โตเกียว, ญี่ปุ่น และ ไซเบอร์จายา, มาเลเซีย--4 ก.ค.--เกียวโด เจบีเอ็น - เอเชียเน็ท / อินโฟเควสท์
เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น หรือ เอ็นทีที คอม (NTT Communications Corporation: NTT Com) และ เอ็นทีที เอ็มเอสซี (NTT MSC Sdn. Bhd.) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่ตั้งอยู่ในมาเลเซีย ประกาศในวันที่ 4 กรกฎาคมว่า เอ็นทีที เอ็มเอสซี จะเริ่มก่อสร้างศูนย์ข้อมูลไซเบอร์จายา 3 (Cyberjaya 3 Data Center) ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งศูนย์ข้อมูลเครือข่าย Tier III แห่งนี้จะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ภายในเดือนมิถุนายนปี 2555
ศูนย์ข้อมูลไซเบอร์จายา 3 ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองไซเบอร์จายา จะช่วยสนับสนุนศูนย์ข้อมูลไซเบอร์จายา 1 และไซเบอร์จายา 2 เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นของลูกค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ศูนย์ข้อมูลแห่งนี้จะให้บริการคุณภาพสูงในราคาประหยัดตามมาตรฐานโลกอันเข้มงวดของกลุ่มบริษัท เอ็นทีที คอม และสอดคล้องกับมาตรฐานขององค์กรระดับโลกอื่นๆ อาทิ สมาคมอุตสาหกรรมโทรคมนาคม (TIA), สถาบัน Uptime Institute, Inc. (TUI) และบริษัท American Society of Heating, Refrigerating and Air-Conditioning Engineers, Inc. (ASHRAE)
“ด้วยการพัฒนาจุดแข็งของมาเลเซีย ลูกค้าของเราจะสามารถใช้บริการศูนย์ข้อมูลเครือข่าย Tier III ได้โดยใช้ต้นทุนในการเป็นเจ้าของไม่มากนัก” ฟูมิโตชิ อิมาอิซูมิ (Fumitoshi Imaizumi) ประธานและซีอีโอของ เอ็นทีที เอ็มเอสซี กล่าว “มาเลเซียมีโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการพัฒนาอย่างดีและมีความได้เปรียบด้านต้นทุน นอกจากนั้นยังมีบุคลากรมากความสามารถจำนวนมาก และรัฐบาลยังให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ด้วยจุดแข็งดังกล่าวจึงช่วยผลักดันมาเลเซียจนติดอันดับหนึ่งในสามศูนย์กลางการเอาท์ซอร์สชั้นนำของโลก”
ศูนย์ข้อมูลแห่งใหม่นี้จะมีระบบจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ ระบบทำความเย็น ระบบสำรองไฟ เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า และระบบจ่ายไฟฉุกเฉิน รวมถึงระบบป้องกันการเกิดความเสียหายจากไฟหรือน้ำแบบสมบูรณ์ ทั้งนี้ คาดว่าศูนย์ข้อมูลแห่งนี้จะได้รับการรับรองตามดัชนีอาคารสีเขียว (Green Building Index: GBI) ซึ่งเป็นดัชนีจัดอันดับความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมของอาคารในมาเลเซีย เนื่องจากศูนย์ข้อมูลแห่งนี้ใช้เทคโนโลยีพลังงานทดแทนต่างๆ ซึ่งรวมถึงแผงเซลล์แสงอาทิตย์ โครงสร้างอาคารที่มีผนังสองชั้นเพื่อเป็นฉนวนกันความร้อนอย่างดี และน้ำฝนที่ผ่านการรีไซเคิล
การก่อสร้างศูนย์ข้อมูลด้วยโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมที่สามารถแยกส่วนและนำมาเชื่อมต่อกันได้ เพื่อรองรับการขยายพื้นที่อย่างยืดหยุ่นนั้น จะทำให้ศูนย์ข้อมูลแห่งนี้เป็นที่ตั้งของสำนักงานที่สะดวกสบาย ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในศูนย์ข้อมูลระดับท้องถิ่น อันเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการกู้คืนความเสียหายทั้งหมด ทีมงานที่สื่อสารได้หลายภาษาของเอ็นทีที เอ็มเอสซี จะคอยให้ความช่วยเหลือเพื่อบริหารจัดการทุกขั้นตอนการทำงานของเครือข่ายและเซิร์ฟเวอร์ของลูกค้า
เอ็นทีที คอม ให้บริการศูนย์ข้อมูลมาตั้งแต่ปี 2545 ผ่านทางเอ็นทีที เอ็มเอสซี ที่ตั้งอยู่ในไซเบอร์จายา ซึ่งเป็นศูนย์กลางของโครงการเอ็มเอสซี มาเลเซีย (ชื่อเดิมคือโครงการ Multimedia Super Corridor) ด้วยอัตราการเกิดเหตุแผ่นดินไหว สึนามิ และภัยธรรมชาติในลักษณะอื่นๆ ที่อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำในมาเลเซีย รวมถึงค่าไฟฟ้าที่ค่อนข้างถูก ทำให้ทำเลที่ตั้งนี้มีความเหมาะสมสำหรับการกู้คืนความเสียหายที่เกิดขึ้นจากภัยพิบัติ และการย้ายทำเลไปยังพื้นที่นอกชายฝั่ง
ลูกค้าของศูนย์ข้อมูลไซเบอร์จายา 3 แห่งใหม่ จะได้รับประโยชน์เพิ่มเติมจากบริการที่เชื่อถือได้และมีค่าความหน่วงต่ำเป็นพิเศษ เมื่อมีการเดินหน้าโครงการสายเคเบิลใต้น้ำความเร็วสูงในเอเชีย (Asia Submarine-cable Express) ในมาเลเซีย ฮ่องกง ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ในปี 2555 ลูกค้าในมาเลเซียจะสามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่มีความจุขนาดใหญ่ผ่านทางเครือข่ายไอพีระดับโลก และ Arcstar Global IP-VPN ของเอ็นทีที คอมได้ ทั้งนี้ ชุมสาย POP ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากซึ่งรองรับบริการ ณ ศูนย์ข้อมูลไซเบอร์จายา 3 จะทำให้ลูกค้าสามารถเชื่อมต่อเครือข่ายหลักได้โดยตรงโดยไม่ต้องต่อสายเชื่อมต่อหรือวิตกกังวลเกี่ยวกับต้นทุนเครือข่าย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสายเคเบิลใต้น้ำความเร็วสูงในเอเชีย สามารถดูข้อมูลได้ที่ www.ntt.com/aboutus_e/news/data/20110131.html
เกี่ยวกับ เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น
สามารถดูข้อมูลได้ที่ www.ntt.com/index-e.html
เกี่ยวกับ เอ็นทีที เอ็มเอสซี
สามารถดูข้อมูลได้ที่ www.my.ntt.com
แหล่งข่าว: เอ็นทีที คอมมิวนิเคชั่นส์ คอร์ปอเรชั่น
เอ็นทีที เอ็มเอสซี เอสดีเอ็น บีเอชดี
AsiaNet 45340
-- เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net ) --