บาเซล--15 พ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์-เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์
เด็กเป็นกลุ่มเสี่ยงในช่วงที่ไข้หวัดใหญ่ระบาด ซึ่งไข้หวัดใหญ่ระบาดในออสเตรเลียคร่าชีวิตเด็กไปแล้ว 6 ราย
ข้อมูลใหม่ที่มีการนำเสนอในการประชุมสมาคมโรคติดเชื้อในเด็กนานาชาติ (World Society for Pediatric Infectious Disease หรือ WISPID) ที่กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ 15-18 พฤศจิกายน แสดงให้เห็นว่า ทามิฟลู (Tamiflu) หรือชื่อสามัญว่าโอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) มีประสิทธิภาพในการลดความรุนแรงและระยะเวลาการเจ็บป่วยในเด็กเล็กอายุ 1 ปีขึ้นไป โดยเฉพาะถ้าได้รับยาภายใน 24 ชั่วโมงหลังเริ่มเกิดอาการครั้งแรก อีกทั้งยังสามารถลดการติดเชื้อในทางเดินหายใจ ช่องหู และยังใช้เป็นยาปฏิชีวนะได้ นอกจากนั้นยังมีการผลิตยาทามิฟลูสำหรับเด็กแบบแคปซูล 30 และ 45 มิลลิกรัม ซึ่งจะช่วยให้ผู้ปกครองกะปริมาณยาที่จะให้กับเด็กได้ง่ายและสะดวกสบายกว่าเดิม
"เด็กเป็นกลุ่มเสี่ยงหลักที่อาจติดเชื้อไข้หวัดใหญ่เนื่องจากพวกเขายังมีภูมิคุ้มกันไม่มากพอ นอกจากนั้นยังใช้เวลาส่วนใหญ่ขลุกอยู่กับกลุ่มเพื่อนจนอาจติดเชื้อได้ง่าย โดยผลการวิจัยดังกล่าวเป็นข้อยืนยันว่ายาโอเซลทามิเวียร์สามารถใช้ป้องกันและรักษาไข้หวัดใหญ่ในเด็กเล็กอายุ 1 ปีขึ้นไป" ดร.คีธ เรซิงเกอร์ จากบริษัท ไพรมารี่ ฟิสิกเชียน รีเสิร์ช (Primary Physicians Research) เมืองพิตส์เบิร์ก รัฐฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา กล่าว "ก่อนหน้านี้เกิดไข้หวัดใหญ่ระบาดในออสเตรเลียและคร่าชีวิตเด็กไป 6 ราย และตอนนี้เรากำลังจับตามองว่าไข้หวัดใหญ่ประเภท A(H3) ซึ่งเคยระบาดในออสเตรเลียจะส่งผลเช่นเดียวกันเมื่อถึงฤดูไข้หวัดใหญ่ระบาดในอเมริกาเหนือหรือไม่"
ผลจากการวิจัยแสดงให้เห็นว่า ทามิฟลูสามารถลดความรุนแรงของอาการลงได้เกือบหนึ่งในสาม (29%) และลดระยะเวลาการเจ็บป่วยลงได้ราวหนึ่งในสี่ (26%) เมื่อเทียบกับการใช้ยาซึ่งใช้ในการเปรียบเทียบและไม่มีฤทธิ์ทางยา ภายใน 48 ชั่วโมงหลังเกิดอาการครั้งแรก (1) นอกจากนั้นข้อมูลใหม่ยังแสดงให้เห็นว่า การรับประทานยาภายใน 24 ชั่วโมงหลังเกิดอาการครั้งแรกจะช่วยลดความรุนแรงของอาการลงได้กว่าครึ่ง (52%) และลดระยะเวลาการเจ็บป่วยลงกว่าหนึ่งในสาม (34%) เมื่อเทียบกับการใช้ยาซึ่งไม่มีฤทธิ์ทางยา (2) อีกทั้งยังช่วยลดการติดเชื้ออย่างรุนแรงในช่องหู (ภาวะหูอักเสบ) ลงได้กว่า 55% ถ้ารับประทานยาภายใน 24 ชั่วโมงหลังเกิดอาการ (2) โดยการรับประทานยาทามิฟลูสามารถป้องกันการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ในระยะที่สอง (3) ได้ราว 55% และจากการศึกษาพบว่ายาทามิฟลูจะไม่เพิ่มความเสี่ยงด้านจิตเวชประสาท (4)
ยาทามิฟลูแบบแคปซูลสำหรับเด็กซึ่งจะวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาและยุโรป เหมาะสำหรับใช้รักษาและป้องกันไข้หวัดใหญ่ชนิด A และ B ในเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป นอกจากนั้นแล้ว ยาแคปซูลที่มีขนาดเล็กลงและมีอายุการใช้งานนานกว่าเดิม (จากเดิม 2 ปี เป็น 5 ปี) ยังเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับโครงการสำรองยาในภาวะโรคระบาดของทางรัฐบาลด้วย
