของตลาดมีหน้าที่เป็นเพียงตัวกลาง
ในการแลกเปลี่ยนเอกสาร ระหว่างสมาชิกผู้ขายและสมาชิกผู้ซื้อเท่านั้น และไม่ว่าในกรณี
ใดก็ตาม ตลาดจะไม่รับผิดชอบต่อการกระทำไม่ว่าโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ การฉ้อฉล
หรือการผิดนัดใดๆ ของผู้ขาย ผู้ซื้อ หรือสมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือบุคคลอื่นใดที่มีหน้าที่
ที่จะต้องกระทำการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการส่งมอบ-รับมอบภายใต้ข้อบังคับนี้
ข้อ 20. เหตุสุดวิสัย
ในกรณีที่เกิดอุปสรรคในการส่งมอบ-รับมอบ เนื่องจากเหตุสุดวิสัย (Force
Majeure) สมาชิกผู้ขายหรือสมาชิกผู้ซื้อ แล้วแต่กรณี จะต้องแจ้งให้ตลาดทราบโดยทันที
พร้อมทั้งแจ้งยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรภายในวันทำการถัดไป หากตลาดมีความเห็นว่า
มีเหตุสุดวิสัยอันเป็นอุปสรรคในการส่งมอบ-รับมอบเกิดขึ้นจริง คณะกรรมการตลาดอาจ
พิจารณากำหนดมาตรการในการแก้ไขอุปสรรคนั้นตามที่เห็นสมควร เช่น ขยายเวลาในการ
ส่งมอบ-รับมอบภายในระยะเวลาที่คณะกรรมการตลาดกำหนด แต่ไม่เกินสาม (3) เดือนนับ
แต่วันที่แจ้งความประสงค์ส่งมอบ-รับมอบ หรือให้นำสินค้าอื่นที่มีชนิด และคุณภาพเท่าเทียม
กันหรือดีกว่ามาส่งมอบแทน (Alternative Facilities) หรือให้ชดใช้ความเสียหายตาม
ส่วนต่างของราคา (Cash Settlement) ตามวิธีการที่ตลาดกำหนด
ทั้งนี้ หากสมาชิกผู้ขาย สมาชิกผู้ซื้อ ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตาม
ข้อบังคับนี้ อันเป็นเหตุจากเหตุสุดวิสัย ตลาดอาจพิจารณายกเว้นบทลงโทษ และค่าปรับ
ตามความเหมาะสม
หากเหตุสุดวิสัยดังกล่าวเกิดขึ้นเป็นระยะเวลานานโดยไม่อาจแก้ไขอุปสรรค
นั้นได้ แต่ไม่เกินสาม (3) เดือนนับแต่วันที่กำหนดให้แจ้งความประสงค์ส่งมอบ-รับมอบ
คณะกรรมการตลาดอาจพิจารณากำหนดเฉพาะการชดใช้ความเสียหายตามส่วนต่างของราคา
(Cash Settlement) ดังกล่าวข้างต้น
ข้อ 21. การระงับข้อพิพาท
(1) ในกรณีที่มีข้อพิพาทใดๆ เกี่ยวกับการส่งมอบ-รับมอบสินค้า รวมถึงการ
เรียกร้องค่าเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องของผู้ขาย ผู้ซื้อหรือ
สมาชิกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งตามข้อบังคับนี้ ให้นำข้อพิพาทดังกล่าวเสนอต่อคณะอนุกรรมการหรือ
คณะทำงานเพื่อพิจารณาไกล่เกลี่ยเบื้องต้น
(2) หากผู้ขาย ผู้ซื้อ สมาชิกผู้ขาย และสมาชิกผู้ซื้อสามารถตกลงตาม
คำไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงาน ให้ความตกลงดังกล่าวเป็นที่สุด
(3) ผู้ขาย ผู้ซื้อ สมาชิกผู้ขาย และสมาชิกผู้ซื้อที่ไม่สามารถตกลงตาม
คำไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานได้ อาจยื่นคำร้องต่อตลาดหรือสำนักงาน
คณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า เพื่อขอให้มีการชี้ขาดข้อพิพาท
ตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542
ข้อ 22. การปฏิบัติตามคำไกล่เกลี่ยและคำชี้ขาด
เมื่อมีคำไกล่เกลี่ยของคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานอันเป็นที่สุด หรือ
คำชี้ขาดข้อพิพาทตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ. 2542 แล้ว ให้
คู่กรณีผู้ที่มีสิทธิได้รับการชดใช้ค่าเสียหายตามที่ระบุไว้ในคำไกล่เกลี่ยหรือคำชี้ขาดโดย
ให้สำนักหักบัญชีชำระค่าเสียหายจากหลักประกันการส่งมอบ-รับมอบของคู่กรณีฝ่ายที่
ต้องชดใช้ค่าเสียหายตามคำไกล่เกลี่ยหรือคำชี้ขาดนั้น ในกรณีที่มีหลักประกันการ
ส่งมอบ-รับมอบคงเหลือภายหลังจากหักค่าปรับ ค่าใช้จ่ายของตลาด และชดใช้
ค่าเสียหายดังกล่าวแล้ว ให้คืนแก่คู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย หากหลักประกันการ
ส่งมอบ-รับมอบไม่เพียงพอที่จะชดใช้ค่าเสียหายตามคำชี้ขาด ให้คู่กรณีฝ่ายที่ต้องชดใช้
ค่าเสียหายรับผิดชอบค่าเสียหายให้ครบตามจำนวน
ข้อ 23. ให้ผู้จัดการตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทยรักษาการ
ตามข้อบังคับนี้
ประกาศ ณ วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2548
(ลงนาม) สุวรรณ วลัยเสถียร
(นายสุวรรณ วลัยเสถียร)
ประธานกรรมการ
ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย
--ตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย--