นิวยอร์ก--9 พ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์ — เอเชียเน็ท / อินโฟเควสท์
Intellect Neurosciences, Inc. (OTCBB: ILNS) บริษัทชีวเวชภัณฑ์ซึ่งทุ่มเทให้กับการคิดค้นและพัฒนายาปรับสภาพของโรค สำหรับรักษาโรคอัลไซเมอร์และโรคระบบประสาทอื่นๆ ประกาศว่า สำนักงานสิทธิบัตรญี่ปุ่น (Japanese Patent Office) ได้มอบสิทธิบัตรใหม่ 2 ใบให้แก่บริษัท สำหรับเทคโนโลยีภูมิคุ้มกันบำบัดโรคอัลไซเมอร์ ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเป็นตลาดยาขนาดใหญ่อันดับสองของโลกรองจากสหรัฐอเมริกาเมื่อพิจารณาจากรายได้รวม
“การพัฒนาทรัพย์สินทางปัญญาทั่วโลกถือเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์ทางธุรกิจของเรา” ดร.แดเนียล เชน ประธานและซีอีโอของ Intellect Neurosciences กล่าว “เราจะเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีต่างๆ ผ่านโครงการสำคัญๆในอนาคตอันใกล้ต่อไป เราหวังว่าพันธมิตรทางธุรกิจจะยังคงให้ความสนใจในเทคโนโลยีของเรา และหวังว่าจะได้ร่วมมือกันต่อไปเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติม”
สิทธิบัตรใบหนึ่งเป็นสิทธิบัตรสำหรับเทคโนโลยี RECALL-VAX(TM) ซึ่งได้รับสิทธิบัตรในยุโรปและสหรัฐอเมริกามาแล้ว ส่วนสิทธิบัตรอีกใบเป็นของ IN-N01 ซึ่งได้รับสิทธิบัตรในสหรัฐอเมริกามาแล้ว ทั้งนี้ บริษัทเริ่มได้รับสิทธิบัตรในญี่ปุ่นมาตั้งแต่ปี 2549 เริ่มจาก ANTISENILIN(R) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีโมโนโคลนอล แอนติบอดี สำหรับรักษาโรคอัลไซเมอร์
RECALL-VAX เป็นวัคซีนสร้างแอนติบอดีที่มีความเฉพาะเจาะจงสูงเพื่อต่อต้านสารเบต้า แอมีลอยด์ (beta amyloid) ในซีรัมของผู้ป่วย วัคซีนนี้เป็นเปปไทด์ลูกผสมที่มีส่วนประกอบของสารก่อภูมิต้านทานในมนุษย์ B-cell neoepitope ซึ่งเชื่อมโยงกับแบคทีเรีย T-cell epitope อาทิ ยาฉีดป้องกันบาดทะยัก ซึ่งคนส่วนมากเคยได้รับวัคซีนแล้ว วัคซีนนี้มีคุณสมบัติทั้งในด้านการรักษาและป้องกัน ปัจจุบันบริษัทกำลังศึกษาเพิ่มเติมเพื่อพิสูจน์หลักการในประเทศฝรั่งเศส เพื่อให้ได้ตัวบ่งชี้ทางชีวภาพหลายตัวในแบบจำลองการตัดต่อพันธุกรรมของโรคอัลไซเมอร์ ก่อนจะเริ่มดำเนินการพัฒนาขั้นก่อนคลินิก และทดสอบทางคลินิกในมนุษย์ในที่สุด
IN-N01 เป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้เทคโนโลยี ANTISENILIN ของบริษัท ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์อื่นๆอีกหลายตัวที่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา อาทิ Bapineuzumab ซึ่งถูกพัฒนาอย่างอิสระโดยบริษัทยาใหญ่ๆหลายแห่ง IN-N01 ก็พุ่งเป้าไปที่สารเบต้า แอมีลอยด์ เช่นเดียวกับ Bapineuzumab แต่ต่างกันตรงที่ IN-N01 อาจลดความเสี่ยงการเกิดอาการอักเสบในผู้ป่วยอันเกิดจากภูมิคุ้มกันทำงาน นอกจากนั้น IN-N01 ยังถูกพัฒนาในฐานะยาแอนติบอดีที่ใช้ร่วมกับ OX2 ภายใต้เทคโนโลยี CONJUMAB-A ของบริษัท การผสมผสานดังกล่าวคาดว่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการขจัดสารเบต้า แอมีลอยด์ จากสมอง รวมถึงลดการอักเสบ ซึ่งอาจก่อให้เกิดภาวะสมองบวมชนิด vasogenic edema อันเป็นผลข้างเคียงของภูมิคุ้มกันบำบัดในผู้ป่วยบางราย ซึ่งเกิดจากการสลายคราบโดยแอนติบอดี เทคโนโลยี CONJUMAB-A ซึ่งมี IN-N01-OX2 เป็นโมเลกุลหลัก สามารถใช้ได้กับโรคหลายโรครวมถึงโรคอัลไซเมอร์ โรคพาร์กินสัน โรคฮันติงตัน โรคจอประสาทตาเสื่อมตามวัย โรคต้อหิน โรคหลอดเลือดสมอง โรคเซลล์สมองส่วนหน้าเสื่อม โรค Progressive Supranuclear Palsy โรค Pick’s โรค Cortical Basal Degeneration และโรค Peripheral Amyloidosis
เกี่ยวกับ Intellect Neurosciences, Inc.