เกี่ยวกับ ทามิฟลู
ทามิฟลู ซึ่งเป็นยายับยั้งเอนไซม์นิวรามินิเดส (Neuraminidase) ได้รับการออกแบบมาเพื่อต้านไวรัสไข้หวัดใหญ่ทุกชนิด ด้วยการขัดขวางการทำงานของเอนไซม์นิวรามินิเดสซึ่งอย฿บนพื้นผิวของไวรัส เมื่อเอนไซม์นิวรามินิเดสถูกยับยั้ง ไวรัสก็ไม่สามารถแพร่กระจายไปยังเซลล์อื่นๆในร่างกาย ทั้งนี้ ทามิฟลูเป็นยายับยั้งเอนไซม์นิวรามินิเดสตัวเดียวที่ได้รับการอนุมัติให้ใช้ในการรักษาและป้องกันไข้หวัดใหญ่ในเด็กอายุ 1-5 ปี
ผลกระทบของไข้หวัดใหญ่ที่มีต่อเด็ก
ไข้หวัดใหญ่เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำซึ่งรวมถึงเด็กเล็กและเด็กทารก โดยเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 2 ปี มีโอกาสเจ็บไข้ได้ป่วยจากไข้หวัดใหญ่พอๆกับคนชราอายุ 65 ปีขึ้นไป มีการคาดการณ์ว่าเด็กมีโอกาสติดเชื้อไข้หวัดใหญ่มากกว่าผู้ใหญ่ถึง 3 เท่า ซึ่งโดยปกติในแต่ละปีจะมีผู้ใหญ่ 1 ใน 10 คนติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ ในขณะที่เด็กมีโอกาสถึง 1 ใน 3 คน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมียารักษาและป้องกันไข้หวัดใหญ่สำหรับเด็กโดยเฉพาะ เนื่องจากพวกเขามีโอกาสติดเชื้อไข้หวัดใหญ่มากกว่าผู้ใหญ่
ความพยายามของบริษัทโรชในการสนับสนุนโครงการสำรองยาของรัฐบาล
องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่าการสำรองยาต้านไวรัสเป็นหนทางเดียวที่สามารถรับมือกับภาวะโรคระบาดซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต บริษัท โรช (Roche) ได้ร่วมมือกับ WHO และรัฐบาลจากนานาประเทศเพื่อกระตุ้นให้รัฐบาลของประเทศเหล่านั้นตระหนักถึงความสำคัญของการสำรองยาต้านไวรัสเพื่อเตรียมรับมือกับการระบาดของโรคที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต จนถึงปัจจุบันโรชได้รับออเดอร์และจำหน่ายยาทามิฟลูไปแล้วกว่า 215 ล้านชุดให้กับ 80 ประเทศทั่วโลก โดยปริมาณออเดอร์ก็แตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ อย่างประเทศฝรั่งเศส ฟินแลนด์ ไอซ์แลนด์ ไอร์แลนด์ ลักเซมเบิร์ก เนเธอร์แลนด์ นิวซีแลนด์ นอร์เวย์ สวิตเซอร์แลนด์ และ สหราชอาณาจักร มีการสำรองยาทามิฟลูครอบคลุม 20-40% ของประชากรทั้งหมด ปัจจุบันมีรัฐบาลไม่กี่ประเทศที่มีการสำรองยาต้านไวรัสสำหรับเด็ก นอกจากนั้นแล้ว โรชยังบริจาคยาทามิฟลูมูลค่า 5.125 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับ WHO เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ทั่วโลก
เมื่อไม่นานมานี้ WHO เพิ่งอัพเดทข้อมูลในคู่มือแนะนำการรักษาผู้ติดเชื้อไข้หวัดนกสายพันธุ์ H5N1 ว่า ทามิฟลูเป็นยาต้านไวรัสเพียงตัวเดียวที่แนะนำให้ใช้ในการรักษาผู้ป่วย
โรช และ จีลีด
