ฮานอย, เวียดนาม--10 พ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์ — เอเชีย — เอเชียเน็ท / อินโฟเควสท์
Swiss Re และ ABIC จับมือให้บริการเป็นครั้งแรกสำหรับเวียดนาม ซึ่งเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก
เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในเวียดนามอาจวิตกกังวลน้อยลงเรื่องการขาดทุนอันเนื่องมาจากผลผลิตตกต่ำที่เป็นผลมาจากภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างภัยแล้ง อุทกภัย และพายุไต้ฝุ่น โดยในวันนี้บริษัท Swiss Reinsurance Company Ltd (Swiss Re) ประกาศเปิดตัวโครงการประกันภัยที่อ้างอิงดัชนีเป็นครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งพัฒนาร่วมกับบริษัท Vietnam Agribank Insurance Joint Stock Company (ABIC) ซึ่งครอบคลุมถึงการปล่อยสินเชื่อให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวใน 10 จังหวัดของเวียดนาม และมีโอกาสขยายโครงการไปทั่วประเทศในอนาคต
ข้อตกลงระบุว่า ABIC ซึ่งเป็นบริษัทประกันที่อยู่ภายใต้การดูแลของ Agribank ซึ่งเป็นธนาคารเพื่อการเกษตรเวียดนามและเป็นผู้ปล่อยสินเชื่อเพื่อการเกษตรรายหลักของประเทศ จะคุ้มครองเกษตรกรผู้ปลูกข้าวที่เป็นลูกค้าของ Agribank ที่ไม่สามารถชำระเงินกู้ได้ เนื่องจากผลผลิตตกต่ำ
ABIC จะโอนความเสี่ยงผ่านการประกันภัยต่อไปยัง Swiss Re และบริษัท Vietnam National Reinsurance Company (Vina Re) สำหรับการชำระเงินนั้น จะถูกกำหนดโดยดัชนีพื้นที่-ผลผลิต (area-yield index) ที่เป็นอิสระ โดยอ้างอิงข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งเวียดนาม
เกษตรกรรมเป็นภาคส่วนที่มีความสำคัญมากในเวียดนาม และข้าวก็เป็นพืชผลที่มีความสำคัญที่สุด เวียดนามสามารถผลิตข้าวต่อปีได้ 39 ล้านตันบนพื้นที่เพาะปลูก 7.4 ล้านเฮคตาร์ และเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก นอกจากนั้น 20% ของข้าวส่วนเกินซึ่งมีการซื้อขายในตลาดโลกยังมาจากเวียดนาม ทั้งนี้ Agribank ได้ปล่อยสินเชื่อให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว 5 ล้านครัวเรือนทั่วประเทศเวียดนาม
“เวียดนามได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภัยธรรมชาติทั้งอุทกภัย พายุไต้ฝุ่น และภัยแล้ง ขณะเดียวกันการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศก็อาจทำให้ผลผลิตข้าวมีความผันผวนมากยิ่งขึ้นในอนาคต โครงการประกันภัยดังกล่าวจะช่วยให้ Agribank มีความมั่นใจในการปล่อยสินเชื่อให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าว และใช้ระบบชำระเงินที่มีศักยภาพของโครงการประกันภัยแบบ parametric insurance ในการลดผลกระทบจากการที่เกษตรกรไม่สามารถชำระหนี้คืนได้เนื่องจากผลผลิตตกต่ำ นอกจากนั้นโครงการนี้ยังช่วยค้ำจุนภาคเกษตรกรรมซึ่งมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของชาวเวียดนามกว่า 50% จากประชากรทั้งหมด 86 ล้านคนในประเทศ” Nguyen Van Minh ประธานและผู้อำนวยการของ ABIC กล่าว นอกจากนั้นโครงการประกันภัยนี้ยังมีความสำคัญมากเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่า ในอดีตผลผลิตทางการเกษตรที่เสียหายมีสัดส่วนมากถึง 5% ของจีดีพีของประเทศ