Intellect Neurosciences, Inc. พัฒนาวิธีการต่างๆอันทันสมัยเพื่อยับยั้งหรือป้องกันโรคอัลไซเมอร์ รวมถึงโรคทางระบบประสาทอื่นๆ โดยเฉพาะโรคโปรตีนทำงานผิดปกติ วิธีการรักษาที่บริษัทพัฒนาขึ้นประกอบด้วยโมเลกุลป้องกันเซลล์ประสาทขนาดเล็ก และภูมิคุ้มกันบำบัดโดยอาศัย neoepitope ซึ่งรวมถึงโมโนโคลนอล แอนติบอดี และวัคซีนต่างๆ ซึ่งพุ่งเป้าไปที่สารเบต้า แอมีลอยด์ และโปรตีนเทา (tau proteins) ที่ผิดปกติ ปัจจุบันบริษัทกำลังพัฒนาสามเทคโนโลยีแยกจากกัน ได้แก่ ANTISENILIN(R) เทคโนโลยีโมโนโคลนอล แอนติบอดี เบต้า แอมีลอยด์ สำหรับรักษาโรคอัลไซเมอร์ ซึ่งเป็นรากฐานของผลิตภัณฑ์หลายตัวในการพัฒนาทางคลินิกขั้นสูง และมีการมอบใบอนุญาตใช้งานให้แก่บริษัทยาใหญ่ๆหลายบริษัท ต่อมาคือเทคโนโลยี RECALL-VAX(TM) วัคซีนสำหรับโรคอัลไซเมอร์ที่เป็นสมบัติของบริษัท ซึ่งมีคุณสมบัติในการรักษาและป้องกัน และเทคโนโลยี CONJUMAB-A ซึ่งเป็นยาแอนติบอดีที่ใช้ร่วมกับยาอื่นๆ เพื่อรักษาโรคโปรตีนทำงานผิดปกติหลากหลายชนิด ซึ่งรวมถึงโรคอัลไซเมอร์ โรคอัลไซเมอร์ในวงศ์ตระกูลชนิดเกิดเร็ว โรคหลอดเลือดสมอง โรคจอประสาทตาเสื่อมตามวัย โรคต้อหิน รวมถึงอาการบาดเจ็บที่สมอง ทั้งนี้ IN-N01-OX2 เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยที่สุดของบริษัท ซึ่งเป็นโมโนโคลนอล แอนติบอดี ที่พุ่งเป้าไปยังเบต้า แอมีลอยด์ ที่จับคู่กับโมเลกุลยาขนาดเล็กที่พบตามธรรมชาติซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันเซลล์ประสาท ดังนั้น IN-N01-OX2 จึงมีคุณสมบัติร่วมระหว่างเทคโนโลยี ANTISENILIN และ CONJUMAB-A เมื่อไม่นานมานี้บริษัทได้มอบใบอนุญาต OX1 ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระหลายแบบที่มีโมเลกุลขนาดเล็กให้กับบริษัท ViroPharma, Inc. เพื่อรักษาโรคกล้ามเนื้อเสียการประสานงานแบบเฟรดริก และโรคความเสื่อมของระบบประสาท
การคุ้มครองการให้ข้อมูล (Safe Harbor Statement)
ข้อความต่างๆในข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ รวมถึงถ้อยแถลงของบรรดาผู้แทนบริษัทในเรื่องต่างๆ ที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงทางประวัติศาสตร์ (อาทิ เรื่องเกี่ยวกับผลการดำเนินงานหรือผลประกอบการในอนาคต ระยะเวลาหรือผลลัพธ์ของการวิจัยหรือการทดลองทางคลินิก ตลาดใดก็ตามที่อาจพัฒนาขึ้นเพื่อผลิตภัณฑ์ของบริษัท รวมถึงกระแสเงินสดและแหล่งเงินทุนอื่นๆของบริษัท เป็นต้น) ถือเป็นข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าซึ่งมีความเสี่ยงและความไม่แน่นอนมากมาย อาทิ ผลลัพธ์ที่แท้จริงอาจแตกต่างจากที่คาดการณ์ไว้ การวิจัยในอนาคตอาจประสบความสำเร็จ ผลิตภัณฑ์ที่อยู่ระหว่างการวิจัยอาจได้รับการรับรองตามกฎหมายในสหรัฐอเมริกาหรือต่างประเทศ หรือความสามารถของบริษัทในการลงทุนพัฒนาโดยมีหรือไม่มีพันธมิตรให้การสนับสนุน บริษัทไม่จำเป็นต้องปรับปรุงข้อความใดๆในข่าวประชาสัมพันธ์ ผู้อ่านไม่ควรยึดถือข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าเหล่านี้มากเกินไป เนื่องจากเป็นการกล่าวถึง ณ วันที่ที่ระบุในข่าวเท่านั้น และควรอ่านข้อความคาดการณ์ล่วงหน้าร่วมกับปัจจัยเสี่ยงและความไม่แน่นอนอื่นๆ ที่ระบุในเอกสารที่บริษัทยื่นต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งรวมถึงปัจจัยต่างๆ ภายใต้หัวข้อ “ปัจจัยเสี่ยง” ในรายงานประจำปี Form 10-K (file no.333-128226) ซึ่งนำส่งเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2554
ติดต่อ:
จูลส์ อับราฮัม (Jules Abraham)
เจคิวเอ พาร์ทเนอร์ส แอลแอลซี (JQA Partners, LLC)
อีเมล: jabraham@jqapartners.com
โทร: +1-917-885-7378
แหล่งข่าว: Intellect Neurosciences, Inc.
AsiaNet 47195
-- เผยแพร่โดย เอเชียเน็ท ( www.asianetnews.net ) --