ฮิววิท แอสโซซิเอทส์ คาดสิ้นปีการขึ้นเงินเดือนในเอเชียแปซิฟิคยังชะลอตัว เหตุนายจ้างยังขาดความเชื่อมั่น

ข่าวต่างประเทศ Wednesday November 12, 2003 10:07 —Asianet Press Release

กรุงเทพฯ, 12 พฤศจิกายน -- เอ็กซ์เอฟเอ็นเอชเค / เอเชียเน็ท
คาดเศรษฐกิจในปี 2547 จะสดใสขึ้น เห็นได้จากการที่หลายบริษัทไม่มีแผนระงับการขึ้นเงินเดือน
ผลสำรวจการขึ้นเงินเดือนประจำปี 2546 ในภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค ซึ่งจัดทำโดยฮิววิท แอสโซซิเอทส์ (Hewitt Associates) บริษัทให้คำปรึกษาและจัดหาทรัพยากรบุคคลชั้นนำของโลก (ชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ค : HEW) ชี้ให้เห็นว่า บริษัทต่างๆทั่วเอเชียแปซิฟิคยังคงระมัดระวังกับการขึ้นเงินเดือน ส่งผลให้อัตราการขึ้นเงินเดือนในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังอยู่ในระดับต่ำ
ฮิววิทได้สำรวจบริษัทต่างชาติ บริษัทท้องถิ่น และบริษัทร่วมทุนต่างๆ ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงเดือนกันยายน 2546 จำนวนทั้งสิ้น 991 บริษัท ใน 11 ประเทศ ได้แก่ ออสเตรเลีย, จีน, ฮ่องกง, อินเดีย, ญี่ปุ่น, เกาหลี, มาเลเซีย, ฟิลิปปินส์, สิงคโปร์, ไต้หวัน และไทย
โดยศึกษาเจาะจงถึงเรื่องการขึ้นเงินเดือนที่เกิดขึ้นจริงและตามที่ได้มีการคาดการณ์ไว้จากสายงาน 5 ประเภท คือ ผู้บริหารระดับสูง, ผู้จัดการ, หัวหน้างานด้านเทคนิคและระดับมืออาชีพ, เสมียน พนักงานผู้ให้ความช่วยเหลือ และพนักงานทั่วไป
เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา เมื่อผลการวิจัยในปีนี้แสดงให้เห็นว่า ในปี 2546 ทุกประเทศมีอัตราการขึ้นเงินเดือนเพิ่มขึ้นโดยรวม กล่าวคือ อินเดียยังคงเป็นประเทศที่มีอัตราการขึ้นเงินเดือนสูงสุด ตามมาด้วยเกาหลี ฟิลิปปินส์ และจีน ซึ่งธุรกิจพัฒนาซอฟท์แวร์ของอินเดียมีอัตราการเพิ่มเงินเดือนสูงที่สุดคือร้อยละ 14 อย่างไรก็ตามตัวเลขดังกล่าวยังนับว่าต่ำกว่าปี 2545 ถึงร้อยละ 10
ขณะที่ฟิลิปปินส์มีอัตราเฉลี่ยการขึ้นเงินเดือนสูงตามมาเป็นอันดับที่ 2 ในภูมิภาคนี้ คืออยู่ในช่วงร้อยละ 7.1 ถึง 8.6 ในทุกลักษณะสายงานที่กล่าวมาข้างต้น แต่อัตราเฉลี่ยดังกล่าวก็ยังลดลงจากปี 2545 ในอัตราเฉลี่ยร้อยละ 6.4 ถึงร้อยละ 10 ส่วนเกาหลี อัตราเฉลี่ยการขึ้นเงินเดือนอยู่ที่ร้อยละ 7.3 ถึง 7.0 และในประเทศจีน อัตราเฉลี่ยอยู่ในระหว่างร้อยละ 6.7 ถึง 7.3 ซึ่งจากการสำรวจพบว่าผู้บริหารระดับสูงของจีนมีอัตราการขึ้นเงินเดือนน้อยกว่าตำแหน่งอื่นๆ ซึ่งลดลงจากปี 2545 ที่มีอัตราเฉลี่ยของการขึ้นเงินเดือนอยู่ในระหว่างร้อยละ 6.5 ถึง 8.7สำหรับประเทศฮ่องกงและสิงคโปร์ ซึ่งมีระบบเศรษฐกิจพัฒนามากกว่าประเทศอื่นๆ อัตราการขึ้นเงินเดือนยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยในสิงคโปร์อัตราการขึ้นเงินเดือนประจำปี 2546 โดยรวม อยู่ในระหว่างร้อยละ 2.1 ถึง 2.4 