“นอกจากความสามารถในการประกันภัยเป็นเวลาอย่างน้อย 5 ปีแล้ว Swiss Re ยังให้ความรู้ด้านโครงสร้างและการใช้โครงการประกันภัยดังกล่าว โดยผู้เชี่ยวชาญด้านการเกษตรของเราจะลงไปยังพื้นที่เพาะปลูกในเวียดนามเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการปลูกข้าวและกลไกการปล่อยสินเชื่อในท้องถิ่น รวมถึงประเมินผลผลิตทางการเกษตรและผลกระทบจากภัยธรรมชาติ” Pham Xuan Thai รองประธานฝ่าย Client Markets ของ Swiss Re กล่าว
“หลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีปัจจัยแวดล้อมคล้ายคลึงกับเวียดนามจะต้องสนใจผลิตภัณฑ์ประกันภัยนี้อย่างแน่นอน และเราเชื่อว่าผลิตภัณฑ์ของเรามีความยืดหยุ่นพอที่จะรองรับความต้องการที่เฉพาะเจาะจงของประเทศเหล่านี้ได้” Roman Hohl หัวหน้าฝ่ายเกษตรกรรมประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคของ Swiss Re กล่าว
“เราชื่นชม Swiss Re ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์ที่อ้างอิงดัชนีพื้นที่-ผลผลิต ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของเวียดนามที่พยายามนำระบบบริหารความเสี่ยงอย่างยั่งยืนมาใช้ในภาคส่วนหลักๆในประเทศ โดยเฉพาะในภาคเกษตรกรรม” Dang The Vinh รองซีอีโอของ Vina Re บริษัทรับประกันภัยต่อ (reinsurer) ชั้นนำของเวียดนาม และพันธมิตรทางยุทธศาสตร์ของ Swiss Re กล่าว
การประกาศในวันนี้นับเป็นอีกหลักฐานหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า ธุรกิจบริหารความเสี่ยงในภาคเกษตรกรรมของ Swiss Re กำลังรุกเข้าสู่ตลาดเอเชีย เมื่อเดือนกรกฎาคม 2552 บริษัทได้บรรลุข้อตกลงกับรัฐบาลท้องถิ่นกรุงปักกิ่งเพื่อคุ้มครองการเอาประกันภัยต่อสำหรับความเสี่ยงที่เกิดจากภัยพิบัติ ภายใต้โครงการประกันภัยพืชผลทางการเกษตรที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลกรุงปักกิ่ง
นอกจากนั้น Swiss Re ยังตั้งทีมงานด้านเกษตรกรรมโดยเฉพาะในเอเชียตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2553 เพื่อสนับสนุนการขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย
เกี่ยวกับ Swiss Reinsurance Company Ltd
Swiss Re เป็นบริษัทรับประกันภัยต่อชั้นนำและมีความหลากหลายในระดับสูงแห่งหนึ่งของโลก บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2406 ที่เมืองซูริค ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และดำเนินธุรกิจผ่านสำนักงานสาขาหลายแห่งในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก บริษัทนำเสนอผลิตภัณฑ์บริการด้านการเงินซึ่งช่วยบริหารความเสี่ยงให้กับองค์กร ผลิตภัณฑ์ด้านการประกันภัยต่อของบริษัทและบริการที่เกี่ยวข้องกับการประกันอสังหาริมทรัพย์ ประกันอุบัติเหตุ ประกันชีวิต และประกันสุขภาพ มีความครบถ้วนสมบูรณ์ด้วยโซลูชั่นด้านการเงินสำหรับองค์กรและบริการเสริมสำหรับการบริหารความเสี่ยงแบบครบวงจร ทั้งนี้ Swiss Re ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือที่ระดับ "A+" จาก Standard & Poor's, "A1" จาก Moody's และ "A" จาก A.M.Best
Swiss Re ติดต่อทำธุรกิจกับเอเชียมาตั้งแต่ปี 2456 และปัจจุบันมีพนักงานกว่า 1,000 คนในเอเชียแปซิฟิค บริษัทมีสำนักงานใหญ่ในเอเชียที่ฮ่องกง ในปี 2549 บริษัทได้ฉลองครบรอบ 50 ปีของการเปิดสำนักงานสาขาแห่งแรกในเอเชียแปซิฟิก
เว็บไซต์: http://www.swissre.com
แหล่งข่าว: Swiss Reinsurance Company Ltd
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net ) --