ทามิฟลู ได้รับการคิดค้นโดยบริษัท จีลีด ไซน์ส (Gilead Sciences) จากนั้นจึงร่วมมือกับโรชเพื่อพัฒนายาดังกล่าว และได้มอบใบอนุญาตการผลิตให้กับโรช ในปี พ.ศ. 2539 หลังจากนั้นโรชจึงเป็นผู้นำในการผลิต จดทะเบียน และจำหน่ายยาทามิฟลูสู่ตลาด ภายใต้ข้อตกลงซึ่งได้รับการปรับปรุงในเดือนพฤศจิกายน 2548 จีลีดจะร่วมมือกับโรชในการพิจารณาให้สิทธิในการใช้สิทธิบัตรอีกทอดหนึ่งสำหรับการสำรองยาโอเซลทามิเวียร์ และเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเข้าถึงยาทามิฟลูได้อย่างทั่วถึง จีลีดจึงยกเลิกการเก็บค่าลิขสิทธิ์ผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายภายใต้สิทธิบัตรดังกล่าว
เกี่ยวกับ โรช
บริษัทโรช ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองบาเซล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจดูแลสุขภาพในด้านเวชภัณฑ์และวินิจฉัยโรคที่มุ่งเน้นการวิจัยระดับแนวหน้าของโลก ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีชีวภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเป็นผู้คิดค้นผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับการตรวจพบ ป้องกัน วินิจฉัย และบำบัดโรคในระยะเริ่มแรก บริษัทจึงทุ่มเทให้กับการพัฒนาสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้คนทั่วโลก นอกจากนี้ บริษัทยังเป็นผู้นำของโลกด้านการวินิจฉัยและวิจัยเกี่ยวกับโรคมะเร็งและการปลูกถ่าย อีกทั้งยังเป็นผู้นำในตลาดด้านไวรัสวิทยาและด้านอื่นๆ เช่น โรคภูมิคุ้มกันทำลายเซลล์ตัวเอง การติดเชื้อ โรคเกี่ยวกับการเผาผลาญอาหาร และ โรคระบบประสาทส่วนกลาง สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.roche.com
เครื่องหมายการค้าที่ใช้หรือกล่าวถึงในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม:
- ข้อมูลไข้หวัดใหญ่ที่ โรช เฮลท์ คีออส (Roche Health Kiosk): www.health-kiosk.ch/start_grip.htm
- ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทามิฟลู: www.roche.com/med_mbtamiflu05e.pdf
- ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่: www.roche.com/med_mbinfluenza05e.pdf
- ข้อมูลเกี่ยวกับไข้หวัดใหญ่จาก WHO: www.who.int/csr/disease/influenza/en/
- ข้อมูลเกี่ยวกับไข้หวัดนกจาก WHO: www.who.int/mediacentre/factsheets/avian_influenza/en/
อ้างอิง
1. Whtley RJ, st al Pediatr Infect Dis J 2001;20:127-33
2. Reisinger KS, et al WISPID 2007
3. Hayden FG et al J infect Dis 2004;189;440-9
4. Wilcox M, et al ICAAC, Chicago 2007
แหล่งข่าว: โรช
ติดต่อ: บริษัทโรช ที่
ลูซี่ ไรสปิน
โทร: +44 207 611 3621
มือถือ: +44 77 8991 4901
อีเมล์: lucy.rispin@ketchum.com
หรือ
รูธ แอชตัน
โทร: +44 207 611 3595
มือถือ: +4479 8955 8041
อีเมล์: ruth.ashton@ketchum.com
เว็บไซต์: http://www.roche.com
http://www.roche.com/med_mbtamiflu05e.pdf
http://www.roche.com/med_mbinfluenza05e.pdf
http://www.who.int/csr/disease/influenza/en
http://www.who.int/mediacentre/factsheets/avian_influenza/en
http://www.health-kiosk.ch/start_grip.htm