ผลการสำรวจที่เอซเป็นสปอนเซอร์ชี้ความเสี่ยงด้านทรัพยากรบุคคลเป็นปัจจัยคุกคามที่มีนัยสำคัญต่อบริษัท

ข่าวต่างประเทศ Tuesday July 24, 2007 09:56 —Asianet Press Release

สิงคโปร์--24 ก.ค.--เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์
ผลการสำรวจครั้งใหม่ซึ่งจัดทำโดย Economist Intelligence Unit โดยการสนับสนุนของ กลุ่มบริษัท เอซ กรุ๊ป (ACE Group of Companies) พบว่า กลุ่มผู้จัดการด้านความเสี่ยงสากล (International risk managers) มองว่า ความเสี่ยงด้านทรัพยากรบุคคลถือเป็นปัจจัยคุกคามที่มีนัยสำคัญที่สุดต่อการดำเนินธุรกิจทั่วโลกของพวกเขา
ผลสำรวจในหัวข้อ "การบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดีที่สุด คือ การปฏิบัติงานให้ทันยุคสมัย" ได้ประเมินแนวทางที่บริษัทต่างๆได้พิจารณาเรื่องการบริหารจัดการความเสี่ยงให้มีประสิทธิภาพ และการที่บริษัทต่างๆเปลี่ยนแปลงแนวทางการรับมือกับความเสี่ยงเพื่อรักษาอัตราการพัฒนาในสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2550 Economist Intelligence Unit ได้สำรวจผู้บริหาร 218 คนทั่วโลก เพื่อสอบถามความคิดเห็นเรื่องการบริหารจัดการความเสี่ยง และมุมมองเกี่ยวกับความท้าทายและโอกาสสำคัญๆ ที่พวกเขากำลังเผชิญในด้านการปฏิบัติงาน การสำรวจครั้งนี้ได้มีการสำรวจผู้บริหารในอุตสาหกรรมต่าง ๆ หลายประเภทในหลายภูมิภาค โดยแบ่งการสำรวจโดยประมาณเท่า ๆ กัน ใน 3 ทวีป คือเอเชียและออสเตรเลีย อเมริกาเหนือ และยุโรปตะวันตก
ผลสำรวจสะท้อนให้เห็นว่า ผู้บริหารที่ตอบรับการสำรวจมองว่าความเสี่ยงด้านทรัพยากรบุคคล อาทิ ภาวะขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะ ประเด็นเรื่องการสืบต่อตำแหน่งงาน และภาวะขาดแคลนบุคลากรในตำแหน่งสำคัญ ถือเป็นเรื่องที่ท้าทายต่อการบริหารจัดการมากกว่าความเสี่ยงในเรื่องชื่อเสียง ความเสี่ยงเรื่องเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสาร ความเสี่ยงด้านการเมือง และความเสี่ยงด้านกฎระเบียบข้อบังคับ
ร้อยละ 62 ของผู้ตอบรับการสำรวจจากเอเชียรับรู้ว่า ความเสี่ยงนี้เป็นปัจจัยคุกคามที่มีนัยสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจของพวกเขา อย่างไรก็ตาม มีเพียง ร้อยละ 32 ของผู้ตอบรับการสำรวจจากเอเชียที่กล่าวว่า พวกเขาบริหารจัดการความเสี่ยงด้านทรัพยากรบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประเด็นที่พวกเขารู้สึกไม่ค่อยมีความเชื่อมั่นก็คือ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายและภาวะโลกร้อน
"ผลสำรวจแสดงให้เห็นว่า ความเสี่ยงด้านทรัพยากรบุคคลเป็นหนึ่งในประเด็นที่ท้าทายที่สุดที่บริษัทต่างๆกำลังเผชิญอยู่" นายจอห์น บาเซทโต ประธานกรรมการและผู้อำนวยการบริหาร[0
]
[u1
]ของเอซ เอเชีย แปซิฟิก (Mr. John Bassetto, President & CEO ACE Asia Pacific) กล่าว "ถึงกระนั้นมีผู้ตอบรับการสำรวจเพียงไม่กี่คนที่คิดว่า พวกเขากำลังบริหารจัดการความเสี่ยงเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิกซึ่งเป็นภูมิภาคที่บริษัทจำนวนมากกำลังเติบโตขึ้นนั้น เอซตระหนักถึงสงครามการแย่งชิงบุคลากรที่มีความสามารถพิเศษ และความจำเป็นที่ต้องวางสถานะของบริษัทเพื่อให้เป็นบริษัทที่เป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ ของลูกจ้าง ซึ่งไม่เพียงแต่พิจารณาเรื่องค่าตอบแทนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความเข้าใจในเรื่องการพัฒนาทรัพยากรบุคคลและสมดุลของภาระหน้าที่ในการทำงานกับชีวิตส่วนตัว อย่างถ่องแท้"
ส่วนประเด็นอื่นๆที่ได้จากผลสำรวจครั้งนี้ มีดังนี้:
- กลุ่มผู้ถือหุ้นขององค์กรเรียกร้องให้ปรับปรุงการบริหารจัดการด้านความเสี่ยง ความพยายามในการบริหารจัดการด้านความเสี่ยงถูกขับเคลื่อนด้วยปัจจัยทั้งจากภายในและภายนอก คณะกรรมการบริหารถูกมองว่าเป็นแรงขับเคลื่อนภายในที่สำคัญที่สุดในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งด้านบริหารจัดการความเสี่ยง ขณะที่แรงขับเคลื่อนจากภายนอกที่สำคัญคือ ข้อเรียกร้องจากเจ้าหน้าที่กำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎข้อบังคับและนักลงทุน
- ความเสี่ยงที่แทรกซึมเข้าสู่องค์กร การบริหารจัดการความเสี่ยงกลายเป็นประเด็นหลักในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งถูกขับเคลื่อนโดยคณะกรรมการบริหาร แต่ความเสี่ยงได้ฝังตัวอยู่ในทุกระดับชั้นขององค์กร ผู้บริหารที่ตอบรับการสำรวจครั้งนี้ระบุว่าการปลูกฝังวัฒนธรรมองค์กรที่มั่นคงและการรับรู้เรื่องความเสี่ยงทั่วทั้งองค์กร ถือเป็นปัจจัยชี้ขาดที่สำคัญของความสำเร็จขององค์กร
- บริษัทต่างๆกำลังสร้างผู้จัดการระดับ C เพื่อบริหารความเสี่ยง การแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านความเสี่ยง (Chief Risk Officer "CRO") เพื่อรับผิดชอบด้านการพัฒนาและการดำเนินการตามกรอบงานด้านบริหารจัดการความเสี่ยง ถือว่าเป็นความคืบหน้าในการบริหาร โดยบริษัทส่วนใหญ่ที่มีความเห็นชอบแนวทางนี้ ได้มีการแต่งตั้ง CRO เรียบร้อยแล้ว ซึ่งธุรกิจการเงินมีการแต่งตั้ง CRO มากที่สุด โดยผลสำรวจพบว่า 2 ใน 3 ของบริษัทการเงินได้ดำเนินการแต่งตั้ง หรือ วางแผนที่จะแต่งตั้งบุคลากรระดับ CRO
- มีการคาดการณ์ว่าการลงทุนจะขยายตัวมากขึ้น บริษัททุกขนาดและในทุกแห่งทั่วโลกต่างกำลังวางแผนที่จะเพิ่มการลงทุนในด้านการจัดการความเสี่ยงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งแสดงให้เห็นว่าหลักการของธุรกิจนี้ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่ก็จะขยายตัวเพิ่มขึ้นและมีขอบเขตการทำงานภายในองค์กรที่ล้ำลึกมากยิ่งขึ้น
เกี่ยวกับเอซ (ACE)
กลุ่มบริษัท เอซ กรุ๊ป (ACE Group of Companies) เป็นผู้นำระดับโลกด้านธุรกิจประกันภัยและการประกันภัยต่อที่ให้บริการลูกค้าหลากหลายกลุ่ม บริษัทดำเนินธุรกิจภายใต้การนำของ เอซ ลิมิเต็ด (NYSE:ACE) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทจดทะเบียนในดัชนีหุ้นสแตนดาร์ดแอนด์พัวร์ 500 ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค ทั้งนี้ เอซ กรุ๊ป ได้ดำเนินธุรกิจผ่านบริษัทในเครือมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก
เอซ เอเชีย แปซิฟิก (ACE Asia Pacific) เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มบริษัท เอซ กรุ๊ป โดยมีเครือข่ายการดำเนินงานที่ครอบคลุมในประเทศต่างๆ ในภูมิภาค เช่น ออสเตรเลีย ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย เกาหลี มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม ทั้งนี้การดำเนินงานของเอซในประเทศจีนเป็นผลพวงจากความเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับบริษัทหัวไท่ อินชัวรันซ์ คอมพานี (Huatai Insurance Company) ซึ่งมีเอซเป็นผู้ถือหุ้นเดี่ยวรายใหญ่ที่สุด
เอซ เอเชีย แปซิฟิก นำเสนอรูปแบบของกรมธรรม์ที่หลากหลาย ซึ่งมีหัวใจสำคัญอยู่ที่ธุรกิจประกันวินาศภัย (property & casualty) ที่ได้สร้างรากฐานมาเป็นเวลานาน ประกอบกับการเพิ่มสัดส่วนการรับประกันอุบัติเหตูและสุขภาพอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีการขยายงานจากการรับประกันภัยพื้นฐานดังกล่าวไปสู่ การประกันภัยสำหรับผู้ประกอบธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และการประกันภัยส่วนบุคคล
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเข้าชมได้ที่ www.acelimited.com
สื่อมวลชนกรุณาติดต่อ
ไมเคิล แอน มินจูท
โทร.+65 6398-8708
อีเมล์ michele.minjoot@ace-ina.com
แหล่งข่าว: เอซ เอเชีย แปซิฟิค
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net )--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