ส่วนในฮ่องกงมีอัตราการเพิ่มเงินเดือนเพียงร้อยละ 1.3 ถึง 1.5 ซึ่งใกล้เคียงกับอัตราเฉลี่ยในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจากการสำรวจพบว่าผู้ที่ดำรงตำแหน่งกรรมการบริษัทมีอัตราการขึ้นเงินเดือนอยู่ในระดับร้อยละ 2.1 ถึง 1.6 ขณะที่ประเทศอื่นในภูมิภาค ซึ่งได้แก่ ประเทศไทย มาเลเซีย ไต้หวัน และออสเตรลีย มีอัตราเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 3 ถึง 5
นายมิค เบนเนท (Mick Bennett) กรรมการผู้จัดการบริษัทฮิววิท แอสโซซิเอทส์ ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค กล่าวว่า "แม้ว่าบรรดาลูกจ้างในประเทศที่มีอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจสูงจะยังมองเห็นลู่ทางที่พวกเขาจะได้รับเงินเดือนเพิ่ม แต่การขึ้นเงินเดือนของปี 2546 ก็ไม่ได้มากมายกว่าปีก่อนๆสักเท่าไหร่ เนื่องจากบรรดานายจ้างยังระมัดระวังกับเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวค่อนข้างช้า นอกจากนี้การแพร่ระบาดของโรคซาร์สเมื่อช่วงต้นปีอาจจะส่งผลกระทบต่อการขึ้นเงินเดือน เนื่องจากหลายฝ่ายยังเกรงกลัวกันว่าเชื้อไวรัสดังกล่าวอาจย้อนกลับมาแพร่ระบาดอีกเมื่ออากาศเริ่มเย็นลง"
สถานการณ์ในวันพรุ่งนี้จะดีขึ้นหรือไม่?
ในเกือบทุกกรณี ผู้ว่าจ้างมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับทิศทางของเศรษฐกิจในปี 2547 มากขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย เห็นได้จากการที่หลายบริษัทมีแผนที่จะขึ้นเงินเดือนอีกเล็กน้อยในปีหน้า ซึ่งผู้ตอบแบบสำรวจในทุกๆประเทศ คาดว่าอาจจะมีการขึ้นเงินเดือนเพียงร้อยละ 1
อย่างไรก็ตาม บางบริษัทก็มีแผนที่จะระงับการขึ้นเงินเดือนในปี 2547 โดยในประเทศอินเดีย มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ซึ่งมีอัตราระงับการขึ้นเงินเดือนในปี 2546 อยู่ที่ระดับร้อยละ 4 ร้อยละ 8 และร้อยละ 3 ตามลำดับ ไม่มีแผนที่จะระงับการขึ้นเงินเดือนในปี 2547 ขณะที่ออสเตรเลียและเกาหลีเป็นเพียง 2 ประเทศที่มีแผนจะระงับการขึ้นเงินเดือนในอัตราเดียวกับปีนี้ คือร้อยละ 2 และ 5 ตามลำดับ ส่วนผู้ตอบแบบสำรวจในฮ่องกง ซึ่งมีอัตราระงับการขึ้นเงินเดือนในปี 2546 มากที่สุดในภูมิภาค คือร้อยละ 39 คาดว่าในปี 2547 อัตราระงับการขึ้นเงินเดือนจะอยู่ระดับร้อยละ 32 ขณะที่ในสิงคโปร์ ซึ่งมีอัตราระงับการขึ้นเงินเดือนร้อยละ 36 ในปี 2546 คาดว่าในปี 2547 อัตราระงับการขึ้นเงินเดือนจะลดลงอยู่ในระดับร้อยละ 17
แผนรั้งตัวบุคลากรที่มีความสามารถ
ผู้ว่าจ้างยังคงมองว่าการปรับอัตราเงินเดือนขึ้นยังเป็นวิธีสำคัญที่จะจูงใจและผูกมัดผู้บริหารระดับสูงและผู้มีความสามารถที่จะก้าวขึ้นไปเป็นผู้นำในอนาคตให้อยู่ร่วมงานกับบริษัทต่อไป ซึ่งกลุ่มผู้บริหารระดับสูงยังคงเป็นสายงานที่ได้รับการปรับอัตราเงินเดือนสูงสุด โดยประเทศออสเตรเลียมีอัตราการปรับเงินเดือนสูงสุด คือเกือบร้อยละ 28 นอกจากนี้กลุ่มผู้บริหารระดับสูงในสิงคโปร์และฟิลิปปินส์ ก็มีอัตราการขึ้นเงินเดือนสูงในระดับร้อยละ 25 และ 21 ตามลำดับ
