โฮจิมินห์ ซิตี--30 ก.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์ — เอเชียเน็ท / อินโฟเควสท์
ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างจีนกับภูมิภาคอาเซียนยังคงแน่นแฟ้น ถึงแม้ว่าจะมีความขัดแย้งเหนือน่านน้ำในทะเลจีนใต้
การก่อตั้งเขตการค้าเสรีจีนและอาเซียนเท่ากับเป็นการสร้างเขตการค้าเสรีที่มีขนาดกว้างใหญ่ที่สุดในโลก อันประกอบไปด้วยประเทศที่พัฒนาแล้ว ผู้บริโภคจำนวน 1.9 พันล้านคน ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เกือบ 6 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีมูลค่าการค้ากับต่างประเทศรวม 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่จีนมีศักยภาพที่จะเติบโตและขยายพื้นที่ตลาดได้อีกมาก บวกกับข้อได้เปรียบด้านภูมิศาสตร์และวัฒนธรรม รวมทั้งสถานะปัจจุบันของจีนในอาเซียนต่างผนวกเข้ากันเป็นปัจจัยหนุนให้บริษัทต่างๆในจีนต่างกระตือรือร้นที่จะเข้ามาลงทุนโดยตรงในภูมิภาคนี้
ยกตัวอย่างอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนซึ่ง มีเดีย อิเล็กทริก แอพไพลแอนเซส ของจีน ได้ก่อตั้งโรงงานในอาเซียนไปแล้ว 2 แห่ง และกำลังวางแผนที่จะลงทุนอีกหลายล้านดอลลาร์เพื่อสร้างโรงงานผลิตแห่งที่ 3 ในภูมิภาคนี้ หลังการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมาตลอดหลายปี มีเดียก็ได้กลายเป็นบริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์พัดลมขนาดใหญ่ที่สุดในอาเซียน นอกจากนี้บริษัทยังมีความสามารถด้านการแข่งขันสูงในตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็กที่ใช้ในครัวเรือน อาทิ เตาแม่เหล็กไฟฟ้า และ หม้อหุงข้าว เป็นต้น บริษัทต่างๆของจีน นำโดย มีเดีย และ ไฮเออร์ กำลังเปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์ในสายตาของผู้บริโภคท้องถิ่นที่มองว่า สินค้า “ผลิตในประเทศจีน” เท่ากับสินค้าคุณภาพต่ำ
เมื่อบริษัทจีนเข้ามามีส่วนร่วม รูปแบบที่มีอยู่ในปัจจุบันจึงเปลี่ยนแปลงไป และทำให้การแข่งขันในตลาดนี้คึกคักยิ่งขึ้น โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แบรนด์ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ยังครองตลาดเครื่องใช้ในครัวเรือนของเวียดนาม แบรนด์เหล่านี้พึงพอใจกับการสร้างกำไรมหาศาล โดยไม่สนใจที่จะพัฒนาตลาดระดับกลางและล่างเนื่องจากไม่มีการแข่งขันใดเข้ามากดดัน การเข้ามาของแบรนด์จีนโดยมีเดียผลักดันให้ราคาโดยรวมลดลง ทำให้เกิดการพัฒนาสินค้าเพื่อให้ครัวเรือนที่มีรายได้ปานกลางและน้อยมีกำลังจับจ่าย ทั้งยังขยายตลาดให้กว้างขวางยิ่งขึ้นอย่างแท้จริง
นอกเหนือจากการสร้างโอกาสในการจ้างงานด้วยการลงทุนโดยตรงในอาเซียนแล้ว บริษัทของจีน ซึ่งรวมถึงมีเดียด้วยนั้น ยังได้ให้การสนับสนุนเครือข่ายอุตสาหกรรมเครื่องใช้ภายในบ้านในระดับท้องถิ่น และสร้างกลุ่มผู้เชี่ยวชาญ สำหรับมีเดียเพียงบริษัทเดียวนั้น ได้สร้างงานทั้งทางตรงและทางอ้อม 5,000 ตำแหน่งในเวียดนาม และเพื่อเป็นการลดต้นทุน บริษัทของจีนได้ทยอยนำนโยบายการดำเนินงานให้สอดคล้องกับสภาพท้องถิ่นมาใช้ โดยให้ความสำคัญกับซัพพลายเออร์ท้องถิ่นในการจัดซื้อวัตถุดิบและเพิ่มการดำเนินงานด้านการวิจัยและพัฒนา ตลอดจนการทำตลาดในท้องถิ่นพร้อมไปกับการพัฒนาทีมงานด้านเทคนิคและการตลาดที่ทุ่มเท ด้วยการสร้างงานจำนวนมหาศาลและความพยายามที่จะตอบสนองความต้องการของตลาดท้องถิ่น บริษัทของจีนจึงเป็นที่ต้อนรับของรัฐบาลท้องถิ่น ส่งผลให้พนักงานมีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคมากขึ้น
ด้วยความทะเยอทะยาน แต่ขณะเดียวกันก็มีวัฒนธรรมองค์กรที่อบอุ่น บริษัทจีนจึงมีความลงตัวกับตลาดท้องถิ่นมากขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจในระดับภูมิภาคก็ได้รับแรงกระตุ้นด้วยเช่นกัน และในขณะที่บริษัทของยุโรปและสหรัฐทรุดตัวลงในช่วงนี้ การพัฒนาอย่างรวดเร็วของเขตการค้าเสรีจีนและอาเซียนจึงนับว่าน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง โดยถึงแม้ว่าจะมีข้อพิพาทด้านเขตแดนในทะเลจีนใต้ แต่ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จีนและอาเซียนมีผลประโยชน์ร่วมกันหลายด้านในความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ เพราะจะช่วยลดโอกาสที่จะเกิดความขัดแย้งทางการทหารลงได้อย่างมาก
แหล่งข่าว: มีเดีย
AsiaNet 46582
-- เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net ) --