นายแฟรงก์ จอห์นสัน (Frank Johnson) หัวหน้าฝ่ายให้คำปรึกษาด้านการวิเคราะห์องค์กรและบุคลากรประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของฮิววิท กล่าวว่า "เนื่องด้วยรายรับและงบประมาณของของบริษัทยังไม่มีความเคลื่อนไหว ขณะเดียวกันการแข่งขันแย่งตัวบุคลากรที่มีความสามารถก็ยังเป็นไปอย่างดุเดือด องค์กรต่างๆ จึงต้องพิจารณาถึงการปรับอัตราเงินเดือนให้กับบรรดาผู้บริหารระดับสูง เพราะเมื่อพวกเขาได้รับผลตอบแทนที่น่าพอใจ พวกเขาก็จะปฏิบัติหน้าที่ให้กับองค์กรอย่างเต็มความสามารถ"
นอกจากนี้ผู้ตอบแบบสำรวจในปีนี้ยังให้ความสนใจกับเรื่องอัตราการเปลี่ยนแปลงจำนวนบุคลากรในแต่ละองค์กรด้วย ซึ่งอัตราเฉลี่ยโดยรวมอยู่ที่ประมาณร้อยละ 10 โดยในมาเลเซียมีอัตราการรับเข้าและออกของพนักงานมากที่สุดที่ร้อยละ 17 ตามมาด้วยออสเตรเลีย (ร้อยละ 14) จีน (ร้อยละ 13.4) และไต้หวัน (ร้อยละ 13.3) ขณะที่ประเทศไทยและสิงคโปร์มีอัตราเฉลี่ยต่ำ กล่าวคือร้อยละ 8.5 และ 9.8 ตามลำดับ
ผลการสำรวจการขึ้นเงินเดือนในสหรัฐอเมริกา
ผลการสำรวจของฮิววิท เรื่องการขึ้นเงินเดือนในสหรัฐฯ ครั้งที่ 27 ซึ่งเผยแพร่เมื่อเดือนกันยายน ชี้ให้เห็นว่า ในปี 2546 สหรัฐอเมริกามีอัตราการขึ้นเงินเดือนอยู่ในระดับต่ำ โดยฮิววิทได้ทำการสำรวจบริษัทต่างๆทั่วสหรัฐฯ รวม 1,276 แห่ง ซึ่งผลสำรวจแสดงให้เห็นว่าค่าเฉลี่ยของการขึ้นเงินเดือนในปี 2546 เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.3 ถึง 3.5 ซึ่งนับว่าเป็นอัตราเฉลี่ยที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เริ่มทำการสำรวจมา ขณะที่แผนการขึ้นเงินเดือนในปี 2547 เพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยอยู่ในช่วงร้อยละ 3.5 ถึง 3.7 ขณะที่อัตราระงับการขึ้นเงินเดือนในปี 2547 อยู่ในระดับร้อยละ 2 ซึ่งลดลงจากปี 2546 ที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ 8
เกี่ยวกับฮิววิท แอสโซซิเอทส์ฮิววิท แอสโซซิเอทส์ (เว็บไซต์ : www.hewitt.com หรือ www.hewittasia.com) เป็นบริษัทที่ให้คำปรึกษาและจัดหาทรัพยากรบุคคลระดับโลก ทั้งนี้บริษัทฯ ให้บริการผ่านสำนักงานใน 38 ประเทศ
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
มานะ โลหะเทพานนท์ (Mana Lohatepanont)
โทร. +662-636-0575
อีเมล์: mana.lohatepanont@hewitt.com
แฟรงก์ จอนห์สัน (Frank Johnson)
โทร. +86-21-6391-6788
อีเมล์: frank.johnson@hewitt.com
มิวนิช มาลิค (Munish Malik)
โทร. +852-2877-8600
อีเมล์: munish.malik@hewitt.com
ที่มา: ฮิววิตต์ แอสโซซิเอทส์
--เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท (www.asianetnews.net)--
-ปป/รก-

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